ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต - เล่มที่ 11 บทที่ 330 จอมยุทธ์หญิงจะเป็นปีศาจได้อย่างไร
- Home
- ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต
- เล่มที่ 11 บทที่ 330 จอมยุทธ์หญิงจะเป็นปีศาจได้อย่างไร
ชาวบ้านสามถึงสี่คนเข้ามาดึงทึ้ง ถึงแม้จะถูกดึงทึ้งอย่างรุนแรง เซียวยวี่ก็ไม่เคยปล่อยมือ โอบกอดเซี่ยยวี่หลัวไว้แน่น ใช้กำลังอันน้อยนิดของตัวเองปกป้องนาง
แววตาแน่วแน่และดึงดัน เขาทำให้เซี่ยยวี่หลัวเชื่อ ว่าทุกคำที่เขากล่าว ล้วนเป็นความจริง!
จู่ๆ เซี่ยยวี่หลัวก็รู้สึกอยากร้องไห้
กำแพงทั้งหมดที่เคยตั้งตระหง่านพังทลายลงจนสิ้น บัดนี้ในห้วงภวังค์ของนางเหลือเพียงความคิดเดียว
เซียวยวี่เป็นสามีของนาง เขาใช้กำลังทั้งหมดที่มีเพื่อปกป้องนาง ไยนางจึงต้องยึดติดกับจุดจบในนิยายด้วย?
เซี่ยยวี่หลัวในนิยายทำเรื่องที่ผิดต่อเซียวยวี่ เซียวยวี่โกรธแค้นนางจึงสังหารนาง นั่นเพราะนางกระทำความผิดสมควรได้รับโทษ แต่ตัวเองไม่เคยทำเรื่องเหล่านั้นมาก่อน!
นางคอยเอาอกเอาใจเซียวยวี่ด้วยความเจียมตัว ดูแลน้องชายน้องสาวของเขาอย่างดี ทุกการกระทำของนาง ล้วนทำได้ดีอย่างไร้ที่ติ
ต่อให้เขาไม่ชอบนาง ก็คงไม่คิดทำอะไรนาง
แต่บัดนี้ เซียวยวี่บอกนางว่า นางเป็นภรรยาของเขา เขาจะพยายามสุดชีวิตเพื่อปกป้องนาง
วาจาที่แฝงความรักลึกซึ้งเช่นนี้ ทำให้เซี่ยยวี่หลัวลืมนางเอกในนิยายไป บัดนี้จำได้แค่ว่า นางเป็นภรรยาของเซียวยวี่ เซียวยวี่เป็นสามีของนาง
ต่อให้ในภายภาคหน้านางเอกปรากฏตัวจริง หากเซียวยวี่เปลี่ยนใจไปรักผู้อื่น เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าเซียวยวี่เป็นบุรุษไม่ได้ความที่มากรักหลายใจ นางก็จะยอมรับชะตากรรม
เซียวยวี่ในยามนี้ดีต่อนาง ไยจึงไม่รับของขวัญที่สวรรค์มอบให้เล่า!
เซี่ยยวี่หลัวที่ไม่เคยมีความรัก และไม่เคยหวั่นไหวเพราะบุรุษใดมาก่อน ท่ามกลางการดึงทึ้งไปมา จู่ๆ นางก็เข้าใจหัวใจของตัวเอง
หากบอกว่าก่อนหน้านี้นางเพียงแค่ถูกเซียวยวี่บังคับกอดไว้ในอ้อมอก มาบัดนี้ นางยื่นแขนทั้งสองข้างออกไป โอบกอดเอวบางของเซียวยวี่ไว้แน่น
ซบหน้าลงบนอกของเขา
ฟังเสียงหัวใจของเซียวยวี่ที่เต้นอย่างมีพลัง นั่นเปรียบเสมือนท้องฟ้าของนาง มีเซียวยวี่คอยช่วยต้านพายุฝนแทนนาง นางก็ไม่ต้องกลัวอะไรอีก
ส่วนเซียวยวี่ เมื่อสัมผัสได้ว่าเซี่ยยวี่หลัวเชื่อมั่นในตัวเขา ในที่สุดริมฝีปากที่เม้มอยู่ตลอดก็ตวัดขึ้นจนเป็นรอยยิ้ม ออกแรงกอดแน่นขึ้น ไม่ว่าจะมีคนดึงทึ้งมากเท่าใด ก็ไม่อาจพรากเขาไปจากข้างกายนางได้
เขาบอกแล้ว ว่าต่อให้ต้องแลกด้วยชีวิตก็จะปกป้องนางให้ได้!
กลุ่มชาวบ้านเกิดความวุ่นวาย มีคนเข้ามาห้าถึงหกคน หมายจะจับเซียวยวี่และเซี่ยยวี่หลัวให้แยกออกจากกัน กลับไม่อาจแยกออก ยังมีคนกำลังจะเข้าไปช่วย
เซียวจิ้งยี่ตะคอกเสียงดัง “พวกเจ้าทำอะไร? ทำอะไร? เซียวยวี่เป็นคนกันเอง หรือพวกเจ้าจะฆ่าแกงแม้แต่คนกันเอง? ”
“หัวหน้าหมู่บ้าน ข้ารู้ว่าท่านให้ความสำคัญกับเซียวยวี่ แต่ท่านก็อย่าได้ลืม เซี่ยยวี่หลัวเป็นปีศาจ เป็นภรรยาของเซียวยวี่ ตอนนี้เขาปกป้องปีศาจตัวนี้ ก็เท่ากับเป็นศัตรูกับหมู่บ้านสกุลเซียวของเรา คนทั้งหมู่บ้านสกุลเซียวต้องเผชิญหายนะไปด้วย! ท่านเป็นหัวหน้าหมู่บ้าน หากในหมู่บ้านเกิดเรื่องอะไรขึ้น ล้วนเป็นความรับผิดชอบของท่าน! ”
เซียวจิ้งยี่ถูกว่ากล่าวจนกล่าวอะไรไม่ออกแม้แต่ประโยคเดียว
สถานการณ์วุ่นวายเสียแล้ว
ถึงแม้ในภายหลังเซียวยวี่ถูกคนตีจนคุกเข่าลงบนพื้น เสื้อผ้าขาดหลุดลุ่ยเพราะถูกดึงทึ้ง เขาก็ยังคงกอดเซี่ยยวี่หลัวแน่น ไม่ยอมปล่อยมือ
เซียวจื่อเซวียนและเซียวจื่อเมิ่งที่อยู่ไม่ห่างนักร้องไห้เสียงดัง “พี่ใหญ่ พี่สะใภ้ใหญ่…”
“โง่จริง เจ้าปล่อยมือเถอะ พวกเขาทำอะไรข้าไม่ได้หรอก! ”
เซี่ยยวี่หลัวกล่าว
ชาวบ้านพวกนี้ ทำให้รู้สึกว่าน่าแค้นแต่ก็ไม่อาจทำอะไรได้
ส่วนซินแสสวี่นั่น หมายจะใช้เรื่องหายนะยุยงชาวบ้านทั้งหมู่บ้านให้ลงมือกับนาง เซี่ยยวี่หลัวไม่คิดถือโทษและไม่แค้น
พวกเขาล้วนเป็นผู้ไม่รู้ความ ถูกคนยุยง
เซียวยวี่ไม่ปล่อยมือ ฝืนทนความเจ็บบนแผ่นหลัง กล่าวชัดถ้อยชัดคำ “ข้าไม่ปล่อย! ”
จู่ๆ เซี่ยยวี่หลัวก็ยิ้ม
เซียวยวี่ก็เม้มริมฝีปาก ยิ้มให้นางเช่นกัน
ทางซินแสสวี่เตรียมการเสร็จแล้ว
“พวกเจ้ายังไม่รีบจับตัวนางปีศาจไว้อีก ข้าจะทำพิธี! ”
เซียวจิ้งยี่ที่อยู่ข้างๆ ทำอย่างไรก็ไม่อาจขัดขวางคนกลุ่มนั้นได้เลย ร้อนใจจนกระทุ้งเท้า
เวลานี้เอง เสียงกีบม้าและรถม้าดังมาจากด้านหลัง ทุกคนหันกลับไปมอง ก็เห็นรถม้าสามถึงสี่คันหยุดจอด มีคนจำนวนไม่น้อยลงมาจากรถม้า กรูกันมาทางนี้
โหยวเจิ้งเฉิงเดินนำ เห็นกลุ่มชาวบ้านรวมตัวกันอยู่หน้าศาลบรรพชน คนที่อยู่หน้าสุดคือเซียวจิ้งยี่ จึงหัวเราะมาแต่ไกล “หัวหน้าหมู่บ้านเซียว ท่านเรียกทุกคนมาฝึกฝนกับจอมยุทธ์หญิงเช่นนั้นหรือ? ”
ยามนี้เซียวจิ้งยี่รู้สึกปวดหัวนัก ได้แต่ยิ้มเจื่อน
โหยวเจิ้งเฉิงก็รู้จักซินแสสวี่ เมื่อเห็นซินแสสวี่และแท่นพิธี ก็ผงะไปชั่วขณะ “นี่ซินแสกำลัง…”
“ข้าเฝ้ามองปรากฏการณ์ท้องฟ้ายามราตรี ได้คำนวณแล้ว หมู่บ้านสกุลเซียวมีเมฆดำปกคลุม ต้องมีปีศาจก่อกรรมทำชั่วแน่ ดังนั้น จึงมาเพื่อจับปีศาจ! ” ซินแสสวี่ทำท่าทางราวกับกำลังกระทำวีรกรรมเพื่อผู้คนใต้หล้า
โหยวเจิ้งเฉิงแย้มรอยยิ้ม “ซินแสช่างมีเมตตาต่อผู้คนทั่วหล้า ช่วยเหลือทุกชีวิตให้พ้นเภทภัย ไม่ทราบว่าจับปีศาจได้หรือยัง? ”
เซียวจิ้งยี่ส่ายหน้า “ยังจับไม่ได้! ”
ซินแสสวี่กล่าวเสียงสูงทันที “ข้ามองออกแล้วว่าผู้ใดเป็นปีศาจ เพียงแต่ที่นี่มีแต่คนขัดขวาง ข้าไม่อาจใช้วิชาอาคม หวังว่าหลี่เจิ้งจะช่วยพูดด้วย”
โหยวหลี่เจิ้ง “นี่มันเรื่องอะไรกันแน่? ใครเป็นปีศาจ? ”
ซินแสสวี่ชี้นิ้วไป สตรีนางหนึ่งท่ามกลางกลุ่มชาวบ้านเป็นเป้าหมายที่นางชี้ไป “เป็นนาง! คนผู้นี้ถูกปีศาจสิงสู่ หากไม่กำราบ เกรงว่าอาจก่อให้เกิดเหตุหายนะได้”
“หัวหน้าหมู่บ้านเซียว ซินแสสวี่มีสายตาเฉียบแหลม ทำนายได้อย่างแม่นยำ ทั้งยังมีชื่อเสียงบารมี วาจาของนาง ไม่ผิดแน่นอน! ” โหยวเจิ้งเฉิงกล่าว
เซียวจิ้งยี่ส่ายหน้า “หลี่เจิ้ง คือ… นาง… นางจะเป็นปีศาจได้อย่างไร? ”
โหยวเจิ้งเฉิง “อย่าได้คำนึงถึงความสัมพันธ์ฉันญาติมิตร ขอเพียงปราบปีศาจ ขับไล่ปีศาจไปได้ก็พอแล้ว”
เขานึกว่าสตรีผู้นั้นเป็นญาติของเซียวจิ้งยี่ จึงเอ่ยวาจาเกลี้ยกล่อม
เหยาชิ่งกุ้ยที่ตามมาดวงตาลูกวาวทันที “จอมยุทธ์หญิง…”
จอมยุทธ์หญิง?
โหยวเจิ้งเฉิงก็อยากเห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของจอมยุทธ์หญิงเช่นกัน จึงเอ่ยถามเสียงเบา “อยู่ที่ไหน? ”
เหยาชิ่งกุ้ยชี้ไปทางเซี่ยยวี่หลัวพร้อมกล่าว “คนนั้นขอรับ คนที่อยู่ท่ามกลางกลุ่มชาวบ้าน คนที่คุกเข่าอยู่ คนที่หน้าตาดีที่สุด! ”
โหยวเจิ้งเฉิงรู้สึกมึนงง เซียวจิ้งยี่ที่อยู่ข้างๆ ก็พยักหน้า “หลี่เจิ้ง นางก็คือเซี่ยยวี่หลัว! ”
เซี่ยยวี่หลัวช่วยจับหัวขโมย ทั้งยังช่วยหาเด็กเจ็ดคนจนพบ ซินแสสวี่บอกว่านางเป็นปีศาจ?
เช่นนั้นต่อให้เป็นปีศาจ ก็เป็นปีศาจที่ดีนี่นา!
โหยวเจิ้งเฉิงก็ไม่เชื่อแล้วเช่นกัน หันมองซินแสสวี่ รู้สึกสงสัยขึ้นมา “ซินแสเข้าใจผิดกระมัง? ”
ซินแสสวี่ขมวดคิ้ว “หลี่เจิ้งก็ไม่เชื่อในพลังของข้าหรือ? ”
หลัวไห่ฮวาตะโกนราวกับคนเสียสติ นึกว่าคนเหล่านี้มาช่วยซินแสสวี่ ชี้เซี่ยยวี่หลัวพร้อมโวยวายเสียงดัง “เซี่ยยวี่หลัวเป็นปีศาจ พอปีศาจสิงสู่ ที่บ้านก็เริ่มมีเด็กหายไป ต้องเป็นนางที่จับตัวเด็กไปเพื่อกินแน่ นางเป็นปีศาจ! ”
โหยวเจิ้งเฉิงรวมถึงกลุ่มคนที่มาพร้อมเขาสีหน้าบึ้งตึงทันที
“เหลวไหลทั้งเพ นางช่วยชีวิตเด็กเจ็ดคนในตัวเมืองไว้ ใครบอกว่านางเป็นปีศาจ! ” โหยวเจิ้งเฉิงสาวเท้าก้าวใหญ่เดินไปทางเซี่ยยวี่หลัว
เห็นเซี่ยยวี่หลัวล้มคุกเข่าอยู่บนพื้น เส้นผมบนศีรษะยุ่งเหยิง บุรุษรูปลักษณ์หล่อเหลาผู้หนึ่งที่อยู่ข้างๆ คอยปกป้องนางอยู่ตลอด ถูกดึงทึ้งจนเสื้อผ้าหลุดลุ่ยเช่นกัน จึงกล่าว “พวกท่านคงเป็นคุณชายเซียวและฮูหยินเซียวกระมัง? ข้าน้อยโหยวเจิ้งเฉิง หลี่เจิ้งของเมืองโยวหลัน มาเพื่อขอบคุณฮูหยินและคุณชายที่ช่วยชีวิต! ”
โหยวเจิ้งเฉิงโค้งตัวคำนับ ท่าทางเคารพยกย่องถึงขีดสุดนั่น ทุกคนเห็นแล้วก็ถึงกับผงะไป