ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต - เล่มที่ 11 บทที่ 324 ปกป้องสามีอย่างห้าวหาญ
“ท่านลองดูว่าจะรับเพิ่มอีกหน่อยได้หรือไม่ ข้าต้องการสามร้อยจิน จะมารับทุกวัน” ซ่งฝูกล่าว
เซี่ยยวี่หลัวตอบตกลงโดยไม่คิดด้วยซ้ำ “ได้ สามร้อยจินก็สามร้อยจิน ต้องมีแน่นอน”
“ฮูหยินเซียวทำงาน ข้าน้อยย่อมวางใจ เช่นนั้นพรุ่งนี้พบกันขอรับ” ถั่วแระนี่ต้องตัดปลายทั้งสองด้านออกอีก เพื่อการนี้เซียนจวีโหลวจึงจ้างหญิงชาวบ้านมาเพิ่มอีกสองคนเพื่อตัดถั่วแระโดยเฉพาะ
เรื่องเหล่านี้ล้วนเป็นเรื่องเล็ก ประเด็นสำคัญที่สุดคือ กิจการของเซียนจวีโหลวรุ่งเรืองขึ้นอีกขั้น คุณชายลองคำนวณดูแล้ว ผลกำไรเดือนหกจะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว
ช่างน่ายินดียิ่งนัก
มองส่งรถม้าของซ่งฝูไปไกลแล้ว โจวซื่อถือเงินหนึ่งตำลึงไว้ ดีใจเสียยิ่งกว่าอะไร จับมือเซี่ยยวี่หลัวไม่ยอมปล่อย “อาหลัว ขอบคุณเจ้ามาก ต้องขอบคุณเจ้าจริงๆ” หากรออีกครึ่งเดือน รอให้ถั่วแระสุก ตากแห้งแล้วขายให้ช่างทำเต้าหู้ ยังขายไม่ได้เงินมากขนาดนี้เลย
นำถั่วไปตากและแกะฝักออกล้วนต้องใช้เวลา ทั้งยังต้องดูสภาพอากาศ หากเป็นวันฟ้าโปร่ง ถ้าไม่ใช้เวลาสักสิบวันหรือครึ่งเดือน ถั่วก็คงไม่แห้ง แต่คราวนี้ใช้เวลาแค่สองวันก็ทำงานเสร็จแล้ว นอกจากนั้น ยังได้เงินมากกว่าขายถั่วเหลือง ไม่ต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจเท่าตอนขายถั่วเหลืองด้วย
โจวซื่อรู้สึกตื้นตันยิ่งนัก
เซี่ยยวี่หลัว “ท่านป้า ข้าต่างหากที่ต้องขอบคุณท่าน แม่ไก่ที่ท่านส่งไปให้ทั้งเหลืองทั้งหอม ที่บ้านท่านยังมีอีกหรือไม่? อีกสองวันข้าจะซื้อแม่ไก่จากท่านหนึ่งตัว”
“มีมีมี ที่บ้านข้ายังมีแม่ไก่อีกสิบกว่าตัว! ” โจวซื่อรีบกล่าว
“พอดีเลย คนที่บ้านข้าล้วนชอบกินเนื้อไก่ อีกไม่กี่วันข้าจะมาจับ คิดราคาเท่าในตัวเมือง” เซี่ยยวี่หลัวยิ้มพร้อมกล่าว
ตอนบอกว่าคนที่บ้านชอบกินเนื้อไก่ เซี่ยยวี่หลัวจงใจมองเซียวยวี่แวบหนึ่ง
เมื่อคืนเด็กสองคนกินไก่ตุ๋นน้ำแดงจนเหลืออยู่ห้าถึงหกชิ้น ทุกคนตักน้ำแกงคลุกข้าวครึ่งชามกินจนหมด เซียวยวี่ก็เช่นกัน กินเครื่องในไก่ผัดพริกจนไม่เหลือน้ำแกงแม้แต่หยดเดียว ไก่ตุ๋นน้ำแดงที่เหลือก็ถูกเขากินจนเกลี้ยง หากไม่ใช่เพราะกินไม่ลงแล้วจริงๆ เขาก็คิดจะกินน้ำแกงไก่ให้หมดด้วย
เซียวยวี่ชอบกินเป็นพิเศษจริงๆ!
เซี่ยยวี่หลัวหรี่ตาเล็กน้อย ยิ้มอย่างอ่อนหวาน เซียวยวี่เม้มริมฝีปาก ภายในใจมีความสุขยิ่งนัก
โจวซื่อยิ้มพลางพยักหน้า “ได้ ข้าจะจับตัวที่ดีที่สุดให้เจ้า”
เซี่ยยวี่หลัวและเซียวยวี่กล่าวอำลาโจวซื่อ ก่อนจะบอกทุกคนเรื่องรับซื้อถั่วแระ
เมื่อครู่รถม้าของซ่งฝูมา มีคนตามมาด้วยไม่น้อย เห็นโจวซื่อขายได้ราคาหนึ่งตำลึง ทุกคนต่างแสดงความจำนงว่าจะขาย
คนที่ก่อนหน้านี้ว่าเซียวยวี่ไม่รู้หลักการทำเกษตรต่างก็ขอขมาเซียวยวี่ด้วยอาการหน้าแดง “เซียวยวี่ ขอโทษด้วย ก่อนหน้านี้ข้ามีตาหามีแววไม่ ไม่รู้ว่าเจ้ามีความคิดเช่นนี้ ข้ามันปากพล่อย พูดไปอย่างนั้น เจ้าอย่าได้เก็บไปใส่ใจเชียว! ”
ถึงแม้บอกว่าเป็นการขอขมา แต่ล้วนเป็นเพราะกลัวว่าก่อนหน้านี้ตัวเองกล่าววาจาล่วงเกินเซียวยวี่ กลัวว่าเซียวยวี่จะไม่รับซื้อถั่วแระของพวกเขา จะเป็นอุปสรรคต่อการหาเงินของพวกเขา จึงมาขอขมาเท่านั้น
ส่วนความจริงใจนั้น กลับไม่เห็นว่าจะมีสักเท่าไร
เซี่ยยวี่หลัวมองดูคนเหล่านั้น มีหลายคนที่ใบหน้าฉายประกายดูแคลน ไม่เห็นเซียวยวี่อยู่ในสายตาแม้แต่น้อย
เซียวยวี่ขมวดคิ้วเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าดูออกแล้วเช่นกัน คนเหล่านี้ปากกล่าวคำขอขมา ความจริงในใจไม่ได้มีความจริงใจแม้แต่น้อย
ดูท่า คนที่คิดว่าการร่ำเรียนเป็นสิ่งไร้ค่า ก็มีมานับแต่โบราณเช่นกัน
“หึ…” เซี่ยยวี่หลัวแย้มรอยยิ้ม มองตรงไปทางกลุ่มคนที่ก่อนหน้านี้เคยเยาะเย้ยถากถางเซียวยวี่ “หากทุกท่านขอขมาจากใจจริง อายวี่ของข้าย่อมรับคำขอขมา กลัวแต่ว่าบางคนจะพูดแต่ปาก ภายในใจยังคงคิดว่าการร่ำเรียนเป็นสิ่งไร้ค่า เช่นนั้นถึงจะเรียกว่าวิสัยทัศน์ตื้นเขิน! ”
เซี่ยยวี่หลัวไม่ไว้หน้าแม้แต่น้อย ชี้คนที่ก่อนหน้านี้พูดจาเหน็บแนม “พวกท่านรู้แค่ว่าพอถั่วสุกแล้วสามารถขายแลกเงินได้ บิดาของพวกท่าน ตัวพวกท่านเอง รวมถึงบุตรของพวกท่าน จากรุ่นสู่รุ่น ก็มีความรู้เพียงแค่นี้ ต่อให้ผู้อื่นมีความคิดต่างกัน พวกท่านก็ยังคิดว่าคนอื่นไม่มีความรู้แต่แสร้งทำเป็นรู้ อายวี่ของข้าทำการเกษตรไม่เป็น และไม่รู้ช่วงเวลาเก็บเกี่ยว แต่เขาอ่านตำรามามาก ตำราที่เขาอ่าน ผ่านเวลานับเดือนนับปี แปรเปลี่ยนเป็นความรู้ในหัวของเขา ความรู้เหล่านั้นสามารถสอนเขาว่าควรทำเช่นไร ทั้งยังทำได้ดีกว่าพวกท่าน! นี่คือพลังของความรู้! ”
คนมีความรู้และคนไม่มีความรู้นั้นแตกต่างกัน
เป็นเช่นนี้มานับแต่ยุคสมัยโบราณ คนมากมายล้วนกล่าวว่าการร่ำเรียนนั้นไร้ประโยชน์ ทั้งยังมีคนกล่าวว่า เจ้าเรียนมากไปจะมีประโยชน์อะไร นักศึกษาชั้นนำจากมหาวิทยาลัยปักกิ่งยังมาขายเนื้อหมูเลย!
ถูกต้อง คนขายเนื้อหมูนั้นมีนับล้านคน แต่คนที่สามารถขายเนื้อหมูในนามบริษัทจดทะเบียน ขายจนมีมูลค่านับร้อยล้าน ก็มีเพียงคนเดียวไม่ใช่หรือ?
หนึ่งในคนนับล้าน นี่คือพลังของความรู้
เซี่ยยวี่หลัวว่ากล่าวจนคนเหล่านั้นใบหน้าแดงก่ำด้วยความอับอาย แต่ละคนที่เมื่อครู่เอ่ยคำขอขมาอย่างฝืนใจ บัดนี้โดนเซี่ยยวี่หลัวมองอย่างทะลุปรุโปร่ง ต่างก็ก้มหน้าลงด้วยความอาย
ไม่จำเป็นต้องคิด พวกเขาก็รู้ว่าเซี่ยยวี่หลัวกล่าวได้ไม่ผิดเลย
หากไม่ใช่เพราะเซียวยวี่ เรื่องที่สามารถขายถั่วแระได้ ใครเล่าจะรู้!
ต่อให้เซียวยวี่มาปลูกพืชทำไร่ไถนา ในสมองของเขามีความรู้ ก็สามารถปลูกได้ดีกว่าพวกเขา
เซียวยวี่มองเซี่ยยวี่หลัวเงียบๆ มองดูนางยืนอยู่ตรงหน้าเขา ว่ากล่าวคนที่ก่อนหน้านี้เคยเยาะเย้ยถากถางเขา
ความรู้คือพลัง นางบอกว่า เพราะเขาอ่านตำรา ต่อให้ปลูกพืชก็ทำได้ดีกว่าคนอื่นๆ!
กระแสไออุ่นเคลื่อนผ่านกลางใจเซียวยวี่ หัวใจอ่อนระทวย
นางเชื่อในตัวเขา!
ชาวบ้านบางคนมองดูเซียวยวี่ ก่อนหันมองเซี่ยยวี่หลัว แต่ละคนรู้สึกสั่นสะท้านกับวาจาของเซี่ยยวี่หลัว
ถูกต้อง คนที่เคยร่ำเรียนมีทางเลือกมากมาย ต่อให้ไม่รับราชการเป็นขุนนาง ก็ยังสามารถเป็นอาจารย์สอนหนังสือ หรือเป็นนายบัญชี อย่างไรก็ดีกว่าพวกเขาที่ไม่เคยร่ำเรียนมาก่อน ได้แต่ปลูกพืชผล หาเลี้ยงชีพโดยอาศัยแรงกายเพียงอย่างเดียว
เมื่อร่ำเรียนก็มีทางเลือกมากขึ้น
นี่คือความแตกต่างระหว่างคนที่เคยร่ำเรียนและคนที่ไม่เคยร่ำเรียน
เพราะเซียนจวีโหลวต้องการถั่วแระสามร้อยจิน เซี่ยยวี่หลัวจดบันทึกชื่อของชาวบ้านที่ต้องการขายถั่วแระไว้ มีทั้งหมดยี่สิบครัวเรือนพอดี แบ่งเป็นครัวเรือนละสิบห้าจิน เช้าวันรุ่งขึ้นให้นำมาส่ง
ถั่วแระสิบห้าจินไม่ใช่เรื่องยาก ทุกคนล้วนตอบตกลง
เซี่ยยวี่หลัวไม่ลืมที่จะเตือนพวกเขา “ข้าต้องการถั่วแระอย่างดี ถั่วที่แห้ง แบน มีรูหนอนไช หรือเน่าเสีย รบกวนทิ้งให้หมด พวกเราจะทำการค้าระยะยาว เซียนจวีโหลวบอกไว้แล้ว ขอเพียงที่พวกเรามี เขาก็จะไม่รับซื้อของคนอื่น พวกเราต้องตั้งใจทำงาน อย่าให้คนของเซียนจวีโหลวกล่าวว่าคนหมู่บ้านสกุลเซียวขายของไม่ดีเอาได้”
ถั่วแระเหล่านี้ หลังจากส่งไปแล้วจะมีคนตัดส่วนปลายออกทีละฝัก ฝักที่แห้งแบน มีรูหนอนไช และเน่าเสีย อีกฝ่ายมองแวบเดียวก็ดูออก หากมีของเสียมากเกินไป จะทำให้คนของเซียนจวีโหลวคิดว่าคนหมู่บ้านสกุลเซียวไม่ทำการค้าอย่างซื่อสัตย์ เช่นนี้ต่อไปเซี่ยยวี่หลัวคงไม่มีหน้าจะไปอีก
ชาวบ้านได้ฟังดังนั้นต่างบอกว่าจะระมัดระวังแล้วจึงจากไป
เซียวยวี่มองเซี่ยยวี่หลัวอย่างชื่นชม ไม่ว่าจะทำการค้า หรือการวางตัว นางล้วนทำได้อย่างสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ