ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง - ตอนที่ 598 ศพแช่แข็ง (2)
ตอนที่598 ศพแช่แข็ง (2)
ตอนที่598 ศพแช่แข็ง (2)
แม้แต่นางสนมจินยังช่วยพูดแทน ส่งผลให้ไป๋หลี่เย่ค่อยใจเย็นลงหนึ่งส่วน เริ่มจดจ่อตั้งใจที่จะฟังมากยิ่งขึ้น เขาหันไปร้องอุทานกับนางคำหนึ่งด้วยความประหลาดใจ
“เจ้าเองก็ทราบ?”
ก่นเสียงเย็นชืดคำหนึ่งดังอยู่ในลำคอ เขายิ้มแห้งอยู่กึ่งหนึ่งกล่าวว่า
“ดูท่าจะมีเพียงข้าคนเดียวที่ไม่รู้?”
“ไม่ใช่เช่นนั้นพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาทโปรดใจเย็นก่อน เรื่องนี้ไม่ว่าใครต่างต้องการทูลให้ฝ่าบาทฟังทั้งสิ้น แต่ว่า…เรื่องนี้กลับเกี่ยวข้องกับองค์หญิงใหญ่โดยตรง ต่างคนก็เลย…”
ทันทีที่ไป๋หลี่เย่ได้ยินคำว่า ‘องค์หญิงใหญ่’ เขาก็พลันรู้สึกปวดเศียรขึ้นทันควัน เส้นเลือดเส้นประสาทบนหน้าผากเต้นดังตุบๆ!
“เกิดอะไรขึ้นกับนาง? นางหรือที่เป็นคนใช้น้ำแข็งจนหมด? หมายถึงน้ำแข็งทั้งหมดในห้องใต้ดินเลยงั้นรึ? นางเอาไปใช้ทำอะไรมากมายขนาดนั้น? สร้างฤดูหนาวจำลอง?”
นางเป็นน้องสาวของเขา เขานี่แหละย่อมรู้ดีที่สุด ไป๋หลี่อวี๋อิงเป็นคนที่เกลียดฤดูหนาวมาก แต่ไฉนอยู่ๆ ถึงต้องการน้ำแข็งในปริมาณมากขนาดนั้น?
สาวรับใช้คนนั้นเห็นว่า นางสนมจินไม่ค่อยจะเต็มใจเอ่ยอธิบายแทนทุกคนเท่าไหร่นัก ถึงแม้จะพยายามส่งสายตาเชิงขอร้องอยู่หลายครั้งแล้วก็ตาม แต่ท้ายสุดกลับไม่มีปฏิกิริยาใดๆ ตอบสนองอีกเลย นางจึงตั้งใจจะว่าเล่าอธิบายต่อด้วยตัวเอง ซึ่งท้ายที่สุดนี้กลับต้องโดนขัดแทรก
“ฝ่าบาท ในปัจจุบัน องค์หญิงใหญ่เป็นถึงปราชญ์โอสถเพียงคนเดียวในเมืองเฟิงหลี่ ทั้งในด้านสถานะของนางย่อมไม่ธรรมดา ข้าเป็นแค่สนมต่ำต้อยคนหนึ่ง มีหรือจะกล้าเอ่ยถึงนางได้? อย่างไร ในเมื่อในห้องหนังสือร้อนอบอ้าวปานนี้ ไฉนฝ่าบาทถึงไม่ออกไปเดินเล่นที่สวนจิ้งหยาง รับลมเย็นเสียหน่อย?”
นางสนมจินนับว่าเป็นหญิงสาวที่มีความคิดอ่านที่เฉียบแหลมเป็นอย่างยิ่ง เพราะสวนจิ้งหยางเป็นสถานที่ที่อยู่ใกล้กับตำหนักของไป๋หลี่อวี๋อิงที่สุด หากพาไป๋หลี่เย่ไปเดินเล่นที่นั้น บางทีอาจจับสังเกตอะไรบางอย่างได้ ทันทีที่กล่าวจบ ก็ลอบขยิบตาส่งให้สาวรับใช้นางนั้นเพื่อไปหยิบพัดหยกอันใหม่มาให้ ขณะที่ไป๋หลี่เย่ลุกขึ้น นางเองก็โน้มตัวเข้าแนบชิด กอดแขนอีกฝ่ายไว้แน่น และลากอีกฝ่ายออกไปรับลมโดยทันที
แลเห็นทุกอากัปกิริยาของนางสนมจินที่เปี่ยมด้วยความงดงาม ไป๋หลี่เย่ไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่จะปฏิเสธด้วยซ้ำ จึงยกมือขึ้นโอบเอวอีกฝ่ายตอบและเดินออกไป
ขณะที่ไป๋หลี่เย่และนางสนมกำลังเดินเล่นอยู่ในสวนจิ้งหยาง จู่ๆ ก็บังเอิญสังเกตเห็นแสงไฟดวงน้อยสั่นระริกและยังมีบรรดาข้ารับใช้ในวังอยู่มากมายกำลังเดินต่อแถวเรียงรายไปสู่ตำหนักของไป๋หลี่อวี๋อิง
เห็นถึงความผิดวิสัยเช่นนี้แล้ว ไป๋หลี่เย่ชักบังเกิดความสงสัยขึ้นมาอีกครั้ง และรีบเดินปรี่เข้าไปใกล้ทันที!
กระแสไอเย็นพัดผ่านตามสายลมกระทบใบหน้าของพวกเขาเป็นครั้งคราว ดูเหมือนว่าก้อนน้ำแข็งทั้งหมดจะถูกรวมไว้อยู่ที่นี่จริงๆ!
เดิมที ไป๋หลี่เย่ก็ยิ่งหงุดหงิดกับเรื่องอากาศร้อนอยู่แล้ว ยิ่งรู้ว่าน้ำแข็งทั้งหมดในห้องใต้ดินถูกขนมาเก็บไว้อยู่ที่นี่ เขาก็ยิ่งอารมณ์ร้อนเดือดดาลเข้าไปใหญ่ และในเวลาเดียวกัน ก็ยังได้ยินนางสนมจินที่อยู่ๆ ก็กล่าวขึ้นว่า
“แม้องค์หญิงใหญ่จะต้องการใช้น้ำแข็งในปริมาณมาก แต่อย่างไรก็ควรแบ่งสันเผื่อไว้ให้ฝ่าบาทใช้บ้าง การที่ทำเช่นนี้มิทราบจริงๆ ว่า นางยังเห็นท่านอยู่ในสายตาหรือไม่!”
ได้ฟังดังนั้น ความหงุดหงิดของไป๋หลี่เย่มิเพียงจะไม่ได้ถูกลดทอนใดๆ ลงเท่านั้น แต่มันยังปลุกกระตุ้นให้พิโรธยิ่งกว่าเก่า!
เขาสับเท้าเร่งความเร็วขึ้นเป็นทวี เจือผสมกับแรงดึงมหาศาลแทบจะฉุดร่างของนางสนมจินจนปลิวไปตาม!
เมื่อเหล่าบ่าวรับใช้ในวังที่กำลังยืนถือถาดน้ำแข็งต่อแถวอยู่ได้เห็นดังนั้น ทุกคนต่างขวัญผวาหนัก!
ต่างคนต่างเร่งคุกเข่าต่อแทบเท้าปรี่เร็ว กดศีรษะจรดพื้นพร้อมนิ่งเงียบไปในบัดดล!
เมื่อสัมผัสได้ถึงรัศมีจิตสังหารที่อยู่เรื่อยๆ เคลื่อนเข้ามาใกล้จากด้านหลัง ไป๋หลี่อวี๋อิงก็หันศีรษะขวับ พลันต้องเบิกตาตะลึงโตด้วยความตกใจ ปรากฏว่าไป๋หลี่เย่กำลังมุ่งหน้ามาหานางทางนี้!
ทว่าพริบตาแรกที่ได้เห็นหน้าไป๋หลี่อวี๋อิงเท่านั้น ความหงุดหงิดทั้งหมดของไป๋หลี่เย่พลันต้องดับมอดลงทันที
“น้องข้า ไยถึงซูบผอมปานนี้?
แก้มทั้งสองข้างของไป๋หลี่อวี๋อิงจมลึกกลายเป็นรอยบุ๋มเห็นได้ชัดเจน ขอบตากลายเป็นสีดำสนิท นัยน์ตาบวมแดง ผิวพรรณดูซีดเซียวราบกับขาดสารอาหาร สีหน้าคล้ายว่ากักเก็บแววความอาฆาตอยู่ฝังลึกจนดูน่ากลัว ไม่อยากจะอยู่ใกล้เท่าไหร่นัก
ไป๋หลี่อวี๋อิงชำเลืองมองไป๋หลี่เย่อยู่ทีหนึ่ง แล้วตัดสลับมองไปยังทิศทางอื่น ก่อนจะเสาะพบว่าเป็นนางสนมจินที่ติดตามมาอยู่ท้ายหลังอีกฝ่าย เท่านั้นก็พึงทราบทันทีว่า เหตุที่ไป๋หลี่เย่เดินทางมาเจอนางในเวลาแบบนี้ ทั้งหมดเป็นเพราะนางสนมจินชักจูงอยู่เบื้องหลัง จึงเอ่ยปากกล่าวกับนางว่า
“นางสนมจิน ไยถึงไม่ดูแลฝ่าบาทอยู่ตำหนักเรือนให้ดี? ปล่อยให้เดินพล่านอยู่ด้านนอกเช่นนี้ หากเกิดอันตรายขึ้นมาจะทำเยี่ยงไร?”
เจอไป๋หลี่อวี๋อิงกล่าวข้ามหัวไม่สนใจกันเช่นนี้ ไป๋หลี่เย่พลันรู้สึกเสียน่าอับอายในทันควัน นางทำราวกับว่าไม่เห็นตัวเขาอยู่ในสายตาเลยด้วยซ้ำ ซึ่งกิริยาท่าทางเช่นนี้อดทำให้เขาอดหงุดหงิดใจมิได้จริงๆ จึงตะคอกขึ้นอีกระลอกขึ้นว่า
“อวี๋อิง! ตอบคำถามข้ามาก่อน! เจ้าใช่หรือไม่ที่เป็นคนสั่งให้เอาน้ำแข็งทั้งหมดในห้องใต้ดินมารวมไว้ที่นี่? เจ้าต้องการพวกมันมากขนาดนี้ไปเพื่ออะไร?”
ไม่ว่าเขาจะพยายามเอ่ยซักถามออกไปสักเท่าไหร่ ทว่าไป๋หลี่อวี๋อิงก็ยังเงียบนิ่งไม่มีทีท่าจะสนใจไป๋หลี่เย่เลย ด้วยความหดหู่ใจ เขาจึงลองกวาดสายตาสำรวจทั่วห้องแห่งนี้ จนไปสะดุดเข้ากับห้องภายในด้านหลังม่านสีทึบ เพราะตรงนั้นเป็นจุดเดียวที่มีไอเย็นระเหยซึมออกมาตลบแล้วตลบเล่า
เขาชี้ไปที่ห้องภายในด้านหลังม่านและเอ่ยถามขึ้นว่า
“เจ้ากำลังทำอะไรอยู่ภายในนั้น?”
กล่าวจบ ไป๋หลี่เย่ก็เดินตรงเข้าไปใกล้หวังแหวกม่านเข้าไปดู
แต่เมื่อไป๋หลี่อวี๋อิงเห็นแบบนั้น นางถึงกับหน้าถอดสีซีดเผือดพลัน เร่งตะโกนหยุดไว้โดยไว
“ฝ่าบาท!”
นางรีบลุกจากเก้าอี้เดินจ้ำ แทรกตัวผ่านไป๋หลี่เย่ยืนขวางเอาไว้ด้านหน้าม่านสีทึบอย่างรวดเร็ว ยามเผชิญกับคำถามของไป๋หลี่เย่ สีหน้าการแสดงออกของนางค่อยสงบลงหลายส่วน รวมไปถึงน้ำเสียงด้วยเช่นกัน นางกล่าวว่า
“ภายในนั้นไม่มีอะไรจริงๆ ทุกอย่างล้วนปกติดี น้องสาวคนนี้กำลังพัฒนาสูตรโอสถแขนงใหม่อยู่ จึงจำเป็นจะต้องใช้น้ำแข็งพวกนี้ในปริมาณมาก แต่อย่าได้กังวลไปเลย ท่านเองก็เป็นพี่ชายของข้าทั้งคน ทันทีที่หลอมกลั่นโอสถแขนงใหม่ขึ้นได้สำเร็จ ข้าจะรับส่งมอบแก่ท่านเป็นการส่วนตัว จะว่าไปแล้วก่อนหน้าประมาณวันสองวัน น้องสาวคนนี้เองก็เพิ่งหลอมกลั่นโอสถบุปผาหยกได้สองเม็ด หลังจากเสร็จธุระตรงนี้แล้ว จะรีบนำส่งไปที่ห้องหนังสือในตำหนักจักรพรรดิของท่านโดยเร็ว”
เสน่ห์ของโอสถบุปผาหยกชนิดนี้ช่างเกินจะหักห้ามใจนัก อาศัยเจ้าสิ่งนี้สามารถทำให้สีหน้าที่แสนหงุดหงิดของไป๋หลี่เย่คลายอ่อนลงได้กว่าหลายส่วน ไป๋หลี่อวี๋อืงจึงถือโอกาสนี้จับมืออีกฝ่ายพาเดินห่างออกมา
คล้อยหลังเดินไปได้ไม่กี่ก้าว นางสนมจินที่ซึ่งอยู่ด้านหลังพวกเขาก็เคลื่อนสายตาสะดุดมองห้องภายในด้านหลังม่านอยู่สักครู่ พร้อมจงใจส่งเสียงดังตะโกนดุด่าพวกคนใช้ที่อยู่รอบข้างขึ้นว่า
“พวกเจ้าทำงานกันประสาอะไร! ไม่เห็นแอ่งน้ำตามพื้นพวกนี้หรอกรึ? หากฝ่าบาทลื่นล้มขึ้นมาจะทำยังไง?!”
กล่าวออกไปทั้งแบบนั้น แล้วนางก็แสร้งทำเป็นเท้าลื่นสะดุดล้ม เหยียดมือไปกระชากม่านสีทึบเบื้องหน้าและล้มลงไปพร้อมกับตนเอง!
เสียงผ้าม่านฉีกขาดดังครืดคราด!
นางสนมจินถือวิสาสะ ใช้โอกาสนี้รีบหันศีรษะมองย้อนกลับไปมอง แต่เพียงแวบเดียวเท่านั้น กลับกลายเป็นภาพติดตามลืมไม่ลงไปชั่วชีวิต!
“กรี๊ดด! ศพคน! ศพคนของจริง!!”
นางสนมจินใจร่วงไปยังตาตุ่ม เสียขวัญขนานหนักจนกรีดร้องเสียงสั่นแทบไม่เป็นภาษา!
ทุกคนต่างเห็นโดยทั่วกัน ภายในห้องมีก้อนน้ำแข็งเก็บสะสมไว้อยู่จำนวนนับไม่ถ้วน ซึ่งพวกมันเหล่านั้นต่างถูกประกอบต่อติดกันมีรูปร่างคล้ายโลงศพ โดยที่ ณ ใจกลางก้อนน้ำแข็งทั้งหลายปรากฏเป็นศพของใครบางคนนอนอยู่!