ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง - ตอนที่ 516 อยากบ้านัก ก็บ้าไปด้วยกัน! (2)
ตอนที่516 อยากบ้านัก ก็บ้าไปด้วยกัน! (2)
ตอนที่516 อยากบ้านัก ก็บ้าไปด้วยกัน! (2)
ลูกไฟเพลิงขนาดมหึมาที่พ่นออกมาจากปากกิเลน พวยพุ่งโจมตีใส่เย่หลีเทียนพร้อมเสียงแผดคำรามอันน่าสะพรึงขวัญ
เย่หลีเทียนไม่คิดไม่ฝันแม้สักนิดว่า เซียถงจะเล่นหนักกันถึงขนาดนี้ แทบจะในเสี้ยวพริบตา เขารีบตีฝีเท้าเตลิดหนีตายออกมา พอกวาดตามองจนเห็นว่า เซียถงหนีไปอยู่จุดใด ก็เร่งไล่รุกติดตาม
ถึงแม้กิเลนตนดังกล่าวจะสูญเสียจิตวิญญาณที่ควรจะมีไปแล้ว แต่อย่างไร พลังลมปราณอันแกร่งกร้าวนับไม่ถ้วนที่อัดแน่นอยู่ในกายเนื้อของมันยังคงเต็มเปี่ยมล้นเหลือ กระทั่งรัศมีแรงกดขี่ที่ปะทุจากในกายของมัน กล่าวได้ว่ายังครบถ้วนสมบูรณ์ดี
เซียถงเริ่มออกท่าเปิดฉากสัประยุทธ์กับเย่หลีเทียนทันที อย่างไร สิ่งที่น่ากลัวที่สุดจนทำเอาทั้งสองถึงกับเหว่อไปชั่วขณะคือ
ลูกไฟเพลิงมหึมานั่นเสมือนกับมีชีวิตจิตใจ พุ่งไม่โดนเซียถงครั้งที่หนึ่งยังพอทำเนา แต่ครั้งที่สองเย่หลีเทียนยังสามารถหลบเลี่ยงหนีไปได้ มันก็ราวกับบันดาลโทสะ ไล่ติดตามพวกเขาทั้งคู่อย่างบ้าคลั่ง เสมือนกระสุนนำวิถีติดตาม
ทั้งเซียถงกับเย่หลีเทียนยิ่งระเบิดพลังคลุ้มคลั่ง โรมรันพันตูสาดกระบวนกันขนานหนัก กล่าวคือ ผู้ใดที่พลาดท่าในศึกต่อสู้นี้ ผู้นั้นจะต้องโดนลูกไฟเพลิงของกิเลนแผดผลาญเป็นเถ้าถ่านตามไปด้วย!
ในสถานการณ์ปัจจุบัน หลังจากิเลนตนนั้นพ่นเพลิงออกไปเสร็จ ยามนี้กำลังยืนอยู่เบื้องหลังทั้งสอง มันไม่ยืนนิ่งดูดายอีกต่อไป ร่างขนาดใหญ่ของมันเคลื่อนเข้าโจมตีด้วยความเร็วสูงสุด พร้อมกับปีกคู่หนึ่งที่อยู่กลางหลังตีขนานกว้างออกมา เพื่อเพิ่มทวีความเร็วในการเคลื่อนที่
ระหว่างสู้รบตบมือกัน แค่เลี่ยงระวังลูกไฟเพลิงวิถีติดตามยังไม่พอ ยังต้องรับศึกปะทะกับกิเลนขนาดใหญ่ที่พวยพุ่งเข้าใส่อีกระลอก นับว่าทั้งคู่ตกอยู่ในสถานการณ์คับขันสุดขีด
โชคยังดีที่เซียถงมีเพลิงพิภพเก้าดุษณีอยู่ในกาย เผชิญหน้ากับเพลิงกิเลนศักดิ์สิทธิ์ นางย่อมไม่เกรงกลัวเท่าไหร่นัก
ทว่าสำหรับเย่หลีเทียนแล้ว มันแตกต่างออกไป เพียงโดนปลายเพลิงกิเลนศักดิ์สิทธิ์แตะสัมผัสเฉียวโดน
ก็เล่นแผดผลาญกวาดไปทั้งชายเสื้อเป็นเศษตะกอนดำสิ้น
ขณะไล่กวดพัลวันกันสุดความสามารถ ออกอาวุธสารพัดท่วงท่าโจมตี ทันใดนั้นเอง ดวงไฟสีม่วงกลุ่มนั้นที่อยู่ในร่างกายของเย่หลีเทียนก็เริ่มมีปฏิกิริยาเคลื่อนไหวอีกครั้ง และมันพยายามจะดิ้นหลุดจากร่างกายของเขา
ชั่วขณะนั้น เซียถงเข้าใจได้ในทันทีว่า ชิ้นส่วนวิญญาณอีกครึ่งหนึ่งของเสี่ยวฮั่ว เป็นร่างที่มีจิตสำนึกที่ไม่บริสุทธิ์ ดังนั้น สิ่งที่มันต้องการคือ การตามหาร่างสิงสู่ที่แข็งแกร่งพอ เพื่อให้ตัวมันหลบซ่อนอยู่ภายในนั้นได้อย่างปลอดภัย แต่เมื่อใดที่สัมผัสได้ถึงภัยอันตรายร้ายแรง มันจะทำการดีดตัวออกมาทันที
พลังลมปราณในกายเย่หลีเทียนถูกนำใช้ออกมาอย่างต่อเนื่อง ระดับปริมาณจึงลดฮวบลงอย่างรวดเร็ว ซ้ำร้ายยังโดนเพลิงกิเลนศักดาสิทธิ์ตามเล่นงานอีก ส่งผลให้ดวงไฟสีม่วงกลุ่มนั้นรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย จึงจะพยายามดิ้นหลุดหนีออกมา
หากปราศจากดวงไฟสีม่วงกลุ่มนี้ไป เย่หลีเทียนไม่มีทางต้านรับเพลิงกิเลนศักดิ์สิทธิ์ได้ไหวแน่นอน แค่เพียงแตะสัมผัสอาจทำให้ลุกพรึบร่างกายไหม้เกรียมได้ในพริบตา และเพราะเหตุนี้เอง เขาจึงพยายามอย่างสุดกำลังที่จะกักขังห้ามปรามมิให้ดวงไฟสีม่วงกลุ่มนี้หนีออกไป
เซียถงเล็งเห็นโอกาสที่จะพลิกกลับมาเอาชนะเย่หลีเทียนในทันที จึงปรับกลยุทธ์แผนการต่อสู้ของนางโดยไว
“หลิวซู ข้าจะนับถึงสาม เจ้าถอนกำลังออกจากตรงนี้ แล้วไปสกัดกิเลนเอาไว้!”
“เซียถง! เจ้าบ้าไปแล้วจริงๆ!”
คล้ายกับว่าหลังจากที่เคยหลอมรวมร่างกับเซียถงไปแล้วครั้งหนึ่ง ส่งผลให้หลิวซูสามารถคาดเดา ความคิดบ้าระห่ำของนางได้มากขึ้นเรื่อยๆ
เสี่ยวฮั่วเองก็รู้สึกได้ว่า ความคิดของนางมันทั้งบ้าและนอกกรอบเกินไป
“นายท่าน อย่าทำเช่นนั้น! มันอันตรายเกินไป!!”
“หลิวซู ข้าจะแบ่งเพลิงพิภพเก้าดุษณีให้เจ้ายอมใช้ครึ่งหนึ่ง ฝากถ่วงเวลาให้ที! มีเพียงวิธีนี้เท่านั้นที่จะทำให้เสี่ยวฮั่วหลอมผสานเข้ากับชิ้นส่วนวิญญาณอีกครึ่งหนึ่งได้! เสี่ยวฮั่ว เจ้าต้องแข็งแกร่งกว่านี้! ขอเพียงตัวเจ้าแข็งแกร่งกว่านี้ พวกเราถึงจะฟันฝ่าอันตรายคราวนี้ไปได้!”
เมื่อหลิวซูได้ยินแผนของเซียถงดังนั้น ก็เป็นดั่งที่มันคาดเอาไว้ไม่มีผิด นางบังคับให้มันต้องหยิบใช้เพลิงพิภพเก้าดุษณีที่เคยเป็นของมังกรเพลิงโลหิตตนนั้น ศัตรูที่ตัวมันหวาดกลัวที่สุดในชีวิต!
แต่หากหลิวซูยังไม่สามารถก้าวข้ามความกลัวตรงนี้ได้ มีหวังเซียถงต้องตายลงที่นี่แน่นอน!
แต่ทันใดนั้น จู่ๆหลิวซูก็ระบายยิ้มฉีกกว้างออกมาด้วยความโล่งใจ เพราะก่อนหน้า ตนเลือกที่จะหลอมรวมเป็นหนึ่งกับเซียถงไปแล้วครั้งหนึ่ง กล่าวคือ ความสามารถที่แท้จริงของกระบี่ทัณฑ์ฟ้าก็ได้รับการปลดปล่อยออกมาแล้ว ต่อให้มันตายไปอย่างไร ก็ถือว่าภารกิจได้เสร็จสิ้นไปแล้วเช่นกัน
ซึ่งแท้จริง ตัวมันยอมรับเซียถงเป็นเจ้าของตั้งแต่วันแรกที่พบกันแล้ว
และกาลเวลาที่ได้อยู่ร่วมกันยิ่งเป็นตัวพิสูจน์ชั้นดี ผู้หญิงนางนี้ค่อยๆแข็งแกร่งขึ้นทีละเล็กละน้อย และพลังความสามารถที่น่ากลัวที่สุดของนางก็คือ การกล้าเผชิญหน้ากับความกลัว!
เวลานี้เอง หลิวซูจินตนาการเลยว่า อนาคตภายภาคหน้าในอีกไม่ไกล เซียถงจะต้องกลายมาเป็นหญิงอัจฉริยะไร้เทียมทานอันดับหนึ่งแห่งทวีปเทียนหลางอย่างแน่นอน!
ปมความกังวลทั้งหมดในใจของหลิวซูถูกคลายออกในทันใด เฉพาะเวลานี้เท่านั้นที่ตัวมันรู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก และขณะเดียวกัน ตราผนึกไร้สภาพที่มองไม่เห็นที่ปิดกั้นอยู่กลางดวงใจของมัน จู่ๆก็พลันแตกสลายในพริบตา!
ขุมพลังอันไร้ขอบเขตปะทุคลั่งขึ้นมาจากเบื้องลึกสุดของจิตใจ ร่างทั้งร่างของหลิวซูมีคลื่นแสงสารพัดสีสันทะลักทลายล้นปรี่ออกมาไม่หยุดหย่อน
เผชิญหน้ากับคลื่นแสงสีสารพัดที่จู่ๆก็พวยพุ่งออกมาต่อหน้าต่อตา กิเลนร่างใหญ่ตนนั้นถึงกับชะงักนิ่ง แข็งค้างไปชั่วขณะเช่นกัน
โดยไม่มีใครคาดคิดมาก่อน ภายใต้สถานการณ์วิกฤติเป็นตายเช่นนี้ ตราผนึกชั้นที่สองในกายของหลิวซูจะถูกปลดทำลายออกมา พลังชีวิตสุดแกร่งกร้าวอันไร้ก้นบึ้งปะทุออกมาอย่างบ้าคลั่ง
เย่หลีเทียนตะลึงงันกับภาพฉากตรงนั้นไม่แพ้กันเลย เห็นกระบี่ทัณฑ์ฟ้าเล่มในมือเซียถง พลันจำแลงกายมาเป็นเด็กหนุ่มในชุดแพรพรรณสีแดงเพลิง เคียงคู่มากับผมยาวสลวยสีเงินอันเป็นเอกลักษณ์
ซึ่งขณะเดียวกัน เซียถงก็รุกถึงหน้า โผงกระโจนเข้าใส่เย่หลีเทียนทีเผลอ ทันทีที่ลุถึงตัว นางก็ใช้สองมือสวมกอดอีกฝ่ายไว้แน่นหนา ทิ้งน้ำหนักทิ้งร่างตัวเองลงพื้นไปทั้งแบบนั้น ส่งผลให้เย่หลีเทียนเกิดสภาวะเสียสมดุลชั่วขณะและทรุดร่วงลงไปตาม
ร่างทั้งสองกอดกันแนบแน่น พร้อมกลิ้งลงมาจากเนินทุ่งดอกไม้ กระแทกลงสู่ผืนหญ้ากว้าง
จู่ๆก็โดนเซียถงรุกเข้ากอดใกล้ชิดกันปานนี้ ม่านตาดำเย่หลีเทียนถึงกับขยับขยายเบิกกว้างในทันใด ยิ่งได้เห็นใบหน้าสวยของนางเคลื่อนเข้าใกล้เขามากขึ้นเรื่อยๆ ก็ยิ่งใจสั่นจนหัวสมองเบลอขาวไปเสียหมด!
เรียวแขนยาวสองข้างยังคงกอดรัด โอบรอบตัวของเขาไว้อย่างแข็งขัน
แรกสัมผัสคือสายลมเย็นที่พัดผ่าน เย่หลีเทียนเห็นขนตายาวระหงพราวเสน่ห์ของนางในระยะชิดใกล้ ริมฝีปากสีแดงอวบอิ่มน่าลิ้มลอง และกลิ่นกายขอิสตรีที่แสนหอมหวน วินาทีต่อมา เสมือนกับว่า นางกำลังโน้มหน้าเข้ามาประกบจูบกับเขา
ภาพฉากนี้เคยปรากฏมาแล้วในความฝันของเย่หลีเทียนอยู่ครั้งหนึ่ง และเซียถงก็โอบกอดเขาแน่นแบบนี้ไม่มีผิด ในเวลานั้น นางส่งยิ้มหวานมอบให้ สายตาแพรวพราวเสน่หาที่จับจ้องมองมาเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักและลุ่มหลง
และในความฝันครั้งนั้น เซียถงยังพูดกับเขาอีกว่า นางเลือกเขา! และหวังเพียงว่า ตัวเขาจะรักเดียวใจเดียวและคอยอยู่ปกป้องนางตลอดไป
เซียถงผู้เย่อหยิ่งและนิสัยแข็งกร้าวนางนั้น ในความฝันกลับทั้งอ่อนหวานและขี้อ้อนดุจจันทร์วารีเดือนเก้า
แค่เซียถงเข้าสวมกอดกับอีกฝ่ายแนบแน่น มันก็เพียงพอแล้วที่จะหยุดเขาได้ชั่วขณะ!
ในขณะเดียวกัน ก็มีสุ้มเสียงดังหึ่งก้องกังวานขึ้นในจิตใจของเย่หลีเทียน รัศมีลมปราณที่เคลือบคลุมร่างกายเขาได้อ่อนยวบลงโดยพลัน…
“เสี่ยวฮั่ว! จังหวะนี้แหละ!”
เซียถงแผดเสียงตะโกนดังสนั่นฉับพลัน ดวงไฟสีม่วงสายหนึ่งพวยพุ่งออกมาจากดวงใจของนาง ไหลทะลักเข้าสู่ร่างกายของเย่หลีเทียนโดยตรง หยิบใช้เพลิงพิภพเก้าดุษณีเข้าโอบล้อมระหว่างร่างกายของทั้งสองเอาไว้ และเพื่อกันเหนียวมิให้ร่างกายของทั้งคู่แยกจากกันกลางคัน นางยังหลอมสร้างเกราะแสงวิญญาณเข้าฉาบหุ้มร่างกายตัวเองกับของเย่หลีเทียนเอาไว้อีกชั้นอย่างแน่นหนา ดั่งอุปกรณ์พันธนาการสุดทนทาน