ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง - ตอนที่ 540 คุกใต้น้ำ (2)
ตอนที่540 คุกใต้น้ำ (2)
ตอนที่540 คุกใต้น้ำ (2)
หญิงสาวรูปงามนางนั้นตื่นตระหนกตกใจสุดขีด ร่างทั้งร่างอ่อนแรงทรุดฮวบลงกับพื้นทันที ชี้นิ้วไปทางเสี่ยวฮั่วที่จำแลงกลับเป็นเด็กหนุ่มและตะโกนหาทุกคนว่า
“เด็กนั่น…เด็กนั่นเป็นสัตวืประหลาด! มันเขมือบท่านแม่ทัพเฉินเข้าไป!”
ได้ยินดังนั้น ทหารทุกนายต่างปั้นหน้าตะลึงงันถ้วน หันขวับจับจ้องเสี่ยวฮั่วจนเป็นตาเดียว ก็เห็นอยู่ว่า เด็กน้อยอายุประมาณสี่ขวบคนนี้น่ารักน่าชังเพียงใด? แล้วไยถึงต้องโดนใส่ร้ายว่าเป็นสัตว์ประหลาด?
ในเวลาเดียวกัน ทหารอีกกลุ่มก็บุกเข้าไปสำรวจภายในห้องหนังสือบนหอคอย ก่อนค้นพบว่าไม่เห็นแม่ทัพเฉินอยู่แล้วจริงๆ ทั้งหมดจึงมุ่งความสนใจเพ่งไปทางสองคนนั้นอีกครั้งหนึ่ง อาศัยจำนวนเข้าว่า เซียถงเพิ่งจะฝ่ากำแพงเมืองออกไปได้ แต่กลับโดนปิดล้อมโดยสมบูรณ์
สรุปแล้วนั้น นางก็มิอาจเลี่ยงมิให้ต้องเปิดฉากสัประยุทธ์เลือดเดือดได้!
เสียงคำรนก่นเย้ยหยั่นแผดดังคำหนึ่งในคอเซียถง ทันใดนั้นก็คว้ากระบองไม้สองท่อนที่เหน็บอยู่หลังเอวขึ้นมา นำมาประกอบเข้าด้วยกันเป็นแท่งยาว พร้อมทั้งอัดฉีดกระแสลมปราณสั่งสมไว้ที่ปลายไม้ด้านหนึ่ง จึงควบแน่นหลอมผนึกกลายเป็นคมหอกลมปราณอันตรายด้ามหนึ่ง!
ตั้งแต่ได้ล่าเสียบสังหารผู้คนในตอนนั้น คล้ายว่านางจะเริ่มติดใจในอาวุธประเภทนี้เข้าให้แล้ว
และในเมื่อสถานการณ์กลับกลายมาเป็นเช่นนี้ นางเองก็ไม่จำเป็นต้องซ่อนตัวอีกต่อไป โยนหมวกปีกกว้างของทหารใบบนหัวทิ้งไป เผยแสดงให้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของเขา! สีหน้าแววตาอันหยิ่งผยองกล้าหาญ ประดับเคียงความงดงามของนาง ทั้งยังมีหอกลมปราณอันตรายกระชับถืออยู่ในมือข้างหนึ่ง จิตสังหารปริมาณข้นคลั่กระเบิดคลั่งพรั่งพรูจากในกายเซียถง!
เหล่านั้นกอปรไปด้วย คลื่นพลังลมปราณสีม่วงบริสุทธิ์แพรวประกายระยิบระยับ!
เมื่อได้เห็นเซียถงยืนตระหง่านพร้อมเปิดฉากสุประยุทธ์เต็มทน ทุกคนต่างตกอยู่ในอาการหวาดผวาเสียขวัญ! และที่ยิ่งทำให้น่าขนลุกขนชันเข้าไปใหญ่คือ ปรากฏว่า นางบรรลุกลายเป็นยอดฝีมือขอบเขตราชันย์ม่วงแล้วจริงๆ!!
รูปการณ์ปัจจุบันกล่าวคือ หนึ่งต่อหลายร้อย ต่อให้มีพลังเหนือชั้นกว่าค่อนข้างมาก แต่มิอาจปฏิเสธได้เช่นกัน งานนี้เล่นกินพลังงานทั้งทางกายภาพและลมปราณปริมาณมากโขแน่นอน!
ถึงแม้จำต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์เฉกเช่นนี้ แต่เซียถงก็หาได้หวั่นกลัวไม่เลย!
นางสำแดงใช้ทักษะการต่อสู้ ร้อยเรียงกระบวนโจมตีเข้าใส่ทหารกลุ่มแนวหน้านับหลายสิบในรวดเดียว กวาดล้างสะบั้นผ่าคมหอกกว่าหลายสิบเพลงต่อเนื่อง เหล่านั้นร่างหลุดถูกฟันกระจายเป็นเศษชิ้นส่วนบินว่อนคนละทิศละทาง ประดับเคียงคู่เสียงกรีดร้องระงมลั่นด้วยความเจ็บปวดทรมานสุดแสนจากภายในกลุ่มทหารเหล่านั้น!
“เจ้าว่าอันใด?! เซียถงอยู่ที่นี่?!”
ได้ยินข่าวด่วนที่ผู้ใต้บัญชาคาบบอก ไป๋หลี่เย่ถึงกับหน้ามืดฉับพลัน เกือบจะเป็นลมล้มพับในทันใด!
“เร็ว! เร็ว! เร็วเข้า! รีบไปบอกเสด็จพ่อว่าให้ออกเดินทางเสียบัดนี้เลย! ไม่ต้องรอถึงพรุ่งนี้เช้าแล้ว!!”
ไป๋หลี่เย่ตะคอกเสียงสั่น รีบสั่งการผู้ใต้บัญชาคนนั้น แต่สักครู่ถึงยังเร่งกล่าวต่ออย่างร้อนรนว่า
“เดี๋ยว! ไปที่คุกใต้น้ำก่อน! ไปดูว่านางยังมีชีวิตอยู่หรือไม่!!”
จากนั้นไป๋หลี่เย่ก็วิ่งขาสั่นออกไป และมีอยู่รอบหนึ่งขณะลงบันได แข้งขาของเขาอ่อนปวกเปียกเสียจนสะดุดเท้าตัวเองล้ม ร่างทั้งร่างกลิ้งไถลล้มกระแทกพื้นอย่างแรง แต่เนื่องด้วย เจ้าตัวหวาดกลัวเสียจนขี้ขึ้นสมองอย่างไรมิทราบ กลับหาได้สนใจอาการบาดเจ็บแม้สักนิด และออกวิ่งสุดชีวิตอีกครั้ง
“เปิดประตู! เปิดประตูเร็วเข้า!!”
ไป๋หลี่เย่เหงื่อเย็นแตกพลั่กทั่วหน้าผากและแผ่นหลัง ใบหน้าก็ยังซีดเผือดราวกับแผ่นกระดาษ เขาร้องตะโกนสุดเสียงใส่ผู้ใต้บัญชา
ผู้ใต้บัญชาคนนั้นพอโดนตะคอกใส่ ก็พลันมือสั่นจับกุญแจเสียบไม่เข้ารูสักที!
ภายในคุกใต้น้ำแห่งนี้ หาใช่ว่าอยู่ใต้น้ำบาดาลดั่งชื่อของมัน แต่เป็นคุกที่เต็มไปด้วยน้ำเน่าสกปรก ซึ่งเป็นสถานที่ฮูหยินหลี่โดนคุมขังอยู่ในปัจจุบัน นางกำลังนอนหมดอาลัยตายอยากอยู่บนฟูกสีเหลืองปนเขียวที่มีแต่เชื้อราน่าขยะแขยง
เสียงดังชุลมุนจากด้านนอกคุกใต้น้ำได้ยินดังชัดแจ้ง! หลิวซูในตอนนี้กำลังนั่งอยู่ข้างฮูหยินหลี่ไม่ห่างกาย พร้อมด้วยไข่มุกเรืองแสงจำนวนกว่าหลายสิบเม็ดที่วางเรียงรายล้อมรอบฟูกที่นอนของนาง
ในมือของมันถือชามสีเงินที่มีน้ำรังนกหลงเหลืออยู่ประปราย เหล่านี้หลัวซีได้มาจากตอนไปสำรวจโรงครัวในพระราชวังแห่งนี้เมื่อไม่นาน เนื่องจากมือไม้ของฮูหยินหลี่ซูบผอมติดกระดูกจนไม่เหลือเรี่ยวแรง มันจึงอาสาตักรังนกในถ้วนป้อนให้ทีละคนจากช้อนอย่างเบามือ
แม้ภายในใจฮูหยินหลี่ยังคิดสงสัยไม่คลายว่า หลิวซูนั่นคือใคร แต่อย่างไร หากไม่มีอีกฝ่ายที่คอยปกป้องดูแลจนทุกวันนี้ นางเองก็คงมิทราบ ปานนี้จะเน่าตายอยู่ภายในนี้กี่สิบรอบแล้ว
มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ฮูหยินหลี่อดใจเอ่ยถามออกไปมิได้ แต่หลิวซูกลับตอบสั้นๆ แค่ว่า มันเป็นคนรับใช้ของเซียถง!
และก็แน่นอน ฮูหยินหลี่ย่อมไม่เชื่อโดยธรรมชาติ!
“คนรับใช้ในที่นี้หมายถึง เซียถงเป็นนายเหนือหัวของข้า แบบว่า…ชอบใช้งานข้าเป็นอาวุธอยู่บ่อยครั้งน่ะ จะอย่างไรเถอะ ระหว่างข้ากับนางเองต่างก็มีสายสัมพันธ์ที่ดีต่อกันจริงๆ ก็ใกล้เคียงกับคำว่ามิตรสหายอยู่บ้าง แต่อย่าเผลอทำอะไรให้นางโกรธเชียวล่ะ จากนางฟ้านางสวรรค์ นางกลายเป็นยักษ์มารได้เลย! มิเพียงแค่นั้น ป้าหลี่ ท่านรู้หรือไม่ว่า ตอนนี้เซียถงเองก็มีสัตว์เลี้ยงแล้วเช่นกัน มันเป็นถึงกิเลนศักดิ์สิทธิ์ในตำนาน! แต่ฟังดูแล้วเหมือนจะน่ากลัว ทว่าความจริงกลับเป็นกิเลนที่ขี้ขลาดเกินจินตนาการ! น่ากลัวแค่หน้าตากับชื่อ แต่ก็เพียงเสือกระดาษตัวหนึ่งเท่านั้น! เวลาเกิดเรื่องอะไรขึ้นมา ข้านี่แหละป้าหลี่ ที่ออกโรงปกป้องมันตลอด…”
ฮูหยินหลี่ได้ฟังเรื่องราวของหลิวซูก็เริ่มจะมีรอยยิ้ม หัวเราะขบขันออกมา
“จริงรึ?”
ฮูหยินหลี่ได้ยินเช่นนั้นก็ดีใจมาก
“ถงเอ๋อร์มีมิตรสหายดีๆเฉกเจ้า ข้าเองก็ไม่จำเป็นต้องห่วงอะไรอีกแล้ว ข้าขอบคุณเจ้ามากจริงๆ ที่ช่วยดูแลข้าจนประคองชีวิตได้ถึงบัดนนี้”
ก่อนที่หลัวซีจะได้ปริปากกล่าวอะไรตอบไป มันก็ขมวดคิ้วแน่นทันควัน เร่งลดเสียงกล่าวกับนางว่า
“มีคนกำลังเข้ามาที่นี่!”
ทีแรกได้ยินเพียงเสียงอะไรบางอย่างต่อสู้กับอยู่บนภาคพื้นเหนือศีรษะของหลัวซีไปอีกที แต่เวลานี้เหมือนว่ากำลังมีคนยืนไขอะไรสักอย่างอยู่หน้าประตูคุกใต้น้ำแทนแล้ว เห็นว่าท่าไม่ดี มันจึงรีบใช้วิชาพรางตัว ซ่อนตัวอยู่แถวแอ่งน้ำเน่าเสีย
เสียงประตูหนักเปิดออก พร้อมแสงตะเกียงที่ถูกจุดขึ้นมา ภายใต้แสงสลัวท่ามกลางความมืดมิด โฉมหน้าของไป๋หลี่เย่ค่อยๆ เผยแสดงขึ้นมา พลางจ้องเขม็งไปทางฮูหยินหลี่ที่นอนขดตัวอยู่ใรฟูกที่นอนเน่า สักพักหนึ่งค่อยกล่าวขึ้นว่า
“เอาล่ะ! พานางออกไป!”
ผู้ใต้บัญชาคนนั้นรีบนำโซ่ที่เตรียมมาล่ามกับขาของฮูหยินหลี่เอาไว้ แต่เนื่องจากนางโดนทั้งผงพิษละลายเส้นเอ็น ทำให้ไม่สามารถยืนขึ้นได้ และล้มคะมำทันทีที่โดนโซ่ฉุดดึง น้ำเน่าเสียบริเวณนั้นสาดกระเซ็นไปโดนผู้ใต้บัญชาคนดังกล่าว
ผู้ใต้บัญชาคนนั้นปราศจากแววความเมตตาใดๆ ทั้งยังปั้นหน้าขยะแขยงรังเกียจ กระชากโซ่เหล็กฉาบเย็นสุดกำลัง ลากร่างอันผอมโซของฮูหยินหลี่ขูดตามไปกับพื้น แล้วบริเวณข้อเท้าที่โดนโซ่ตรวนหนาใหญ่ตรึงเอาไว้ก็รัดแน่นเสียเหลือเกิน นางร้องครวญทรมานเจ็บปวดอยู่เป็นระยะ นี่กลับเจ็บปวดเสียยิ่งกว่าความตาย!
เมื่อเห็นดังนั้น หลิวซูก็ลอบใช้มือส่งกระแสลมปราณเข้าประคองอยู่ใต้แผ่นร่างของฮูหยินหลี่ หวังช่วยลดแรงเสียดทานจากที่โดนลากให้บรรเทาลง
ผู้ใต้บังคับบัญชาลากฮูหยินหลี่จนแล้วเสร็จอยู่คาหน้าประตู ในขณะนี้ทั่วตัวเปียกชุ่มจากน้ำเน่าเสียสกปรกภายในคุก นอนหมอบอยู่กับพื้นพร้อมสองมือยกกอดร่างที่สั่นเทาของตนเอง
“ท่านองค์รัชทายาท…”
กลิ่นเน่าเหม็นหึ่งออกมาแตะจมูกไป๋หลี่เย่อย่างจัง เขาปั้นหน้าขยะแขยงแทบอ้วก และขมวดคิ้วกล่าวว่า
“เจ้ายังไม่ตาย! ดี! ดีมาก! พานางออกไป!”
ถึงแม้ไป๋หลี่เย่จะรังเกียจฮูหยินหลี่ปานใด แต่ก็พึงทราบภายใต้สถานการณ์เลวร้ายขั้นสุดเช่นนี้ ฮูหยินหลี่นี่แหละผู้ช่วยชีวิตของเขา!