ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง - ตอนที่ 624 ผู้พิทักษ์แห่งทวีปจวิ๋นเทียน (2)
ตอนที่624 ผู้พิทักษ์แห่งทวีปจวิ๋นเทียน (2)
ตอนที่624 ผู้พิทักษ์แห่งทวีปจวิ๋นเทียน (2)
“หลู่เฟิง! บอกความจริงกับข้ามา!”
อันที่จริง ในช่วงระยะหลัง เซียถงแทบจะไม่ได้ยินข่าวคราวของไป๋หลี่หานอีกเลย เพราะสุดท้ายนี้ ระยะทางระหว่างทวีปจวิ๋นเทียนและทวีปเทียนหลางจะไกลห่างกันเกินไป!
เซี่ยหลู่เฟิงถอนหายใจเฮือกหนึ่ง รำพึงขึ้นพร้อมเสียงหัวเราะเยาะกับตัวเองว่า
“เห้ออ! ไม่ว่าผ่านไปนานเท่าใด ข้าก็ไม่เคยซ่อนสิ่งใดจากสายตาเจ้าได้เลยจริงๆ!”
เขาจับจ้องไปที่เซียถง พบเจอกันครั้งนี้ราวกับนางหาใช่น้องสาวคนเดิมที่เขารู้จัก หาใช่เรื่องนิสัยที่แปรเปลี่ยนไป แต่นางดูทรงพลังแข็งแกร่งขึ้นผิดหูผิดตาจากหนึ่งปีก่อนเป็นอย่างมาก! จนเขาเผลอคิดกับตัวเองไปว่า บางทีอาจเป็นเรื่องถูกต้องแล้วที่ปล่อยให้นางมาอยู่ที่นี่เพียงลำพัง!
สุดท้ายนี้ เซี่ยหลู่เฟิงก็ตัดสินใจยอมบอกความจริงแก่นางไป!
“อันที่จริงแล้ว…อีกฝ่ายไม่รู้ว่าข้ามาหาเจ้าที่นี่!”
“ห่ะ? หมายความว่าเยี่ยงไร?”
“ข้ากับหลัวซีแอบมาหาเจ้าด้วยความตั้งใจของพวกเราเอง เขา…อ่ะ…หมายถึงฝ่าบาทไม่ทรงทราบเรื่องนี้ เพราะไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้ จักรวรรดิเซียของเรามีสถานการณ์ไม่ค่อยสู้ดีนัก!”
จักรวรรดิเซียถงได้รับการสถาปนาสร้างขึ้นโดยไป๋หลี่หานและกองกำลังทั้งฝ่ายบุ๋นกับบู๊ที่เหลือรอดกันมาไม่กี่คนเท่านั้นภายในปีเดียว! สิ่งนี้จะสะท้อนให้เห็นว่าพวกเขาพยายามอย่างหนักหนาสาหัสมาเพียงใดในช่วงที่ผ่านมานี้! เท่านี้ก็ว่าเกินความสามารถของมนุษย์ปุถุชนไปมากแล้ว แต่เสมือนมีเคราะห์ซ้ำกรรมซัด หลังจากก่อตั้งจักรวรรดิเซียขึ้นมาได้ ก็ถูกจักรวรรดิตงหลี่และจักรวรรดิต้าซิ่งเข้ากดดันทุกทาง กล่าวได้ว่า สถานะของจักรวรรดิ้เซียตอนนี้อยู่เป็นสถานการณ์ย่ำแย่ขั้นเลวร้าย!
“สิ่งที่ข้าทราบทั้งหมดก่อนจะเดินเรือจากมาคือ จักรวรรดิต้าซิ่งกำลังรวบรวมกองกำลังทั้งหมดจากหัวเมืองน้อยใหญ่ในเขตการปกครอง เพื่อโถมเข้าโจมตีจักรวรรดิเซียของเราในอึดใจเดียว อย่างไรก็ตาม จำนวนกำลังทหารของจักรวรรดิเซียกลับมีไม่เพียงพอ และนี่ยังไม่รวมถึง กองทัพของฝ่ายจักรวรรดิตงหลี่ที่กำลังจะเข้าร่วมเสริมเข้ามา เนื่องด้วยเหตุนี้เอง พอทราบเบาะแสของเจ้าว่าอยู่ในทวีปจวิ๋นเทียน จึงรีบตัดสินใจเดินทางมาหาโดยเร็วที่สุด หวังเพียงว่าเจ้าจะยอมช่วยพวกเรา…”
ในศึกใหญ่เมื่อหนึ่งปีก่อน เซียถงที่นำทัพสัตว์อสูรนับหมื่นเข้าโรมรัน ก็สามารถกอบกู้สถานการณ์ช่วยเหลือไป๋หลี่หานและกองกำลังที่เหลือรอดจากอี้เฉิงให้รอดชีวิตมาได้ ดังนั้นแล้ว เมื่อตอนนี้จักรวรรดิเซียกำลังที่นั่งลำบาก ความคิดแรกของเซี่ยหลู่เฟิงที่ผุดขึ้นมาในหัวได้ก็คือ การขอความช่วยเหลือจากเซียถง และถึงแม้ว่าไป๋หลี่หานจะมาทราบเรื่องในภายหลัง และลงโทษเขาก็ตาม แต่ยังไงก็คุ้มค่าแล้วที่จะลองเสี่ยงดู!
ทว่า เมื่อเซี่ยหลู่เฟิงเสาะเห็นแววความลังเลในดวงตาคู่นั้นของเซียถง เขาก็เข้าใจได้ทันที น้องสาวคนนี้กำลังลังเลใจเรื่องอะไรอยู่ เพราะด้วยนิสัยของเซียถงแล้ว ไม่ว่านางจะมีบุคลิกเย็นชาปานใด แต่หากเป็นเรื่องของคนใกล้ตัว นางหรือจะไม่ยอมยื่นมือเข้าช่วยเหลือ? เพียงแต่ว่า…
“เป็นเวลาหนึ่งปีเต็มแล้ว ที่ฝ่าบาทมักจะฝันร้ายในตอนกลางดึก พร่ำเพ้อถึงแต่เจ้า มีอยู่ครั้งหนึ่ง เขาเคยเข้าเฝ้าและทูลถามเป็นการส่วนตัวเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ฝ่าบาทให้คำตอบกับข้าเพียงว่า ต่อให้ต้องตายก็ห้ามให้นางรู้เรื่อง”
เซี่ยหลู่เฟิงไม่ค่อยเต็มใจนักที่จะเปิดเผยถึงเรื่องส่วนตัวแบบนี้ แต่ภายใต้สถานการณ์ในปัจจุบัน เขาเองก็ไม่มีทางเลือกอื่นแล้วเช่นกัน
“เพราะเหตุใดกัน?”
เซียถงตะลึงงันไปชั่วขณะเมื่อได้ยินเซี่ยหลู่เฟิงกล่าวเช่นนั้น! และยังแอบจินตนาการตามมิได้ ในค่ำคืนที่มืดมิดนั้น เมื่อไป๋หลี่หานตื่นขึ้นจากฝันร้ายที่สุดแสนจะน่ากลัว เขาจะเป็นอย่างไรกัน? มีใครบ้างที่คอยอยู่เคียงข้างและเข้าใจในสิ่งที่เขากำลังรู้สึก?
“ฝ่าบาทบอกว่า หากมีการติดต่อหาเจ้า เจ้าจะต้องกลับมาอย่างแน่นอน แต่ด้วยสถานการณ์วิกฤตเช่นนี้ที่กำลังประสบ กลับไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง! ฝ่าบาทกลัวเจ้าต้องเป็นอันตราย!”
นี่เองรึคือคำตอบ?
กลัวข้าต้องเป็นอันตราย?
ไป๋หลี่เย่ซ่องสุมกำลังทหารและยุทโธปกรณ์ไว้เต็มรูปแบบ ในขณะที่เย่หลีเทียนก็กำลังวางแผนสังหารไป๋หลี่หาน! ภายใต้สถานการณ์ที่ต้องรับศึกสองด้านเช่นนี้ หากเซียถงเดินทางกลับมาตอนนี้จะเป็นอันตรายอย่างมาก ดังนั้นไป๋หลี่หานจึงตั้งใจไว้ว่า เขาต้องการจะจบเรื่องทุกอย่างให้เบ็ดเสร็จเสียก่อน แล้วค่อยเดินทางไปรับนางกลับมาด้วยตัวของเขาเอง! อย่างมากที่สุด เขาก็แค่ตายเท่านั้น แต่เซียถงก็ยังมีชีวิตรอดต่อไป!
ถึงนี่จะดูเป็นวิธีที่ใจร้ายเกินไปเสียหน่อยสำหรับเซียถง แต่ก็ถือว่ามีผลดีต่อนางที่สุดแล้ว!
ทั้งนี้เองไป๋หลี่หานยังสั่งให้เหล่าคณะขุนนางปิดข่าวสารทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับเซียถงมิให้รั่วไหลออกไปไหนได้ เพื่อป้องกันมิให้มีฝ่ายอื่นฝ่ายใดตามสืบจนพบเบาะแสที่อยู่ของนาง! เซี่ยหลู่เฟิงมิได้ล่วงรู้ถึงคำสั่งลับเหล่านี้จึงมิได้อธิบายเพิ่มเติมออกไป แต่หลังจากที่เซียถงได้ยินว่า ไป๋หลี่หานให้เหตุผลเช่นนี้ออกมา นางก็เข้าใจเรื่องราวทั้งหมดในทันที!
ถึงแม้พวกเขาทั้งคู่จะมิได้เจอกันเป็นปี แต่อย่างไร ต่างฝ่ายต่างก็ยังรู้จักนิสัยระหว่างกันดีเกินไป!
ในที่สุดเซียถงก็สามารถระบายยิ้มออกมาได้ด้วยความโล่งใจเกินบรรยาย ในที่สุด นางก็เข้าใจทุกอย่างเสียที
น้ำตาสองสายไหลรินผ่านผิวแก้ม สิ่งนี้เปรียบเสมือนระเบิดที่ในที่สุดก็ถูกปลดปล่อย!
ยังไม่ทันที่เซี่ยหลู่เฟิงจะได้บอกเล่าอธิบายถึงสถานการณ์ภายในทวีปเทียนหลางจบ เซียถงก็กลายร่างเป็นสายฟ้า ตวัดวาบพุ่งจากประตูไปอย่างรวดเร็ว!
จวิ๋นเส้าที่กำลังนอนหลับอย่างสบายใจอยู่บนเตียง จู่ๆก็มีเสียงถีบประตูดังปัง ประตูทั้งบานหลุดกระเด็นออกมาทั้งยวง พร้อมกับเซียถงที่เปล่งเสียงดังตะโกนลั่น
“จวิ๋นเส้า รบกวนเจ้าแล้ว! ข้าต้องการเรือสักลำ! ยามนี้ต้องรีบแล่นไปยังทวีปเทียนหลางโดยเร็วที่สุด!”
จวิ๋นเส้าสะดุ้งเฮือกตกใจแทบร้องกรี๊ด เสี้ยวอึดใจต่อมา จึงรีบดึงผ้านวมบนเตียงห่มให้หงอวี๋ที่นอนอยู่เคียงข้างในสภาพเรือนร่างเปลือยเปล่า ใบหน้าของเขาแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงแจ๋ กล่าวกับเซียถงสุ้มเสียงตะกุกตะกักดูประหม่าอย่างยิ่ง
“จะ-เจ้า…เจ้าออกไปก่อนได้ไหม? ขอ…ขอข้าแต่งตัวก่อนสักครู่หนึ่ง เดี๋ยวข้า…เดี๋ยวข้าตามออกไป!”
หลังจากคลื่นยักษ์มหาวิบัติ เรือทุกลำในทวีปจวิ๋นเทียนล้วนได้รับความเสียหายขั้นรุนแรงทั้งหมด! จวิ๋นเส้ากวาดสายตามองดูเรือที่พังเหล่านั้น ยกมือขึ้นกอดแผ่นอกด้วยความหนักใจ
“เรือพวกนี้เสียหายหนักเกินไป แล้ววัสดุซ่อมเรือก็โดนคลื่นยักษ์พัดหายไปหมดแล้วด้วย มีอยู่วิธีเดียวคือต้องเร่งสร้างใหม่ขึ้นมา!”
เซียถงดูกระวนกระวายใจอย่างหนัก
“ข้ารอไม่ได้แล้วนี่สิ! หากไม่มีเรือ เช่นนั้นจะขอให้ซุยอิ๋งพาข้าไปเดี๋ยวนี้แหละ!”
ในตอนนรี้เจียวหลงก็มีชื่อเล่นกับเขาแล้วเช่นกัน โดยเซียถงตั้งชื่อให้นางว่าซุยอิ๋ง
จวิ๋นเส้ายกสองมือขึ้นวางบนไหล่ขอเซียถง กล่าวเตือนสตินางอย่างรู้ทันขึ้นว่า
“ฟังข้าเซียถง ในฐานที่ข้าเองก็เป็นผู้ชาย ย่อมทราบดีว่า เขาในตอนนี้กำลังคิดอะไรอยู่ และเขาต้องการสิ่งใดมากที่สุด นั่นคือการให้เจ้าหลบอยู่ในที่ปลอดภัยยังไงล่ะ!”
แต่ราวกับว่าเซียถงมิได้ฟังประโยคสุดท้ายของเขาเลย พอได้ยินคำว่า สิ่งใดกันที่ไป๋หลี่หานต้องการมากที่สุดในตอนนี้ ดวงตาของนางก็เป็นประกายสว่างจ้าขึ้นทันใด
“ใช่แล้ว! สิ่งที่เขาต้องการคือกำลังเสริม! จวิ๋นเส้า ช่วยข้าสักครั้ง!”
ได้ยินดังนั้น จวิ๋นเทียนอดขำมิได้ เขายิ้มตอบไปว่า
“พอมาตอนนี้ก็นึกถึงข้าเชียว! แต่ไม่ต้องกังวลไป! พวกเราชาวจวิ๋นเทียนทุกคนย่อมต้องให้ความช่วยเหลือแก่เจ้าแน่นอน เจ้าคือผู้พิทักษ์ทวีปจวิ๋นเทียนแห่งนี้เอาไว้ ดังนั้น พวกเราต่างเป็นหนี้เจ้าก้อนโต! บุญคุณครั้งนี้เต็มใจชดใช้คืน! สิ่งที่เขาต้องการมากที่สุดในเวลานี้ หาใช่เพียงกำลังเสริม แต่ยังเป็นทรัพยากรทางด้านการเงิน! เพราะเมื่อใดที่มีเงินมากพอ ก็ย่อมสามารถเกณฑ์คนไปเป็นทหารได้มากขึ้น รวมไปถึงเงินทุนสำหรับซื้อม้าศึกและอาวุธ! นี่เป็นวิธีเดียวที่จะสามารถปราบจักรวรรดิตงหลี่และจักรวรรดิต้าซิ่งลงได้!”
เขาคือผู้บุกเบิกที่กล้าตบเท้าก้าวออกจากทวีปจวิ๋นเทียน เข้ามาทำธุรกิจการค้าในทวีปเทียนหลาง อีกทั้งจวิ๋นเส้าคนนี้ยังเกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์ทางด้านธุรกิจ กล่าวคือในด้านการคำนวณทรัพยากรต่อการศึก ทุกอย่างล้วนอยู่ในหัวของเขาหมดแล้ว และนี่คือบุคคลที่เซียถงต้องการมากที่สุดในเวลานี้!