ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง - ตอนที่ 551 ล่อทัพทหาร (1)
ตอนที่551 ล่อทัพทหาร (1)
ตอนที่551 ล่อทัพทหาร (1)
เย่หลีเทียนโน้มตัวออกไปข้างหน้าเล็กน้อย เอ่ยกระซิบข้างหูองค์จักรพรรดิตงหลี่ ส่วนด้านนายน้อยเขี้ยวหมาป่าได้แต่เฝ้ามองสองคนนั้นกระซิบกระชากกัน
หลังเอ่ยกล่าวไม่กี่คำพูด เย่หลีเทียนก็ถอนใบหน้าออกห่าง เฝ้ารอให้องค์จักรพรรดิตงหลี่ได้ครุ่นคิดพิจารณา และตัดสินใจขั้นสุดท้ายว่าจะทำตามแผนที่เสนอไปหรือไม่
องค์จักรพรรดิเงยหน้าสะดุดมองเย่หลีเทียนชั่วครู่หนึ่ง สายตาคู่นั้นกำลังไตร่ตรองคำนวณไม่หยุด
จนท้ายที่สุดก็ได้ข้อสรุป องค์จักรพรรดิซีฉินระเบิดหัวเราะเสียงอักโข
“ได้! ได้! ดีมาก!”
เขายกมือขึ้นตบไหล่เย่หลีเทียนเบาๆทีหนึ่ง ทั้งยังร้องหัวเราะขำขันดูเริงร่ากว่าเดิมขึ้นมาก
“หลีเทียนหนอหลีเทียน เจ้าก็ช่างคิดกลอุบายเช่นนี้ได้!”
“นายน้อยเขี้ยวหมาป่า ต้องขออภัยด้วยที่ต้องเปลี่ยนภารกิจกลางคัน รบกวนท่านเปิดทางออกให้พวกนั้นหนีไปที”
นายน้อยเขี้ยวหมาป่าได้ฟังแบบนั้นพลันชะงักค้างไป มุ่งสายตามององค์จักรพรรดิตงหลี่เจือแววระมัดระแวงหลายส่วน ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า
“ข้าไม่เข้าใจ องค์จักรพรรดิแห่งตงหลี่มีประสงค์จะทำเช่นไร?”
“เหตุต้องทำเช่นนี้เพราะ…”
ทว่าองค์จักรพรรดิตงหลี่เพิ่งจะปริปากกล่าวด้วยซ้ำ พลันได้ยินเสียงดังโครมครามจากเบื้องล่าง!
เสียงฟันกระทบรุนแรงดังลั่น บ่วงคล่องประตูพระราชวังด้านหลังถูกทำลายลงในท้ายที่สุด ประตูพระราชวังบานโอฬารเริ่มเปิดแง้มออกมาเล็กน้อย แต่อย่างไรกลับไม่สามารถเปิดกว้างอ้าออกมาได้จนสุดอย่างที่คาดคิดไว้ อันเนื่องมาจากยังมีอีกบ่วงคล่องหนึ่งพันธนาการไว้อยู่ด้านนอกอีกอัน
เซี่ยหลู่เฟิงตั้งใจจะฟันคมกระบี่ผ่านช่องว่างที่เปิดแง้มของประตู เพื่อเร่งทำลายอีกอันให้พินาศพังลง
“หลู่เฟิง หลีกไป!”
อาศัยแค่คมกระบี่ในมือเซี่ยหลู่เฟิงกลับไม่มีปัญญาทำอะไรได้มาก เซียถงตะโกนสั่งให้ผู้พี่ตนเองหลบไป พร้อมเร่งสะบัดฝ่ามือเทียบเชิญเปลวเพลิงสีทองอร่ามบริสุทธิ์กลุ่มหนึ่งลุกโชติช่วง นางควบคุมเหล่านั้นให้แผดผลาญลอดผ่านช่องว่างประตู เข้าหลอมละลายบ่วงคล่องอีกอันที่อยู่ด้านนอกโดยไว ตลอดทั้งห่วงคล่องวงนั้นเสมือนกำลังถูกมังกรเพลิงเก้าตนแผดผลาญอย่างบ้าคลั่ง
นี่เป็นถึงประตูพระราชวังด้านหลัง ซึ่งมีความสำคัญยิ่งยวดต่อความปลอดภัย ดังนั้นบ่วงคล่องเหล่านี้จึงถูกหลอมสร้างขึ้นมาเป็นพิเศษสำหรับปิดผนึกประตูวังด้านหลังโดยเฉพาะ เนื่องจากในส่วนหลังของเมืองหลี่เฉินแห่งนี้เป็นชายแดนติดกับป่าพฤกษาใหญ่ ทั้งยังมีทะเลสายยาวตัดผ่านบริเวณใกล้เคียง จึงกล่าวว่า พวกศัตรูอาจใช้ประโยชน์จากภูมิศาสตร์บุกเข้าโจมตีได้ผ่านประตูบานนี้
แน่นอนว่าหากเป็นอาวุธธรรมดาทั่วไป ย่อมยากเกินว่าจะทำลายมันลงได้
แต่อย่าลืมไปเสียว่า เซียถงกำลังนำใช้อยู่ในขณะนี้คือ ไฟวิเศษ สิ่งมหัศจรรย์แห่งฟ้าดิน!
ภายในเวลาอันสั้น บ่วงคล่องอันดังกล่าวถูกหลอมละลายไม่เหลือซาก ประตูพระราชวังบานมหึมาโอฬารถูกเปิดออกได้สำเร็จ!
ทันทีที่ประตูพระราชวังด้านหลังถูกเปิดออก ไป๋หลี่หานและพวกต่างก็เร่งถอยทัพร่นหนีอย่างรวดเร็วประดุจน้ำลง
เมื่อนายน้อยเขี้ยวหมาป่าเห็นแบบนั้น เขาก็หันมาเอ่ยถามน้ำเสียงร้อนใจหนึ่งส่วน
“องค์จักรพรรดิตงหลี่ พวกนั้นกำลังหนีออกไปแล้ว!”
สรุปแล้ว คนพวกนี้ว่าจ้างพวกเรามาทำอะไร? จะให้ไล่ตามหรือปล่อยไป? แล้วหากว่าปล่อยไปแล้ว ราคาค่าใช้จ่ายก่อนหน้าจะต้องคืนกลับไปให้บางส่วนหรือไม่?
องค์จักรพรรดิตงหลี่คลี่ยิ้มกว้าง เขาในตอนนี้ย่อมไม่ต้องการเผยถึงจุดประสงค์ของแผนการโดยธรรมชาติ เขาหันกลับไปหานายน้อยเขี้ยวหมาป่า คล้อยหลังครุ่นพินิจอยู่สักครู่ จึงกวาดมองไปทางกลุ่มทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าที่เหลือเบื้องล่าง และกล่าวขึ้นว่า
“ขอบพระคุณอย่างยิ่งที่นายน้อยเขี้ยวหมาป่าให้การช่วยเหลือในคราวนี้ อีกฝ่ายเองก็หนีออกไปแล้ว เช่นนั้นก็ไม่ขอรบกวนใดๆอีก หลีเทียน เจ้านำทัพทหารตงหลี่ไล่ล่าพวกมันต่อได้เลย!”
องค์จักรพรรดิตงหลี่และเย่หลีเทียนหันมาส่งยิ้มให้กัน คล้ายจะเข้าใจกันแค่สองคน เย่หลีเทียนประสานมือคำนับและก้าวย่างจากออกไปพลัน
เสียงเห่าหอนของเหล่าอสูรหมาป่าดังกึกก้องไปทั่วเบื้องล่าง ตอนนี้เป็นเวลารุ่งสาง แสงตะวันแรกแย้มส่องประกาย ยามเสียงเห่าหอนประสานรวมเป็นหนึ่งเดียว ช่างเป็นภาพเหตุการณ์ที่ดูทรงพลังอย่างมาก!
นายน้อยเขี้ยวหมาป่าก้าวขึ้นอสูรหมาป่าขาวและดิ่งพสุธาโฉบลงมาจากบนพระราชวังสูง ในสายตาของจักรพรรดิตงหลี่ที่เฝ้าดูอยู่พลางคิดกับตนเอง หากเปลี่ยนเป็นเขาที่ต้องโดดลงไปแทน คงไม่ต่างอะไรกับหาเรื่องฆ่าตัวตายเล่น ตรงกันข้ามกับ นายน้อยเขี้ยวหมาป่าผู้นี้ เขาบังคับให้อสูรหมาป่าขาวทรงตัวกลางอากาศโดยไว ใช้สี่เท้าวิ่งไต่กำแพงพระราชวังดิ่งลงมาอย่างคล่องแคล่วว่องไว จากนั้นเพียงไม่กี่อึดใจ ก็สามารถลงจอดสู่ภาคพื้นโดยสวัสดิภาพ อสูรหมาป่าตนอื่นรอบบริเวณนั้นต่างเร่งก้มศีรษะย่อขา แสดงความจำนนต่ออสูรหมาป่าขาวตนนี้อย่างจงรัก มันมิได้หยุดเท่านั้น และเริ่มออกวิ่งไปอีกครั้ง ความเร็วในการเคลื่อนที่ของมันยากเกินกว่าผู้ใดใคร่มองทัน
หลังจากกลุ่มทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าจากออกไป กองทัพตงหลี่ทั้งหมดล้วนตกอยู่ภายใต้อำนาจบัญชาของเย่หลีเทียนเบ็ดเสร็จ เขาสั่งให้บรรดาทหารเคลื่อนทัพเร่งไล่ล่าติดตามไปยังทิศทางที่เซียถงและคนอื่นๆหนีไป
นับแต่นี้เป็นต้นไป จักรพรรดิตงหลี่จะถูกปิดกั้นการเชื่อมต่อจากภายนอกโดยสมบูรณ์ ไป๋หลี่หานจะต้องตายภายในนี้!
เนื่องด้วยอาณาเขตส่วนนี้ยังเป็นช่วงรอยต่อของชายแดน ดังนั้นแล้วจักรพรรดิตงหลี่ยังมีอำนาจในการจัดการดูแล!
เมื่อเซียถง ไป๋หลี่หานและคนอื่นๆหนีออกจากพระราชวังด้านหลังสำเร็จ จำนวนพรรคพวกที่รอดตายออกมาเหลือแค่สิบคนเท่านั้น!
หลัวซีเพิ่งเข้าร่วมสมทบกับคณะระหว่างทางหนี อันเนื่องจาก บาดแผลเก่าของอินทรีโหลิตยังไม่หายดี ซ้ำร้ายยังได้แผลใหม่เพิ่มเติมเข้ามาอีก และที่สำคัญที่สุด อินทรีโลหิตปรากฏกายเปิดเผยตัวตนเกินจำเป็นไปแล้ว ดังนั้นหลัวซีจึงต้องปล่อยให้อินทรีโลหิตแยกทางไปพักรักษาตัวก่อน
เพราะถึงแม้แม้เพลิงสีม่วงของเสี่ยวฮั่วจะสามารถรักษาบาดแผลบนปีกของอินทรีโลหิตได้ แต่อย่างไรจำต้องใช้เวลาสักพักใหญ่ในการฟื้นตัวกลับสู่สภาวะสูงสุดอยู่ดี
หลังจากทุกคนพบปะกันเรียบร้อย ไป๋หลี่หานจึงสั่งการให้องครักษ์หน่วยเงาวางค่ายกลกับดักไว้ระหว่างเส้นทาง เพื่อสกัดกั้นกองทหารที่ไล่ล่าติดตามด้านหลังมา
หลัวซีกล่าว
“ก่อนหน้านี้ข้าลองบินสำรวจแล้วรอบหนึ่ง ถัดจากผืนป่าแห่งนี้ไปจะเป็นทะเล”
สีหน้าของไป๋หลี่หานยามนี้ดูค่อนข้างซีดเซียว จะเห็นได้ว่าเกิดจากศึกสัประยุทธ์ด้านหลังพระราชวังในตอนก่อนหน้า ส่งผลให้เขาได้รับบาดแผลน้อยใหญ่ค่อนข้างมาก
“เช่นนั้นต้องหาวิธีกลับเมืองหลี่เฉินก่อน! จากนั้นค่อยเสาะหาวิธีกลับไปที่อี้เฉิง!”
หลัวซีถึงกับตาโตโพล่งกว้างทันควัน
“บ้าไปแล้วรึ! พวกเราเพิ่งจะหนีตายจากเมืองหลี่เฉินออกมาได้ แล้วตอนนี้คิดจะย้อนกลับไป?”
เซี่ยหลู่เฟิงกล่าวแทรกขึ้นว่า
“แต่เบื้องหน้าไร้ซึ่งถนนหนทางไปต่อแล้ว หากระหว่างนี้มิอาจเสาะหาเรือลำใหญ่พอได้ เราก็ไม่มีทางเลือกอื่นแล้วนอกจากย้อนกลับไปเมืองหลี่เฉิน!”
ขณะที่ทุกคนกำลังถกเถียงกันอยู่นั้น มีแค่เซียถงอยู่คนเดียวที่มิได้ปริปากเสนอความเห็นใดๆออกไปและได้แต่เหม่อมองเมืองหลี่เฉินจากทางไกล สายตาคู่สวยของนางเผยร่องรอยความเศร้าโศกอยู่เต็มเปี่ยม อย่างไร ตอนที่นางกำลังเหลียวใบหน้ากลับมา ก็พบว่าตนเองอยู่ในอ้อมกอดไออุ่นของไป๋หลี่หานเสียแล้ว
“ไม่ต้องกังวลไป ข้าจะพยายามหาทางช่วยท่านแม่ของเจ้าออกมาแน่นอน”
น้ำเสียงของเขาช่างแผ่วเบาและอ่อนแรง แต่กระนั้นนางก็ยังสามารถสัมผัสได้ถึง ความมุ่งมั่นต่อคำสัญญาที่เขามีต่อนางอย่างชัดเจน เซียถงรู้สึกอบอุ่นหัวใจเสียเหลือเกิน จึงหันกลับมาซบกอด จับมือของอีกฝ่ายกุมไว้แน่น
“ท่านพี่ ข้าเชื่อในตัวท่าน”
“นายท่าน! มีคนอยู่ที่นี่!”
ทันใดนั้นเอง เสี่ยวฮั่วก็ส่งเสียงร้องตะโกนขึ้นเตือนภัยผ่านห้วงความคิดของเซียถงฉับพลัน
เซียถงถอนศีรษะออกมาพลัน กวาดสายตามองสารทิศรอบข้างจนสบประสานเข้ากับอสูรหมาป่าขาวตนหนึ่ง มันยืนสี่ขาตั้งตระหง่านอยู่บนต้นไม้พร้อมกับชายสวมหน้ากากเขี้ยวหมาป่า
การปรากฏตัวของเขาผู้นี้ ต่างต้องทำให้ทุกคนประหลาดใจอย่างยิ่ง!
เพราะว่าสถานการณ์ของกลุ่มทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าในขณะนี้ กล่าวได้ว่าประสบความสูญเสียมาค่อนข้างหนักจากศึกในพระราชวังด้านหลังเมื่อสักครู่ และไม่น่าจะสามารถไล่ตามพวกเขาได้ทันท่วงทีปานนี้ ซึ่งอีกหนึ่งสิ่งที่น่าประหลาดใจที่สุดคือ ถึงแม้อสูรหมาป่าของกลุ่มทหารนี้จะได้รับการฝึกฝนอย่างหนักมาเป็นพิเศษ แต่เมื่อเปรียบเทียบกับอสูรหมาป่าขาวร่างยักษ์ตนนี้ พวกอสูรหมาป่าสีเทาที่เหลือกลับดูตัวเล็กไปโดยปริยาย
เสี้ยวพริบตาขณะ ทุกคนต่างตั้งท่าพร้อม เตรียมโหมโรมสัประยุทธ์เป็นคำรบสอง
อย่างไรเสีย นายน้อยเขี้ยวหมาป่าผู้นั้นกลับระงับรัศมีอันตรายทั้งหมดบนร่างลงโดยไว และยกสองมือชูขึ้นสูง เป็นเชิงสัญญาณแสดงให้เห็นว่า เขามิได้มาทำร้ายใครผู้ใด อนึ่งเขาเองก็พึงตระหนักทราบดี ภายใต้สถานการณ์ที่สุ่มเสี่ยงปานนี้ คงยากที่จะทำให้อีกฝ่ายเชื่อใจได้