ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต - เล่มที่ 10 บทที่ 292 เพียงแค่รู้สึกอยากร้องไห้
- Home
- ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต
- เล่มที่ 10 บทที่ 292 เพียงแค่รู้สึกอยากร้องไห้
เซียวจื่อเมิ่งกำลังจะสวมรองเท้า เซียวยวี่หยิบผ้าเช็ดตัวพลางกล่าวเสียงเบา “ข้าเอาไปให้เอง” เขาเพียงแค่ไม่อยากเห็นเซียวจื่อเมิ่งลงจากเตียง ขาทั้งเล็กทั้งสั้นยังต้องสวมรองเท้า กลับจะทำให้คนด้านในรอนานขึ้น
เซียวยวี่หยิบผ้าเช็ดตัวมาถึงหน้าประตูห้องเล็ก
ตอนอยู่บนเตียงยังไม่รู้สึก พอมาถึงหน้าประตูห้องเล็ก ไอน้ำร้อนลอยออกมา ร้อนจนเซียวยวี่รู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งตัว
เซี่ยยวี่หลัวได้ยินเสียงฝีเท้าเดินมา จึงยื่นมือออกมาจากหลังม่านโดยไม่คิดด้วยซ้ำ “ให้ข้า”
นางเพิ่งอาบน้ำเสร็จ แขนขาวผ่องประหนึ่งกระเบื้องเคลือบที่มีหยดน้ำยื่นไปตรงหน้าเซียวยวี่
นิ้วมือเรียวเล็กราวกับต้นหอม อาบน้ำแล้วยิ่งขาวเนียน ปลายนิ้วเป็นสีชมพูอ่อนหลังจากผ่านไอน้ำร้อน เซียวยวี่มองมือนั่น ห้วงความคิดพลันขาวโพลง
“จื่อเมิ่ง ให้ข้า” เซี่ยยวี่หลัวรออยู่ครู่ใหญ่ ไม่เห็นเซียวจื่อเมิ่งส่งผ้าเช็ดตัวให้ จึงเอ่ยถาม “เป็นอะไรไป? ”
เซียวยวี่เกรงว่าเซี่ยยวี่หลัวจะรู้ว่าเขาเป็นคนนำมาให้ จึงรีบสูดลมหายใจยาว นำผ้าเช็ดตัวไปแขวนไว้บนแขนเซี่ยยวี่หลัว เมื่อได้รับผ้าเช็ดตัว เซี่ยยวี่หลัวจึงชักมือกลับ
ผ้าม่านพลิ้วไหวทีหนึ่ง ไอน้ำร้อนระอุภายในลอยออกมา เซียวยวี่ร่างกายแข็งทื่อ หลังจากนั้นก็รีบหันขวับราวกับเห็นผีอย่างไรอย่างนั้น
ใบหน้าที่เมื่อครู่ยังขาวเนียนเหมือนไม่มีอะไร บัดนี้กลับขึ้นสีแดงถึงใบหู ทั้งยังแดงไปถึงด้านหลังใบหู
เซียวจื่อเมิ่งส่งเสียง “เอ๋” คิดจะกล่าวอะไร เซียวยวี่รีบยื่นมือ วางนิ้วชี้ไว้ตรงริมฝีปากส่งเสียงชู่ว์…
คำถามที่กำลังจะหลุดออกมาจึงถูกกลืนกลับไป เซียวจื่อเมิ่งไม่กล่าวอะไรอีก
เซียวยวี่เหมือนคนต้องกระแสไฟก็มิปาน รีบสาวเท้าเดินไปริมเตียงเซียวจื่อเมิ่ง ลูบศีรษะของนาง กล่าวด้วยน้ำเสียงแหบแห้งราวกับคนเป็นหวัด “พักผ่อนดีๆ ”
“พี่…”
เซียวยวี่ออกแรงลูบศีรษะเซียวจื่อเมิ่งทีหนึ่ง เซียวจื่อเมิ่งไม่กล่าวอะไรอีก
เขาเงยหน้ามองผ้าม่านที่ปิดสนิทแวบหนึ่ง จากนั้นจึงรีบออกไปด้วยท่าทางลุกลี้ลุกลน
เซียวจื่อเมิ่งมองดูรูปร่างสูงใหญ่ของพี่ใหญ่เดินจากริมเตียงไปยังประตูด้วยท่าทีสงสัย นางคิดมาตลอดว่าพี่ใหญ่หล่อเหลาจนแม้แต่ท่าเดินยังดูดีเป็นอย่างยิ่ง มาบัดนี้ เซียวจื่อเมิ่งรู้สึกสงสัยเล็กน้อย
นางกัดปลายนิ้วมือ คิดด้วยความฉงน เหตุใดวันนี้ท่าเดินของพี่ใหญ่ถึงดูประหลาดนัก!
เซียวจื่อเมิ่งรู้สึกสงสัยยิ่งนัก นางลุกขึ้นยืนบนเตียงลองเดินเลียนแบบรอบหนึ่ง
เมื่อครู่ตอนพี่ใหญ่เดิน ยื่นมือซ้าย พร้อมก้าวเท้าซ้าย ยื่นมือขวา พร้อมก้าวเท้าขวา…
เซี่ยยวี่หลัวออกมาโดยใช้ผ้าเช็ดตัวโพกเส้นผมที่เปียกโชกไว้ เดินไปพลางเช็ดไปพลาง เห็นเซียวจื่อเมิ่งเดินเหมือนมนุษย์หุ่นยนต์อยู่บนเตียง จึงหัวเราะคิกคักพร้อมเอ่ยถาม “จื่อเมิ่ง ทำไมเจ้าถึงเดินเช่นนี้? ”
เซียวจื่อเมิ่งเดินโดยยื่นมือและเท้าข้างเดียวกันอีกหลายก้าว หัวเราะคิกคักพร้อมกล่าว “พี่สะใภ้ใหญ่ เดินอย่างนี้ดูดีหรือไม่เจ้าคะ? ”
“เจ้าไปเรียนมาจากที่ไหนกัน? ” นี่เป็นวิธีเดินของมนุษย์หุ่นยนต์ นางไม่เคยสอนเซียวจื่อเมิ่งมาก่อน นางรู้ได้อย่างไร?
“เมื่อครู่พี่ใหญ่ก็เดินเช่นนี้เจ้าค่ะ! ”
เซี่ยยวี่หลัวผ่อนลมหายใจยาว “อ่อ เป็นเช่นนี้เอง! ” มิเช่นนั้นนางคงคิดว่ามีคนในยุคปัจจุบันทะลุมิติมาในนิยายอีกคนเสียอีก!
เซียวจื่อเมิ่งเล่นอย่างสนุกสนาน เซี่ยยวี่หลัวไม่คิดห้ามปรามนาง ยิ้มพร้อมเช็ดผมขณะเดินตรงมายังริมเตียง เพิ่งนั่งลง รอยยิ้มตรงมุมปากกระตุกทีหนึ่ง จากนั้นจึงแข็งทื่อ เซี่ยยวี่หลัวรู้สึกว่าจะพบปัญหาหนึ่ง “เจ้าว่าอะไรนะ? เมื่อครู่ใครมา? ”
เซียวจื่อเมิ่งลืมตาคู่กลมโต “พี่ใหญ่เจ้าค่ะ เมื่อครู่พี่ใหญ่มาเจ้าค่ะ”
“เขามาตั้งแต่เมื่อไร? ”
“เขามาตั้งแต่ตอนท่านอาบน้ำเจ้าค่ะ”
เซี่ยยวี่หลัวรู้สึกหายใจติดขัด “อ่อ เขารู้ว่าข้ากำลังอาบน้ำ ก็น่าจะไปทันทีใช่หรือไม่? ”
เซียวจื่อเมิ่งส่ายหน้า “เปล่าเจ้าค่ะ พี่ใหญ่ไม่ได้ไป นำผ้าเช็ดตัวไปให้ท่านแล้วถึงไปเจ้าค่ะ”
มาตอนอาบน้ำ นำผ้าเช็ดตัวให้ท่านแล้วถึงไป
“…” หายใจไม่ออกแล้ว มวลอากาศมหาศาลติดอยู่ตรงหลอดลม นางแทบจะหยุดหายใจทั้งอย่างนั้น
เมื่อครู่นี้ตอนเซี่ยยวี่หลัวอาบน้ำ เพราะกลัวว่าจะร้อน จึงไม่ได้ปิดประตู
เรื่องนี้ยังไม่เท่าไร อย่างไรเสียก็ยังมีผ้าม่าน ผ้าม่านหนามาก ภายในห้องไม่มีลม ยิ่งไปกว่านั้น นางยืนอาบอยู่ข้างๆ ผ้าม่าน ทางนั้นอยู่หลังกำแพง หากไม่เปิดผ้าม่านชะโงกศีรษะเข้าไป ก็จะไม่เห็นอะไรเลย
ทว่า…
เซียวยวี่ส่งผ้าเช็ดตัวให้นางด้วย
นางไม่รู้ว่าคนที่ส่งผ้าเช็ดตัวให้นางคือเซียวยวี่ นางนึกว่าคนที่ส่งผ้าเช็ดตัวให้คือจื่อเมิ่ง ดังนั้นตอนนั้นนางจึงยืนอยู่หลังผ้าม่านและยื่นมือออกมาโดยไม่คิดด้วยซ้ำ
ตอนนั้นเซียวยวี่ยืนอยู่นอกผ้าม่าน หากมุมองศาที่ยืนประจวบเหมาะกับช่องว่างที่นางเลิกผ้าม่านขึ้น เช่นนั้น…
ใบหน้าของเซี่ยยวี่หลัวพลันขึ้นสีแดงราวกับกุ้งที่ถูกต้มจนสุกอย่างไรอย่างนั้น ทั้งแดงทั้งร้อน ร้อนไปถึงด้านหลังใบหู
เซียวจื่อเมิ่งเห็นใบหน้าของพี่สะใภ้ใหญ่ขึ้นสีแดงเหมือนกัน จึงเอ่ยถามด้วยความสงสัย “พี่สะใภ้ใหญ่ ท่านเป็นอะไรไปเจ้าคะ? ทำไมถึงหน้าแดงราวกับผิงโผกั่ว[1]เหมือนพี่ใหญ่เลยเจ้าคะ”
เซี่ยยวี่หลัวกุมขมับ “…”
“พี่สะใภ้ใหญ่ ท่านเป็นอะไรไปเจ้าคะ? ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่าเจ้าคะ? ”
เซี่ยยวี่หลัวส่ายหน้า ก่อนโบกมือ ไม่มีอะไร เพียงแค่อยากร้องไห้
เซียวยวี่กลับห้องตัวเองไปด้วยท่าทางลุกลี้ลุกลน
เขาปิดประตูห้อง รีบพุ่งพรวดไปยังอ่างน้ำ ตักน้ำขึ้นมาล้างหน้าตัวเอง
นี่เป็นน้ำที่เซียวยวี่ตักมาจากโอ่งน้ำในห้องครัวก่อนหน้านี้ ถือว่าเย็นอยู่ แต่ก็ยังไม่เย็นพอ เซียวยวี่รู้สึกว่าใบหน้าตัวเองร้อนจนแทบไหม้
ยังมีหัวใจในช่องอกนั่นอีก เต้นตึกตักตึกตักอย่างรุนแรงจนแทบจะกระโดดออกจากปาก
ในห้วงความคิดปรากฏภาพเหตุการณ์ตอนที่เขายื่นส่งผ้าเช็ดตัวให้เซี่ยยวี่หลัวอีกครั้ง
เขาไม่ได้คิดเรื่องอื่น ตอนนั้นเขาเพียงแค่กลัวว่าเซียวจื่อเมิ่งขาสั้นก้าวช้าจะทำให้เซี่ยยวี่หลัวต้องรอ
นางบอกว่านางร้อนมาก เหงื่อจะออกอีกแล้ว
ดังนั้น เซียวยวี่กลัวว่านางจะร้อนอีก จึงอาสาไปส่งผ้าเช็ดตัวด้วยตัวเอง
เขาไม่ได้คิดเรื่องอื่นจริงๆ
ทว่า ใครใช้ให้เขามีสายตาดี
เวลานั้น ผ้าม่านถูกผ้าเช็ดตัวในมือเซี่ยยวี่หลัวเปิดจนเกิดช่องว่าง เซียวยวี่เห็นอย่างเลือนราง…
ใบหน้าของเขาร้อนผ่าว ร้อนขึ้นเรื่อยๆ ร้อนจนแทบจะลุกไหม้
เซียวยวี่รีบตักน้ำขึ้นมาล้างหน้า แต่น้ำแค่นี้จะเพียงพอได้อย่างไร
“อือ…”
เซียวยวี่จับอ่างน้ำไว้ ยื่นใบหน้าแช่ลงไปในน้ำโดยตรง
เกิดความรู้สึกหายใจไม่ออก เซียวยวี่หลับตาปี๋ อาการหายใจไม่ออกบีบคั้นจนในห้วงความคิดขาวโพลง ไม่อาจคิดอะไรได้อีก
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเพียงใด เซียวยวี่รู้สึกว่าตัวเองใกล้จะขาดอากาศหายใจแล้ว เขาจึงเงยหน้าขึ้น เส้นผมตรงหน้าผากแช่ในน้ำจนเปียกโชก เมื่อเขาเงยหน้าขึ้น หยดน้ำเม็ดโตจึงหยดลงไปในอ่างน้ำอย่างต่อเนื่อง
อ่างน้ำวางอยู่บนชั้นวางของที่ทำจากไม้ หนักแน่นมั่นคง
แต่น้ำในอ่าง กลับถูกหยดน้ำที่หยดลงมาอย่างต่อเนื่อง ตกกระทบจนเกิดลายคลื่นวงแล้ววงเล่า
เหมือนหัวใจของเซียวยวี่ ที่มีคลื่นก่อตัวไม่หยุด
คืนนี้เซียวยวี่อาบน้ำด้วยน้ำเย็นเป็นครั้งแรกในประวัติกาล
เขาเป็นคนที่มีความรับผิดชอบต่อร่างกายของตัวเอง ต่อให้เป็นวันที่อากาศร้อนจัด เขาก็จะอาบน้ำด้วยน้ำอุ่น ไม่เคยอาบน้ำเย็นมาก่อน
แต่คืนนี้ เขาตักน้ำจากโอ่งน้ำในห้องครัว ราดลงบนกายตัวเองถังแล้วถังเล่า แทบอยากให้น้ำเย็นกว่านี้อีกหน่อย
น้ำเย็นเยียบราดไปบนร่างกายที่ร้อนรุ่ม ร่างกายเย็นแล้ว ทว่าหัวใจกลับยังร้อนระอุราวกับเพลิงที่โหมไหม้อย่างรุนแรง เพลิงนั่นโหมไหม้รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ หัวใจของเขาก็ร้อนรุ่มขึ้นเรื่อยๆ
กลางดึก ห้องของเซียวยวี่มีไฟจุดสว่าง ผ่านไปครู่หนึ่งจึงดับไป
———————————————
เชิงอรรถ
[1] ผิงโผกั่ว คือ ผลของต้นไม้ชนิดหนึ่ง มีลักษณะเป็นฝักคล้ายตาหงส์ เปลือกสีแดง เมล็ดสีดำ