ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต - เล่มที่ 12 บทที่ 334 ขอเพียงได้เงิน นางก็จะชี้ตัวว่าผู้ใดเป็นปีศาจ
- Home
- ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต
- เล่มที่ 12 บทที่ 334 ขอเพียงได้เงิน นางก็จะชี้ตัวว่าผู้ใดเป็นปีศาจ
ตั้งแต่ต้นจนจบเซี่ยยวี่หลัวมีท่าทางสบายไม่เคร่งเครียด “เมื่อครู่ทุกคนก็เห็นแล้ว ซินแสสวี่ไม่อาจจับปีศาจในร่างข้า ตรงกันข้าม ข้าใช้วิธีที่เหมือนกับซินแสสวี่ไม่มีผิดเพี้ยน จับปีศาจในร่างซินแสสวี่ได้! ”
“นั่นเพราะเจ้ามีพลังกล้าแกร่ง เจ้าปรักปรำข้า! ” ซินแสสวี่ตะคอก
เซียวจิ้งยี่ขมวดคิ้วพร้อมกล่าว “ท่านเป็นซินแส เป็นหมอผี ตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมาจับปีศาจมามากมายเท่าไร นางเพิ่งทำเป็นครั้งแรก เพียงทำเลียนแบบ จะมีพลังกล้าแกร่งกว่าท่านได้อย่างไร”
เหยาต้าไห่ปิดปากหัวเราะ “หรือว่านี่เป็นบทพิสูจน์ว่าวิชาอาคมของซินแสเป็นแค่เรื่องคุยโวกันไปเอง ความจริงไม่มีวิชาอาคม? ”
ซินแสสวี่เหลือบมองเหยาต้าไห่ด้วยสายตาเย็นเยียบ เหยาต้าไห่หัวเราะคิกคักพลางยักคิ้วหลิ่วตา ไม่เห็นซินแสอยู่ในสายตาแม้แต่น้อย ซินแสสวี่โมโหจนสีหน้าถมึงทึง
“วิชาอาคม? ” เซี่ยยวี่หลัวหัวเราะอย่างเย็นเยียบ ดวงตาประณีตงดงามบัดนี้เย็นเยียบประหนึ่งน้ำแข็งก็มิปาน “บนโลกนี้มีวิชาอาคมที่ไหนกัน เป็นแค่วิชาพรางตาที่มีคนจงใจทำขึ้น เพื่อหลอกลวงผู้คนใต้หล้าเท่านั้น”
นางยกน้ำครึ่งถ้วยที่เหลือจากเมื่อครู่ขึ้นมา นั่นเป็นส่วนที่นางจงใจเหลือไว้ ก่อนกล่าว “ทุกคนลองดมน้ำนี่ ว่ามีกลิ่นอะไรหรือไม่? ”
มีคนเดินขึ้นหน้าไปดูทันที เห็นของในน้ำ “น้ำนี่เหมือนมีกลิ่นประหลาด เหมือนเป็น…”
“เหมือนกลิ่นฉุนของกระเทียม”
“ใช่ใช่ใช่ เป็นกลิ่นฉุนของกระเทียม! ทำไมน้ำนี่ถึงมีกลิ่นฉุนของกระเทียมได้? คือสิ่งใดกัน?”
“คือสิ่งใด? ” เซี่ยยวี่หลัวหันมองซินแสสวี่ “ซินแสลองบอกมาว่านี่คือสิ่งใด?”
ซินแสสวี่เบือนหน้าหนี โมโหจนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน “ข้าจะรู้ได้อย่างไรว่ามันคือสิ่งใด!”
เหตุใดน้ำที่นางใช้เมื่อครู่สาดไปบนตัวเซี่ยยวี่หลัวแล้วไม่มีปฏิกิริยาอะไร น้ำที่เซี่ยยวี่หลัวใช้กลับมีปฏิกิริยา น้ำนี่ คนข้างกายนางเป็นคนเก็บรักษาอยู่ตลอด!
เหตุใดน้ำในกาเดียวกัน สองคนใช้กลับเกิดผลต่างกันได้!
ซินแสสวี่หันมองหมอผีน้อยที่อยู่ข้างๆ ด้วยสายตาดุร้าย หมอผีน้อยตกใจแทบตาย ตกใจขาสั่นจนเกือบปัสสาวะออกมา
เซี่ยยวี่หลัว “ในเมื่อซินแสสวี่ไม่อธิบาย เช่นนั้นข้าอธิบายเอง พวกท่านอาจไม่รู้ ว่าก่อนซินแสสวี่จะมาที่หมู่บ้าน นาง เคยมาพบข้า! ”
เซี่ยยวี่หลัวชี้ไปทางหลัวไห่ฮวา หลัวไห่ฮวายังตกใจกับเรื่องที่เมื่อครู่นี้ซินแสสวี่ถูกเผา บัดนี้ไม่มีท่าทีแข็งกร้าวเหมือนเมื่อครู่แม้แต่น้อย
นับตั้งแต่หลัวไห่ฮวามาหาและตบไหล่นางอย่างไม่มีต้นสายปลายเหตุ เซี่ยยวี่หลัวก็พบความผิดปกติแล้ว
นั่นเป็นกลิ่นฉุนของกระเทียม เซี่ยยวี่หลัวดมทีเดียวก็รู้แล้วว่าเป็นหวงหลิน [1]
หลัวไห่ฮวาจงใจโรยหวงหลินเหลวบนตัวนาง จากนั้นให้นางยืนอยู่นอกศาลบรรพชน ถูกแดดร้อนจัดแผดเผา หวงหลินนั้นไวไฟมาก บางครั้งไม่จำเป็นต้องจุดไฟ เพียงอุณหภูมิสูงจากแสงแดด ก็สามารถทำให้หวงหลินติดไฟเอง
เซี่ยยวี่หลัวซักเสื้อทันที ยังดีที่อากาศร้อนมาก และเสื้อก็บาง เสื้อจึงแห้งอย่างรวดเร็ว เซี่ยยวี่หลัวสวมเสื้อตัวนั้นไป หลัวไห่ฮวาเห็นว่านางไม่ได้เปลี่ยนเสื้อ จึงนึกว่าทำสำเร็จแล้ว
ใครเล่าจะคาดคิด ว่านางมองแผนการร้ายของหลัวไห่ฮวาออกนานแล้ว แสร้งทำเป็นตกหลุมพรางของนาง ปล่อยให้ซินแสสวี่ทำพิธีครั้งแล้วครั้งเล่า
จนสุดท้าย นางค่อยสาดหวงหลินออกมาเสียเอง
“ในน้ำนี่ ใส่หวงหลินไว้กระมัง”
“ภรรยาเซียวยวี่ หวงหลินคือสิ่งใด? ” มีคนเอ่ยถาม
“หวงหลินเป็นสิ่งที่ไวไฟเป็นอย่างมาก เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้นเล็กน้อยก็จะติดไฟเอง แต่สามารถแช่ไว้ในน้ำเพื่อเก็บรักษาได้”
“จะติดไฟเอง? ติดไฟเองหมายถึงอะไร? ” โหยวเจิ้งเฉิงไม่เคยได้ยินคำนี้ จึงรีบเอ่ยถาม
แม้แต่เซียวยวี่ก็จ้องมองเซี่ยยวี่หลัวด้วยความสงสัย ไม่เข้าใจว่าหมายถึงอะไร
“ความหมายของติดไฟเองก็คือ ไม่จำเป็นต้องมีเปลวไฟ ขอเพียงอุณหภูมิสูงมากพอ หวงหลินก็จะลุกไหม้ นอกจากนั้น ขอเพียงอุณหภูมิพอเหมาะ หวงหลินจะอยู่ในสภาวะเหมือนน้ำ เมื่อผสมเข้ากับน้ำ ทุกคนจะดูออกได้อย่างไรว่าเป็นน้ำหรือเป็นสิ่งอื่น ทุกคนรู้เพียงว่า เสื้อเปียกจะลุกไหม้ได้อย่างไร? ต่อให้มีไฟไหม้จริง ภายใต้คำพูดยุยงผลักดันของคนบางคน ทุกคนก็จะคิดว่า นี่เป็นเพราะน้ำเสกสัมฤทธิ์ผล ปีศาจปรากฏกายแล้ว! ”
“เหลวไหลทั้งเพ ข้าไม่รู้ว่าหวงหลินคืออะไร! ” ซินแสสวี่โยกโย้ “เจ้าบอกว่าข้าใส่ร้ายเจ้า ทำไมเจ้าถึงไม่เป็นอะไร ส่วนข้ากลับถูกเผาจนมีสภาพเช่นนี้? เห็นได้ชัดว่าเจ้าที่เป็นปีศาจฉวยโอกาสปรักปรำข้า จะได้ทำร้ายผู้คนในหมู่บ้านสกุลเซียว ทุกคนอย่าฟังความข้างเดียวของนาง ปีศาจนี่ร้ายกาจยิ่งนัก ทุกคนอย่าโดนนางหลอก”
เมื่อเห็นว่านักต้มตุ๋นผู้นี้มาจนถึงบัดนี้ยังใส่ร้ายป้ายสีนาง ไม่รู้จักสำนึกผิด เซี่ยยวี่หลัวไม่คิดเกรงใจนาง
นางจะต่อกรกับความเชื่องมงาย นักต้มตุ๋นผู้นี้ เกรงว่าคงใช้วิชาอาคมสกปรกนี้ทำร้ายผู้คนมาไม่รู้ตั้งเท่าไร
วันนี้ นางจะเปิดโปงโฉมหน้าที่แท้จริงของนักต้มตุ๋นผู้นี้เสีย!
“ในเมื่อท่านยังจะโยกโย้ เช่นนั้นก็ได้ ข้าจะทำให้ท่านยอมจำนนแต่โดยดี! ” เซี่ยยวี่หลัวกล่าวอย่างเย็นเยียบ “จื่อเซวียน เจ้ามานี่! ”
เพียงเห็นเซียวจื่อเซวียนนำกาน้ำที่เหมือนกันไม่มีผิดเพี้ยนมา “พี่สะใภ้ใหญ่ ให้ท่านขอรับ”
เซี่ยยวี่หลัวยิ้มพลางชูนิ้วโป้งขึ้น เซียวจื่อเซวียนรู้สึกดีใจเสียยิ่งกว่าอะไร
ทุกคนมองดูกาน้ำสองกาด้วยความประหลาดใจ
เซี่ยยวี่หลัวเปิดฝากาน้ำทั้งสองกา ให้คนรอบข้างดมดู “พวกท่านลองดมกลิ่นดูว่ามีความต่างกันอย่างไร”
มีคนลองดม “ในนั้นกาหนึ่งไม่มีกลิ่น น่าจะเป็นน้ำ อีกกาหนึ่งมีกลิ่นฉุนกระเทียม”
กาที่มีกลิ่นฉุนกระเทียม เป็นกลิ่นเดียวกับน้ำในถ้วยที่เซี่ยยวี่หลัวให้พวกเขาดมเมื่อครู่
เซี่ยยวี่หลัวชูกาน้ำในมือขวาขึ้น “สิ่งที่อยู่ในนี้คือหวงหลิน เจ้าสิ่งนี้ขอเพียงติดอยู่บนตัวคน ต่อให้มีเพียงน้อยนิด เมื่อโดนประกายไฟก็จะโหมไหม้ โดนอุณหภูมิสูงจะติดไฟเอง”
เมื่อครู่เห็นซินแสสวี่ทำพิธีให้เซียวยวี่ นางลองดมน้ำบนกายเซียวยวี่ นั่นเป็นน้ำเปล่า!
ดังนั้น นางจึงให้เซียวจื่อเซวียนแสร้งทำเป็นกระหายน้ำ แล้วไปทางหมอผีน้อย
เซียวจื่อเซวียนพบกาน้ำที่เหมือนกันไม่มีผิดเพี้ยนจริง หมอผีน้อยเกรงว่าจะแยกไม่ออก ก่อนหน้านี้จึงทำสัญลักษณ์ไว้ เซียวจื่อเซวียนทำตามที่นางบอก ลองดมกลิ่นกาน้ำทั้งสองกา ก่อนจะเปลี่ยนเชือกแดงที่ผูกไว้
เชือกสีแดงที่เดิมทีควรจะผูกติดอยู่บนกาที่มีหวงหลิน เปลี่ยนไปผูกบนกาที่ใส่น้ำเปล่า น้ำหวงหลินที่ซินแสสวี่คิดว่าตัวเองใช้ไป ความจริงเป็นเพียงน้ำเปล่า
เมื่อไม่มีหวงหลิน เสื้อเปียกสามารถลุกไหม้ได้สิถึงจะแปลก
เมื่อได้ฟังคำอธิบายของเซี่ยยวี่หลัว โหยวเจิ้งเฉิงเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ “ฮูหยินเซียว ท่านหมายความว่า ซินแสสวี่ไม่จำเป็นต้องทำพิธี นางก็รู้แล้วว่าผู้ใดคือปีศาจ? ”
ไม่อย่างนั้น เหตุใดถึงไม่เลือกผู้อื่น กลับเลือกเซี่ยยวี่หลัวเล่า! ทั้งยังยืนกรานอย่างมั่นอกมั่นใจว่าเซี่ยยวี่หลัวเป็นปีศาจ แต่ซินแสสวี่จะจับปีศาจ กลับใช้หวงหลินที่สามารถลุกไหม้ได้ นี่มัน…
หากสามารถบีบให้ปีศาจเผยร่างแท้ออกมาได้ด้วยน้ำเสก แล้วเหตุใดถึงต้องใช้หวงหลินเล่า?
แม้แต่โหยวเจิ้งเฉิงที่มีความรู้กว้างขวาง ก็รู้สึกว่าไม่อาจเข้าใจได้
เซียวยวี่ยิ้มอย่างเย็นเยียบ “ใช่ว่านางจะรู้ว่าผู้ใดคือปีศาจ แต่มีคนบอกนางไว้ล่วงหน้า ว่าผู้ใดเป็นปีศาจ นางก็แค่จับคนนั้น!”
————————-
เชิงอรรถ
[1] หวงหลิน คือ ฟอสฟอรัสเหลือง มีกลิ่นฉุนคล้ายกระเทียม ไวไฟมากจึงมักเก็บโดยการแช่ไว้ในน้ำ