ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต - เล่มที่ 11 บทที่ 326 หมู่บ้านสกุลเซียวมีปีศาจ
ซินแสสวี่เป็นหมอผีชื่อดังที่สุดในเมืองโยวหลัน หรือเรียกได้ว่าชื่อดังที่สุดในอำเภอกว่างชาง นางไม่เพียงแต่ทำนายเหตุการณ์ได้อย่างแม่นยำ ทั้งยังสามารถเสริมดวงเลี่ยงอันตราย เสริมโชคหลีกหนีจากหายนะ ทั้งยังจับภูตผีปีศาจ ขอเพียงเป็นคนที่ไปหา ล้วนสมปรารถนา ทุกคนล้วนบอกว่าซินแสสวี่เก่งกาจยิ่งนัก
บัดนี้นางมาจับภูตผีปีศาจที่หมู่บ้านสกุลเซียวในวันอากาศร้อนจัด ย่อมต้องเป็นเพราะเห็นว่าหมู่บ้านสกุลเซียวกำลังจะมีเหตุหายนะ จึงมาช่วยคลี่คลายโดยเฉพาะ อีกฝ่ายไม่รับเงิน บุคคลที่ปกติไม่อาจพบเห็น ทั้งยังไม่มีกำลังจะเชิญได้ มิน่าล่ะทุกคนถึงมุ่งหน้าไปยังศาลบรรพชน
“ซินแสสวี่? ” พวกต้มตุ๋นหรือ?
เซียวยวี่ที่อยู่ข้างๆ กล่าว “นางเป็นหมอผี ทุกคนต่างบอกว่านางทำนายเหตุการณ์ได้อย่างแม่นยำ สามารถรู้อดีตเห็นอนาคต”
นี่เป็นสิ่งที่เซียวยวี่ได้ฟังมา รายละเอียดเป็นเช่นไรเขาเองก็ไม่รู้
เซี่ยยวี่หลัวผงะไป รู้อดีตเห็นอนาคต? เก่งกาจถึงเพียงนี้เชียว? เช่นนั้นจะรู้ว่านางเป็นคนจากอนาคตหรือไม่?
เหมือนจะสัมผัสได้ว่าเซี่ยยวี่หลัวกำลังกลัว เซียวยวี่กล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “ไม่ต้องห่วง มีข้าอยู่! ”
เซี่ยยวี่หลัวเงยหน้าขึ้นยิ้มให้เซียวยวี่ ยิ้มพร้อมกล่าวว่าเข้าใจแล้ว
ก็แค่พวกต้มตุ๋น นางไม่เชื่ออยู่แล้ว
หยิบหมวกมาใส่ ทั้งสี่คนมุ่งหน้าไปยังศาลบรรพชน
นอกศาลบรรพชนมีคนมุงล้อมอย่างแออัด ทุกคนล้วนตากแดดอยู่ข้างนอก
“ทำไมถึงยืนอยู่ข้างนอก ทำไมไม่เข้าไป? ” เซียวจื่อเซวียนเอ่ยถามด้วยความสงสัย “อากาศร้อนขนาดนี้ ยืนอยู่ข้างนอกคงได้ร้อนตาย”
“ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน! ” เซียวซานก็กล่าวด้วยความสงสัย
ดวงตาของซินแสสวี่ที่หลับตามาตลอดจู่ๆ ก็ลืมตา จ้องมองเซี่ยยวี่หลัวที่มาทีหลัง
ดวงตาขุ่นมัว กลับเต็มไปด้วยประกายปราดเปรื่อง
สายตานั่นแฝงเร้นด้วยเจตนาจับผิดอย่างจงใจ เซี่ยยวี่หลัวผงะไป เกิดความกลัวเล็กน้อยว่านางจะเห็นฐานะที่แท้จริงของตัวเอง
อย่างไรเสีย นางก็เป็นเซี่ยยวี่หลัวที่มาจากอนาคต ไม่ใช่เซี่ยยวี่หลัวในยุคสมัยนี้
ยึดครองร่างกายคนอื่น วิญญาณกลับแตกต่างกัน ไม่รู้ว่าหมอผีผู้นี้จะดูออกหรือไม่
ชาวบ้านที่มุงอยู่เห็นซินแสสวี่จ้องมองมา ต่างก็หันมองตาม จวบจนพบว่าสายตาของซินแสสวี่กำลังจ้องมองไปที่ตัวเซี่ยยวี่หลัว
เซียวจิ้งยี่เพิ่งกลับมา เห็นท่าทางของซินแสสวี่ ก็ขมวดคิ้วมุ่น
ความนัยที่จะสื่อค่อนข้างชัดเจนมากทีเดียว
ที่ไหนได้ หลังจากซินแสสวี่มองครู่หนึ่งก็เก็บคืนสายตา หลับตาแตะปลายนิ้วทำนายอีกครู่หนึ่ง ก่อนจะลืมตาขึ้น ท่าทางวิตกกังวล “หัวหน้าหมู่บ้านสกุลเซียว ข้าเฝ้าดูปรากฏการณ์บนท้องฟ้ายามค่ำคืน พบว่าหมู่บ้านสกุลเซียวมีเมฆดำปกคลุม นอกจากนั้นพลังปีศาจตัวนี้เพิ่มทวีขึ้นทุกวัน จะมีหายนะมาเยือน! ”
“หายนะ? ” เซียวจิ้งยี่ได้ฟังก็รีบกล่าว “หมู่บ้านสกุลเซียวของข้าไม่เคยมีเหตุหายนะใดๆ! ”
“หัวหน้าหมู่บ้าน นี่ยังไม่มีเหตุหายนะอีกหรือ? ต้องมีเหตุหายนะอีกมากเท่าไร? ” จู่ๆ ก็มีเสียงตะโกนราวคนเสียสติดังมาจากในกลุ่มคน หลัวไห่ฮวาแผดเสียงตะโกน “สิบกว่าปีที่ผ่านมาหมู่บ้านของเราไม่เคยมีพวกค้ามนุษย์ ทำไมปีนี้ถึงมีได้? หากไม่ใช่เพราะผีสางอาละวาด พวกค้ามนุษย์จะมาที่หมู่บ้านของเราได้อย่างไร? หมู่บ้านของเรามีภูตผีปีศาจ มีภูตผีปีศาจ! ”
เซี่ยยวี่หลัวแทบจะหัวเราะออกมา
คนที่เมื่อครู่ไปหาถึงบ้านเพื่อขอบคุณนาง พริบตาเดียวก็บอกว่าบนโลกนี้มีภูตผี
ไม่รู้ว่ามีภูตผีจริง หรือว่าในใจคิดเรื่องชั่วร้ายกันแน่!
เซียวจิ้งยี่ถลึงตาใส่หลัวไห่ฮวา ได้แต่รู้สึกจนใจกับเสียงตะโกนของนาง คิดอยากอธิบายว่าหมู่บ้านอื่นล้วนมีพวกค้ามนุษย์ คงไม่ใช่ว่าทุกหมู่บ้านล้วนมีภูตผีปีศาจกระมัง แต่ตอนนี้ซินแสสวี่ยังอยู่ เซียวจิ้งยี่ได้แต่เอ่ยถามด้วยความเคารพ “ซินแสมีวิธีแก้ไขหรือไม่? ”
คนในยุคสมัยโบราณ เคารพนับถือหมอผีหรือพวกต้มตุ๋นเป็นอย่างมาก รู้สึกว่าบางครั้งยืนตรงนั้นโดยไม่กล่าวอะไร คนเหล่านั้นก็รู้ว่าตัวเองกำลังคิดอะไรอยู่ ความจริงนั่นเป็นเพียงคำตอบคลุมเครือ แต่ชาวบ้านเหล่านี้กลับคิดว่าเป็นเพราะซินแสมีพลังกล้าแกร่ง สามารถรู้อดีตเห็นอนาคต
มิเช่นนั้น ซินแสสวี่ผู้นี้คงไม่เป็นที่เคารพนับถือของทุกคน
“วิธีนั้นย่อมมี มิเช่นนั้นวันนี้ข้าคงไม่มา ปีศาจร้ายที่ก่อกรรมทำชั่วบัดนี้ยังไม่มีพลังกล้าแกร่งพอ ข้าจะจัดการนางเสียแต่เนิ่นๆ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุไม่คาดฝัน” สายตาของซินแสสวี่มองทอดไปที่ตัวเซี่ยยวี่หลัวอีกครั้ง ประกายโหดเหี้ยมในแววตา ทำให้รู้สึกหนาวสันหลังวาบ
เซียวยวี่เหมือนจะสังเกตเห็นแววตาที่แฝงเร้นเจตนาไม่ดีนั่น เขายืนอยู่ตรงหน้าเซี่ยยวี่หลัว ขวางสายตาของซินแสสวี่ที่จ้องมองอย่างพินิจ
เซียวหมิงจูที่อยู่ในกลุ่มคนเห็นท่าทางของเซียวยวี่ ก็กัดริมฝีปากแดงไว้แน่น แทบจะกัดจนเลือดไหลออกมา
เซียวหยวนที่อยู่ข้างๆ มองแล้วมองอีก เอื้อมมือไปจับมือเซียวหมิงจู วาดอะไรบางอย่างบนฝ่ามือนาง จากนั้นจึงขยับไปข้างหูเซียวหมิงจู กล่าวด้วยระดับเสียงที่มีแต่พวกเขาสองคนถึงจะได้ยิน “หมิงจู อย่าโมโห สิ่งที่เจ้าอยากได้ล้วนต้องเป็นของเจ้า! ”
ทั้งสองคนอยู่ใกล้กันมาก แม้แต่ตอนพูดคุยก็มีกลิ่นอายใกล้ชิดสนิทสนม เมื่อชาวบ้านคนอื่นๆ เห็น ต่างก็มั่นใจในความสัมพันธ์ของทั้งสองคน
หากไม่ใช่เพราะมีใจให้กัน ใครเล่าจะพูดคุยกันอย่างใกล้ชิดสนิทสนมเช่นนี้ อย่าว่าแต่เซียวหยวนจะไม่ทำเช่นนั้น เซียวหมิงจูเองก็คงไม่ยอม!
ดูท่า เซียวหมิงจูคงตัดใจจากเซียวยวี่ได้แล้ว
ตัดใจถึงจะถูกต้อง อีกฝ่ายมีภรรยาแล้ว!
หลังจากซินแสสวี่สบเข้ากับสายตาของเซียวยวี่ มองจากศีรษะจรดปลายเท้าอย่างพินิจ ดวงตาขุ่นมัวกลับฉายประกายหวาดกลัว รีบเก็บคืนสายตาทันที
เซียวจิ้งยี่รีบกล่าว “ในเมื่อซินแสหาหนทางช่วยหมู่บ้านสกุลเซียวของข้าพบแล้ว ขอเชิญซินแสสวี่ทำพิธี เสร็จแล้วย่อมมีผลตอบแทนอย่างงาม”
ซินแสสวี่ส่ายหน้า “ผลตอบแทนนั้นไม่จำเป็น เพียงแค่เห็นว่าปีศาจร้ายนี่ก่อกรรมทำชั่ว ทำให้ข้ารู้สึกเห็นอกเห็นใจก็เท่านั้น”
เซียวจิ้งยี่มีท่าทางเคารพนอบน้อมยิ่งกว่าเดิม “เช่นนั้นข้าขอเป็นตัวแทนชาวบ้านนับร้อยในหมู่บ้านสกุลเซียว ขอบคุณซินแสสวี่ที่ช่วยชีวิต”
“เป็นซินแสที่ขุนนางสูงศักดิ์มากมายไม่อาจเชิญไปทำพิธีได้ กลับมาช่วยปราบปีศาจให้พวกเราโดยไม่คิดเงิน ช่างเป็นคนดีจริงๆ! ”
“นั่นสิ ซินแสสวี่มีชื่อเสียงบารมี นับเป็นผู้มีพระคุณของหมู่บ้านเรา! ”
“ขอบคุณซินแสสวี่! ” ชาวบ้านพากันตะโกนขอบคุณ
ซินแสสวี่สีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง ด้านหลังมีหมอผีน้อยนำข้าวของที่ซินแสสวี่จะใช้ขึ้นมา
เซี่ยยวี่หลัวร้อนจนไฟแทบลุกไปทั้งตัว ยืนอยู่ใต้แสงแดดร้อนระอุ คลื่นความร้อนตกกระทบครั้งแล้วครั้งเล่า แค่ยืนอยู่ตรงนี้ ก็เหงื่อออกท่วมแผ่นหลังแล้ว
ส่วนทางซินแสสวี่กลับจุดธูป ถือธูปที่มีความยาวเท่าท่อนแขนผู้ใหญ่ที่โหมไหม้ไว้ ได้ยินว่าธูปนั่นชื่อว่าธูปจุดปีศาจ ซินแสสวี่ใช้เวลาสิบกว่าปีถึงทำสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นภูตผีหรือปีศาจ ขอเพียงโดนธูปนั่นก็จะเผยร่างที่แท้จริงออกมา
เมื่อธูปถูกจุด ภูตผีปีศาจย่อมถูกปราบ
คนจำนวนไม่น้อยต่างไม่เคยเห็นซินแสสวี่จับปีศาจ แต่เรื่องนี้ไม่ได้ทำให้ทุกคนเกิดข้อกังขาในพลังความสามารถของซินแสสวี่
ซินแสสวี่ที่ครอบครัวตระกูลใหญ่ในอำเภอกว่างชางมีเงินยังไม่อาจเชิญตัวได้ เพื่อผู้คนใต้หล้า มาช่วยจับภูตผีปีศาจให้พวกเขาโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายแม้แต่อีแปะเดียว แค่จิตใจที่มีเมตตาคุณธรรมเช่นนี้ ก็ทำให้ทุกคนในที่นี้รู้สึกซาบซึ้งใจแล้ว
ดังนั้น ชาวบ้านที่ยืนอยู่ท่ามกลางคลื่นความร้อนจนเหงื่อท่วมตัว ต่างก็ไม่มีผู้ใดปริปากบ่นว่าร้อน ไม่มีใครเคลื่อนไหวแม้แต่คนเดียว
แต่ละคนต่างคิดจะให้ความร่วมมือกับซินแสสวี่เพื่อจับปีศาจที่จะทำอันตรายต่อหมู่บ้านสกุลเซียวให้ได้โดยเร็ว