ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง - ตอนที่ 584 แหกตาดูให้จงดี (2)
ตอนที่584 แหกตาดูให้จงดี (2)
ตอนที่584 แหกตาดูให้จงดี (2)
หญิงสาวนางนั้นขี่ม้าควบเข้ามาถึงหน้าทุกคน เรียวมือยาวดุจกิ่งหยกขาวค่อยๆยกขึ้นเปิดผ้าคลุมสีแดงเพลิงขึ้นบนศีรษะ ทันใดนั้น พลันเผยให้เห็นโฉมหน้าที่แสนงดงามปรากฏขึ้น
แวบแรกที่ได้เห็นหญิงสาวนางนี้ ทุกคนต่างตื่นตกใจขนานใหญ่!
“เซี่ยเสวี่ยเหลียน!”
ไม่มีใครคาดคิดเลยแม้แต่น้อย เซี่ยเสวี่ยเหลียนผู้ซึ่งมีข่าวลือว่า นางกลายเป็นคนวิกลจริตเสียสติไปแล้วนางนี้จะปรากฏตัวขึ้นที่นี่!
“ปรากฏว่าเป็นเจ้า!”
เซียถงตื่นตะลึงยิ่งยวด เมื่อสบสายตาเจาะลึกลงไปในแววตาของเซี่ยเสวี่ยเหลียน ปรากฏว่าตอนนี้นางดูไม่เหมือนคนบ้าเสียสติไปเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามด้วยซ้ำ สิ่งเดียวที่เซียถงค้นพบก็คือ แววความอาฆาตและจิตสังหารอันข้นขลักที่ปะทุออกมาจากนัยน์ตาคู่สวยของเซี่ยเสวี่ยเหลียน!
“ท่านพี่…”
แน่นอน เซี่ยเสวี่ยเหลียนจงเกลียดจงชังเซียถงปานจะกลืนกิน แต่ต่อหน้าคณะขุนนางและเหล่าทหารอี้เฉิงทุกคนในเวลานี้ นางทำได้แค่เปล่งเสียงอย่างแผ่วเบาออกไปว่า ‘ท่านพี่’ เท่านั้น เพื่อทำให้เหมือนกับว่าพวกนางทั้งสองสนิทสนมกันดีและปราศจากพิรุธใดๆ
เซียถงหรี่ตาลงเล็กน้อย ด้วยสัญชาตญาณ นางเลื่อนคมมีดที่ซ่อนอยู่ใต้แขนเสื้อเข้าฝ่ามือไว้แล้ว!
ทั้งสองต่างจ้องตากันและกันต่อหน้าทุกคน
ช่างเป็นภาพฉากที่แปลกพิกลยิ่งนัก! ทุกคนต่างเหม่อมองไปทางเซียถงตัดสลับกับเซี่ยเสวี่ยเหลียน!
โม่หยานมิอาจเข้าใจได้เลย พวกนางกำลังเล่นตลกอะไรกัน แต่สิ่งหนึ่งที่พิสูจน์ได้แล้วก็คือ การที่เซี่ยเสวี่ยเหลียนจู่ๆก็ปรากฏตัวกะทันหันเช่นนี้ นี่สื่อให้เห็นแล้วว่า เซียถงหักหลังพวกเขาจริงๆ!
ทั่วทั้งทวีปเทียนหลางแห่งนี้ ใครบ้างจะไม่ทราบ? ตระกูลเซี่ยมีทายาทเป็นบุตรสาวอยู่สองนาง คนโตมีศักดิ์เป็นพระชายา ส่วนคนรองมีศักดิ์เป็นนางสนม ถึงแม้ว่า ทางฝ่ายเซี่ยเสวี่ยเหลียน งานอภิเษกสมรสจะล่มไป แต่อย่างไรนี่ก็คือ พระราชโองการจากอดีตจักรพรรดิตงหลี่พระองค์ก่อน และท้ายที่สุดนี้ ไป๋หลี่เย่ก็ได้ขึ้นครองราชย์กลายมาเป็นองค์จักรพรรดิตงหลี่คนใหม่ กล่าวคือ เซี่ยเสวี่ยเหลียนก็ควรได้เลื่อนยศศักดิ์ขึ้นเป็นพระสนมขององค์จักรพรรดิ และแน่นอน…ผู้ที่จะได้ขึ้นเป็นพระชายาแห่งตงหลี่ก็คงหนีไม่พ้น เซียถง!
ยิ่งได้เห็นเซี่ยเสวี่ยเหลียนเอ่ยปากเรียกเซียถงอย่างสนิทสนมปานนี้ ความลังเลทั้งหมดก่อนหน้าของโม่หยานพลันสลายหายไป นี่เป็นเครื่องพิสูจน์ชั้นดีแล้วว่า นางนี่แหละคือคนทรยศต่อไป๋หลี่หานจริงๆ! เขาถลึงตาใส่เซียถงด้วยความเคียดแค้น ตะคอกใส่เสียงดังคำโตว่า
“เซียถง! เลิกเล่นละครตบตาเสีย!! ในวันนี้พวกเราตาสว่างกันหมดแล้ว! อย่าหวังว่าจะหลอกพวกเราชาวอี้เฉิงได้อีก!!”
กล่าวจบ โม่หยานยกกระบี่ขึ้นห้ำหั่นโจมตีใส่เซียถงโดงตรง ทั้งยังคำรามกู่ก้องด้วยความอาฆาตอีกว่า
“วันนี้ ข้าจักขอล้างแค้นแด่นายท่าน และสังหารเจ้าทิ้งเสียเพื่อสังเวยให้แก่เหล่าพี่น้องและชาวเมืองอี้เฉิงที่ต้องตายไป!”
โม่หยานยกกระบี่ขึ้นกระหน่ำแทงใส่อย่างเดือดดุ คมยาวสีเงินจ้าจรัสชี้ตรงโจมตีใส่เซียถงไร้ปรานี!
เซียถงเร่งล่าถอยหลังออกห่าง เลี่ยงหลบคมกระบี่ฉีกทะลวงอากาศเล่มนั้นได้ไม่ยากเย็นนัก ทว่า สายลมกระโชกที่คมกระบี่เคลือบลมปราณชักนำมาให้ เกิดพัดเฉี่ยวผ่านผิวแก้มของนางบางๆทีหนึ่ง ก่อเกิดเป็นแผลบาดเล็กน้อย
คู่เท้าไสววูบกลายเป็นสายฟ้า นางพุ่งเข้าไปคว้าข้อมือของโม่หยานหยุดเอาไว้ และเมื่อเขาพยายามล่าถอยออกห่างตามสัญชาตญาณกลับไม่สามารถ เนื่องจากโดนนางสกัดจุดสำคัญบนข้อมือเอาไว้ ส่งผลให้ไม่สามารถขยับเขยื้อนหนีไปไหนได้เลย รู้เช่นนั้น โม่หยานสีหน้าแปรเปลี่ยนทันที จู่ๆก็เลือกที่จะปล่อยด้ามกระบี่ในมือลงฉับพลัน เสี้ยวพริบตาที่กระบี่หมุนเคว้งกำลังดิ่งร่วงสู่ผืนดิน โม่หยานก็หวดเท้าขึ้นเตะปลายด้ามกระบี่ ยิงคมแหลมพวยพุ่งใส่ลำคอของเซียถงโดยตรง
ไม่มีใครเคยใช้กลวิธีโหดเหี้ยมเช่นนี้กับเซียถงมาก่อน!
โม่หยานผู้นี้เป็นเพียงคนโง่ที่ซื่อสัตย์ เขาไม่แม้แต่จะคิดรับฟังคำอธิบายใดๆจากปากเซียถงเลย และหากให้พินิจวิเคราะห์จากรูปการณ์จริงๆ จะเห็นได้ชัดเจนมากว่า หากนางเป็นคนที่ทรยศต่อไป๋หลี่หานจริงๆ คงไม่ลำบากอาสานำกองทัพสัตว์อสูรมาล้างบางทหารตงหลี่จำนวนแสนนายให้เหนื่อยเปล่า
หลายสิ่งหลายอย่างที่นางทำลงไป เหล่านี้กลับไม่คู่ควรกับคำพูดเพียงไม่กี่คำจากปากคนโง่บางคนเลย
แต่เรื่องจริงนั้นช่างน่าตลกขบขันสิ้นดี เพราะทุกคนกลับเลือกที่จะเชื่อคำพูดมากกว่าทุกสิ่งอย่างที่นางลงแรงทำลงไป
สำหรับเรื่องความเข้าใจผิดเหล่านี้ เซียถงหาได้ทุกข์ร้อนหรือเป็นกังวลอันใดเลย แถมยังขี้เกียจกินว่าจะมาอธิบายให้ผู้ใดฟังอีกด้วย แต่อย่างไร นางมิอาจทนดูไป๋หลี่หานต้องมาตายต่อหน้าต่อตาได้จริงๆ และหากว่ามีโอกาส นางย่อมพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อช่วยเหลือชีวิตของเขาแน่นอน!
“เจ้าโง่!”
เซียถงไม่ต้องการลงมือลงไม้กับโม่หยาน จนอีกฝ่ายเจ็บหนักถึงขั้นสาหัสสากรรจ์ แต่นั้นก็ทำให้นางลำบากมากขึ้นมิใช่น้อย!
พริบตานั้น นางสะบัดเข็มเงินยิงใส่โม่หยานประดุจสายฟ้า เข้าสกัดจุดสำคัญทั่วร่างของโม่หยานในพริบตา เสี้ยวอึดใจต่อมา อีกฝ่ายสูญเสียการควบคุมไปเกือบทั้งหมด ร่างกว่าครึ่งซีกอ่อนเปลี้ยไร้เรี่ยวแรงจนแทบยืนไม่ไหว แต่ถึงกระนั้น โม่หยวนก็ยังพยายามบังคับร่างกายอีกครึ่งซีกที่เหลือโจมตีใส่นางต่อไป
เซียถงยกบาทาขึ้นถีบโม่หยานจนปลิวว่อนกระเด็นออกไป พุ่งติดตามเข้ากระทืบกลางยอดอกซ้ำอีกดอกหนึ่ง นางตะโกนเสียงดังด้วยความหงุดหงิดว่า
“เลิกบ้าได้รึยัง!?”
นางหมุนตัวกลับไปและหยิบโอสถปราณสวรรค์ระดับเก้าที่เหลือออกมา เตรียมจะไปป้อนเข้าปากไป๋หลี่หาน
เวลาเดียวกัน จู่ๆเซี่ยเสวี่ยเหลียนก็เอ่ยปากกล่าวขึ้นฉับพลัน เสียงดังฟังชัดส่งผ่านเข้าสู่หูของทุกคนโดยทั่วกันว่า
“ทำได้ดีมาก ท่านพี่เซียถง! ตราบเท่าที่ไป๋หลี่หานกินยาพิษเม็ดนั้นลงไป มันไม่มีทางรอดชีวิตแน่นอน! หากนำเรื่องนี้ไปทูลต่อฝ่าบาท ท่านคงได้ความดีความชอบไปเต็มๆ และด้วยผลงานชิ้นนี้ ท่านจะถูกแต่งตั้งขึ้นเป็นองค์ราชินีแห่งตงหลี่ตามที่เคยใฝ่ฝันไว้!”
สำหรับเซี่ยเสวี่ยเหลียนนางนี้ กล่าวได้ร้ายกาจเกินต้านทานนัก นางคิดจะยืมมือคนอื่นเพื่อสังหารเซียถง!
และทันทีที่เซี่ยเสวี่ยเหลียนกล่าวจบ เซียถงก็ตกกลายเป็นเป้าของสาธารณชนอีกครั้งทันที!
จากที่หลายต่อหลายคนเริ่มรู้สึกตัวว่า เรื่องทั้งหมดล้วนเกิดจากความเข้าใจผิด และมองเซียถงในแง่มุมที่ดีขึ้นบ้างเล็กน้อย ทว่าตอนนี้ความคิดเหล่านั้นได้พังทลายลงไปอีกครั้ง เหล่าองครักษ์หน่วยเงาที่เหลือรอดและทหารจำนวนพันนายเคลื่อนพลเข้าล้อมเซียถงไว้ทันที เพื่อขัดขวางไม่ให้นางเข้าถึงตัวไป๋หลี่หาน
ถึงแม้ระดับพลังลมปราณของเซียถงจะสูงส่งและแข็งแกร่งปานใด แต่ก็เป็นเรื่องยากนักที่จะต้านรับกองทหารนับพันของอี้เฉิงได้ พวกเขาเหล่านี้แตกต่างจากพวกทหารตงหลี่ แต่ละคนล้วนยืนหยัดเข้าปกป้องไป๋หลี่หานด้วยใจจริง ดังนั้นแล้ว ไม่ว่าเซียถงจะเอาจริงเพียงใด คนพวกนี้ก็จะพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อเข้าหยุดนางให้จงได้
หนึ่งคมกระบี่โหมโรงทิ่มแทงเข้าใส่ การโจมตีนั้นเฉี่ยวใส่แขนเซียถงถากออกไปเล็กน้อย ทันทีที่เห็นเลือดซิบรินไหลออกมานั้น เสี่ยวฮั่วก็รู้สึกโมโหโกรธจัด สยายปีกกว้างชักนำพายุหิมะหอบใหญ่ถล่มใส่เหล่าทหารทุกนายในทันที ส่งผลให้พวกเขาเหล่านั้นอยู่ในสภาวะตาบอดชั่วขณะ
และเป็นหลิวซูที่ปรากฏกายขึ้นข้างกายเซียถง มันรีบกระซิบข้างหูนางโดยไว
“ส่งโอสถปราณสวรรค์มาให้ข้า!”
ได้ยินดังนั้น โดยปราศจากความลังเลใด เซียถงรีบโยนโอสถปราณสวรรค์จำนวนสองเม็ดถ้วนให้หลิวซูทันที เสี้ยวพริบตาต่อมา ร่างทั้งร่างของหลิวซูอันตรธานหายวับลับสายตาไป กลายเป็นพายุคลั่งสายหนึ่งกระโชกผ่านกำแพงทหารและองครักษ์หน่วยเงาที่ตีกรอบล้อมเซียถงเอาไว้ พุ่งทะยานถึงตัวไป๋หลี่หานในอึดใจ!
ด้วยความเร็วอันแสนพิสดาร ผนวกกับวิชาข้ามมิติของหลิวซู แม้แต่องครักษ์หน่วยเงายังมิอาจตอบสนองติดตามมันได้ทัน กว่าจะรู้สึกฟื้นตัวอีกที ก็แลเห็นว่า หลิวซูยืนอยู่ข้างไป๋หลี่หานเสียแล้ว
หลิวซูหมั่นไส้กลุ่มคนโง่งมพวกนี้อยู่นานแล้ว จึงจงใจพูดจาประชดประชันเสียงดังฟังชัดไปว่า
“เอาล่ะ ไอ้พวกโง่! ข้ากำลังจะยัดยาพิษกรอกปากนายท่านของพวกเจ้าแล้ว! แหกตาดูให้จงดี!”
สิ้นเสียงกล่าวจบ หลิวซูก็ยัดโอสถปราณสวรรค์ทั้งสองเม็ดตบเข้าปากไป๋หลี่หานไปอย่างรวดเร็ว!
ณ เวลานั้น บรรยากาศพลันดูหดหู่สิ้นหวังในทันที!