ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต - เล่มที่ 11 บทที่ 322 ท่านราชบัณฑิตน้อยฆ่าไก่
ถั่วของบ้านโจวซื่อมีปริมาณใกล้เคียงกับถั่วของบ้านเซียวยวี่ คราวนี้นางคิดจะเก็บเกี่ยวให้หมด ยังดีที่นางตัดสินใจแต่เนิ่นๆ เอ่ยถามเซี่ยยวี่หลัวก่อน มิเช่นนั้นหากรอจนถึงตอนท้าย ย่อมต้องแบ่งขายร่วมกับทุกคน
พอคิดถึงตรงนี้ โจวซื่อก็รู้สึกขอบคุณเซี่ยยวี่หลัวยิ่งขึ้น หลังจากกลับไป ก็ให้เซียวซานจับแม่ไก่แก่ตัวหนึ่ง
ตอนเซี่ยยวี่หลัวเห็นแม่ไก่ ก็ถึงกับตกใจสะดุ้ง
เซียวซานไม่ได้ขยับ เพียงวางแม่ไก่ที่อุ้มไว้ลงบนพื้น แม่ไก่ถูกมัดขาไว้ ได้แต่ขดตัวอยู่บนพื้น ร้องกุ๊กกุ๊กกุ๊กไม่หยุด
“เซียวซาน เจ้าจะทำอะไร? ”
“พี่สะใภ้ใหญ่ ท่านแม่ของข้าได้ยินว่าท่านป่วย จึงให้ข้านำไก่มาให้ท่านบำรุงร่างกายขอรับ” บัดนี้ทั้งสองครอบครัวสนิทสนมกันแล้ว เซียวซานจึงเรียกพี่สะใภ้ใหญ่ตามเซียวจื่อเซวียน
“เจ้ารีบนำกลับไป นำกลับไป! ” เซี่ยยวี่หลัวจะรับไว้ได้อย่างไร
เซียวซานหันตัววิ่งไปทันที
ทิ้งไก่ไว้ในลานบ้าน เมื่อเผชิญกับสภาพแวดล้อมแปลกใหม่และอันตราย มันจึงส่งเสียงร้องไม่หยุด
เซี่ยยวี่หลัวให้เซียวจื่อเซวียนส่งกลับไป
เซียวยวี่ที่อยู่ข้างๆ กลับกล่าว “ในเมื่อเป็นน้ำใจจากท่านป้าโจว เจ้าก็รับไว้เถอะ หากไม่รับไว้ เกรงว่านางจะไม่สบายใจ”
เซี่ยยวี่หลัวไม่มีหนทางอื่น ได้แต่รับไว้
ในเมื่อส่งมาให้นางบำรุงร่างกาย เช่นนั้นก็…
เซี่ยยวี่หลัวมองดูแม่ไก่แก่ที่ทั้งตัวใหญ่และอวบอ้วน หัวเราะทีหนึ่ง “ถ้าอย่างไรคืนนี้ดื่มน้ำแกงไก่ กินไก่ตุ๋นน้ำแดงกัน? ”
เซียวยวี่หัวเราะ แววตาอ่อนโยนจนแทบจะมีน้ำหยดออกมา “ได้”
ล้วนตามใจเจ้า!
เรื่องฆ่าไก่ย่อมตกเป็นหน้าที่ของเซียวยวี่
เซี่ยยวี่หลัวไม่กล้าฆ่า เด็กสองคนมีแรงไม่พอและจับไก่ไว้ไม่อยู่ เซียวยวี่หิ้วไก่ไปยังสวนหลังบ้าน เซี่ยยวี่หลัวอยู่ในห้องโถงเห็นเซียวยวี่ใช้มือหนึ่งจับไก่ อีกมือหนึ่งถือมีด ให้ความรู้สึกประหนึ่งบทกลอน ‘สายลมโบกพัดลำน้ำยี่เย็นยะเยือก ผู้กล้าจากไปไม่หวนคืน[1]’
แน่นอนว่าหมายถึงไก่ตัวนั้น!
เซียวยวี่ไม่เคยฆ่าไก่มาก่อน เซี่ยยวี่หลัวก็ไม่เคยฆ่า แต่เคยเห็น
จึงบอกวิธีให้เขาสองวิธี
วิธีแรกคือจับปีกไก่ไว้ กดหัวไก่ ถอนขนตรงรอบคอออก ง้างมีดสับลงไป ปล่อยให้เลือดไหลจนไก่สิ้นลม
อีกวิธีหนึ่ง คือบีบคอไก่ไว้ ให้มันสิ้นลมเพราะขาดอากาศ
ทั้งสองวิธีล้วนแต่ทารุณเป็นอย่างยิ่ง เดิมทีเซียวยวี่คิดจะไม่เลือกแม้แต่วิธีเดียว แต่ก็คิดหาวิธีอื่นที่ดีกว่านี้ไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้น ภรรยาจะกินไก่ อย่าว่าแต่ฆ่าไก่เลย ต่อให้บอกให้เขาไปเป็นไก่ตัวหนึ่ง เขาก็ยินดีจะทำเพื่อเซี่ยยวี่หลัว
เขาเลือกวิธีเชือดคอ
มือซ้ายจับปีกไก่ กดคอไก่ไว้ มือขวาถอนขนตรงคอออก ไก่ดิ้นรนอย่างรุนแรงระหว่างที่ถูกจับ เซียวยวี่กัดฟันทีหนึ่ง หลังจากถอนขนออกจึงหยิบมีดหั่นผักที่ลับจนคมขึ้นมา กัดฟันปิดตา ใช้มีดเชือดคอไก่ทันที
ไก่ยังคงดิ้นรนอย่างทุรนทุราย เซียวยวี่กดไว้แน่น ไม่กล้าขยับแม้แต่น้อย กรงเล็บไก่อันแหลมคมข่วนจนผิวหนังบนมือเขาเกิดรอยแผล แต่เขายังคงกัดฟันทน ไม่ยอมปล่อยมือ
เซี่ยยวี่หลัวมองจากระยะไกล แอบทอดถอนใจ ท่านราชบัณฑิตน้อยฆ่าไก่เชียว ให้ความรู้สึกเหมือนใช้มีดเชือดวัวมาเชือดไก่จริงๆ!
ไก่ดิ้นรนอยู่ครู่ใหญ่ ในที่สุดก็แน่นิ่ง
เซียวยวี่เพิ่งลืมตา ภายในชามมีเลือดไหลออกมากว่าครึ่งชาม เพราะดิ้นรนอย่างรุนแรง ภายในชามมีขนไก่อยู่หลายเส้น เขานำออกมาอย่างระมัดระวัง มือหนึ่งจับไก่ อีกมือหนึ่งถือเลือดไก่กลับมา
ต้มน้ำจนเดือดแล้ว
เซี่ยยวี่หลัวเตรียมอ่างไม้ไว้ใบหนึ่ง เซียวยวี่ใส่หัวไก่เข้าไปใต้ปีก ใส่ไว้ในอ่างไม้ เซี่ยยวี่หลัวหยิบหินใหญ่ก้อนหนึ่งมาวางกดไว้บนตัวไก่ จากนั้นจึงตักน้ำร้อนที่ร้อนจนเดือดมาหนึ่งอ่าง กำลังจะเทลงไปในอ่างไม้
เซียวยวี่รับมา ให้นางถอยหลัง “ข้าทำเอง”
เขาเคยเห็นว่าไก่ที่ถูกฆ่าแล้วยังสามารถขยับได้ เขาไม่รู้ว่าไก่ตัวนี้จะเคลื่อนไหวอีกหรือไม่ หากน้ำเดือดกระเด็นออกมา ลวกจนเซี่ยยวี่หลัวบาดเจ็บจะทำเช่นไร
เซี่ยยวี่หลัวรีบถอยหลัง เมื่อเห็นเซี่ยยวี่หลัวและเด็กๆ ถอยไปอยู่ในสถานที่ปลอดภัยแล้ว เซียวยวี่จึงเทน้ำเดือดลงไปในอ่างไม้
ไก่ยังไม่ตายสนิท น้ำลวกจนมันดิ้นรนอยู่ในอ่างหลายที น้ำที่ร้อนจนเดือดกระเด็นออกมา กระเด็นใส่ผิวของเซียวยวี่ที่อยู่นอกเสื้อ เขาไม่ส่งเสียงโอดโอยแม้แต่น้อย เพียงรู้สึกหวาดหวั่นอยู่ในใจ ยังดีที่ให้นางหลบไป ไม่อย่างนั้นน้ำที่เดือดขนาดนี้กระเด็นใส่ตัวนาง แค่คิดดู ก็รู้สึกปวดใจแล้ว
ไก่ดิ้นรนอยู่อีกหลายที ก่อนจะนอนแน่นิ่ง คราวนี้ตายสนิทแล้ว
ผ่านไปอีกครู่หนึ่ง เซียวยวี่ยกหินก้อนใหญ่ออก เพียงถอนเบาๆ ขนบนตัวไก่ก็ถูกถอนออกมาอย่างง่ายดาย ลวกเสร็จแล้ว สามารถถอนขนได้
เรื่องอย่างการถอนขนไก่ พวกเขาเพิ่งเคยทำครั้งแรก เซียวจื่อเซวียนและเซียวจื่อเมิ่งจับคนละหนึ่งเส้น ถอนขนไก่ออก
เซี่ยยวี่หลัวก็รู้สึกตื่นเต้นเสียยิ่งกว่าอะไร ช่วยกันถอนขนไก่
ในยุคปัจจุบันหากจะกินไก่ ล้วนแต่ไปซื้อในตลาด ชอบตัวไหนก็จะมีคนฆ่าตัวนั้นให้ ขนก็ถอนจนสะอาด แม้แต่เครื่องในก็ล้างจนสะอาด นางไม่จำเป็นต้องลงมือทำเอง
ทว่า ไม่ให้เซี่ยยวี่หลัวลงมือทำไม่ได้หมายความว่านางจะทำไม่เป็น
ต้องรู้ว่า เครื่องในไก่ผัดพริก นั่นเป็นอาหารโอชารสที่ทำให้กัดลิ้นได้เลย แค่คิดดู น้ำลายก็แทบจะไหลออกมาแล้ว
เซียวยวี่เห็นเซี่ยยวี่หลัวกลืนน้ำลายอึกหนึ่ง จึงตวัดมุมปากขึ้นเล็กน้อย ไม่ว่าจะเป็นแผลที่ถูกข่วน หรือโดนลวก ในเสี้ยววินาทีนี้ล้วนคุ้มค่าแล้ว
ขอเพียงนางชอบก็พอ
จู่ๆ ก็อารมณ์ดีเป็นอย่างยิ่ง ไม่นานไก่ก็ถูกถอนขนจนสะอาด ทุกคนไปยังสวนหลังบ้าน เริ่มผ่าตัวไก่ออก ทั้งไส้ไก่ กึ๋นไก่ หัวใจไก่ ตับไก่ ล้วนแต่เป็นอาหารดี เครื่องในไก่ผัดพริก เซี่ยยวี่หลัวกลืนน้ำลายอีกหนึ่งครั้ง
เซียวยวี่เฝ้ามองสีหน้าของเซี่ยยวี่หลัวอยู่ตลอด รู้สึกว่าดูน่าขันเป็นพิเศษ เมื่อผ่าท้องไก่ออก เซียวยวี่นำเครื่องในออกมาทั้งหมด บนมือเต็มไปด้วยเลือด
เซี่ยยวี่หลัวก็ไม่คิดรังเกียจ ยื่นมือไปเพื่อรับ
เซียวยวี่ไม่กล้าทำให้มือของนางสกปรก จึงเบี่ยงมือหลบออกด้านข้างเล็กน้อย ของสกปรกถึงเพียงนี้ จะให้นางนำไปทิ้งได้อย่างไร
“เจ้าอย่าทำมือเลอะ ข้าไปทิ้งเอง” เซียวยวี่กล่าว
“ทิ้งหรือ? ” เซี่ยยวี่หลัวแทบไม่อยากเชื่อสิ่งที่ตัวเองได้ยิน “เจ้าจะทิ้งของเหล่านี้? ”
“อืม ใช่” เซียวยวี่เห็นเซี่ยยวี่หลัวทำท่าทางราวกับไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง จึงรู้สึกสงสัยเล็กน้อย “มีปัญหาอะไรหรือ? ”
“มีปัญหาแน่นอน นี่เป็นอาหารโอชารส เจ้าจะทิ้งได้อย่างไร! ” เซี่ยยวี่หลัวทำท่าทางราวกับจะกล่าวว่าเจ้าช่างไม่รู้จักอาหารโอชารสเอาเสียเลย ด้วยเกรงว่าเซียวยวี่จะขนลุกจนทิ้งไป จึงรีบรับมาจากมือเขา แยกไส้ไก่ กึ๋นไก่ และตับไก่ออก “เย็นนี้ข้าจะใช้เจ้านี่ทำอาหารชนิดหนึ่งให้เจ้า รับรองว่าเจ้ากินแล้วยังอยากกินอีก”
ให้เขา?
ทำให้เขากินโดยเฉพาะเช่นนั้นหรือ?
เซียวยวี่ไหวคิ้วคมเข้ม เต็มไปด้วยประกายยิ้มแย้ม “ได้”
นางบอกว่าอร่อย เช่นนั้นต้องอร่อยเป็นพิเศษแน่ ที่สำคัญคือ นี่เป็นอาหารใหม่ที่นางจะทำ และทำให้เขากินโดยเฉพาะ
ภายในใจเซียวยวี่รู้สึกหวานละมุนราวกับได้กินน้ำผึ้งอย่างไรอย่างนั้น
————————
เชิงอรรถ
[1] สายลมโบกพัดลำน้ำยี่เย็นยะเยือก ผู้กล้าจากไปไม่หวนคืน คือเพลงกลอน ลำน้ำยี่ กล่าวถึงผู้กล้านามจิงเคอที่ไปลอบสังหารฉินอ๋องก่อนจะได้เป็นฉินซีฮ่องเต้ ถึงแม้ภารกิจลอบสังหารจะล้มเหลว แต่นามของเขาก็เลื่องชื่อไปทั่วหล้า