ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง - ตอนที่ 586 เซี่ยเสวี่ยเหลียนผู้ชั่วร้าย (2)
ตอนที่586 เซี่ยเสวี่ยเหลียนผู้ชั่วร้าย (2)
ตอนที่586 เซี่ยเสวี่ยเหลียนผู้ชั่วร้าย (2)
เซียถงย้อนนึกถึงเย่หลีเทียนในครั้นอดีต ในตอนนั้นนางคิดว่า การที่เย่หลีเทียนเลือดเดินเส้นทางสายมาร มันก็บ้าเกินพอแล้ว ทว่าใครคาด เซี่ยเสวี่ยเหลียนกลับบ้ายิ่งกว่า! นางสูบเลือดสูบเนื้อคนชนิดไม่มีเลือกหน้า พอเสร็จก็ค่อยวางร่างศพอันเหี่ยวแห้งลงทิ้งลงกับพื้น ยกมือขึ้นปากเช็ดมุมปากเปื้อนเลือดแดงฉูดฉาด เปล่งร้องเสียงแหบแห้งขึ้นว่า
“เซียถง วันนี้เป็นวันตายของเจ้า!”
สิ้นเสียงเท่านั้น เซี่ยเสวี่ยเหลียนก็พุ่งเข้าโจมตีใส่เซียถง ขณะเดียวกันเหล่าทหารและองครักษ์หน่วยเงาต่างยืนงงปั้นหน้าฉงน พวกเขาหรือจะคาดถึงว่า จู่ๆพวกนางทั้งสองจะเข้าห้ำหั่นกันเอง แต่อย่างไร นี่ก็ถือเป็นโอกาสดีที่ทุกคนจะได้วางแผนหลบหนีไปจากภัยอันตรายเหล่านี้
เซี่ยเสวี่ยเหลียน ยามนี้ฝึกปรือวิชามารนอกรีต กินเลือดมนุษย์เพื่อหล่อเลี้ยงร่างกายและเพิ่มพลัง ในด้านความแข็งแกร่งไม่จำเป็นต้องกล่าวถึงอันใดให้มากความ เซียถงเรียกใช้กระบี่ทัณฑ์ฟ้าขึ้นมือโดยไว โหมสะบัดเป่าร่างอีกฝ่ายกระจุยออกไปไม่รู้ตั้งกี่รอบ
ทว่าอย่างไร ร่างกายของเซี่ยเสวี่ยเหลียนเปรียบเสมือนปีศาจไปแล้วจริงๆ ไม่ว่าจะโดนสะบั้นฟันกี่เพลงกระบวน บาดแผลเหล่านั้นล้วนสมานเป็นหนึ่งฟื้นตัวกลับมาอย่างรวดเร็วนักจนเห็นได้ด้วยตาเปล่า
เซี่ยเสวี่ยเหลียนบิดตัวจัดรูปกระดูกที่บิดเบี้ยวกลับเป็นดังเดิม นางระเบิดหัวเราะน้ำเสียงขมขื่นสุดแสน กล่าวว่า
“เซียถง วันนี้คือวันตายของเจ้า ข้าจะเอาทุกอย่างที่เคยเป็นของตนคืนมาเสียให้หมด! ความแค้นระหว่างเราจบสิ้นกันวันนี้!!”
เซียถงเฝ้าสังเกตการณ์ท่าโจมตีด้วยฝ่ามือของอีกฝ่าย นี่เป็นวิชาฝ่ามือที่แบ่งได้สิบแปดกระบวนย่อย ปราศจากช่องโหว่ให้สวนตอบ และไม่สามารถหลบเลี่ยงได้โดยตรง นางทำได้เพียงหยิบยกกระบี่ทัณฑ์ฟ้าขึ้นสกัดชนเท่านั้น
ยามที่คมกระบี่ทัณฑ์ฟ้าของเซียถงปะทะกับฝ่ามือสีโลหิตของเซี่ยเสวี่ยเหลียน ก็ปรากคลื่นแสงสว่างวาบระเบิดออกมาพลัน ทำให้พวกผู้คนทั่วบริเวณนั้นแทบจะลืมตาขึ้นมองมิได้ เซียถงเองก็ชะงักชะงันไปชั่วครู่เช่นกัน เจ้าเซี่ยเสวี่ยเหลียนจะมาไม้ไหน? ระเบิดแสงนี้ลดวิสัยทัศน์การมองเห็นของนางจนตกฮวบ ระหว่างนั้น สัมผัสได้ถึงมหันต์ภัยอันตรายที่พวยพุ่งเข้ามา อาศัยสัญชาตญาณเฉียบคมนี้ เซียถงรีบเรียกเกราะแสงวิญญาณขึ้นมาเคลือบคลุมบนกายาอย่างรวดเร็ว แต่กระนั่นกลับสายเกินไปครึ่งจังหวะ เกราะแสงวิญญาณผสานตัวผนึกรวมยังไม่สมบูรณ์ดี จึงโดนฝ่ามือสีโลหิตของเซี่ยเสวี่ยนเหลียนโหมซัดโจมตีใส่สุดแรง
เซียถงร่างปลิวกระเด็นบินออกไปไม่รู้หัวหาง ร่างไถลพื้นลากเป็นทางยาว กระอักพ่นเลือดสดออกมาคำโต เกราะแสงวิญญาณที่เคลือบคลุมบนกายาเริ่มเกิดรอยร้าวปริแตกเป็นหลากหลายสายใย
ระเบิดแสงสว่างจางหายอันตรธานไป ปรากฏเป็นเซี่ยเสวี่ยเหลียนที่ยืนตระหง่านอยู่ ณ ใจกลางสมรภูมิ นางยังคงสวมชุดพิธีแพรพรรณสีแดงเพลิง ทว่าผิวหนังทั่วทั้งร่างกายเริ่มแห้งกรังและปริแตกมากขึ้นเรื่อยๆ ช่องระหว่างผิวหนังที่ฉีกตัวปริแตกนั้นมีเลือดสีแดงสดไหลซิบออกมา ผู้ใดพบเห็นย่อมรู้สึกปวดแสบแทน โดยรวมนั้นเป็นภาพฉากที่ดูน่าสยดสยองเกินจินตนาการ!
แต่ถึงกระนั้น เซี่ยเสวี่ยนเหลียนก็ยังหาได้สนใจอันใดไม่ เอาแต่จ้องมองเซียถงตาเขม็งไม่มีคลายอ่อน ราวกับปรารถนาจะนางทิ้งด้วยสายตาคู่นี้
บัญชีความเกลียดชังระหว่างเซี่ยเสวี่ยเหลียนกับเซียถง หาใช่เรื่องง่ายแล้วที่จะแก้ไขคลี่คลายอันใดได้ สิ่งนี้หาใช่ไอเย็นเหน็บหนาวที่เพิ่งเกิดขึ้นแค่วันสองวัน แต่คือธารน้ำแข็งชั้นหนาที่ไม่มีวันหลอมละหลายจากการสั่งสมนับหลายปี หากไม่ใช่เพราะเซียถง ป่านนี้เซี่ยเสวี่ยเหลียนคงกลายมาเป็นพระชายาเอกได้อย่างสมภาคภูมิ คือองค์ราชินีแห่งจักรวรรดิตงหลี่ที่แท้จริง หาใช่นางสนมชั้นสี่ที่ต้องทนโดนพวกทหารข่มขืนราวกับของเล่น และหากไม่มีเซียถงอยู่ทั้งคน ในตอนนั้นฮูหยินรองเฉิง แม่ของนางคงไม่ต้องมาตายเช่นนี้ และตัวนางคงไม่ต้องตกกลายมาเป็นเป้าติฉินนินทาของสาธารณชนเช่นนี้
เหตุที่ทำให้เส้นทางชีวิตของเซี่ยเสวี่ยเหลียนต้องตกต่ำจนพังไม่เป็นท่าเช่นนี้ ทั้งหมดล้วนเป็นเพราะเซียถงทั้งสิ้น และในปัจจุบัน การที่ได้เห็นเซียถงนอนหมดสภาพอยู่บนพื้นเช่นนี้ เซี่ยเสวี่ยเหลียนกลับรู้สึกตื่นเต้นดีใจเกินกว่าจะพรรณนาได้ถูก!
และในเวลาเดียวกัน ไป๋หลี่หานที่ซึ่งบาดเจ็บอยู่ในขั้นวิกฤติ จู่ๆก็อาเจียนเป็นเลือดสดพ่นกระเซ็นออกมาอย่างหนัก
ภาพฉากนี้ยิ่งทำให้ทุกคนตื่นตระหนกตกใจเป็นเท่าทวี เซียถงหาได้สนใจอีกต่อไปว่า จากนี้เซี่ยเสวี่ยเหลียนจะลงมือลงไม้ทำร้ายนางเยี่ยงไรอีก นางรีบควักโอสถปราณสวรรค์ระดับเก้าที่เหลือสามเม็ดสุดท้ายใต้อกเสื้อ ส่งมอบให้แก่หลิวซูโดยไว
อันที่จริงแล้ว อาการบาดเจ็บของไป๋หลี่หานมิได้ร้ายแรงเกินกว่าจะรักษาได้ เพียงว่า โอสถปราณสวรรค์ที่เขาเพิ่งกลืนลงไป มันช่วยทะลวงเส้นลมปราณที่ตีบตันเสียหายให้กลับมาไหลเวียนเป็นปกติ แต่เนื่องจากปริมาณโอสถไม่เพียงพอ จึงทำให้มันสลายเส้นลมปราณที่อุดตันทั่วร่างได้ไม่หมด ส่งผลให้เลือดลมไหลย้อนตีกลับขึ้นคอ และอาเจียนออกมาเป็นเลือดอย่างที่เห็น
และหากยังไม่รีบทำการรักษาต่อไป นี่อาจจะยิ่งทำให้อาการบาดเจ็บของเขาเลวร้ายลงกว่าเดิม
หลิวซูทราบดีว่า เซียถงกำลังหมายความอย่างไร จึงรับโอสถทั้งสามเม็ดนั้นไว้ในมือกำไว้แน่น
จากนั้นก็เร่งเร้าพลังสุดขั้ว ออกวิ่งพุ่งไปหาไป๋หลี่หานโดยไว
อย่างไรเสีย เซี่ยเสวี่ยเหลียนเองก็สังเกตเห็นถึง ร่องรอยความกังวลที่ฉายสะท้อนในดวงตาของเซียถงเช่นกัน นางเค้นหัวเราะเย้ยเยาะเอ่ยว่า
“ไฉนเจ้าต้องช่วยมันด้วย? ในเมื่ออีกไม่นาน น้องสาวคนนี้ก็จะส่งเจ้าไปปรโลกเช่นกัน! พวกเจ้าสองคนได้ไปเจอกันใหม่ในนั้นทีเดียว!”
“เจ้ากล้า?!”
มันเหิมเกริมนักที่กล้าใช้บุคคลอันเป็นที่รักที่สุดข่มขู่นาง เซียถงแผดเสียงเกรี้ยวโกรธคำรามสนั่น ดวงตาคู่นั้นเสมือนกับลุกเป็นไฟ
ลักษณะท่าทางเช่นนี้ทำเอาเซี่ยเสวี่ยเหลียนประหลาดใจมิใช่น้อย ก่อนตจะแสยะยิ้มระเบิดหัวเราะลั่นอย่างชั่วร้ายออกมา!
ในที่สุดเซี่ยเสวี่ยนเหลียนก็เข้าใจแจ่มแจ้งแล้ว การฆ่าเซียถงเพื่อล้างแค้นเพียงอย่างเดียวกลับไม่เพียงพอ ปล่อยให้นางมีชีวิตต่อไปและเฝ้าดูบุคคลอันเป็นที่รักยิ่งต้องตายต่อหน้าต่อตา นี่สิที่เรียกว่า ทรมานเสียกว่าความตาย!
เซี่ยเสวี่ยเหลียนหาได้สนใจเซียถงอีกต่อไป และพุ่งไล่กรวดหลิวซูไปติดๆ เสี้ยวพริบต่อมา จึงอ้าปากกว้างฉีกคมเขี้ยวยาวออกมา หวังที่จะสูบเลือดของหลิวซู!
เซียถงอ้าปากตะลึงค้างทันทีที่เห็น พยายามลุกขึ้นยืนหยัดขึ้นพลัน แต่เพิ่งจะย่างเท้าก้าวแรกออกไป กลับกระอักเลือดสดพ่นออกมาคำใหญ่ ด้วยสภาพเช่นนี้ นางไม่มีทางไล่ตามได้ทันแน่นอน ทั้งนี้ยังดูเหมือนว่า เซี่ยเสวี่ยเหลียเร็วกว่าหลิวซูอีกด้วย นี่ยิ่งไม่ต้องพูดถึง
เฉกเช่นนั้น นางก็ยังมิได้ย่อท้อใจ จึงคว้ามีดสั้นสีคมเย็นขึ้นมาและสะบัดยิงออกไปทันที ภายใต้ช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญ เซียถงตะโกนเรียกเสี่ยวฮั่วขึ้นลั่น
“เสี่ยวฮั่ว!”
คล้ายว่ามันจะเข้าใจกับสิ่งที่นางพยายามจะทำ เสี่ยวฮั่วสยายคู่ปีกโบกกระพือสร้างคลื่นพายุใช้เสริมความเร็วให้แก่มีดบินเล่มนั้นเป็นทวี มันพุ่งทะลวงใส่ช่วงเอวของเซี่ยเสวี่ยเหลียนทะลุผ่านร่างเป็นรูกลวง ไม่เพียงเท่านั้น เสี้ยวอึดใจต่อมา นางยังรู้สึกได้ถึงกระแสความเจ็บปวดแห่งที่สองบนกลางแผ่นอก และเมื่อกดสายตาก้มมอง ก็พบว่ามีเขากิเลนยักษ์เสียบคาอยู่แบบนั้น น้ำพุเลือดแดงฉานสาดกระเซ็นไม่หยุด เซี่ยเสวี่ยเหลียนสูญเสียการควบคุมชั่วขณะ ร่างอรชรทรุดฮวบลงกับพื้น
แลเห็นกองเลือดสีแดงสดไหลนองออกมาผ่านสายตา เซียถงค่อยถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความโล่งอก ทว่าความโล่งอกนี้กลับคงอยู่ได้ไม่นาน เพราะทันใดนั้น พลันเห็นมีดบินสีเงินจรัสถูกยิงสะบัดออกจากมือของเซี่ยเสวี่ยเหลียนบนพื้น คมพิฆาตนี้มุ่งเป้าไปทางไป๋หลี่หาน ต่อให้ชีวิตนี้จักต้องบรรลัยดับสูญ แต่นางก็ยังขอเดิมพันกับมัน ไม่ว่ายังไงก็ต้องฆ่าบุคคลอันเป็นที่รักที่สุดของเซียถงให้จงได้!
“ไม่!!!”
ทันทีที่เห็นมีดบินยิงใส่ทางไป๋หลี่หาน เสี้ยวอึดใจนั้น ร่างทั้งร่างของเซียถงระเบิดคลื่นแสงรัศมีสีม่วงประกายแพรวพราว โถมสุดชีวิตพุ่งเข้าปกป้องไป๋หลี่หาน ประดุจดาวหางสีม่วงดิ่งทะยาน…