ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง - ตอนที่ 528 ถูกคุมขัง (2)
ตอนที่528 ถูกคุมขัง (2)
ตอนที่528 ถูกคุมขัง (2)
แสงสว่างฉายวาบฉับพลัน คนผู้นั้นที่ถูกคุมขังอยู่ในห้องดำไม่สามารถปรับตัวได้ในทันใด จึงหลับตาทั้งสองข้างบีบแน่น จากนั้นประตูพลันปิดลง ห้องกลับมามืดลงอีกครั้งในทันใด! ขณะเดียวกันก็ได้ยินเสียงคนภายในนั้นร้องอุทานคำหนึ่งว่า‘น้ำ’ ด้วยความกระหายจัดจึงรีบกวาดมือควานหาไปตามพื้น
หลิวซูเวลานี้กำลังปรับวิสัยสายตาให้เข้ากับความมืดมิดของที่แห่งนี้ แต่ทันใดนั้น จู่ๆก็บังเอิญชนเข้ากับมือของคนผู้นั้นที่กำลังควานหาน้ำ หลิวซูสะดุ้งตกใจ อีกฝ่ายเองก็เช่นกัน
คนนั้นดูหวาดกลัวจัด ยิ่งเนื้อตัวสั่นเครือเกินจะควบคุม ทั้งยังมีเสียงสำลักดังขึ้นอีกคำโต
ทันทีที่เซียถงได้ยินเสียงไอเหล่านั้นผ่านประสาทที่เชื่อมต่อกับหลิวซูจากทางไกล ตัวนางพลันสะดุ้งตกใจรุนแรง!
“หลิวซู!”
หลิวซูและเซียถงต่างเชื่อมหาซึ่งกันและกันได้ ทั้งยังมีความคิดบางส่วนที่หลอมรวมกันเป็นหนึ่ง ดังนั้นเพียงได้ยินเสียงร้องเรียกของนาง มันก็เข้าใจในทันใด เร่งจุดไฟดวงหนึ่งที่ปลายนิ้วสว่างไสวเป็นแสงตะเกียงน้อยๆ
ทันทีที่แสงไฟดวงน้อยสว่างโชติช่วงขึ้นมา มันก็แลเห็นหญิงวัยกลางคนนางหนึ่งที่กำลังนั่งกอดเข่าด้วยความสั่นกลัวจุดขีด ยิ่งเห็นสว่างไสวถูกจุดขึ้นโดยพลัน ยิ่งทำให้นางเกิดความหวาดผวาเป็นทวีเท่า
และเช่นนั้น ทันทีที่เห็นว่าบุคคลเบื้องหน้าคือใคร ทั้งหลิวซูและเซียถงต่างตื่นตกใจยิ่งยวด!
ปรากฏว่าเป็นแม่ของนางจริงๆ! ฮูหลินหลี่!
เผชิญหน้ากับเด็กหนุ่มปริศนาพร้อมกับไฟที่ถูกจุดขึ้นที่ปลายนิ้วกะทันหัน ฮูหยินหลี่หวาดผวาขวัญเสียสุดขีดจนแทบจะเป็นลม
มุมปากหลิวซูกระตุกทันควัน หวังว่าเซียถงจะไม่โทษเรื่องนี้เป็นความผิดของข้า
“ท่านแม่!”
หลิวซูรุดปรี่เข้าช่วยเหลือฮูหลินหลี่โดยเร็ว เมื่อนางตั้งสติลืมตาขึ้นอย่างระมัดระวัง ก็แลเห็นใบหน้าของเด็กหนุ่มอย่างหลิวซูปรากฏขึ้นอยู่ต่อหน้าต่อตาที่กอปรด้วย นัยย์ตาสีแดงทับทิมและผมยาวสลวยสีเงินประกาย เหล่านี้ยิ่งกระตุ้นให้นางตื่นตระหนักหนักขึ้นเป็นทวี แทบจะในพริบตาต่อมา ฮูหยินหลี่เตรียมจะอ้าปากแผดเสียงตะโกนลั่นออกมา
แต่หลิวซูกลับชิงปิดปากของนางได้ทันและกล่าวว่า
“ท่านแม่! นี่ข้าเอง!”
เมื่อได้ยินสุ้มเสียงที่แสนคุ้นเคยนี้ ฮูหลินหลี่ก็ตะลึงงันไปชั่วขณะ มุ่งสายตาเพ่งมองใบหน้าของหลิวซูให้จงดีและกล่าวว่า
“ถงเอ๋อร์?”
หลิวซูลดระดับเสียงลงหลายช่อง ค่อยๆปริปากเอ่ยกระซิบแผ่วต่ำผ่านใบหูของฮูหยินหลี่ แต่ที่เปล่งดังออกมาล้วนแล้วแต่เป็นเสียงของเซียถง
“ท่านแม่นี่ข้าเอง เกิดอะไรขึ้นกัน?”
ฮูหยินหลี่น้ำตารินไหลสุดจะอดกลั้นไหว นางกล่าวว่า
“ถงเอ๋อร์ รีบไปช่วยท่านพ่อของเจ้าเร็ว! เขาถูกองค์รัชทายาทจับตัวไป!”
ท้ายที่สุดนี้ ชายที่ชื่อว่าเซี่ยหลู่เฟิง ผู้นำตระกูลเซี่ย ก็เห็นแก่ตัวเอง เอาตัวรอดเป็นยอดดีไปคนเดียว และไม่เคยคิดจะแม้แต่ปกป้องฮูหยินหลี่เลยสักนิด! ภาพจำในหัวของเซียถงต่อชายคนนี้มีแต่ความเลวทรามต่ำช้าเท่านั้น!
แต่ฮูหยินหลี่ ท่านแม่ของนางที่กำลังตกระกำลำบากอยู่ตรงนี้ กลับไม่ห่วงชีวิตของตัวเองเลยแม้แต่น้อย ภายในใจเป็นกังวลแต่เรื่องของชายสารเลวคนนั้น! สิ่งที่ทำให้เซียถงอยากจะรู้เสียจริง หากแม่ของนางได้เห็น ภาพฉากที่ชายคนนั้นทิ้งศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ทั้งหมดไป และกำลังคุกเข่าขอความเมตตาทุกวิถีทางต่อแทบเท้าไป๋หลี่เย่เพื่อเอาตัวรอดราวกับสุนัขข้างถนน นางจะรู้สึกเยี่ยงไร?
เซียถงรีบตัดบทเปลี่ยนหัวข้อสนทนาโดยไว
“ท่านแม่โปรดบอกข้าก่อน ไฉนท่านถึงโดนจับตัวมาที่นี่ได้?”
ฮูหยินหลี่ได้ยินดังนั้นจึงเล่ากล่าวขึ้นว่า
“ข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกัน วานก่อนองค์รัชทายาทได้พาใครบางคนบุกเข้ามาในจวนพร้อมกัน และจับตัวท่านแม่ของเจ้าไปโดยไม่มีทีท่าประนีประนอมใดๆ ต่อมา ก็มีกองทหารจำนวนหนึ่งบุกเข้าล้อมจวนแน่นหนา โดยมีผู้นำทัพก้าวขึ้นมาและป่าวประกาศว่า พี่ชายของเจ้าได้กระทำการลักพาตัวว่าที่นางสนมขององค์รัชทายาทหนีหายออกไป ในขณะที่เจ้าได้บัญชาสี่พิภพมาครองแล้ว แต่กลับคิดกบฏต่อจักรวรรดิและดูหมิ่นราชวงศ์ตงหลี่ขั้นร้ายแรง กองทหารเหล่านั้นเดินทัพหนักบุกรุกเข้ามาพลัน จากนั้นข้าก็หมดสติไปจำอะไรไม่ได้แล้ว ตื่นขึ้นมาอีกทีก็อยู่ในห้องมืดแห่งนี้แล้ว ถงเอ๋อร์ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ไฉนพี่ชายของเจ้าถึงต้องลักพาตัวเหลียนเอ๋อร์ไปด้วย? แล้วแม่เองก็ไม่เข้าใจ ทั้งที่เหลียนเอ๋อร์ นางก็กลายเป็นคนเสียสติไปแล้ว ไฉนองค์รัชทายาทยังต้องการอภิเษกกับนางอีก…”
ฮูหยินหลี่ดูระส่ำระส่ายร้อนรนจิตใจยิ่งยวด นางไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ควรจะเริ่มกล่าวถามจากตรงไหนก่อนดี
พอเซียถงได้ยินเรื่องราวทั้งหมดเหล่านั้น นางก็เข้าใจได้ในทันที! ไอ้บัดซบ ไป๋หลี่เย่นิสัยสันดานน่ารังเกียจเกินไปแล้วจริงๆ! ถึงขนาดใช้เซี่ยเสวี่ยเหลียนที่กลายเป็นบ้าไปแล้วเป็นเครื่องมือ เพื่อยัดข้อหาเซี่ยหลู่เฟิงและจับมาทรมานระบายความโกรธแค้นภายในใจที่มีแก่นาง
ไป๋หลี่เย่มันทราบดี ลำพังแค่มันไม่มีปัญญาจับตัวเซียถงมาทำร้ายระบายอารมณ์ได้ ถึงได้เอามาลงกับคนใกล้ตัวนางเช่นนี้!
ส่วนเรื่องที่ท่านแม่ของนางโดนจับตัวมาขังอยู่ที่นี่ ก็มีอยู่เหตุผลเดียวเท่านั้น!
เพราะบัญชาสี่พิภพอยู่ในกำมือของเซียถง และทุกคนทั่วทั้งผืนพิภพต่างถวิลหาปรารถนาเจ้าสิ่งนี้ยิ่งกว่าอะไรใดๆ พวกเขาล้วนต้องการมันมาครอบครอง เพื่อควบคุมผืนพิภพใต้หล้าแห่งนี้ให้เป็นดั่งใจนึก!
ท่านแม่ถูกจองจำขังลืมอยู่ที่แห่งนี้ แต่เซี่ยอี้เฉิงมันยังมีโอกาสได้เห็นแสงเดือนแสงตะวัน!
นี่มันไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย!
“หลิวซู พาท่านแม่ของข้าหนีออกได้หรือไม่?”
หลิวซูส่ายหน้าเจือแววละอายหลายส่วน
“การป้องกันของที่แห่งนี้แน่นหนาเกินไป กลับไม่ง่ายที่จะหลบหนี ซ้ำร้ายไปกว่านั้น สภาพร่างกายของนางอ่อนแอมาจากพิษละลายเส้นเอ็น อย่าว่าแต่พาหนีเลย แค่จะประคองให้นางเดินไปถึงประตูยังยาก! ยิ่งไปกว่านั้น บริเวณชั้นนอกของพระราชวังยังมีพลธนูนับร้อยนายยืนประจัญบานพร้อมยิง นี่ยังไม่รวมทหารชั้นสูงกว่าห้าร้อยนายที่ยืนเฝ้ายามเปลี่ยนกะทุกสองชั่วยาม!”
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเหล่ากองทหารชั้นสูงพวกนี้ เว้นเสียแต่จะมีกำลังพลเข้าสมทบช่วยเหลือ หากให้หลิวซูเผชิญหน้าเพียงลำพัง มีหวังไม่ต่างอะไรกับไปตาย!
ก่อนระหว่างเซียถงและหลิวซูจะขาดการติดต่อกัน จู่ๆฮูหยินหลี่ก็โพล่งเข้ามาใส่และเร่งเอ่ยปากด้วยความร้อนใจว่า
“ถงเอ๋อร์! ถงเอ๋อร์! ไม่ต้องห่วงแม่! รีบไปช่วยท่านพ่อของเจ้าก่อนเร็ว!”
เมื่อเซียถงเห็นว่า ท่านแม่ของนางเอาแต่เป็นกังวลห่วงใยในตัวเซี่ยอี้เฉิง ทั้งที่ตนเองกำลังถูกจองจำอยู่แท้ๆ นางก็ถึงกับถอดถอนหายใจเฮือกหนึ่ง
ทันใดนั้นพลันมีสุ้มเสียงฝีเท้าของใครบางคนดังขึ้นจากด้านนอก ในตอนนี้หลิวซูจำต้องไปแล้ว จึงหยิบเหยือกน้ำส่งให้ฮูหลินหลี่และกล่าวทิ้งท้ายว่า
“ท่านแม่ไม่ต้องห่วง หลังจากช่วยท่านพ่อเสร็จ ข้าจะรีบมาช่วยท่านแม่ทันที”
คล้อยหลังหลบหนีออกจากห้องดำ เซียถงก็เอ่ยปากสั่งการหลิวซูทันที
“หลิวซู เจ้าต้องเร่งหาสมุนไพรพิษมาก่อน จากนั้นค่อยหาวิธีช่วยเหลือท่านแม่ของข้าอีกที”
เซียถงกลับคืนสติถอนจิตกลับมา ดวงตาเป็นประกายสดใสขึ้นอีกครั้ง นางหันไปกล่าวกับชิงเยวี่ยว่า
“เจ้ารออยู่ที่นี่ก่อน ระวังตัวให้ดีอย่าให้ถูกเจอตัว”
สิ้นเสียงกล่าวจบ นางก็ยัดมีดสั้นเล่มประจำตัวใส่มือชิงเยวี่ยและลุกขึ้นเผยตัวออกไปทันที ถึงนางยังไม่สามารถฆ่าองค์จักรพรรดิตงหลี่ทิ้งได้ในยามนี้ แต่อย่างไร กับแค่ลูกชายลูกสาวของมันคู่เดียวหาใช่ปัญหา!
นางย่างสามขุมตรงไปหาไป๋หลี่เย่พร้อมแสยะยิ้มเย็นชาเผยออกมา
เสี้ยวแวบแรกที่เห็นเซียถง รอยยิ้มกระหยิ่มที่ฉาบคลุมทั่วใบหน้าไป๋หลี่เย่พยักชะงักค้างนิ่งสะงัด ชั่วอึดใจต่อใจ ถึงกับก้าวถอยหลังออกไปด้วยความสั่นกลัว
“เซียถง!”