ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต - บทที่ 15 บทที่ 469 เหตุใดเจ้าถึงต้องพูดปด
บทที่ 469 เหตุใดเจ้าถึงต้องพูดปด
เซียวยวี่พาเด็กสองคนไปห้องหนังสือซานเว่ย
เมื่อเห็นเซียวยวี่ หลิ่วสวินเหมี่ยวก็แย้มรอยยิ้มทันที “คุณชายเซียวเองหรือ…”
พอหันมองเด็กตัวเล็กสองคนที่อยู่ข้างกายเซียวยวี่ หลิ่วสวินเหมี่ยวเริ่มจากผงะไปชั่วขณะ จากนั้นจึงจำได้ จึงกล่าวทักทายอย่างเป็นกันเอง “คุณชายน้อย เจ้าเองหรือ”
เซียวยวี่ก็ผงะไป “พวกท่านรู้จักกันหรือ? ”
เซียวจื่อเซวียนสีหน้าดูย่ำแย่ทันที แอบคิดในใจว่าแย่แล้ว
หลิ่วสวินเหมี่ยวกล่าวด้วยความดีใจ “เมื่อหลายเดือนก่อนเป็นวันเกิดของท่านไม่ใช่หรือ? เด็กคนนี้ต้องการมอบของขวัญวันเกิดให้ท่าน จึงซื้อตำรารวมบทกลอนกวีจากที่นี่ไปหนึ่งเล่ม บอกว่าท่านชอบเป็นที่สุด อยากมอบให้ท่านเป็นของขวัญวันเกิด”
เซียวยวี่หันมองเซียวจื่อเซวียนแวบหนึ่งด้วยสีหน้าเรียบสงบ เผยรอยยิ้มบางบนใบหน้า “ใช่แล้ว ตำรารวมบทกลอนครั้งก่อนข้าชอบมาก ที่ท่านหลิ่วยังมีเล่มอื่นอีกหรือไม่? ”
“มี มี แถวนี้ใช่ทั้งหมด ท่านลองดู” หลิ่วสวินเหมี่ยวชี้ชั้นวางตำราด้านหลังตัวเอง พร้อมกล่าวแนะนำ
เซียวยวี่กวาดสายตามอง ดูตำรารวมบทกลอนทั้งหมดที่มี ก่อนกล่าว “ตำรารวมบทกลอนเหล่านี้ ข้ามีทั้งหมดแล้ว”
“มีหมดแล้วหรือ? ” หลิ่วสวินเหมี่ยวรู้สึกตกตะลึงยิ่งนัก “มิน่าล่ะครั้งก่อนคุณชายน้อยถึงต้องซื้อตำรารวมบทกลอนหวัยอันเล่มนี้ไป ดูท่าท่านคงขาดเล่มเดียว! ”
ตำรารวมบทกลอนหวัยอัน!
บนชั้นวางตำราของเซียวยวี่มีตำรารวมบทกลอนจำนวนมาก ในจำนวนนั้นมีตำรารวมบทกลอนหวัยอันอยู่ด้วย
เขาจำได้ว่าก่อนออกเดินทาง เคยให้เซียวจื่อเซวียนช่วยหยิบตำรารวมบทกลอนหวัยอันให้ จื่อเซวียนรู้ว่าเขามีตำรารวมบทกลอนหวัยอันอยู่แล้ว!
เซียวยวี่หันมองเซียวจื่อเซวียนอีกแวบหนึ่ง เซียวจื่อเซวียนรู้สึกวางตัวไม่ถูก ยืนอยู่ตรงนั้นด้วยท่าทางน่าสงสาร ไม่กล้ามองพี่ใหญ่ของตัวเองแม้แต่น้อย
หลิ่วสวินเหมี่ยวไม่เห็นปฏิกิริยาของสองพี่น้อง เพียงยิ้มพร้อมกล่าว “คุณชายเซียว ท่านก็ชอบตำราของคุณชายหลัวยวี่มากไม่ใช่หรือ? คราวนี้เขาออกผลงานใหม่ ท่านจะซื้อสักเล่มหรือไม่? ”
เซียวยวี่ได้ฟังดังนั้น ดวงตาพลันลุกวาว กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเทิ้ม “คุณชายหลัวยวี่ออกผลงานใหม่หรือ? ”
“ใช่ใช่ใช่ เพิ่งออกใหม่ สนุกเสียยิ่งกว่าอะไร ข้ารู้ว่าท่านต้องชอบแน่ จึงเก็บไว้ให้ท่านหนึ่งเล่มโดยเฉพาะ” ครั้งก่อนหลิ่วสวินเหมี่ยวพูดคุยสนทนากับเซียวยวี่เรื่องซีโหยวจี้อยู่นาน รู้ว่าคนหนุ่มผู้นี้ก็เป็นผู้มีความสามารถและความรู้กว้างขวาง จึงเห็นเซียวยวี่เป็นสหายรู้ใจ คราวนี้คุณชายหลัวยวี่ออกผลงานใหม่ เขาจึงเก็บไว้หนึ่งเล่มทันที รอให้เซียวยวี่มาแล้วจะได้มอบให้เขา
เซียวยวี่มองตัวอักษร สือโถวจี้ สามตัวที่งามสง่าดุจมังกรบินเหินหงส์ร่ายระบำบนปก ด้านล่างเป็นชื่อคุณชายหลัวยวี่ที่เขียนด้วยตัวอักษรรูปแบบจานฮวา เมื่อลองเปิดดูด้านใน ก็ยังคงเหมือนซีโหยวจี้เช่นเคย ตัวอักษรด้านใน เพียงมองผ่านแวบเดียว ก็รู้สึกว่างดงามราวกับบุปผาดอกแล้วดอกเล่า
ไม่อ่านตำรา เพียงดูตัวอักษร ก็รู้สึกราวกับว่าเป็นสุราเก่าหนึ่งไหที่บ่มมานานปี ไม่ต้องดื่ม เพียงแค่สูดดม ก็ทำให้รู้สึกเมามายได้แล้ว
“ท่านลองอ่านตำราเล่มนี้ เมื่อใดที่มีเวลาว่าง พวกเรามาพูดคุยสนทนากันอีก! ” ครั้งก่อนตอนคุยเรื่องซีโหยวจี้ แง่คิดหลายอย่างของทั้งสองคนล้วนตรงกัน ยิ่งคุยยิ่งรู้สึกถูกคอ สุดท้ายจึงเกิดความรู้สึกราวกับได้พบคนรู้ใจ
สหายผู้รู้ใจ!
ทั้งสองคนคุยกันอีกครู่ใหญ่ เซียวยวี่จึงออกไป
เซียวจื่อเซวียนดึงแขนเสื้อของเขาทีหนึ่ง กล่าวด้วยท่าทางเกรงใจเล็กน้อย “พี่ใหญ่ ท่านมีเงินยี่สิบอีแปะหรือไม่ขอรับ? ข้ายังติดค้างเงินเถ้าแก่ผู้นี้อีกยี่สิบอีแปะขอรับ! ”
เซียวยวี่ “…”
หลิ่วสวินเหมี่ยวรีบกล่าว “จะให้ทำไมอีก? ครั้งก่อนคุยกันไว้แล้ว ว่าไม่คิดเงินเจ้า! ”
“ข้าเคยบอกไว้แล้ว ว่าจะมอบเงินให้ท่าน! ” หากเซียวจื่อเซวียนไม่มา ตัวเขาเองก็คงลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิท
เซียวยวี่หยิบเงินยี่สิบอีแปะให้เซียวจื่อเซวียน เซียวจื่อเซวียนมอบเงินด้วยความเคารพ
เมื่อออกจากประตู รอยยิ้มบนใบหน้าเซียวยวี่จึงหายไป ก้มหน้ามองไปทางเซียวจื่อเซวียนที่อยู่ข้างๆ กล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “เหตุใดถึงต้องพูดปด? ”
จื่อเซวียนซื้อตำรารวมบทกลอนหวัยอัน แต่กลับไม่มอบให้เขา เพราะจื่อเซวียนรู้ ว่าเขามีตำรารวมบทกลอนหวัยอันอยู่แล้ว
วันเกิดของเขาอยู่ในเดือนสาม ในเวลานั้น เขายังสอบอยู่ข้างนอก ไม่อยู่ที่บ้านด้วยซ้ำ ดังนั้น เรื่องของขวัญวันเกิดอะไรนั่น ล้วนเป็นเรื่องหลอกลวง!
เซียวยวี่เองก็รู้ ไม่มีเงิน เซียวจื่อเซวียนจะซื้อตำราโดยติดค้างเงินได้อย่างไร?
“พี่ใหญ่…” เซียวจื่อเซวียนทำคอตก แทบอยากร้องไห้ออกมา
พี่สะใภ้ใหญ่ ข้าควรจะทำเช่นไรกันแน่ขอรับ!
“จื่อเซวียน เจ้าไม่มีทางพูดปด เจ้าบอกข้ามา เหตุใดถึงต้องซื้อตำราโดยติดค้างเงิน? ” เซียวยวี่เอ่ยถามอีกครั้ง
เซียวจื่อเซวียนบุ้ยปาก เงยหน้ามองเซียวยวี่ ดวงตาคู่โตเต็มไปด้วยประกายน้อยเนื้อต่ำใจ “พี่ใหญ่… ข้า ข้าอยากอ่านตำรารวมบทกลอนหวัยอัน แต่ข้าหาไม่พบขอรับ จึง… จึงมาซื้อขอรับ! แต่ข้าไม่มีเงินติดตัว ดังนั้นจึง… จึง…”
เซียวจื่อเซวียนทำสีหน้าน้อยเนื้อต่ำใจ เขารู้สึก… อยากร้องไห้เสียจริง!
“เฮ้อ…” ดูท่าเซียวยวี่จะเชื่อแล้วจริงๆ เขาถอนหายใจทีหนึ่ง “รู้แล้ว กลับไปเถอะ! ”
เซียวจื่อเซวียน “…” นี่พี่ใหญ่ อภัยให้เขาแล้วเช่นนั้นหรือ?
เซียวยวี่รู้สึกอึดอัดใจเล็กน้อย
เซียวจื่อเซวียนเห็นพี่ใหญ่สาวเท้าก้าวใหญ่เดินไปข้างหน้า ประหนึ่งว่าจะไม่สืบสาวเอาความแล้วจริงๆ!
เขาผ่อนลมหายใจยาว ภายในใจรู้สึกผิดเล็กน้อย
เขาโกหกพี่ใหญ่อีกหนแล้ว
พี่สะใภ้ใหญ่นะพี่สะใภ้ใหญ่ เมื่อใดท่านถึงจะบอกพี่ใหญ่ว่าท่านก็คือคุณชายหลัวยวี่!
เซียวจื่อเซวียนไม่มีทางบอก ครั้งก่อนเขารับปากพี่สะใภ้ใหญ่แล้ว หากพี่สะใภ้ใหญ่ไม่ให้บอก ตีให้ตายเขาก็ไม่มีทางบอก
เซี่ยยวี่หลัวไม่รู้เรื่องที่กำลังเกิดขึ้นในห้องหนังสือซานเว่ย นางจงใจรออยู่หลังโต๊ะคิดเงินครู่หนึ่ง ช่วยซ่งฝูตรวจซ้ำอยู่หลายรายการ ไม่เพียงไม่มีความผิดพลาดแม้แต่น้อย แต่ตอนนี้ยังทั้งเร็วและแม่นยำ เซี่ยยวี่หลัวจึงออกไปด้วยความพึงพอใจ
ซ่งฝูจะรั้งให้นางอยู่กินข้าว เซี่ยยวี่หลัวไม่ได้ตอบตกลง นางจะไปแล้ว ซ่งฝูจึงส่งนางไปถึงหน้าประตูใหญ่ด้วยความรู้สึกขอบคุณอย่างล้นเหลือ เมื่อเห็นนางเดินไปจนไม่เห็นแม้แต่เงาแล้ว จึงกลับเข้ามา
มีลูกค้าที่กินอาหารเสร็จแล้วจะมาชำระเงิน เมื่อเห็นฝีมือการดีดลูกคิดของซ่งฝูพัฒนาขึ้นไม่น้อย จึงหัวเราะพร้อมกล่าว “นี่ซ่งฝู ตอนนี้ฝีมือของเจ้าใช้ได้เลย แอบฝึกมากระมัง? ”
ซ่งฝูหัวเราะ แอบฝึกอย่างยากลำบากไปจะมีประโยชน์อะไร “ข้าพบกับอาจารย์ที่เป็นเทพเซียน สอนข้าครั้งเดียวข้าก็ทำเป็นแล้ว! ”
เขากล่าวเป็นเชิงหยอกล้อ คนอื่นก็ฟังเป็นเรื่องล้อเล่น “เช่นนั้นเป็นเทพเซียนชายหรือหญิง? ”
“เทพเซียนหญิง! ” ซ่งฝูกล่าวด้วยท่าทีจริงจัง
คนที่มาชำระเงินหัวเราะดังลั่น “ซ่งฝู เจ้าจะพูดปดก็ไม่พูดให้สมจริงเล่า สตรีมีหรือจะดีดลูกคิดเป็น? ฮ่าฮ่า ข้ามีชีวิตอยู่มานานถึงเพียงนี้ ยังไม่เคยเห็นสตรีที่ดีดลูกคิดเป็นเลย! ”
ซ่งฝูไม่คิดโต้แย้ง เพียงแสดงท่าทางราวกับจะบอกว่าหากเจ้าไม่เชื่อก็ตามใจ
อย่างไรเสีย คนที่สอนเขา ก็เป็นเทพเซียนหญิงจริง ทั้งยังเป็นเทพเซียนหญิงที่มีรูปโฉมงามล่มเมืองด้วย
ความสามารถการคำนวณของซ่งฝูพัฒนาขึ้นเป็นอย่างมาก ภัตตาคารก็มีอาหารใหม่สองสูตร คำบ่นของเหล่าลูกค้าที่มากินอาหารก็ไม่มีแล้ว ยอดขายของเซียนจวีโหลวเที่ยงวันนี้ แทบจะเท่ากับตอนที่ซ่งฉางชิงอยู่
นี่ถือเป็นข่าวดี!
ซ่งฝูคิดบัญชีเสร็จ ก็หอบสมุดบัญชี นำข่าวดีนี้ไปบอกคุณชายที่เรือนตระกูลซ่ง