ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต - เล่มที่ 11 บทที่ 329 เซียวยวี่ถูกปีศาจครอบงำแล้ว
- Home
- ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต
- เล่มที่ 11 บทที่ 329 เซียวยวี่ถูกปีศาจครอบงำแล้ว
“ปีศาจร้าย ยังไม่รีบเผยร่างที่แท้จริงออกมาอีกหรือ! ” จู่ๆ ไม่รู้ว่าซินแสสวี่โปรยอะไรออกมา ขณะที่กระบี่ไม้ท้อยื่นมาทางนี้ บนนั้นมีเปลวไฟที่โหมไหม้อย่างรุนแรงอยู่ด้วย
ชาวบ้านตกใจจนร้องเสียงดังระงม มีคนที่ขลาดกลัวบางส่วน ด้วยกลัวว่าไฟจะลุกไหม้ตัวเอง จึงถอยห่างออกไปตามสัญชาตญาณ
บัดนี้ตรงกลางลานเหลือเพียงเซียวยวี่และเซี่ยยวี่หลัวเท่านั้น
เซียวยวี่เห็นแสงไฟพุ่งมาทางเซี่ยยวี่หลัว ไม่คิดไตร่ตรองด้วยซ้ำ รีบหันหลังโอบกอดเซี่ยยวี่หลัวไว้ในอ้อมอก ห่อหุ้มตัวนางไว้อย่างมิดชิด ไฟนั่นพุ่งผ่านเส้นผมของเซียวยวี่ ปอยผมที่ถูกไฟเผาร่วงหล่นลงบนพื้น
“ปีศาจตัวนี้พลังกล้าแกร่ง ครอบงำคนข้างกายนางแล้ว หัวหน้าหมู่บ้านสกุลเซียว บัดนี้ปีศาจตัวนี้เริ่มครอบงำจิตใจผู้คนแล้ว ท่านยังไม่รีบสั่งให้คนลากตัวคนผู้นี้ไปกักขังไว้อีก หากช้าไป คนผู้นี้ถูกปีศาจควบคุม ถึงเวลาจะปราบได้ยากแล้ว! ” ซินแสสวี่กล่าวด้วยความร้อนรน
เซียวจิ้งยี่ขมวดคิ้วมุ่น จะเชื่อวาจาของซินแสสวี่ได้อย่างไร
เรื่องแค่นี้เขายังพอคิดได้
เซียวยวี่เป็นเพียงคนธรรมดาชัดๆ
“ซินแสสวี่ ท่านเข้าใจอะไรผิดหรือไม่? ” เซียวจิ้งยี่ขมวดคิ้วพลางกล่าว
บอกว่าเซี่ยยวี่หลัวเป็นปีศาจ เขาไม่เชื่อ ทั้งยังบอกว่าเซียวยวี่เป็นปีศาจเช่นกัน ตีให้ตายเขาก็ไม่เชื่อ
เวลานี้เอง เซียวหมิงจูพุ่งพรวดออกมา กล่าวเสียงดัง “หัวหน้าหมู่บ้าน พี่อายวี่เปลี่ยนไปแล้ว เขาถูกปีศาจครอบงำแล้วจริงๆ! ”
เซียวยวี่มองนางด้วยแววตาเย็นเยียบ ความเย็นยะเยือกที่ฉายชัดในเบื้องลึกแววตาทำให้เซียวหมิงจูมั่นใจยิ่งขึ้น ว่าเซียวยวี่ถูกเซี่ยยวี่หลัวครอบงำแล้ว
“พี่อายวี่ในอดีต ไม่เคยไปทำงานในไร่นา แต่ตอนนี้เล่า? เขาถึงขั้นละทิ้งการเรียนที่เขารักที่สุด ไปทำงานในไร่นา หากไม่ใช่เพราะโดนเซี่ยยวี่หลัวครอบงำ ทำไมเขาถึงต้องทำเช่นนี้! ” ตอนที่เซียวหมิงจูรู้ว่าเซียวยวี่ไปทำงานในไร่นา ก็ร่ำไห้อย่างหนักอีกครา
พี่อายวี่ที่เปรียบดั่งเทพเซียนในใจนาง เหตุใดเวลานี้ถึงยินยอมลดตัวเช่นนี้
เซียวยวี่ “ทำงานในไร่นามีความผิดอันใด? ข้าเพียงแค่อยากให้ภรรยาของข้ามีกินมีใช้ นี่ก็เป็นเพราะถูกครอบงำ? หากเช่นนี้เรียกว่าถูกครอบงำ เช่นนั้นข้าก็ยินยอม”
เซี่ยยวี่หลัวหันมองเซียวยวี่ด้วยความตกตะลึง นางเพิ่งเข้าใจเจตนาของเซียวยวี่ตอนนี้เอง
ที่แท้ เขาลำบากถึงเพียงนี้ เพราะอยากให้นางมีชีวิตที่ดีขึ้น!
ไม่รู้เพราะเหตุใด กำแพงที่ตั้งตระหง่านอยู่ภายในใจเซี่ยยวี่หลัวพังทลายลงกว่ากึ่งหนึ่ง
เรียกนางว่าภรรยาครั้งแล้วครั้งเล่า มือของทั้งสองคนกุมกันไว้แน่น ท่าทางรักใคร่กลมเกลียวนั่น เซียวหมิงจูเห็นแล้วหัวใจแทบสลาย
นางไม่มีอะไรจะกล่าวอีก ได้แต่หันตัวเดินกลับไปยืนในกลุ่มชาวบ้านดังเดิม แต่ดวงตาคู่นั้นกลับเหมือนใบมีดที่อาบยาพิษก็มิปาน จ้องเซี่ยยวี่หลัวเขม็ง
“ข้าคิดว่าเซี่ยยวี่หลัวไม่ใช่ปีศาจ นางเป็นคนดีถึงเพียงนี้ จะเป็นปีศาจได้อย่างไร! ” โจวซื่อตะโกนเสียงดัง
หลิวซี่เหลียนก็กล่าวอย่างเห็นพ้อง “ข้าก็คิดว่าไม่ใช่”
มีคนเห็นด้วย ต่างก็บอกว่าไม่ใช่
หลัวไห่ฮวาตะคอกเสียงดัง “นางใช่แน่ นางใช่แน่ ตอนนี้นางเพียงยังไม่ได้ทำร้ายใคร แต่รอให้นางร้ายกาจแล้ว คิดจะเอาชีวิตพวกเราก็ง่ายยิ่งกว่าพลิกฝ่ามือ! ”
ชาวบ้านอีกครึ่งหนึ่งที่ไม่ได้เห็นพ้อง ต่างก็มองเซี่ยยวี่หลัวด้วยความลังเลเล็กน้อย
จะบอกว่าใช่ นางก็ไม่ได้ทำอะไร หากบอกว่าไม่ใช่ นางก็เปลี่ยนไปมากนัก
เวลานี้ ชาวบ้านที่อยู่หน้าศาลบรรพชนแบ่งออกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งมีโจวซื่อเป็นผู้นำ ไม่เชื่อว่าเซี่ยยวี่หลัวจะเป็นปีศาจ อีกฝ่ายหนึ่งมีหลัวไห่ฮวาเป็นผู้นำ เชื่อว่าเซี่ยยวี่หลัวเป็นปีศาจ
ทว่า คนที่เชื่อว่าเซี่ยยวี่หลัวไม่ใช่ปีศาจ มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น
ในภายหลัง แม้แต่หลิวซี่เหลียนที่เห็นว่าสามีตัวเองไปอยู่ในฝ่ายไม่เชื่อเซี่ยยวี่หลัว นางก็เกิดความลังเล
“ยวี่หลัว ไม่ใช่ข้าไม่เชื่อเจ้า เพียงแต่…”
คนบางกลุ่ม มีความเชื่อในเรื่องเทพเซียนและภูตผีปีศาจอย่างไม่ลืมหูลืมตา นี่คือผลจากการที่ไม่เคยเล่าเรียนอ่านตำราอะไร
เซี่ยยวี่หลัวไม่โทษพวกเขา ยิ่งไปกว่านั้น ซินแสสวี่เป็นบุคคลที่เปรียบเสมือนหมอผี วาจาของหมอผี พวกเขาสู้ยอมเชื่อว่ามีปีศาจอยู่จริง
ซินแสสวี่เห็นว่าคนที่เชื่อนางเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จึงเกิดความลำพองใจยิ่งขึ้น นางไม่เชื่อว่า วันนี้นางจะไม่สามารถทำให้เซี่ยยวี่หลัวเผยร่างที่แท้จริงออกมา
“ช่วยข้าจับนางไว้ ข้าจะทำพิธี ให้ปีศาจเผยร่างที่แท้จริง! ” ซินแสสวี่กระโดดขึ้นอีกครั้ง บนแท่นพิธี ทั้งเทียน กระบี่ไม้ท้อ กระทั่งเลือดสุนัขก็เตรียมไว้ครบครัน
เซี่ยยวี่หลัวเห็นแล้วก็ถึงกับขมวดคิ้ว
ภายใต้คำยุยงของซินแสสวี่ มีชาวบ้านจำนวนไม่น้อยเดินมาทางเซี่ยยวี่หลัวแล้ว
เซียวจิ้งยี่ขวางไว้ “พวกเจ้าคิดจะทำอะไร? ”
“หัวหน้าหมู่บ้าน ซินแสสวี่บอกว่าเซี่ยยวี่หลัวเป็นปีศาจ ทั้งยังมีพลังกล้าแกร่ง วิชาอาคมทั่วไปไม่อาจจัดการนางได้ ท่านเป็นหัวหน้าหมู่บ้าน ท่านจะปล่อยให้ปีศาจตัวหนึ่งทำร้ายพวกเราที่เป็นชาวบ้านธรรมดาไม่ได้! ”
“จริงด้วย หัวหน้าหมู่บ้าน พอเซี่ยยวี่หลัวมาก็เกิดเรื่องขึ้นไม่น้อย พวกเราจำต้องเชื่อวาจาของซินแสสวี่! ”
“เรื่องอะไรกัน เรื่องพวกนั้น…” เซียวจิ้งยี่ยังไม่ได้บอกเล่าเรื่องราวเหล่านั้น ก็เห็นซินแสสวี่ชี้กระบี่ไม้ท้อทีหนึ่ง โยกศีรษะไปมา ท่องคาถาที่ผู้อื่นฟังไม่เข้าใจอย่างต่อเนื่อง กลับยังมีท่าทางมั่นใจเต็มเปี่ยม ทุกคนเห็นแล้วก็รู้สึกอกสั่นขวัญแขวน
มีชาวบ้านใจกล้าสองสามคนวิ่งไปทางเซี่ยยวี่หลัว
เซียวยวี่ไม่สนใจสิ่งอื่นใด เมื่อเห็นดังนั้นก็กอดเซี่ยยวี่หลัวไว้แน่น กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “มีข้าอยู่ ข้าจะไม่ปล่อยให้พวกเขาทำร้ายเจ้า”
“เซียวยวี่ เจ้าหลบไป หากเจ้าไม่หลบพวกเราจะมัดเจ้าด้วย! ”
“หลบไป หลบไป…”
เซี่ยยวี่หลัวจ้องมองเซียวยวี่อยู่อย่างนี้ มองเขากอดนางไว้แน่น กันให้นางอยู่เบื้องหลังเขา
นางเงยหน้าอยู่ตลอด ปล่อยให้เซียวยวี่กอดนาง ดวงตาของนางจับจ้องไปที่เขาตลอดเวลา
“ทุกท่าน อาหลัวเป็นภรรยาของข้า นางไม่ใช่ปีศาจ ข้ารู้ดี ขอให้ทุกท่านอย่าได้ฟังวาจาของผู้อื่น ทำร้ายภรรยาของข้า! ” เซียวยวี่กล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง
“เซียวยวี่ เจ้าบอกว่านางไม่ใช่ นางก็ไม่ใช่เช่นนั้นหรือ? ใครบ้างไม่รู้ว่าเจ้ากำลังปกป้องนาง! เจ้าหลบไปเสีย! ” มีคนกำลังโวยวายเสียงดัง
มีคนอดรนทนไม่ไหวจนเดินขึ้นหน้าไปจับแขนเซียวยวี่แล้ว เซียวยวี่โอบเซี่ยยวี่หลัวไว้แน่น กอดนางไว้ไม่ยอมปล่อย
“เจ้าปล่อยข้าเถอะ! ไม่อย่างนั้นพวกเขาอาจทำร้ายเจ้า” เซี่ยยวี่หลัวไม่อาจทนดูต่อไปได้ นางกล่าวด้วยระดับเสียงที่ได้ยินกันเพียงสองคน
จู่ๆ เซียวยวี่ก็ถลึงตามองนาง แฝงเร้นด้วยอารมณ์โทสะที่ฝืนสะกดไว้ “เจ้าว่าอะไร? ”
“เจ้าปล่อยข้า พวกเขาอาจทำร้ายเจ้าได้! ” เซี่ยยวี่หลัวจ้องมองดวงตาของเซียวยวี่ กล่าวอีกครั้งด้วยสีหน้าจริงจัง
เซียวยวี่โมโหแทบตาย เขาจับมือเซี่ยยวี่หลัวพลางออกแรงอย่างมาก ดึงเซี่ยยวี่หลัวเข้ามาประชิดตัวอีกครั้ง โอบกอดเซี่ยยวี่หลัวไว้แน่น จากนั้นจึงขยับไปข้างหูนาง กล่าวด้วยความหนักแน่นเด็ดขาด “เจ้าเป็นภรรยาของข้า ข้าจะไม่ยอมให้ผู้ใดทำอันตรายเจ้าเป็นอันขาด”
แม้ข้าต้องตายก็ตาม!”ปีศาจร้าย ยังไม่รีบเผยร่างที่แท้จริงออกมาอีกหรือ! ” จู่ๆ ไม่รู้ว่าซินแสสวี่โปรยอะไรออกมา ขณะที่กระบี่ไม้ท้อยื่นมาทางนี้ บนนั้นมีเปลวไฟที่โหมไหม้อย่างรุนแรงอยู่ด้วย
ชาวบ้านตกใจจนร้องเสียงดังระงม มีคนที่ขลาดกลัวบางส่วน ด้วยกลัวว่าไฟจะลุกไหม้ตัวเอง จึงถอยห่างออกไปตามสัญชาตญาณ
บัดนี้ตรงกลางลานเหลือเพียงเซียวยวี่และเซี่ยยวี่หลัวเท่านั้น
เซียวยวี่เห็นแสงไฟพุ่งมาทางเซี่ยยวี่หลัว ไม่คิดไตร่ตรองด้วยซ้ำ รีบหันหลังโอบกอดเซี่ยยวี่หลัวไว้ในอ้อมอก ห่อหุ้มตัวนางไว้อย่างมิดชิด ไฟนั่นพุ่งผ่านเส้นผมของเซียวยวี่ ปอยผมที่ถูกไฟเผาร่วงหล่นลงบนพื้น
“ปีศาจตัวนี้พลังกล้าแกร่ง ครอบงำคนข้างกายนางแล้ว หัวหน้าหมู่บ้านสกุลเซียว บัดนี้ปีศาจตัวนี้เริ่มครอบงำจิตใจผู้คนแล้ว ท่านยังไม่รีบสั่งให้คนลากตัวคนผู้นี้ไปกักขังไว้อีก หากช้าไป คนผู้นี้ถูกปีศาจควบคุม ถึงเวลาจะปราบได้ยากแล้ว! ” ซินแสสวี่กล่าวด้วยความร้อนรน
เซียวจิ้งยี่ขมวดคิ้วมุ่น จะเชื่อวาจาของซินแสสวี่ได้อย่างไร
เรื่องแค่นี้เขายังพอคิดได้
เซียวยวี่เป็นเพียงคนธรรมดาชัดๆ
“ซินแสสวี่ ท่านเข้าใจอะไรผิดหรือไม่? ” เซียวจิ้งยี่ขมวดคิ้วพลางกล่าว
บอกว่าเซี่ยยวี่หลัวเป็นปีศาจ เขาไม่เชื่อ ทั้งยังบอกว่าเซียวยวี่เป็นปีศาจเช่นกัน ตีให้ตายเขาก็ไม่เชื่อ
เวลานี้เอง เซียวหมิงจูพุ่งพรวดออกมา กล่าวเสียงดัง “หัวหน้าหมู่บ้าน พี่อายวี่เปลี่ยนไปแล้ว เขาถูกปีศาจครอบงำแล้วจริงๆ! ”
เซียวยวี่มองนางด้วยแววตาเย็นเยียบ ความเย็นยะเยือกที่ฉายชัดในเบื้องลึกแววตาทำให้เซียวหมิงจูมั่นใจยิ่งขึ้น ว่าเซียวยวี่ถูกเซี่ยยวี่หลัวครอบงำแล้ว
“พี่อายวี่ในอดีต ไม่เคยไปทำงานในไร่นา แต่ตอนนี้เล่า? เขาถึงขั้นละทิ้งการเรียนที่เขารักที่สุด ไปทำงานในไร่นา หากไม่ใช่เพราะโดนเซี่ยยวี่หลัวครอบงำ ทำไมเขาถึงต้องทำเช่นนี้! ” ตอนที่เซียวหมิงจูรู้ว่าเซียวยวี่ไปทำงานในไร่นา ก็ร่ำไห้อย่างหนักอีกครา
พี่อายวี่ที่เปรียบดั่งเทพเซียนในใจนาง เหตุใดเวลานี้ถึงยินยอมลดตัวเช่นนี้
เซียวยวี่ “ทำงานในไร่นามีความผิดอันใด? ข้าเพียงแค่อยากให้ภรรยาของข้ามีกินมีใช้ นี่ก็เป็นเพราะถูกครอบงำ? หากเช่นนี้เรียกว่าถูกครอบงำ เช่นนั้นข้าก็ยินยอม”
เซี่ยยวี่หลัวหันมองเซียวยวี่ด้วยความตกตะลึง นางเพิ่งเข้าใจเจตนาของเซียวยวี่ตอนนี้เอง
ที่แท้ เขาลำบากถึงเพียงนี้ เพราะอยากให้นางมีชีวิตที่ดีขึ้น!
ไม่รู้เพราะเหตุใด กำแพงที่ตั้งตระหง่านอยู่ภายในใจเซี่ยยวี่หลัวพังทลายลงกว่ากึ่งหนึ่ง
เรียกนางว่าภรรยาครั้งแล้วครั้งเล่า มือของทั้งสองคนกุมกันไว้แน่น ท่าทางรักใคร่กลมเกลียวนั่น เซียวหมิงจูเห็นแล้วหัวใจแทบสลาย
นางไม่มีอะไรจะกล่าวอีก ได้แต่หันตัวเดินกลับไปยืนในกลุ่มชาวบ้านดังเดิม แต่ดวงตาคู่นั้นกลับเหมือนใบมีดที่อาบยาพิษก็มิปาน จ้องเซี่ยยวี่หลัวเขม็ง
“ข้าคิดว่าเซี่ยยวี่หลัวไม่ใช่ปีศาจ นางเป็นคนดีถึงเพียงนี้ จะเป็นปีศาจได้อย่างไร! ” โจวซื่อตะโกนเสียงดัง
หลิวซี่เหลียนก็กล่าวอย่างเห็นพ้อง “ข้าก็คิดว่าไม่ใช่”
มีคนเห็นด้วย ต่างก็บอกว่าไม่ใช่
หลัวไห่ฮวาตะคอกเสียงดัง “นางใช่แน่ นางใช่แน่ ตอนนี้นางเพียงยังไม่ได้ทำร้ายใคร แต่รอให้นางร้ายกาจแล้ว คิดจะเอาชีวิตพวกเราก็ง่ายยิ่งกว่าพลิกฝ่ามือ! ”
ชาวบ้านอีกครึ่งหนึ่งที่ไม่ได้เห็นพ้อง ต่างก็มองเซี่ยยวี่หลัวด้วยความลังเลเล็กน้อย
จะบอกว่าใช่ นางก็ไม่ได้ทำอะไร หากบอกว่าไม่ใช่ นางก็เปลี่ยนไปมากนัก
เวลานี้ ชาวบ้านที่อยู่หน้าศาลบรรพชนแบ่งออกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งมีโจวซื่อเป็นผู้นำ ไม่เชื่อว่าเซี่ยยวี่หลัวจะเป็นปีศาจ อีกฝ่ายหนึ่งมีหลัวไห่ฮวาเป็นผู้นำ เชื่อว่าเซี่ยยวี่หลัวเป็นปีศาจ
ทว่า คนที่เชื่อว่าเซี่ยยวี่หลัวไม่ใช่ปีศาจ มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น
ในภายหลัง แม้แต่หลิวซี่เหลียนที่เห็นว่าสามีตัวเองไปอยู่ในฝ่ายไม่เชื่อเซี่ยยวี่หลัว นางก็เกิดความลังเล
“ยวี่หลัว ไม่ใช่ข้าไม่เชื่อเจ้า เพียงแต่…”
คนบางกลุ่ม มีความเชื่อในเรื่องเทพเซียนและภูตผีปีศาจอย่างไม่ลืมหูลืมตา นี่คือผลจากการที่ไม่เคยเล่าเรียนอ่านตำราอะไร
เซี่ยยวี่หลัวไม่โทษพวกเขา ยิ่งไปกว่านั้น ซินแสสวี่เป็นบุคคลที่เปรียบเสมือนหมอผี วาจาของหมอผี พวกเขาสู้ยอมเชื่อว่ามีปีศาจอยู่จริง
ซินแสสวี่เห็นว่าคนที่เชื่อนางเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จึงเกิดความลำพองใจยิ่งขึ้น นางไม่เชื่อว่า วันนี้นางจะไม่สามารถทำให้เซี่ยยวี่หลัวเผยร่างที่แท้จริงออกมา
“ช่วยข้าจับนางไว้ ข้าจะทำพิธี ให้ปีศาจเผยร่างที่แท้จริง! ” ซินแสสวี่กระโดดขึ้นอีกครั้ง บนแท่นพิธี ทั้งเทียน กระบี่ไม้ท้อ กระทั่งเลือดสุนัขก็เตรียมไว้ครบครัน
เซี่ยยวี่หลัวเห็นแล้วก็ถึงกับขมวดคิ้ว
ภายใต้คำยุยงของซินแสสวี่ มีชาวบ้านจำนวนไม่น้อยเดินมาทางเซี่ยยวี่หลัวแล้ว
เซียวจิ้งยี่ขวางไว้ “พวกเจ้าคิดจะทำอะไร? ”
“หัวหน้าหมู่บ้าน ซินแสสวี่บอกว่าเซี่ยยวี่หลัวเป็นปีศาจ ทั้งยังมีพลังกล้าแกร่ง วิชาอาคมทั่วไปไม่อาจจัดการนางได้ ท่านเป็นหัวหน้าหมู่บ้าน ท่านจะปล่อยให้ปีศาจตัวหนึ่งทำร้ายพวกเราที่เป็นชาวบ้านธรรมดาไม่ได้! ”
“จริงด้วย หัวหน้าหมู่บ้าน พอเซี่ยยวี่หลัวมาก็เกิดเรื่องขึ้นไม่น้อย พวกเราจำต้องเชื่อวาจาของซินแสสวี่! ”
“เรื่องอะไรกัน เรื่องพวกนั้น…” เซียวจิ้งยี่ยังไม่ได้บอกเล่าเรื่องราวเหล่านั้น ก็เห็นซินแสสวี่ชี้กระบี่ไม้ท้อทีหนึ่ง โยกศีรษะไปมา ท่องคาถาที่ผู้อื่นฟังไม่เข้าใจอย่างต่อเนื่อง กลับยังมีท่าทางมั่นใจเต็มเปี่ยม ทุกคนเห็นแล้วก็รู้สึกอกสั่นขวัญแขวน
มีชาวบ้านใจกล้าสองสามคนวิ่งไปทางเซี่ยยวี่หลัว
เซียวยวี่ไม่สนใจสิ่งอื่นใด เมื่อเห็นดังนั้นก็กอดเซี่ยยวี่หลัวไว้แน่น กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “มีข้าอยู่ ข้าจะไม่ปล่อยให้พวกเขาทำร้ายเจ้า”
“เซียวยวี่ เจ้าหลบไป หากเจ้าไม่หลบพวกเราจะมัดเจ้าด้วย! ”
“หลบไป หลบไป…”
เซี่ยยวี่หลัวจ้องมองเซียวยวี่อยู่อย่างนี้ มองเขากอดนางไว้แน่น กันให้นางอยู่เบื้องหลังเขา
นางเงยหน้าอยู่ตลอด ปล่อยให้เซียวยวี่กอดนาง ดวงตาของนางจับจ้องไปที่เขาตลอดเวลา
“ทุกท่าน อาหลัวเป็นภรรยาของข้า นางไม่ใช่ปีศาจ ข้ารู้ดี ขอให้ทุกท่านอย่าได้ฟังวาจาของผู้อื่น ทำร้ายภรรยาของข้า! ” เซียวยวี่กล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง
“เซียวยวี่ เจ้าบอกว่านางไม่ใช่ นางก็ไม่ใช่เช่นนั้นหรือ? ใครบ้างไม่รู้ว่าเจ้ากำลังปกป้องนาง! เจ้าหลบไปเสีย! ” มีคนกำลังโวยวายเสียงดัง
มีคนอดรนทนไม่ไหวจนเดินขึ้นหน้าไปจับแขนเซียวยวี่แล้ว เซียวยวี่โอบเซี่ยยวี่หลัวไว้แน่น กอดนางไว้ไม่ยอมปล่อย
“เจ้าปล่อยข้าเถอะ! ไม่อย่างนั้นพวกเขาอาจทำร้ายเจ้า” เซี่ยยวี่หลัวไม่อาจทนดูต่อไปได้ นางกล่าวด้วยระดับเสียงที่ได้ยินกันเพียงสองคน
จู่ๆ เซียวยวี่ก็ถลึงตามองนาง แฝงเร้นด้วยอารมณ์โทสะที่ฝืนสะกดไว้ “เจ้าว่าอะไร? ”
“เจ้าปล่อยข้า พวกเขาอาจทำร้ายเจ้าได้! ” เซี่ยยวี่หลัวจ้องมองดวงตาของเซียวยวี่ กล่าวอีกครั้งด้วยสีหน้าจริงจัง
เซียวยวี่โมโหแทบตาย เขาจับมือเซี่ยยวี่หลัวพลางออกแรงอย่างมาก ดึงเซี่ยยวี่หลัวเข้ามาประชิดตัวอีกครั้ง โอบกอดเซี่ยยวี่หลัวไว้แน่น จากนั้นจึงขยับไปข้างหูนาง กล่าวด้วยความหนักแน่นเด็ดขาด “เจ้าเป็นภรรยาของข้า ข้าจะไม่ยอมให้ผู้ใดทำอันตรายเจ้าเป็นอันขาด”
แม้ข้าต้องตายก็ตาม!
Comments for chapter "เล่มที่ 11 บทที่ 329 เซียวยวี่ถูกปีศาจครอบงำแล้ว"
MANGA DISCUSSION
Leave a Reply Cancel reply
This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.
Yui
ตอนนี้คือแปลซ้ำแทบทั้งตอนเลยค่ะ