ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง - ตอนที่ 449 เตาหลอมกลั่นระเบิด! (1)
ตอนที่449 เตาหลอมกลั่นระเบิด! (1)
ตอนที่449 เตาหลอมกลั่นระเบิด! (1)
สิ้นคำพูดสุดท้ายของชิงเยวี่ย หยุนซีถึงกับมีน้ำตาซึมซาบไหลออกมา นางกล่าวว่า
“ในที่สุด…ในที่สุดปิงเอ๋อร์ก็ข้ามผ่านอดีตอันแสนขมขื่นได้เสียที แล้วนางไม่ได้เกลียดข้าใช่ไหม?”
เซียถงที่ได้ยินแบบนั้นก็ใจฟูฟ่องเช่นกัน การแอบรักข้างเดียวมานับสิบกว่าปีของไป๋ปิง ในที่สุดนางก็สามารถปล่อยวางได้เสียที กระทั่งนางที่แค่ได้ยินก็ยังรู้สึกโล่งใจแทน
อย่างไรเสีย ก่อนที่เซียถงจะหาย0จากความรู้สึกซาบซึ้งประทับใจเหล่านั้น หยุนซีก็นำยอดบัวสมุทรมาเก็บและรีบส่งชิงเยวี่ยจากออกไปmyomu
นางมองย้อนกลับมาหาเซียถง ดวงตาหรี่เรียวเป็นทรงจันทร์เสี้ยวอย่างมีความสุข ยกมือขึ้นโอบไหล่กอดกันแน่นและยิ้มกล่าวขึ้นว่า
“เซียถง! ในที่สุดก็ได้เวลาหลอมกลั่นโอสถวัฏจักรคืนชีพระดับเก้าเสียที…”
เผชิญพบท่าทีที่เปลี่ยนไปราวกับหน้ามือเป็นหลังมือของอีกฝ่าย เซียถงถึงกับพูดไม่ออกบอกไม่ถูก และชักจะสงสัยขึ้นมาจริงจังเสียแล้วว่า ภาพฉากที่หยุนซีร้องไห้อย่างขมขื่นเมื่อครู่ นางกำลังแสดงความรู้สึกจากใจจริงออกไป หรือก็แค่การแสดงละคร?
เซียถงหาได้เอ่ยถามใดๆ ออกไป เพียงหยยบยอดบัวสมุทรต้นดังกล่าวขึ้นมาและกล่าวว่า
“สูตรโอสถวัฏจักรคืนชีพระดับเก้าฉบับดัดแปลงของข้า ยังต้องใช้สมุนไพรอีกสองสามชนิดจากที่ท่านมีเพิ่มเติมเข้ามา แต่เหล่านั้นต่างเป็นสมุนไพรทั่วไปมิได้หายากเท่าไหร่ เดี๋ยวข้าจะเขียนให้ แล้ววานท่านออกไปซื้อให้ที”
“ได้เลย! ได้เลย! เช่นนั้นรีบเขียนให้ข้าโดยเร็ว!”
หยุนซีรีบผละตัวออกมา พร้อมเขย่าร่างเซียถงสองสามที มิทราบว่ากลัวเร็วไม่ทันใจหรืออย่างไร นางรีบวิ่งไปหยิบพู่กันกับกระดาษแผ่นหนึ่งมา และยัดใส่สองมืออีกฝ่ายโดยไม่รอช้า ก่อนถอยออกมายืนจับจ้องด้วยสายตาที่เปี่ยมความคาดหวังอยู่อัดแน่น หากมีหางคงกระดิกไปมาดั่งสุนัขไปแล้วกระมัง!
บางครั้นบางครา เซียถงก็รู้สึกได้ว่า นางไม่สามารถคาดเดาการกระทำของหยุนซีนางนี้ได้เลยจริงๆ ถอดถอนเสียงหายใจเฮือกหนึ่งอย่างช่วยมิได้ นางเริ่มบรรจงตวัดพู่กันเขียนรายชื่อสมุนไพรต่างๆ ลงไปทันที
เมื่อหยุนซีเห็นรายชื่อสมุนไพรบนหน้ากระดาษเหล่านั้น นางก็เลิกคิ้วกระตุกทีหนึ่ง แล้วโพล่งกล่าวขึ้นว่า
“นี่หรือคือสิ่งที่เจ้าต้องการ? หาซื้อได้สบายมาก!”
เซียถงคลี่ยิ้มให้เล็กน้อย ส่วนหยุนซีก็ตบไหล่นางพร้อมยิ้มแย้มตอบกลับเช่นกัน พวกนางในเวลานี้ต่างดูมีความสุขเหลือเกิน
เมื่อหยุนซีเดินออกจากห้อง ก็แลเห็นว่าโม่ซวนกำลังยืนเฝ้าอยู่ด้านนอกไม่ไปไหน เนื่องจากก่อนหน้านี้ พอเขาได้ยินเซียถงเอ่ยปากสัญญาว่าจะไปหุบเขาคุนหลุน เขาก็คล้ายกับมีอาการประสาทขึ้นหัวทันที โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับตอนที่เห็นชิงเยวี่ยเดินทางมาหา ซึ่งแน่นอน โม่ซวนเองก็มีเจตนาเดียวกับชิงเยวี่ยเช่นกัน เขาไม่ต้องการให้เซียถงเดินทางไปที่แห่งนั้น
พอเห็นหยุนซีเดินผ่านออกมา โม่ซวนก็เร่งหันศีรษะขวับ ชำเลืองมองนางโดยไว ตัดสลับกับบานหน้าต่างห้อง และเมื่อยังเห็นเงาคลุมเครือของเซียถงขยับเขยื้อนไปมาอยู่ภายในนั้น เขาก็ถอนหายใจเฮือกหนึ่งด้วยความโล่งอก หยุนซีที่เห็นแบบนั้นก็อดเดินเข้ามาตบไหล่เขามิได้ และยังกล่าวอีกว่า
“ดูแลนายหญิงของเจ้าให้ดี นางกำลังหลอมกลั่นโอสถอยู่ ห้ามเข้าไปรบกวนเด็ดขาด”
โม่ซวนที่ได้ยินดังนั้นก็รีบพยักหน้ารับคำ ส่วนหยุนซีก็เดินจากออกไปอย่างรวดเร็ว
หลังออกจากโรงเตี๊ยมมาแล้ว หยุนซีก็ชะงักฝีเท้าหยุดลงกะทันหัน เหลียวศีรษะชำเลืองหางตาหันไปมอง ก่อนจะเผยแสดงรอยยิ้มแห่งความสำเร็จแสยะผ่านมุมปากของนาง
โม่ซวนก็ยังยืนเฝ้าอยู่ด้านนอกห้องพักแบบนั้นไม่ไปไหน จนกระทั่งจวนใกล้ถึงเวลาที่เซียถงนัดพบกับองค์จักรพรรดิซีฉิน เพื่อเตรียมตัวออกเดินทางไปยังหุบเขาคุนหลุนแล้ว แต่ถึงแบบนั้น ภายในห้องพักแห่งนี้ก็ยังเงียบสงัดปราศจากปฏิกิริยาใดๆ ผ่านไปอีกหนึ่งคืนเต็ม เขาในเวลานี้เริ่มคิดกับตัวเองแล้วว่า หรือเป็นไปไหมที่นายหญิงจะเปลี่ยนใจไม่ไปหุบเขาคุนหลุนแล้ว? หากเป็นเช่นนั้นจริง สู้เขาชวนนางกลับอี้เฉิงตอนนี้เลยไม่ดีกว่ารึ!?
คิดได้แบบนั้น โม่ซวนจึงตัดสินใจผลัดประตูเปิดเข้าไปทันที
“นายหญิง! กลับอี้เฉิงกันเถิด!”
โม่ซวนแผดเสียงดังลั่น และทันทีที่เห็นเซียถงกำลังยืนล้างหน้าอยู่ในอ่าง พลางวางผ้าเช็ดตัวในมือลง โม่ซวนก็ถึงยืนแข็งค้างตะลึงงันไปชั่วขณะ เพราะหญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาหาใช่เซียถง แต่เป็นหยุนซี!
แต่นี่…นี่เป็นไปได้ยังไง? ก็เขาเองเห็นเต็มสองตาเลยว่า หยุนซีเดินจากไปแล้วตั้งแต่เมื่อวาน!
ถูกต้อง ทั้งหมดคือแผนการที่สองสาววางเอาไว้ จงใจปล่อยให้หยุนซีเข้ามาอยู่ในนี้แทนที่เซียถงเพื่อตบตาโม่ซวนมิให้สงสัย!
ส่วนเซียถงในขณะนี้รึ? นางอยู่ในพระราชวังซีฉินแล้ว!
องค์จักรพรรดิซีฉินพร้อมคณะขุนนางคนสนิทเดินทางออกมา พินิจมองหญิงสาวเบื้องหน้าที่อยู่ในชุดนักฆ่าสีดำรัดรูป เรือนร่างอันโค้งเว้าและส่วนนูนไร้ที่ล้วนถูกห่อหุ้มด้วยเสื้อผ้าแบบแนบเนื้อเพื่อการเคลื่อนไหวที่สะดวกคล่องแคล่ว
“นี่เป็นสิ่งของที่ข้าเตรียมไว้แก่เจ้า”
องค์จักรพรรดิซีฉินชี้ไปที่หีบสมบัติใบหนึ่งที่อยู่ตรงหน้า และกล่าวอีกว่า
“ยามพบเจออุปสรรคระหว่างทาง สิ่งพวกนี้สามารถช่วยเจ้าได้”
จากนั้นเขาก็หันไปหาด้านเคียงข้างเล็กน้อย ปรากฏเป็นชายวัยกลางคนทั้งสองในชุดเกราะออกศึก เผยตัวออกมาท่ามกลางเงามืด สำหรับเซียถงแล้ว สองคนนี้หาใช่คนแปลกหน้าไม่รู้จัก เพราะเมื่อวานนางเพิ่งจะได้กระชับมิตรกับทั้งคู่ อัดพลังลมปราณขว้างปาใส่กันอยู่กระบวนหนึ่ง ถือได้ว่าคุ้นเคยกันอยู่บ้าง
“พวกเขาคือสองพี่น้อง เค่อฮั่วและเค่อมู่ ทั้งคู่จะติดตามเจ้าไปยังหุบเขาคุนหลุนเพื่อช่วยเหลืออีกแรง”
ช่วยเหลืออีกแรง? แค่กลัวว่าตอนที่นางได้รับบัญชาสี่พิภพมาแล้วจะพลิกลิ้นเล่นไม่ซื่อมากกว่า? เลยเอามากันเหนียวไว้?
เซียถงทราบดีทุกอย่าง แต่ก็หาได้สนใจเช่นกัน! เพราะจุดประสงค์ของนางค่อนข้างชัดเจนมาก ขอเพียงสองคนนี้ไม่ล้ำเส้นก้าวก่ายเป็นพอ!
“องค์ราชินีแห่งอี้เฉิง หลังจากนี้ขอได้โปรดจงเข้าใจ หากท่านเกิดกระทำการไม่เป็นตามที่กำหนด ก็อย่าได้ตำหนิว่าเราสองพี่น้องเสียมารยาท!”
เค่อฮั่วผู้พี่ตบเท้าก้าวขึ้นหน้า ยกสองมือขึ้นประสานให้เซียถงอย่างสุภาพ แต่ในขณะเดียวกันก็มีเกลียวคลื่นพลังลมปราณสีม่วงประกายเงินทอแสงระยิบระยับส่องออกมาจากใต้ฝ่าเท้าของเขา พินิจจากสีลมปราณ ความแข็งแกร่งของเขาควรจะทะลวงขึ้นถึงขอบเขตจักรพรรดิครามฟ้าครึ่งขั้นแล้ว!
ทำเช่นนี้หมายความอย่างไร คิดจะข่มขู่กัน?
“ข้าขอแค่หวังว่า องค์จักรพรรดิซีฉินจะไม่ผิดสัญญา!”
เซียถงส่งเสียงดังกล่าวตอบออกไปอย่างเฉยเมย และยังกล่าวต่ออีกว่า
“มิเช่นนั้นแล้ว ทุกคนในทวีปเทียนหลางแห่งนี้คงได้มองท่านเปลี่ยนไปแน่นอน”
ประโยคโปรยสุดท้ายนางแอบประชดประชันตอบไปวาจาหนึ่ง เพราะหากว่าอีกฝ่ายละเมิดกฎไม่ทำตามสัญญาที่ให้ไว้ ก็อย่าโทษเช่นกันว่านางโหดเหี้ยม! สิ้นเสียงดังน้น เซียถงก็หมุนตัวกลับหันหลังให้ และกระโดดขึ้นม้าควบออกไปทันที
เค่อมู่เป็นพวกไม่ชอบพูดเท่าไหร่นัก เขาเชิดคางขึ้นเล็กน้อย และกระโดดขึ้นหลังมือควบติดตามเซียถงออกไป
องค์จักรพรรดิหาได้สนใจประโยควาจาคำเสียดสีของเซียถงใดๆ เพียงยิ้มแย้มอย่างมีความสุข รอวันนี้ตนเองได้ครอบครองบัญชาสี่พิภพมาเพียงเท่านั้น
แต่ขณะที่เซียถงกำลังควบม้าจากออกไปแล้ว จู่ๆ ก็มีม้าตนหนึ่งพุ่งออกมาขัดขวางเส้นทางเบื้องหน้าทั้งหมดเอาไว้ ปรากฏว่าเขาคือชิงเยวี่ยที่รีบเร่งออกมาหา เขาตะโกนเสียงดังลั่นขึ้นว่า
“เดี๋ยวก่อน!!”
“ชิงเยวี่ย? นี่เจ้า…”
เผชิญพบกับการปรากฏตัวอย่างคาดไม่ถึงของชิงเยวี่ย องค์จักรพรรดิที่กำลังยิ้มแย้มมีความสุขถึงกับชะงักค้าง
“เสด็จพ่อ ลูกคนนี้จะขอติดตามองค์ราชินีแห่งอี้เฉิงไปด้วย!”
“ไร้สาระ!”
องค์จักรพรรดิซีฉินสบถตอบปฏิเสธทันควัน สำหรับชิงเยวี่ยคนนี้ ตัวเขาได้เตรียมการต่างๆ มากมายไว้ให้หมดแล้ว ดังนั้นการที่ชิงเยวี่ยจะขอร่วมเดินทางไปยังหุบเขาคุนหลุนพร้อมกับเซียถง ถือเป็นการทำลายแผนการทั้งหมดของเขาลงไม่เป็นท่าอย่างไม่ต้องสงสัย!
“เรียนเสด็จพ่อ บัญชาสี่พิภพสำคัญต่อท่านเพียงใดไยจะไม่ทราบ ลูกคนนี้เพียงอยากมีส่วนสนับสนุนให้จักรวรรดิซีฉินของเราเจริญรุ่งเรืองอีกแรงหนึ่ง”
สีหน้าการแสดงออกของจักรพรรดิซีฉินมืดทมิฬลงชั่วขณะ แต่สิ่งที่อีกฝ่ายกล่าวไปนั้นก็มีเหตุผลทั้งสิ้น ทุกคนในเวลานี้รวมไปถึงเขาก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ลงเช่นกัน
แต่ทันใดนั้นเซียถงก็ควบม้าเข้ามาหาชิงเยวี่ย
“เจ้าไม่ควรติดตามมาด้วย”
ตั้งแต่ที่เซียถงตัดสินใจยอมมาเข้าร่วมงานชุมนุมโอสถแล้ว นางก็มิได้ตั้งใจจะไปเจอหน้าชิงเยวี่ย หรือต้องการติดต่อสานสัมพันธ์ใดๆ ร่วมด้วยกับอีกฝ่ายอีก แต่ใครจะไปคาดคิด ไม่เพียงตลอดงานชุมนุมโอสถ เขาจะอยู่ฝ่ายนางและค่อยเข้าข้างช่วยเหลือ แต่ตอนนี้ ทั้งที่ทราบดีว่าหุบเขาคุนหลุนอันตรายปานใด แต่เขาก็ยังตัดสินใจที่จะร่วมเดินทางไปกับนาง!
เซียถงไม่สามารถปล่อยให้อีกฝ่ายต้องมาซวยเพราะนางมากไปกว่านี้ได้อีกแล้ว!