ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต - เล่มที่ 11 บทที่ 327 ไม่ให้ข้าจับปีศาจ พวกเจ้าอย่านึกเสียใจภายหลัง
- Home
- ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต
- เล่มที่ 11 บทที่ 327 ไม่ให้ข้าจับปีศาจ พวกเจ้าอย่านึกเสียใจภายหลัง
ซินแสสวี่ถือธูปจุดปีศาจ เดินไปเดินมาท่ามกลางกลุ่มชาวบ้าน ธูปก้านยาวที่มีประกายไฟเล็กน้อยมีควันลอยขึ้น ลอยผ่านกายแต่ละคน ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ
เมื่อเซี่ยยวี่หลัวเห็นท่าทางจริงจังของซินแสสวี่ จู่ๆ ก็รู้สึกอยากหัวเราะ
ธูปจุดปีศาจ? ซินแสสวี่? เกรงว่าจะเป็นนักต้มตุ๋นสวี่เสียมากกว่ากระมัง?
เหมือนจะสัมผัสได้ถึงอารมณ์เย้ยหยันของเซี่ยยวี่หลัว จู่ๆ ซินแสสวี่ก็เพ่งมองมาทางเซี่ยยวี่หลัว เซี่ยยวี่หลัวมองนางพลางแย้มรอยยิ้ม ไม่เหลือความวิตกกังวลเหมือนเมื่อครู่
หากซินแสสวี่มองเห็นความแตกต่างของนางจริง คงกล่าวออกมานานแล้ว ไยต้องกระทำการให้มากความ ใช้วิธีจุดธูปเพื่อหาภูตผีปีศาจ
ของบางอย่าง ไม่จำเป็นต้องใช้ประกายไฟ ขอเพียงอุณหภูมิสูง ก็สามารถมอดไหม้จนเกิดเพลิงใหญ่โต
ซินแสสวี่เดินผ่านกลางกลุ่มผู้คน ในที่สุดก็มาถึงตรงหน้าเซี่ยยวี่หลัว
ดวงตาขุ่นมัวที่ฉายประกายปราดเปรื่องกลับเหมือนสัตว์ร้ายที่กำลังเพ่งมองเหยื่ออย่างไรอย่างนั้น จ้องเซี่ยยวี่หลัวเขม็ง เซี่ยยวี่หลัวเองก็จ้องซินแสสวี่อย่างไม่ยอมอ่อนข้อ ไม่ได้เก็บเรื่องที่ถูกนางมองอย่างพินิจมาใส่ใจแม้แต่น้อย
ซินแสสวี่ท่องคาถาไม่หยุด เดินวนรอบตัวเซียวยวี่หนึ่งรอบ ก่อนเดินวนรอบตัวเซียวจื่อเซวียนและเซียวจื่อเมิ่งหนึ่งรอบ ควันจากธูปลอยฟุ้ง ไม่มีความเปลี่ยนแปลงใดๆ
จวบจนตอนที่ซินแสสวี่เดินไปทางเซี่ยยวี่หลัวช้าๆ
เซี่ยยวี่หลัวยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับเขยื้อน ปล่อยให้ซินแสสวี่ถือธูปที่จุดจนไหม้โบกไปมาบนกายตัวเอง
เซียวหมิงจูที่อยู่ในกลุ่มชาวบ้านตื่นเต้นจนแทบจะบิดผ้าเช็ดหน้าจนขาด
ใกล้แล้ว ใกล้แล้ว เซี่ยยวี่หลัวกำลังจะเผยร่างที่แท้จริงแล้ว
ซินแสสวี่เดินวนหนึ่งรอบ เซี่ยยวี่หลัวที่อยู่ตรงหน้าแย้มรอยยิ้มตรงมุมปาก
เป็นไปได้อย่างไร?
ซินแสสวี่ถือธูปจุดปีศาจเดินวนอีกหนึ่งรอบ คราวนี้ ธูปในมือนางแทบจะแนบติดบนตัวเซี่ยยวี่หลัว แต่ธูปนั่นเพียงเกิดควันลอยขึ้น ไม่มีปฏิกิริยาอื่นแม้แต่น้อย
ทำไมถึงไม่มีปฏิกิริยาแม้แต่น้อย?
ซินแสสวี่ถือธูปพลางท่องคาถา ตอนที่คิดจะเดินวนรอบตัวเซี่ยยวี่หลัวอีกรอบหนึ่ง เซียวยวี่ขวางนางไว้ “ท่านเดินวนรอบตัวภรรยาข้าสองรอบแล้ว”
ภรรยาข้า?
ยามเซียวยวี่กล่าวสามพยางค์นี้ จู่ๆ ก็เกิดความรู้สึกว่าอยากทะนุถนอมนางและอยากปกป้องนางให้ดี
นางคือภรรยาของเขาเซียวยวี่!
เซี่ยยวี่หลัวเงยหน้าขึ้นมองเซียวยวี่ เซียวยวี่หันมองนางพอดี สายตาของทั้งคู่สบประสานกัน ต่างเม้มริมฝีปากแย้มรอยยิ้ม เบื้องลึกแววตาฉายประกายแห่งความรักอย่างชัดเจน
เมื่อคนอื่นๆ เห็นเข้า บ้างก็รู้สึกอิจฉา บ้างก็รู้สึกว่าเป็นเรื่องปกติ และบางคนเห็นแล้วก็เกิดเพลิงโทสะลุกโชน
เล็บของเซียวหมิงจู แทบจะจิกเข้าไปในผิวหนังอย่างรุนแรง
ซินแสสวี่มองเซี่ยยวี่หลัว ก่อนมองเซียวยวี่ หนังตาที่หย่อนยานกระตุกสองที แสยะริมฝีปาก เผยให้เห็นฟันภายในที่กลายเป็นสีดำคล้ำแล้ว น้ำเสียงแฝงเร้นด้วยความหน่ายใจ “ท่านผู้นี้คิดจะขัดขวางไม่ให้ข้าขับไล่ปีศาจเช่นนั้นหรือ? ”
“ปีศาจ? ” เซียวยวี่ย่อมต้องปกป้องเซี่ยยวี่หลัว “ข้าไม่เข้าใจว่าซินแสสวี่หมายความว่าอย่างไร? เมื่อครู่หากข้าดูไม่ผิด ซินแสสวี่เดินวนรอบตัวทุกคนเพียงหนึ่งรอบ แต่ท่านเดินวนรอบตัวภรรยาข้าสองรอบแล้ว หากว่ามีปีศาจ เช่นนั้นด้วยพลังอันกล้าแกร่งของซินแสสวี่ ปีศาจน่าจะไร้ที่หลบซ่อน ออกมาให้ซินแสจับแล้วกระมัง? ”
เซี่ยยวี่หลัวเกือบจะปรบมือให้เซียวยวี่พลางตะโกนว่าเยี่ยมมาก
ในภายภาคหน้าท่านราชบัณฑิตน้อยอยู่ใต้คนเดียวอยู่เหนือคนนับหมื่น หากไม่มีฝีปากแม้แต่น้อยจะเป็นไปได้อย่างไร วาจาของเซียวยวี่ พูดดักทางซินแสสวี่จนไม่อาจโต้ตอบได้
ซินแสสวี่ “…เจ้า” เจ้าหมอนี่ ฝีปากกล้านัก กล้าเคลือบแคลงสงสัยในพลังของนาง
หากบอกว่าเซี่ยยวี่หลัวไม่ใช่ปีศาจ เหตุใดนางถึงต้องเดินวนรอบตัวเซี่ยยวี่หลัวสองรอบ แต่หากเซี่ยยวี่หลัวเป็นปีศาจ เหตุใดนางเดินวนถึงสองรอบแล้วกลับยังจับปีศาจไม่ได้!
เจ้าหมอนี่ ร้ายกาจเสียจริง
คนทั้งหมู่บ้านสกุลเซียวต่างมารวมตัวกันอยู่หน้าศาลบรรพชน อากาศร้อนจัด เป็นช่วงเที่ยงตรงพอดี ดวงอาทิตย์ราวกับจะแผดเผาทุกคนจนสุกอย่างไรอย่างนั้น หยาดเหงื่อบนกายก็ไหลอาบไม่หยุด
หลังจากทุกคนได้ฟังวาจาของซินแสสวี่ ต่างก็หันมองไปทางเซี่ยยวี่หลัว ไม่เข้าใจว่าซินแสสวี่หมายความว่าอย่างไร
เดินผ่านกลุ่มคนมากว่าครึ่งทางแล้ว ซินแสสวี่ยังมีท่าทีมั่นอกมั่นใจ ท่องคาถาไม่หยุด เหตุใดตอนนี้เดินวนรอบตัวเซี่ยยวี่หลัวรอบแล้วรอบเล่า ทั้งยังกล่าววาจาเช่นนี้ออกมา
เซียวจิ้งยี่ก็สังเกตเห็นความผิดปกติ จึงเดินมา กล่าวด้วยความเคารพ “ซินแสสวี่ ด้านหน้ายังมีคนอีกไม่น้อยที่ยังไม่ได้ตรวจ”
ความหมายแฝงคือตัวเซี่ยยวี่หลัวไม่มีปัญหาใดๆ ไยต้องรังควานนางไม่เลิก
ซินแสสวี่ไม่เดินต่อ ยืนอยู่ที่เดิมหัวเราะอย่างเย็นเยียบ “ข้ามาช่วยจับปีศาจให้หมู่บ้านสกุลเซียวของพวกเจ้า ในเมื่อไม่ให้ข้าจับ ข้าไปก็ได้ ถึงเวลาพวกเจ้าอย่านึกเสียใจภายหลัง! ”
กล่าวจบ ซินแสสวี่ถลึงตามองเซี่ยยวี่หลัวทีหนึ่ง ก่อนสาวเท้าเดินไป
ซินแสสวี่มาช่วยจับภูตผีปีศาจให้หมู่บ้านสกุลเซียวโดยไม่คิดเงิน จะทำให้นางโมโหจนจากไปได้อย่างไร เซียวจิ้งยี่รู้ว่าเรื่องนี้จะประมาทไม่ได้ จึงรีบกล่าว “ซินแสสวี่ โปรดช้าก่อน”
ซินแสสวี่หันกลับมา ดวงตาขุ่นมัวเต็มไปด้วยประกายไม่พอใจ “หมู่บ้านสกุลเซียวมีเมฆดำปกคลุม พวกเจ้ารอปีศาจทำลายทั้งหมู่บ้านให้ย่อยยับเถอะ! ”
กล่าวจบ ก็เก็บข้าวของกำลังจะไป
อย่างไรเสียเซียวจิ้งยี่ก็เป็นหัวหน้าหมู่บ้าน ยิ่งไปกว่านั้น เขาเคยได้ยินชื่อเสียงของซินแสสวี่มาหลายครั้ง รู้ว่าซินแสสวี่มีความสามารถ บัดนี้บอกว่าหมู่บ้านสกุลเซียวกำลังจะเผชิญกับหายนะนองเลือด เขาจะไม่ร้อนใจได้อย่างไร
“ซินแสสวี่ ซินแสสวี่ ช้าก่อน ช้าก่อน” เซียวจิ้งยี่รีบขวางซินแสสวี่ไว้ “เมื่อครู่ข้ามีตาหามีแววไม่ ซินแสสวี่โปรดอภัย ในเมื่อซินแสสวี่จะจับปีศาจ ก็โปรดจับได้เต็มที่ ข้าล่วงเกินแล้ว”
เซียวจิ้งยี่โค้งตัวคำนับอยู่หลายครั้ง ยังมีชาวบ้านอีกไม่น้อยต่างก็กล่าววาจาอ้อนวอน “ซินแสสวี่ ขอให้ท่านอยู่ปราบปีศาจให้หมู่บ้านสกุลเซียวของเราก่อน ช่วยพวกเราด้วยเถอะ! ”
ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีชาวบ้านบางส่วนคุกเข่า ท่าทางเคารพนอบน้อมนั่น ราวกับซินแสสวี่เป็นพระโพธิสัตว์ในอารามอย่างไรอย่างนั้น
สุดท้ายจึงรั้งตัวซินแสสวี่ไว้ได้
“ในเมื่อหัวหน้าหมู่บ้านมีความจริงใจเช่นนี้ ช่างเถอะ ช่างเถอะ ข้าเองก็แค่ต้องการทำความดี ต้องจับตัวปีศาจที่เป็นภัยต่อหมู่บ้านสกุลเซียวให้ได้! ” ระหว่างที่ซินแสสวี่กล่าว ดวงตาขุ่นมัวที่ฉายประกายปราดเปรื่องก็มองไปทางเซี่ยยวี่หลัว
ให้ความรู้สึกราวกับข้ามองเจ้าออกอย่างทะลุปรุโปร่งแล้ว
เซียวยวี่ก็สัมผัสได้ถึงแววตาไม่เป็นมิตรนั่น เขายืนอยู่ข้างกายเซี่ยยวี่หลัว ใช้ร่างกายตัวเองขวางกั้นพายุลมฝนให้เซี่ยยวี่หลัว
“ไม่ต้องกลัว มีข้าอยู่! ” น้ำเสียงของเซียวยวี่อ่อนโยนดุจสายน้ำ
เดิมทีเซี่ยยวี่หลัวก็ไม่กลัวอยู่แล้ว บัดนี้ได้ฟังถ้อยคำปลอบขวัญจากเซียวยวี่ ก็ยิ่งรู้สึกมั่นใจเป็นทวีคูณ ทั้งสองคนสบตากัน เซี่ยยวี่หลัวแย้มรอยยิ้มหวาน “ได้”
เซียวยวี่รู้สึกว่าภายใต้แสงแดดแรงกล้าที่แผดเผา หัวใจของตัวเองยังคงเดิม เพียงแต่ได้เห็นรอยยิ้มนั้น หัวใจของเขาแทบละลาย