ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง - ตอนที่ 542 กลุ่มทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่า
ตอนที่542 กลุ่มทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่า
ตอนที่542 กลุ่มทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่า
หากคิดในเชิงนั้นจะเท่ากับว่า องค์จักรพรรดิตงหลี่โยนหินครั้งเดียวฆ่านกได้ถึงสามตัว!
และที่น่ากังวลยิ่งไปกว่านั้น ทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวกันมายังไม่ได้พูดถึงเย่หลีเทียนเลยแม้สักคำ! แล้วหลังจากนี้ไปเย่หลีเทียนจะมีบทบาทอย่างไรต่อล่ะ? ตั้งแต่ได้เห็นกองทัพของพวกต้าซิ่งที่อยู่ข้างเดียวกับอีกฝ่าย ในสายตาของไป๋หลี่หานก็มองอีกฝ่ายเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงเช่นกัน ชายนามว่าเย่หลีเทียนคนนี้เร้นประกายซ่อนคมไว้ลึกเกินหยั่งถึง ต้องเจ้าเล่ห์ขนาดไหนกันถึงสามารถไต่เต้าจนขึ้นเป็นอัครมหาเสนาบดีแห่งตงหลี่ได้?
โม่ซวนเร่งตบเท้าขึ้นหน้า ยื่นสาสน์จากพิราบที่เพิ่งบินมาส่งข่าวให้
“นายท่าน นายหญิงบุกเข้าไปในเมืองหลี่เฉินแล้ว!”
โม่ซวนอดกังวลใจมิได้ ถึงแม้เขาจะตระหนักทราบดีว่า ระดับชั้นพลังลมปราณของนายหญิงเขาสูงส่งปานใด แต่เล่นบุกเข้าไปทั้งแบบนี้แค่ลำพัง เกรงว่าไม่ต่างอะไรจากนำไข่ไปกะเทาะหินเลย!
ไป๋หลี่หานขมวดคิ้วแน่น เร่งถามออกไปทันที
“แล้วก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้นในซีฉิน?”
โม่ซวนครุ่นพินิจนึกย้อนอยู่สักครู่ จึงตอบไปว่า
“นายท่าน ฟังว่าองค์รัชทายาทแห่งซีฉินยังมิได้เดินทางกลับซีฉิน นายหญิงกับอีกฝ่ายตอนนี้ยังอยู่ด้วยกัน ส่วนปัจจุบันฝ่ายนั้นยังไม่มีทีท่าเคลื่อนไหวใดๆ”
“แล้วพวกจักรวรรดิตะวันตกล่ะ?”
ไป๋หลี่หานใจสั่นระส่ายรัวเร็ว เมื่อนึกย้อนไปถึงจดหมายลับฉบับก่อนหน้า เขาเองก็อดโพล่งกล่าวขึ้นมามิได้
จักรวรรดิตะวันตก? โม่ชะงักค้างไปชั่วขณะ แล้วจักรวรรดิซีฉินกับจักรพรรดิตะวันตก มันเกี่ยวข้องกันอย่างไร? ฉงนงุนงงอยู่สักครู่ ก่อนเขาจะนึกขึ้นได้ทันควันว่า เมื่อหลายวันก่อน เคยมีจดหมายลับฉบับหนึ่งส่งมาหา เนื้อความดังนี้ มีคณะเดินทางจากจักรวรรดิตะวันตกที่กำลังมุ่งหน้าไปทางจักรวรรดิซีฉินหายตัวไประหว่างทาง
สิ่งที่ไป๋หลี่หานพยายามกล่าวจนตอนนี้ หมายความได้ว่า การหายตัวไปของคณะเดินทางนั้นอาจมิใช่ความบังเอิญ แต่เกิดขึ้นจากแผนการของใครบางคน?
“หรือว่า…ทางจักรพรรดิซีฉินเองก็กำลังเคลื่อนไหวอย่างลับๆแล้วเช่นกัน? แต่อย่างไร ความสัมพันธ์ระหว่างนายหญิงกับองค์รัชทายาทแห่งซีฉินเองก็ค่อนข้างแน่นแฟ้น อีกฝ่ายคงไม่ปฏิบัติต่อนายหญิง…”
ชั่วอึดใจเดียวกัน โม่ซวนก็นึกย้อนไปถึงสายตาที่แสนอ่อนโยนของชิงเยวี่ยคนนั้น ในตอนที่มองมาทางนายหญิงของเขา เหล่านั้นหาใช่ของเท็จปลอมหรือเสแสร้ง แต่ล้วนกลั่นออกมาจากใจจริงของอีกฝ่าย แต่หากให้มองอีกด้าน ทั้งหมดนั้นเป็นแค่ภาพลวงตา… โม่ซวนกลัวจนถึงขนาดไม่กล้าคิดจินตนาการใดๆต่อ
“ท่าราชาหมาป่าสวรรค์ ไปกันต่อเถอะ!”
เซี่ยหลู่เฟิงเร่งเร้ากล่าวขึ้นด้วยทีท่าร้อนใจ
ขณะที่ทุกคนกำลังจะเริ่มเดินหน้าไปต่อ ทันใดนั้นก็มีเสียงเห่าหอนกู่ร้องชัดแจ้งแผดลั่นสนั่นฟากฟ้า
หลัวซีรีบเหลียวหลังไปด้านหนึ่ง ยกนิ้วขึ้นเป่าปากกลายเป็นเสียงนกหวีดแผดไพศาลดัง
อินทรีโลหิตร่างยักษ์บินโฉบโผล่ปรากฏ แล้วร่อนเทียบท่าเข้าจอดอยู่ข้างเคียงหลัวซี
อินทรีโลหิตตนนี้อาการยังคงสาหัส แต่เนื่องด้วยเจ้าของอย่างหลัวซีทำการออกเดินทางอีกครั้ง มันเองจึงต้องฝืนตีปีกบินติดตามมาเป็นระยะ ตลอดเส้นทางจวบจนบัดนี้
ทุกคนหาได้สนใจภาพฉากนี้นัก แต่ขณะที่กำลังจะควบม้าขับไปกันต่อ จู่ๆหลัวซีพลันเอ่ยขึ้นกะทันหันว่า
‘เดี๋ยวก่อน! ทุกคนอย่าเพิ่งขยับ!’
ทุกสายตามุ่งใส่หลัวซีโดยพร้อมเพรียง อึดใจที่ได้ยินว่า อย่าเพิ่งขยับ ต่างคนต่างทราบทันที เวลานี้พลาดท่าประมาทเพียงนิดเดียวหมายถึงชีวิต! แต่ถึงแบบนั้น กลับไม่มีใครรู้เลยว่า ทำไมต้องหยุด?
ไป๋หลี่หานส่งสายตาชำเลืองหาหลัวซี ปราดเดียวเท่านั้นคล้ายว่าทราบกันทันที และในชั่วพริบตาทันที ทุกคนต่างกระโจนขึ้นซ่อนตัวบนต้นไม้สูง ปล่อยม้าให้พรางตัวตามพุ่มหญ้าเบื้องล่าง
ตำแหน่งที่เคยยืนอยู่กัน ยามนี้เหลือแค่เพียงความว่างเปล่า!
หลัวซีหันไปหาอินทรีโลหิตและมันก็ลุกขึ้นกางปีกเตรียมสยายออกทันควัน เพราะอินทรีโลหิตตอนนี้มีเส้นขนเป็นสีน้ำตาลอมดำย่อมพรางไปกับความมืดได้เป็นอย่างเรียบเนียน ดังนั้นเมื่อตีปีกเหินฟ้าท่ามกลางรัตติกาลราตรี ย่อมไม่เป็นที่สังเกตของสรรพสิ่งใด หลัววีเร่งกวาดสายตาสำรวจเบื้องล่างทันที ไม่นานก็เห็นว่าจากทิศทางไม่ไกลกันนัก มีกลุ่มคนหนึ่งกำลังควบทะยานม้าฝุ่นตลบเข้ามาทางนี้
แรกสัมผัสถึงคนกลุ่มนี้ได้ อินทรีโลหิตยักษ์พลันเนื้อตัวสั่นกลัวขึ้นมาโดยไร้สาเหตุ กระทั่งหลัวซีก็ยังไม่เข้าใจ เหตุไหนเล่ามันถึงกลายมาเป็นเช่นนี้?
คนกลุ่มนั้นเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงสุด ว่องไวจนแทบสะกดสายตามองตาไม่ทัน ทั้งหมดแต่งกายแบบเดียวกันหมดคือเสื้อคลุมดำ พลังความแข็งแกร่งมวลรวมที่จับสัมผัสได้ สาธยายในคำเดียวคือ แข็งแกร่ง! และสิ่งที่น่าแปลกประหลาดใจที่สุดคือ ทั้งที่คนกลุ่มนี้ตรงเข้ามาใกล้กับพวกเขามากแล้ว แต่กลับไม่ได้ยินเสียงกีบม้าดังหรือภาคพื้นสั่นสะเทือนใดๆ กระทั่งไป๋หลี่หานที่ทรงพลังแกร่งกล้าที่สุด เวลาควบขับม้ายังมีสุ้มเสียงเล็ดลอด
ด้วยความสงสัยข้อนี้ หลัวซีจึงมุ่งสายตาสอดส่องโดยละเอียด ก่อนจะต้องหน้าซีดในทันที
เพราะคนกลุ่มนี้มิได้ใช้ม้าขี่ขับ แต่เป็นอสูรหมาป่าดุร้าย!
แลเห็นว่าคนพวกนี้ควบอสูรหมาป่า และหากสังเกตให้จงก็ยังพบอีกว่า ทุกคนในกลุ่มต่างสวมหน้ากากลวดลายสยดสยองหลัวซีตกใจสุดขีดรีบบังคับอินทรีโลหิตย้อนกลับไปหาพรรคพวกโดยไว
ใช้อสูรหมาป่าเป็นพาหนะและยังสวมหน้ากากผีปีศาจ เพียงได้เห็นจุดเด่นทั้งสองข้อนี้ จู่ๆก็มีชื่อหนึ่งดังขึ้นมาในหัวของหลัวซีแทบจะในทันที! และดูเหมือนว่า คนกลุ่มนี้ยังไม่ตระหนักถึงการดำรงอยู่ของไป๋หลี่หานและพวกที่ซ่อนตัวแอบอยู่ตามทาง ดังนั้น ตัดเรื่องจุดประสงค์การตามล่าไป๋หลี่หานออกไปได้เลย ซึ่งความเป็นไปได้เดียวที่เหลืออยู่และน่าจะมีแนวโน้มมากที่สุดคือ…คนกลุ่มนี้กำลังเดินทางไปยังเมืองหลี่เฉิน!
เป้าหมายปลายทางของคนกลุ่มนี้คือเมืองหลี่เฉินจริงๆ!
เมื่อคนพวกนั้นควบอสูรหมาป่าทะยานออกไปไกลแล้ว หลัวซีจึงส่งสัญญาณให้ไป๋หลี่หานและคนอื่นๆเผยตัวปรากฏออกมาจากที่ซ่อน เขามองไปที่ไป๋หลี่หาน ส่วนไป๋หลี่หานเองก็สบมองมาที่เขา ต่างคนต่างโพล่งอุทานถึงชื่อนั้นโดยพร้อมเพรียง
“กลุ่มทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่า!”
คนทั่วไปไม่มีทางรู้จักชื่อของกลุ่มทหารรับจ้างนี้ได้ แต่กลับได้ยินชื่อนี้ออกจากปากหลัวซี ไป๋หลี่หานตาเป็นประกายในทันใด
ส่วนเซี่ยหลู่เฟิงได้ยินเช่นนั้น ก็ปั้นหน้าฉงนไม่เข้าใจ
“กลุ่มทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่า? เป็นขุมกำลังแบบใดกัน?”
ไป๋หลี่หานกล่าวอธิบายว่า
“กลุ่มทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าหาได้สังกัดอยู่ภายใต้อำนาจของจักรวรรดิใดๆ เป็นองค์กรเคลื่อนไหวอิสระ ตราบเท่าที่มีเงินจ้างมากพอ หรือนายน้อยของกลุ่มยอมรับปากตกลง พวกมันจะส่งทหารอสูรหมาป่าออกปฏิบัติการทันที ความพิเศษที่ทำให้คนกลุ่มนี้ได้เปรียบฝ่ายอื่นๆคือ ทุกคนที่เข้ากลุ่มจะได้รับการฝึกพิเศษอย่างหนัก เพื่อใช้อสูรหมาป่าแทนม้าไว้ใช้ขี่ ซึ่งอสูรหมาป่าที่กลุ่มเลี้ยงเอาไว้ ล้วนแต่แข็งแกร่งทรงพลัง ขุมพลังอำนาจของคนกลุ่มนี้ไม่ควรมองข้ามโดนเด็ดขาด อีกทั้งยังไม่มีใครล่วงรู้เลยว่า นายเหนือหัวผู้ควบคุมกลุ่มทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าทั้งหมดคือใคร ทราบเพียงว่าทุกคนต่างเรียกเขาว่า นายน้อย กระทั่งองครักษ์หน่วยเงาของข้าเองก็ไม่สามารถแทรกแซงสืบข่าวสารของคนพวกนี้มาได้ ข้อมูลทุกอย่างที่ข้องเกี่ยวกับกลุ่มทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่ายังคงเป็นความลับสุดยอด”
“แต่ไฉนกลุ่มทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าถึงปรากฏตัวที่นี่ได้?”
หลัวซีรีบกล่าวขึ้นแทรกทันใด
“พินิจจากทิศทาง คนกลุ่มนี้กำลังมุ่งหน้าไปที่เมืองหลี่เฉิน แต่แล้วจุดประสงค์ของพวกมันคืออะไร? หรือเป็นไปได้ไหมว่า…พวกมันจะได้รับการว่าจ้างจากองค์จักรพรรดิตงหลี่?”
ทันทีที่ได้ยินดังนั้น สีหน้าการแสดงออกของทุกคนต่างแปรเปลี่ยนกันโดยพลัน หากกลุ่มทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าได้รับการจ้างวานจากองค์จักรพรรดิตงหลี่จริงๆ นั่นแสดงว่า ภารกิจหลักของคนกลุ่มนี้ก็คือ…สังหารเซียถง? นี่ไม่เท่ากับว่า นางกำลังอยู่ในอันตรายขั้นสุดแล้วรึ?!
แทบจะในทันที ต่างคนต่างหุบปากหยุดพูดไปโดยปริยาย และเร่งรุดไปยังเมืองหลี่เฉินโดยด่วนที่สุด!!