ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง - ตอนที่ 366 หวานหลีซุนตกหลุมพราง (2)
ตอนที่366 หวานหลีซุนตกหลุมพราง (2)
ตอนที่366 หวานหลีซุนตกหลุมพราง (2)
เซียถงมองมาที่เขา ในมือกระชับกุมกระบี่ทัณฑ์ฟ้าบีบแน่นจนสั่นเทาด้วยความโกรธจัด นางแทบจะรอฆ่ามันไม่ไหวแล้ว ไอ้สารเลวนี่เป็นคนลักพาตัวแม่นางนางไป และหากตอนนี้ แม่นางเกิดตายไปแล้วจริงๆ ต่อให้ฆ่ามันอีกเป็นร้อยพันครั้งก็ไม่สามารถชำระล้างความเกลียดชังนี้ภายในใจลงได้
“หากลงมือฆ่ากันตอนนี้ ท่านอาจไม่มีโอกาสได้พบหน้าท่ามแม่อีกเลย! ให้ข้า…ให้โอกาสข้าช่วนตามหานางอีกครั้งเถิด! จะอย่างไร ในกายของข้าก็มีพิศเจ็ดวันมรณาอยู่ ภายในเจ็ดวัน หากข้าหานางไม่พบยังไงเสียก็ต้องตายอยู่ดี!”
“ข้าท่องยุทธภพมาก็หลายปีแล้ว ค่อนข้างมีเส้นสายเครือข่ายข่าวคราวมิใช่น้อย โปรดเชื่อข้าเถิด! ภายในใจเจ็ดวัน ข้าจะต้องหานางให้พบแน่นอน!”
“ที่สำคัญเลย หลายหัวย่อมดีกว่าหัวเดียว หากฆ่ากันตอนนี้ จำนวนคนที่ช่วยตามนางก็ยิ่งมีน้อยลง และนั่นอาจทำให้นางตกอยู่ในอันตรายได้!”
หวานหลีซุนปากขยับไม่หยุด หยิบยกเหตุผลต่างๆ นานามากมายขึ้นมากล่าวอธิบายโดยไว แทบจะถอดสมองเค้นหาเหตุผลทั้งหมดที่เขาสมควรมีชีวิตต่อให้เซียถงได้รับฟัง
รัศมีหนาวเย็นในกระบี่ทัณฑ์ฟ้าในมือหดถอยออกมาหนึ่งส่วน เซียถงจับจ้องอีกฝ่ายตาเขม็ง มองผ่านอ่านทุกอารมณ์ความรู้สึกผ่านในดวงตา คำกล่าวอ้างของหวานหลีซุนก็ค่อนข้างสมเหตุสมผลจริงๆ ถึงจะลงมือฆ่าอีกฝ่ายลงตอนนี้และได้ระบายความโกรธเกรี้ยวในใจลง แต่หลังจากนี้ นางจะเริ่มหาท่านแม่จากตรงไหนล่ะ? คนที่มีเบาะแสก็ถูกฆ่าตายไปแล้ว หากเป็นเช่นนั้นจริง นี่ก็ไม่ต่างอะไรกับงมเข็มในมหาสมุทรเลยมิใช่รึ? และที่สำคัญ หวานหลีซุนในเวลานี้มันไม่เหลือพิษสงใดๆ อีกแล้ว ถึงจะมีแผนการสกปรกอยู่ลับหลัง แต่มันก็ไม่สามารถทำอะไรกับนางได้
“ตกลง วันนี้จะไว้ชีวิตเจ้า แต่หากไม่สามารถตามหาแม่ข้าพบในเจ็ดวัน เช่นนั้นก็เตรียมตัวตายจากพิษกำเริบเสีย”
ประกายสาเซียถงสว่างไสวดุเดือด เปี่ยมล้นไปด้วยแรงอาฆาต
“เพื่อรักษาชีวิตของตัวข้าเอง ย่อมต้องพยายามสุดกำลังเพื่อตามหาแม่ของท่านแน่นอน!”
หวานหลีซุนลอบถอนหายใจเฮือกใหญ่กับตัวเองอย่างลับๆ ตอนนี้เขากระจ่างแจ้งเต็มสองตาดีแล้ว สตรีเหี้ยมอย่างเซียถง เป็นบุคคลที่ไม่ควรยั่วยุล้ำเส้นด้วยเลยเด็ดขาด มิเช่นนั้น อาจเป็นชีวิตของเขาเองที่จะหาไม่!
เซียถงกวาดสายตาสำรวจโดยรอบในถ้ำแห่งนี้ ก่อนจะเสาะพบเข้ากับต่างหูของท่านแม่นางอีกอันที่ร่วงอยู่บนพื้น นางหยิบมันขึ้นมาเก็บใต้อกเสื้ออย่างระมัดระวัง เสมือนมีหมอกควันชั้นหนาปกคลุมทั่วในดวงตา สภาพร่างกายของท่านแม่นางไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก แล้วนางยังมีชีวิตรอดอยู่จริงๆ ใช่ไหม? หรือหากรอดมาได้จริงๆ อาการป่วยไม่ยิ่งทรุดหนักกว่าเดิมหรอกรึ?
เซียถงส่ายหน้าไปมาสะบัดความคิดทั้งหลายไม่กล้านึกต่อ จากนั้นก็หันหลังจากถ้ำแห่งนั้นไป ขณะที่หวานหลีซุนได้ออกไปล่วงหน้าก่อนแล้ว
นางเดินทางกลับมาถึงจวนเสนาบดีเซี่ยผ่านประตูหลัง และนั่งระดมความคิดครุ่นพินิจอยู่ในเรือนนอนตัวเองอย่างหนัก อนึ่งก็เพื่อรอข่าวคราวเบาแสะการหายตัวไปของท่านแม่จากหวานหลีซุนอีกแรง อย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่นางมั่นใจก็คือ คนที่ลักพาตัวท่านแม่ของนางจากถ้ำไป มันจะต้องมีจุดประสงค์หวังครอบครองคัมภีร์วรยุทธต่อสู้ในมือนาง ดังนั้น ในไม่ช้าก็เร็ว มันจะต้องส่งจดหมายอะไรบางอย่างมาเจรจากับนางแน่นอน
“คุณหนูใหญ่! แย่แล้วเจ้าค่ะ! ฉูหยินรองเฉิงกับคุณหนูรองกำลังประโคมข่าวเสียๆ หายๆ เกี่ยวกับท่านอยู่หน้าประตูจวนเสนาบดีเซี่ย!”
ทันใดนั้นเอง อิ๋งเอ๋อร์ก็รีบปรี่เข้ามา
“พวกมันพล่ามอะไรกัน?”
เซียถงยังคงนั่งส่องกระจกอย่างสงบ กล่าวถามอิ๋งเอ๋อร์กลับไปคำหนึ่งโดยไม่แม้แต่เหลียวมอง
“พวกนางบอกว่า…ท่านเล่นชู้กับคนป่าหลังเขา เป็นพวกมักมากในกาม”
อิ๋งเอ๋อร์ชำเลืองสายตา ลอบมองเงาสะท้อนของเซียถงในกระจก แลเห็นโฉมงามถล่มเมืองในกระจกบานนั้น นางถึงกับสะดุ้ง ร้องกล่าวออกมาอีกว่า
“คุณหนูใหญ่ นับว่าท่านมีแต่จะงดงามยิ่งขึ้นไป! เมื่อใดกันที่จะเปิดเผยใบหน้าที่แท้จริง?”
“พวกมันพล่ามกันแค่นั้น?”
เซียถงเมินคำถามข้อนั้นของอิ๋งเอ๋อร์ไปโดยสนิท เลิกคิ้วยิงคำถามใหม่แทรกมาแทน
“ยิ่งไปกว่านั้น… พวกนางยังบอกอีกว่า แท้จริงแล้ว คุณหนูใหญ่ไม่ใช่บุตรสาวแท้ๆ ของนายท่าน แต่เป็นลูกระหว่างฮูหยินหลี่กับคนป่าที่เคยเล่นชู้กันมาในอดีต”
หวนย้อนกลับไปนึกถึง วาจาหยาบกร้านแสนชั่วร้ายทุกพยางค์ที่หลุดจากปากฮูหยินรองเฉิงและเซี่ยเสวี่ยเหลียน อิ๋งเอ๋อร์ใบหน้าแดงก่ำเพราะโกรธจัด
เซียถงหยิบต่างหูของท่านแม่ขึ้นมามองอยู่สักครู่ ก่อนจะกำบีบเอาไว้แน่นในฝ่ามือ ชำเลืองสายตาเย็นเยียบเข้าหาอิ๋งเอ๋อร์และกล่าวว่า
“อิ๋งเอ๋อร์ ไปนำผ้าคลุมหน้ามาให้ข้า”
อิ๋งเอ๋อร์ดูตกใจกับทีท่าการแสดงออกของนางมาก รีบสืบเท้าก้าวถอยด้วยความหวั่นเกรง รีบหยิบผ้าคลุมใบหน้าผืนใหม่มาสวมใส่ให้ จากนั้นก็ออกไปยังประตูหน้าจวนเสนาบดีเซี่ยพร้อมกันเซียถง
ตัวเซียถงหาได้สนใจไม่เลยว่า ฮูหยินรองเฉิงจะต้องการบ่อนทำลายชื่อเสียงของนางอย่างไร แต่หากเรื่องนี้ลามมาถึงชื่อเสียงและภาพลักษณ์ของท่านแม่ นี่กลับไม่สามารถปล่อยเอาไว้ได้ พวกมันคิดว่า พอเซี่ยอี้เฉิงเป็นลมหมดสติไปเช่นนี้แล้ว จวนเสนาบดีเซี่ยทั้งหมดจะตกอยู่ในมือของพวกนาง สองแม่ลูกจริงๆ งั้นรึ?
แต่ผิดแล้ว ตราบเท่าที่ตัวเซียถงพอใจ นางจะบีบจะคลายสองแม่ลูกคู่นี้ในมือเล่นอย่างไรก็ตาม จะปล่อยให้ตายเยี่ยงเศษขยะไร้ค่า หรือปล่อยให้ตายอย่างทรมาน ทุกอย่างล้วนเป็นไปตามที่นางต้องการได้ทั้งนั้น
เดินออกมาถึง หน้าประตูจวนเสนาบดีเซี่ย ก็พบเซี่ยเสวี่ยเหลียนกับฮูหยินรองเฉิงที่กำลังพ่นน้ำลายใส่ร้ายเซียถงให้แก่บรรดาคุณชายทั้งหลายฟังอย่างไม่หยุดหย่อน
“คุณชายทั้งหลาย ข้าคนนี้มิทราบจริงๆ ว่า พวกท่านไปหลงเสน่ห์เซียถงได้เยี่ยงไร? นางทั้งมีใบหน้าอัปลักษณ์น่ารังเกียจ นิสัยสันดานก็ยังเสีย ดูอย่างคืนนี้สิ ข้าเพิ่งจะจับนางได้คาหนังคาเขาว่า พาคนป่ามาเล่นชู้ถึงในจวนแห่งนี้! แต่พอนางจับได้ว่า ข้าแอบไปเห็น ก็ถึงขั้นลงไม้ลงมือ ใช้กำลังทำร้ายร่างกายข้า!”
“พอสามีของข้าไม่อยู่จวน นับวันนางมารน้อยตัวนี้ก็ยิ่งกำแหงใหญ่ จับข้ากับลูกสาว มาทรมานรังแกทุกวิถีทาง แต่หาทราบความจริงไม่ว่า นางกลับหาใช่บุตรสาวแท้ๆ ของสามีข้า แต่เป็นลูกชู้ของแม่นางกับคนป่าหลังเขา!”
ฮูหยินรองเฉิงกำลังยืนร้องห่มร้องไห้อยู่หน้าประตูทางเข้าจวนเสบนาดีเซี่ย จงใจยกมือขวาข้างที่โดนตัดสองนิ้วไป แกว่งไปแกว่งมาให้บรรดาคถณชายทั้งหลายตรงหน้าได้สังเกตเห็น