ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง - ตอนที่ 548 สงครามตงหลี่ (2)
ตอนที่ 548 สงครามตงหลี่ (2)
ตอนที่ 548 สงครามตงหลี่ (2)
“เซียถง!!’
ชิงเยวี่ยร้องลั่นตะโกนสุดเสียง และเร่งนำกลุ่มทหารที่เตรียมประจัญบานอยู่ด้านหลังเขา เดินทัพมุ่งตรงไปที่บริเวณหอคอยอย่างรวดเร็ว หวังเข้าปกป้องเซียถงโดยเร็วที่สุด!
“ชิงเยวี่ย เจ้ามาทำไมที่นี่?”
ก่อนเดินทางเข้าเมืองหลี่เฉินแห่งนี้ เซียถงกำชับกับชิงเยวี่ยแล้วว่า ห้ามมิให้เขาเผยตัวออกมาเด็ดขาด ทั้งยังฝากไป๋หลี่อวี๋อิงให้อยู่ติดตัวเขาเอาไว้ เผื่อว่ามีผู้ไม่ประสงค์ดีคิดเข่นฆ่าสังหารเขา จะได้หยิบใช้ไป๋หลี่อวี๋อิงเป็นเครื่องต่อรองเพื่อหนีรอดออกมาอย่างปลอดภัย
แต่นางไม่คิดฝันเลยว่า เขาจะมาปรากฏตัวขึ้นมาในเวลาแบบนี้!
ก่อนที่ชิงเยวี่ยจะทันได้กล่าวอะไร หางตาดันชำเลืองไปเห็นฮูหยินหลี่ที่นอนไหม้เกรียมอยู่บนพื้นด้านหนึ่ง เขาถึงกับขนลุกซู่วชูชัน อดใจร้องอุทานขึ้นมิได้
“นี่..”
เสี่ยวฮั่วโผล่ศีรษะยื่นออกมาจากหลังเซียถง และอาสาตอบแทนไปว่า
“นี่มันตัวปลอม! แถวนี้ไม่ปลอดภัยนัก รีบไปเถอะ!”
ไป๋หลี่เย่กัดฟันกรอด กระทืบเท้าอัดพื้นอย่างแรงอยู่หลายที เขาแผดเสียงคำรามเกรี้ยวกราดขึ้นว่า
“อยากหนี? กลับสายไปแล้ว!!”
ชิงเยวี่ยส่งเสียงระเบิดหัวเราะเยาะดังลั่น ทันใดนั้น เขาก็ตบเท้าก้าวขึ้นหน้าอย่างสง่าผ่าเผย ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด ตัวเขาผู้นี้ก็มักทรงบารมีและสง่าราศีอยู่เสมอ เพราะเขาเป็นถึงเซียนโอสถผู้ยิ่งใหญ่แห่งทวีปเทียนหลาง ทั้งยังคือบุตรบุญธรรมขององค์จักรพรรดิซีฉินผู้สูงศักดิ์
ดังนั้นแล้วต่อหน้าองค์รัชทายาทผู้เหลวแหลกไร้น้ำยาอย่างไป๋หลี่เย่ เขาในปัจจุบันจึงดูทรงอำนาจมากกว่าปกติเดิม!
เขายืนขวางอยู่เบื้องหน้าเซียถง มีเชิงคล้ายทีท่าต้องการปกป้อง หันศีรษะเหลียวมองนางพร้อมรอยยิ้มบาง ชิงเยวี่ยกล่าวว่า
“เจ้าไปก่อนเถอะ องค์หญิงไป๋หลี่อวี๋อิงกล่าวว่า องค์จักรพรรดิตงหลี่ได้จ้างวานกลุ่มทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่า ซึ่งพวกมันหาใช่คู่ต่อสู้ที่เจ้าจะรับมือด้วยได้ รีบไปเสียบัดเดี๋ยวนี้ ราชาหมาป่าสวรรค์และพี่ชายของเจ้ามีศึกติดพันอยู่ที่พระราชวังด้านหลัง เซียถง เจ้ารีบไปได้แล้ว ตรงนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ข้าเอง!”
น้ำเสียงที่เปล่งดังออกมาจากปากของเขาช่างเรียบเฉยสงบนิ่ง ราวกับว่าทุกอย่างที่ลงมือกระทำไปล้วนเกิดจากการตัดสินใจอย่างถี่ถ้วนแล้ว
เซียถงได้ฟังดังนั้นถึงกับตะลึง!
“ไปเร็ว! ไปช่วยท่านแม่ของเจ้าออกมา!”
“แต่เจ้า…”
หากนางเลือกที่จะจากไปตอนนี้ แล้วชิงเยวี่ยแค่ลำพังหรือจะหนีรอดออกจากที่นี่ได้?
ชิงเยวี่ยหาได้สนใจคำท้วงติงใดๆของเซียถง และหันไปสั่งการกับกองทหารใต้บัญชาของตนว่า
“ต่อจากนี้พวกเจ้าจะต้องอารักขาปกป้องเซียถงด้วยชีวิต! นี่เป็นคำสั่ง!”
เมื่อได้ยินดังนั้น เหล่าทหารใต้บังคับบัญชาของชิงเยวี่ยต่างส่งสายตาแปลกๆมองมาที่เขา
“นี่เป็นคำสั่ง!!”
ชิงเยวี่ยแผดเสียงคำรามดุดันใส่ ซึ่งนี่ยังทำเอาเซียถงอดรู้สึกตะลึงมิได้เช่นกัน!
ระยะตำแหน่งยืนของทั้งสองค่อนข้างใกล้ชิดกันและกัน ชิงเยวี่ยสบตามองเซียถงทั้งน้ำตาที่เริ่มเอ่อล้น
“เจ้ารู้หรือไม่ เจ้าคือผู้หญิงคนแรกและคนเดียวที่ทำให้หัวใจของข้าเต้นไม่เป็นจังหวะ ในตอนแรก ข้ารู้สึกประหลาดใจเสียเหลือเกิน เพราะเหตุใดถึงได้รักเจ้าถึงปานนี้ และก็รู้สึกแปลกใจเช่นกันว่าไย…เจ้าถึงไม่เคยมีใจแก่ข้าบ้างเลย จนกระทั่งวันนั้นที่ได้เห็นราชาหมาป่าสวรรค์ ข้าจึงเข้าใจได้ทันที มีเพียงเขาเท่านั้นที่เหมาะสมกับเจ้าที่สุดแล้ว มีเพียงเขาเท่านั้นที่สามารถปกป้องเจ้าได้ และนี่คือทั้งหมดที่ข้าคนนี้พอจะทำให้เจ้าได้”
ชิงเยวี่ยสูดน้ำตาเล็กน้อย หยุดไปชั่วจังหวะหนึ่งก่อนกล่าวต่อว่า
“เซียถง ข้ารู้สึกแย่จริงๆที่ไม่สามารถมองเจ้าเป็นเพื่อนคนหนึ่งได้เลยสักครั้ง เหมือนข้าหลอกเจ้ามาโดยตลอด และข้าเองก็รู้ เจ้าเกลียดการโดนหลอกเป็นที่สุด ยกโทษให้กันสักครั้งได้หรือไม่? ข้าขอโทษ…”
เซียถงเข้าใจดี คำว่าหลอกลวงที่ชิงเยวี่ยกล่าวถึง มันหมายความเยี่ยงไร แต่ที่ผ่านมา นางก็ร่วมทุกข์ร่วมสุข ผ่านเหตุการณ์ยากลำบากมาตั้งหลายสิ่งอย่างพร้อมกับเขา แล้วจำพวกเรื่องที่ต้องหลอกลวงกันเพราะความจำเป็น มีหรือที่เซียถงจะไม่เข้าใจได้เยี่ยงไร? ดังนั้น เขาไม่จำเป็นต้องทำขนาดนี้เลย…
“เซียถง เจ้ารีบไปเถอะ…”
สิ้นเสียงกล่าวจบ ชิงเยวี่ยก็ยื่นมือผลักร่างเซียถงออกไป แต่กลับลากไป๋หลี่อวี๋อิงเข้ามายืนข้างๆกันแทน เขาส่งมอบรอยยิ้มสุดท้ายด้วยความอบอุ่น ทว่าเบื้องหลังความอบอุ่นเหล่านั้น กลับมีแต่ความขมขื่นไม่มีสิ้นสุด
“นายท่าน!”
เสี่ยวฮั่วที่เป็นเด็กน้อยเกาะอยู่บนหลังเซียถง คล้ายจับสังเกตความผิดปกติอะไรบางอย่างได้ จึงเอ่ยปากขานเรียกเซียถงโดยไว
ทั้งมันและเซียถงต่างเข้าใจตรงกัน เพราะชั่วพริบตาหนึ่ง หางตาเซียถงพลันเหลือบไปเห็นประกายสีเย็นซุกซ่อนอยู่ในมือไป๋หลี่อวี๋อิง และยังไม่ทันจะได้ส่งเสียงร้องเรียกใดๆ คมมีดเล่มนั้นกลับพุ่งเสียบกะซวกเข้าไปที่ท้องน้อยของชิงเยวี่ยเสียแล้ว!
“ชิงเยวี่ย!!”
ลูกตาดำเซียถงหดตัวฉับพลัน นางตกใจเป็นอย่างมาก! และไม่เพียงคมมีดสั้นเล่มนั้นจะเสียบเข้าท้องน้อยของชิงเยวี่ย แต่ตัวชิงเยวี่ยเองยังจับมือไป๋หลี่อวี๋อิงและออกแรงผลักเพื่อส่งคมมีดให้เสียบเข้าไปให้ลึกขึ้น!
กล่าวอีกนัยหนึ่งได้ว่า ชิงเยวี่ยจัดฉากทุกอย่างเพื่อให้ตนเองตายอยู่ในเงื้อมมือของไป๋หลี่อวี๋อิง
“ทำไมกัน…”
แต่ถึงแบบนั้น เซียถงกลับไม่เข้าใจแม้สักนิด! เหตุใดชิงเยวี่ยถึงต้องทำขนาดนี้? คู่คิ้วเซียถงขมวดแน่นถักเข้าหากัน เบื้องลึกในแววตาของนางมีแต่ความเจ็บปวดรวดร้าวอยู่เต็มไปหมด
ธารเลือดสายหนึ่งรินไหลจากมุมปากของชิงเยวี่ย ผิวหน้าเริ่มซีดขาวหนัก และปริมาณเลือดที่ไหลทะลักจากช่องท้องน้อยออกมาก็มากเสียจนน่าตกใจ!
ไป๋หลี่อวี๋อิงถึงกับแข้งขาอ่อนยวบจนไม่สามารถพยุงตัวยืนได้อีกต่อไป เพราะแบบนั้น นางจึงทรุดฮวบลงกับพื้นอยู่ในท่าคุกเข่าอย่างอ่อนแรง สีหน้าแววตาดูหมดอาลัยตายอยากโดยสิ้น ชิงเยวี่ยเองก็สูญสิ้นพลังแม้แต่จะค่ำจุนประคองตัวได้ไหวเช่นกัน และล้มนอนลงกับพื้นไป
เซียถงรีบวิ่งเข้าไปคว้าร่างประคองอีกฝ่ายเอาไว้ในอ้อมแขน สัญชาตญาณแรกของนางคือ เร่งหยิบสมุนไพรมาใช้ห้ามเลือดโดยด่วนที่สุด แต่กลับถูกชิงเยวี่ยหยุดเอาไว้ในท้ายที่สุด
“รีบไปเร็ว! ในเวลานี้ องค์หญิงแห่งตงหลี่ได้ทำการลอบปลงพระชนม์องค์รัชทายาทแห่งซีฉินแล้ว เรื่องนี้นับว่าใหญ่หลวงเพียงพอที่จะทำให้เจ้ามีช่วงเวลาได้พักหายใจหายคอบ้าง เซียถง เจ้าอย่าทิ้งโอกาสนี้โดยเปล่าประโยชน์…”
ทุกวาจาคำพูดที่ชิงเยวี่ยเอ่ยกล่าวออกมา ล้วนมีเลือดสดคำโตทะลักล้นกระอักปากออกมา
ตั้งแต่วันที่ได้รับแต่งตั้งให้มีหน้าที่คอยเฝ้าดูแลเซียถงจากองค์จักรพรรดิซีฉิน หัวใจดวงนี้ของเขาก็ถูกทรมานนับครั้งไม่ถ้วน เขามักจะได้รับคำสั่งให้คอยเฝ้าติดตามการเคลื่อนไหวของนางและหาจังหวะลอบสังหาร แต่เขาก็เลือกที่จะไม่ทำเรื่อยมา จนกระทั่งเหตุการณ์ครั้นล่าสุด องค์จักรพรรดิซีฉินแอบส่งหน่วยองครักษ์ส่วนตัวมาให้แก่เขา เพื่อวางแผนลอบสังหารเซียถงอย่างลับๆ และชิงบัญชาสี่พิภพออกมา ซึ่งนั่นเป็นดั่งฟางเส้นสุดท้ายแล้ว ความอดทนอดกลั้นทั้งหมดเรื่อยมาได้แตกสลายลงในพริบตา หัวใจดวงนี้ได้แหลกเป็นเสี่ยงๆ เขาไม่อยากรู้สึกทุกข์ทรมานเช่นนี้อีกต่อไป จึงส่งผลให้วันนี้เขาเลือกเส้นทางดั่งในปัจจุบัน
แม้ทางเลือกดังกล่าวอาจทำให้เขารู้สึกโล่งใจ แต่นี่ก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นของวัฏจักรความทุกข์ทรมานอันไร้สิ้นสุดสำหรับใครอีกคน!
ทันทีที่เห็นชิงเยวี่ยล้มลง กองทหารทั้งหมดที่อยู่ใต้อาณัติของชิงเยวี่ยพลันตื่นตระหนกสุดขีด และหันอาวุธเข้าใส่พวกทหารตงหลี่โดยไม่มีลังเล ไม่ว่าจะมองยังไงภาพฉากเบื้องหน้า ณ ตอนนี้ก็ชัดเจนเกินไป เห็นได้ชัดว่า องค์หญิงไป๋หลี่อวี๋อิงแห่งจักรวรรดิตงหลี่ได้กระทำการลอบปลงพระชนม์ขององค์รัชทายาทชิงเยวี่ยแห่งจักรวรรดิซีฉิน!
ทางด้านไป๋หลี่อวี๋อิงก็ยังนั่งกุมฝ่ามือชิงเยวี่ยเอาไว้แน่น แม้ว่ามือไม้ทั้งสองข้างของนางจะชโลมย้อมไปด้วยเลือดสดของอีกฝ่าย แต่นางกลับหาได้รู้สึกรังเกียจไม่ ทั้งยังพยายามสัมผัสรับรู้ถึงความอบอุ่นและลมหายใจแห่งชีวิตของเขาให้ได้มากที่สุด…
เซียถงค่อยๆคุกเข่าอยู่เคียงข้าง ยกมือตนเองขึ้นปิดตาของชิงเยวี่ยอย่างระมัดระวัง เงยหน้าจับจ้องมองไป๋หลี่อวี๋อิงอยู่หนึ่งปราด สิ่งเดียวที่เห็นจากแววตาของอีกฝ่ายคือความขื่นขมเกินจะบรรยาย สุดท้ายนี้นางทำได้เพียงกัดฟันและมุ่งทะยานไปสู่พระราชวังด้านหลังทันที
พวกทหารตงหลี่และเหล่าองครักษ์จากซีฉินเปิดศึกสักประยุทธ์โรมรันกันทันที ท่ามกลางความโกลาหลวุ่นวาย ไป๋หลี่อวี๋อิงกุมมือชิงเยวี่ยไว้แน่นราวกับไม่อยากแยกจาก นางค่อยๆโน้มศีรษะจุมพิตประทับลงบนแก้มของอีกฝ่ายด้วยความอ่อนโยนสุดแสน ดวงตาคู่สวยเอ่อล้นน้ำตาแววใส เหม่อมองชิงเยวี่ยไม่ห่างและกล่าวว่า
“ไฉนเจ้าถึงต้องปกป้องเซียถงถึงขนาดนี้ด้วย? ไม่ห่วงชีวิตตัวเองเลยรึ? หรือภายในใจของเจ้าจะมีแค่เซียถงคนเดียวจริงๆ? แล้วข้าล่ะ…”
จากนั้นไป๋หลี่อวี๋อิงก็โน้มตัวประกบจูบนุ่มนวล ลงบนริมฝีปากสีซีดขาวของชิงเยวี่ยอีกครั้งอย่างสิ้นหวัง
นี่เป็นจูบแรกของนาง เพียงแต่…จูบนี้อุทิศแด่ผู้ที่ตายไปแล้ว
ระหว่างการศึกต่อสู้ที่โรมรันระห่ำดุเดือดยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ก็เป็นฝ่ายขององครักษ์จากซีฉินที่เริ่มเสียเปรียบในด้านจำนวน บางคนจึงเริ่มกระจายตัวหลบหนีกันออกไป ทางฝ่ายกองทหารตงหลี่เองก็ไล่ต้อนติดตามเสมือนเงาตามตัว จนไม่ทันสังเกตว่า ไป๋หลี่อวี๋อิงจากไปพร้อมกับร่างของชิงเยวี่ยตั้งแต่เมื่อใด แล้วนางหายไปอยู่ที่ไหนก็มิอาจทราบได้…