ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง - ตอนที่ 566 พูดไม่ออก (2)
ตอนที่566 พูดไม่ออก (2)
ตอนที่566 พูดไม่ออก (2)
เย่หลีเทียนกระตุกยิ้มมุมปากเย้ยเยาะคำโต เขาแลเห็นช่องโหว่ของไป๋หลี่หานตั้งมากมาย เลือกสรรจุดพิฆาตอันตรายที่สุดและแทงคมกระบี่ทะลวงฉีกอากาศออกไปอย่างไร้ปรานี เมื่อเห็นว่าการโจมตีนี้ ไป๋หลี่หานไม่มีทางเลี่ยงหลบได้เลย จู่ๆก็มีเข็มเงินจำนวนหนึ่งพุ่งเข้าใส่ฉับพลันจากบางแห่งหน เหล่านี้เล็งเป้าไปที่ดวงตาของเย่หลีเทียน กล่าวคือ หากเย่หลีเทียนยังยืนกรานฟันคมกระบี่ใส่ไป๋หลี่หาน เขาจะโดนเข็มเงินเหล่านั้นเจาะทะลวงเบ้าตาทันที
เย่หลีเทียนเหลือบตาหนึ่งปราดชำเลือง ดีดตัวกระโดดล่าถอยออกทันใด ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เขาทำได้เพียงสะบัดคมกระบี่บังคับเปลี่ยนทิศทางหันออก แต่ก็หาใช่ปล่อยทิ้งโอกาสไปโดยเปล่า จังหวะบิดถอนยังอุตส่าห์ตวัดปลายกระบี่ฟันท้องของไป๋หลี่หานเป็นของทิ้งทวน แต่นั่นก็เพียงรอยขวนบางๆหาได้ถึงชีวิต
มีเข็มเงินอยู่ดอกหนึ่งหลุดลอดจากการสกัดป้องกัน มันเสียบทะลุผ่านท่อนแขนของเย่หลีเทียนเสียงดังฮวบ เกิดเป็นแผลบาดเจ็บ ท้ายที่สุดเขาจำต้องล่าถอยตีระยะออกห่างจากไป๋หลี่หานอย่างจำใจ
ไป๋หลี่หานปั้นหน้าฉงนงุนงง ไม่รู้เลยว่าเหตุใดจู่ๆเย่หลีเทียนถึงเปลี่ยนท่ากระบี่ถอดถอนออกไป?
เซียถงเห็นว่าไป๋หลี่หานปลอดภัยดีแล้วก็ค่อยเบาใจหนึ่งเปาะ แต่การยิงคมเข็มเงินออกไปเมื่อสักครู่กลับเป็นแรงเฮือกสุดท้ายของนางแล้วเช่นกัน พละกำลังในกายเฮือดแห้งแทบหมด แต่ก็ยังฝืนกัดฟันก้าวออกไปข้างหน้า และก้มไปช่วยพยุงร่างฮูหยินหลี่ขึ้นจากพื้น
“แม่! ไปกันเถอะ!”
ทีแรกฮูหยินหลี่ตื่นตระหนกยิ่งยวดที่เห็นเงาของใครบางคนย่างกรายเข้ามา แต่พอเห็นว่าเป็นลูกสาวของนาง จึงค่อยสงบลงตามสัญชาตญาณความเป็นแม่และรีบยื่นมือส่งให้
ระหว่างที่ผู้เป็นลูกช่วยพยุงร่างแม่หนีห่างออกจากสมรภูมิเดือดนี้ ฮูหยินหลี่ก็เพิ่งจะมาสังเกตเห็น ฝีเท้าแต่ละย่างก้าวของเซียถงไยถึงอ่อนแรงปานนี้
“ถงเอ๋อร์ เจ้าเป็นอะไรไป? เจ้าได้รับบาดเจ็บรึ?”
คู่เท้าของเซียถงอ่อนระทวยจนน่าตกใจ ยังมีบางครั้งที่นางทรุดฮวบจนเกือบคุกเข่า หากไม่ได้ฮูหยินหลี่ค่อยประคองรับไว้เกรงว่า นางคงร่วงไปกับพื้นนานแล้ว
ชั่วอึดใจนั้น เซียถงแหงนหน้าเงยมอง สังเกตเห็นว่าองค์จักรพรรดิตงหลี่บนบัลลังก์ทองคำที่นั่งสูงกำลังจับจ้องมาทางนี้เช่นกัน แต่นั่นคือสายตาที่เหยียดหยามดูแคลนสุดแสน ราวกับกำลังจะสื่อว่า เซียถงในตอนนี้กลับหาได้อยู่ในสายตาของเขาเลย
แน่นอน องค์จักรพรรดิตงหลี่ย่อมทราบ เซียถงโดนวางยาพิษไปเป็นที่เรียบร้อย กล่าวคือปราศจากพิษภัยต่อตัวเขา กระทั่งจะวิ่งหนีออกจากสมรภูมิรบแห่งนี้ยังไม่มีปัญญา
ต่อให้มีฮูหยินหลี่คอยประคองพากันหนีออกไป เขาก็หาได้สนใจไม่เลย
เพราะเป้าหมายสูงสุดของเขาในวันนี้คือ การจำกัดไป๋หลี่หานทิ้งไปซะ!
“ถงเอ๋อร์ ไปกันเถอะ!”
ฮูหยินหลี่ประคองลากร่างของเซียถงเดินฝ่าความโกลาหลวุ่นวายออกไป ตอนนี้อยู่ห่างจากสมรภูมิประมาณสองสามลี้เห็นจะได้ แต่ขาเซียถงทั้งสองข้างคล้ายเป็นอัมพาตเฉียบพลันไม่สามารถขยับเคลื่อนไหวใดๆได้แล้ว แต่ด้วยความมุ่งมั่นอันแรงกล้าของฮูหยินหลี่ นางยังคงพยุงร่างของผู้เป็นลูกสนับสนุนตรงไปต่อ ถึงแม้จะยากลำบากปานใดก็ตาม
ฮูหยินหลี่ตอนนี้เหงื่อแตกพลั่กไปทั่วตัว ทั้งที่คิดว่าพวกนางสองแม่ลูกจะรอดชีวิตพ้นจากที่นี่ไปแล้ว แต่จู่ๆก็มีเสียงควบม้าทะยานขับไล่มาจากด้านหลังชัดเจนแจ่มแจ้ง
“เหตุใดกัน! เหตุใดราชาหมาป่าสวรรค์ถึงไม่เชื่อใจเจ้า! ถงเอ๋อร์ เขารักเจ้ามากมิใช่รึ…แล้วเหตุใดถึง…”
ระหว่างลากร่างทั้งร่างของเซียถงเดินหน้าต่อไป ฮูหยินหลี่น้ำตาไหลซึมไหลอาบทั่วใบหน้าซีดเซียว ก่อนหน้านี้ นางต้องทนทุกข์ทรมานจากที่โดนกุมขังอยู่ในคุกน้ำเน่า ทั้งนี้ร่างกายของนางก็ยังมีพิษละลายเส้นเอ็นตกค้าง กว่าจะก้าวย่างออกไปได้แต่ละทีช่างยากลำบากเสียเหลือเกิน
เซียถงยังพอรักษาสติได้อยู่บ้าง จึงวานให้ฮูหยินหลี่ช่วยหยิบพลุสัญญาณชิ้นหนึ่งออกมาจากใต้อกเสื้อ ฮูหยินหลี่ควานหาอย่างรวดเร็วและใช้มันยิงออกไปกลางอากาศทันที
ในเวลาเดียวกัน โม่ซวนที่แยกหนีไปอีกทาง ทันใดนั้นก็หันไปเห็นพลุสัญญาณที่ส่องสว่างกลางเวหาสูงทันที เขาสีหน้าแปรเปลี่ยนในบัดดลและรีบย้อนกลับไปหาทันที พร้อมด้วยองครักษ์หน่วยเงาและกองทหารจำนวนหนึ่งที่ช่วยออกมาจากคุก
“หึหึ เซียถง ขอดูหน่อยเสียว่าเจ้าจะมีปัญญาหนีไปได้ถึงไหน!?”
ขณะนี้ ได้มีทหารม้าจำนวนหนึ่งที่ไล่ตามมา ตรงเข้าปิดล้อมเซียถงและฮูหยินหลี่
ฮูหลินหลี่เนื้อตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัวจัด แต่ถึงแบบนั้น นางก็ยังยืนกรานออกตัวขึ้นปกป้องเซียถงที่นั่งทรุดอยู่กับพื้นอย่างอ่อนแรง
เซียถงเงยหน้ามองฮูหยินหลี่ที่เนื้อตัวสั่นไปหมดตรงหน้า แรกสัมผัสคือกระแสความอบอุ่นในใจที่รู้สึกได้ในทันที ถึงแม้ทุกคนต่างมุ่งเป้าต้องการทำร้ายนางสักเพียงใด แต่ก็ยังมีแม่คนนี้ที่ค่อยที่จะปกป้องโดยไม่สนชีวิตตัวเองอยู่เคียงข้าง
เซียถงกัดฟันฝืนลุกขึ้นพยุงตัวขึ้นมา และเอื้อมมือไปตบไหล่ฮูหลินหลี่เบาๆทีหนึ่ง กล่าวปลอบโยนนางขึ้นว่า
“ท่านแม่ อย่ากลัวไปเลย!”
สิ่งเดียวที่ฮูหยินหลี่เห็นตอนนี้คือ ใบหน้าที่ขาวซีดดุจแผ่นกระดาษของเซียถง บาดแผลฉกรรจ์บนฝ่ามือข้างขวายังกลายเป็นสีดำสนิทจากที่องค์จักรพรรดินีเหลิ่งทำร้าย ซ้ำร้ายพิษร้ายยังแพร่กระจายลามมาถึงช่วงศอกแล้วด้วย ยิ่งฮูหยินหลี่เห็นเป็นเช่นนั้น นางก็ยิ่งตื่นตระหนกตกใจเป็นทวีเท่า ในใจพลันคิดขึ้นได้ทันควัน หากปล่อยให้เซียถงหนีไปเสียตอนนี้แค่ลำพัง และใช้นางเป็นเครื่องถ่วงเวลา บางทีลูกสาวคนนี้อาจรอดตาย!
ฮูหยินหลี่สวมกอดเซียถงแน่นและกล่าวว่า
“ถงเอ๋อร์ ปล่อยให้ข้าจัดการตรงนี้เถอะ! ข้าจะล้างแค้นแทนเจ้าเอง ส่วนเจ้าก็รีบไปซะ!”
ฮูหยินหลี่ยกมือขึ้นลูบปัดเศษละอองฝุ่นบนศีรษะของเซียถงอย่างประณีตแผ่วเบา การได้กอดลูกสาวคนนี้ครั้งสุดท้ายก่อนตาย นับเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดจริงๆสำหรับนาง คล้อยหลัง ฮูหยินหลี่รีบใช้สองมือผลักไสร่างเซียถงออกไป และหันกลับมาเผชิญหน้ากับเหล่าทหารม้ารอบสารทิศ พร้อมดึงปิ่นปักผมเล่มยาวบนศีรษะออกมาราวกับเตรียมสู้ตาย
เซียถงผ่านร้อนผ่านหนาวฟันฝ่าอุปสรรคมานับครั้งไม่ถ้วนจวบจนบัดนี้ ทั้งหมดก็เพื่อช่วยเหลือชีวิตท่านแม่ แล้วมีหรือที่ยามนี้จะยอมปล่อยนางทิ้งเอาไว้คนเดียว?
นางคว้าปิ่นปักผมในมือของฮูหยินหลี่โยนทิ้งลงพื้นในทันใด ใช้แขนข้างเดียวที่เหลืออยู่คว้ากำปกเสื้อตัวเองไว้แน่นจนยับยู่ยี่ เพียงเสี้ยวอึดใจ เสียงเนื้อผ้าฉีกขาดพลันสะท้านสะเทือนก้อง นางฉีกกระชากเสื้อผ้าท่อนบนทั้งหมดทิ้งในชั่วอึดใจ เผยให้เห็นถึงหน้าอกคู่อวบอั๋นสีขาวนุ่มนวลดุจหิมะที่มีผ้าพันแผลรัดแน่น และเรือนร่างอันทรงเสน่ห์ไร้ที่ติ
เมื่อเหล่าทหารม้าตงหลี่เห็นเช่นนั้น พวกเขาก็ระเบิดหัวเราะเยาะลั่นออกมา
“ฮ่าฮ่าฮ่า! เรื่องนี้กลับยากจะละเว้นได้ ฝ่าบาทมีพระราชดำรัสสั่งฆ่าเจ้าโดยตรง! ต่อให้ใช้เสน่ห์มารยาหญิงเข้าแลกก็เปล่าประโยชน์!”
ธารเลือดสายน้อยไหลซิบจากมุมปากเซียถง โลหิตสีแดงฉูดฉาดน่าสยดสยองตัดกับสีผิวซีดขาวดุจหิมะของนาง พินิจดูแล้ว ผสมกลมเกลือนเข้ากันเสียยิ่งกว่าขาวตัดดำ ทรวดทรงองเอวโค้งเว้าได้สัดส่วน ความงดงามที่นางพึงมีช่างน่าเย้ายวนอารมณ์เกินต้านทาน แต่เมื่อนางหันหลังให้ดูเสียเท่านั้น! ก็เผยให้เห็นรอยสักอสูรดุร้ายสีดำที่วาดลวดลายอยู่เต็มทั่วแผ่นหลังของนาง!
เซียถงยิ้มกระหยิ่มเล็กน้อย จากแต่เดิมเป็นเพียงภาพฉากเร้าอารมณ์ของบุรุษชายฉากหนึ่ง แต่ยามนี้ทุกสิ่งอย่างก็กลับตาลปัตรเปลี่ยนไป! รอยยิ้มชั่วร้ายของนางช่างดูแปลกประหลาดน่าขนลุก ประดุจราชินีแห่งความตายส่งตรงจากอเวจีนรกออกโรงมาเอง!
ร่างทั้งร่างของเซียถงเปล่งแสงสว่างขาวโพลนโฉบวาบ ทำให้ทุกสายตาที่จับจ้องมองมาพร่ามัวชั่วขณะหนึ่ง จากนั้นก็ตามมาด้วยสุ้มเสียงเห่าหอนของอสูรหมาป่ากึกก้องสะท้านฟ้า
จากที่เมื่อครู่ กลุ่มทหารม้าตงหลี่ยังคงระเบิดหัวเราะเยาะใส่เซียถงอย่างขำขัน ทว่าในตอนนี้ถึงกับสะอึกเงียบพลัน ไม่กล้าแม้แต่จะส่งเสียงใดๆออกมาสักคำ!
ทางซ้ายมือของเซียถงเป็นอสูรหมาป่าขนเทาดุร้ายตนหนึ่ง ส่วนด้านขวาเป็นฝูงอสูรเสือเมฆาทมิฬทั้งสี่ ทันทีที่ถูกอัญเชิญออกมา พวกมันหาได้รีรอใดๆและกางกรงเล็บแหลมยาวโดยพร้อมเพรียง! สัตว์วิญญาณทั้งห้าตนนี้เปรียบดั่งองครักษ์พิทักษ์เซียถง พวกมันเชิดศีรษะชูขึ้นสูงเสียด เปล่งเสียงคำรามผสานกันเป็นหนึ่ง! อาศัยเพียงเสียงผสานของพวกมันทั้งห้า ก็สร้างความหวาดหวั่นให้แก่ศัตรูได้แล้ว!