ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต - เล่มที่ 12 บทที่ 352 เซียวหมิงจู คงไม่ใช่ว่ามีแล้วกระมัง
- Home
- ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต
- เล่มที่ 12 บทที่ 352 เซียวหมิงจู คงไม่ใช่ว่ามีแล้วกระมัง
“เด็กเล็กย่อมไม่พูดปด ข้าคิดว่าเซียวหมิงจูนั่นเห็นว่าจื่อเมิ่งไม่รู้ความ คิดจะมอบผ้าเช็ดหน้าให้ ทำให้เซียวยวี่ลำบากใจแต่กล่าวอะไรไม่ได้!”
“เซียวยวี่ต้องอยู่ข้างนอกสามเดือนกว่า หากใส่เข้าไปในสัมภาระจริง ก็ต้องพกผ้าเช็ดหน้าที่ปักยวนยางไว้ตลอดสามเดือน จะทิ้งก็ไม่ได้ จะใช้ก็ไม่ได้ เห็นแล้วก็ว้าวุ่นใจไปทั้งวัน! เซียวหมิงจูผู้นี้ ช่างพยายามทุกวิถีทางเสียจริง! ”
“ดูท่าเป็นเซียวหมิงจูที่ชอบเซียวยวี่เอง เพื่อให้ได้แต่งกับเซียวยวี่ จึงดันทุรังบอกว่าทั้งคู่มีใจให้กัน เซี่ยยวี่หลัวกล่าวไม่ผิด มีอย่างที่ไหนมีใจให้กันเช่นนี้ จะมอบของสื่อรักยังต้องมอบผ่านเด็กคนหนึ่ง!”
วาจาเยาะเย้ยถากถางของแต่ละคนที่ดังเข้าโสตประสาทเซียวหมิงจู เปรียบเสมือนโซ่ตรวนแต่ละเส้น ที่ตรึงนางไว้จนหายใจไม่ออก
นางเพียงแค่รักเซียวยวี่ อยากแต่งกับเซียวยวี่เท่านั้น!
ทำไมถึงยากถึงเพียงนี้?
เซียวหมิงจูหันมองเซียวยวี่ เซียวยวี่มองเซี่ยยวี่หลัวอยู่ตลอด
ทั้งสองคนจะสบสายตากันเป็นครั้งคราว นั่นถึงจะเรียกว่ามีใจให้กัน ต่างต้องใจกันอย่างแท้จริง!
ทำไมพวกเจ้าถึงรักใคร่กลมเกลียว ข้ากลับต้องทนรับความอับอาย!
เซียวหมิงจูหัวเราะลั่น หัวเราะประหนึ่งกิ่งบุปผาโยกไปมา “ฮ่าฮ่า ได้ พวกเจ้าจะพูดอะไรก็ได้ อย่างไรเสียเซียวยวี่ทำแล้วไม่ยอมรับ ได้ ได้สิ!”
นางกล่าวจบ ลุกขึ้นยืนด้วยท่าทางหมดอาลัยตายอยาก “ในเมื่อท่านไร้เยื่อใย ข้าก็ไม่มีหน้าจะอยู่ต่อแล้ว! ”
เซียวหมิงจูสอดส่ายสายตาหันมองรอบด้าน จู่ๆ ก็วิ่งเข้าชนกำแพงอย่างรวดเร็ว
“นางจะฆ่าตัวตาย”
ทุกคนอุทานเสียงดัง ต่างก็ตะโกนลั่น “เร็วเข้า เซียวหมิงจูจะคิดสั้น!”
“หมิงจู…” ท่านป้าสี่จับเซียวหมิงจูไว้ไม่ทัน ได้แต่ทนเห็นนางพุ่งพรวดไปทางกำแพง ตกใจจนแทบหมดสติ
เซี่ยยวี่หลัวรีบสาวเท้าขึ้นหน้าสองก้าว ดึงมือเซียวหมิงจูไว้อย่างรวดเร็ว ก่อนออกแรงดึงนางให้ถอยหลัง
คาดว่าเซียวหมิงจูคงมีใจคิดอยากฆ่าตัวตายจริง จึงพุ่งพรวดไปอย่างแรง เซี่ยยวี่หลัวออกแรงดึงด้านหลัง เซียวหมิงจูถูกแรงชักนำ หันตัวกลับมาก็พุ่งพรวดมาทางเซี่ยยวี่หลัว
“อาหลัว ระวัง…” เซียวยวี่อุทานด้วยความตกใจ รีบพุ่งขึ้นหน้าเพื่อปกป้องเซี่ยยวี่หลัว
เซียวหมิงจูเร็วเกินไป ในจังหวะที่ทุกคนคิดว่าเซียวหมิงจูจะชนใส่เซี่ยยวี่หลัว เซี่ยยวี่หลัวเบี่ยงกายหลบออกด้านข้างอย่างรวดเร็ว เซียวหมิงจูโซเซไปสองก้าว หมุนวนรอบตัวเซี่ยยวี่หลัวหนึ่งรอบก่อนจะหยุดลง
วิ่งเร็วเกินไปจึงรู้สึกวิงเวียนศีรษะ เซียวหมิงจูโซเซครู่หนึ่ง เพราะท่านป้าสี่รีบเข้ามาพยุงนางจึงไม่ล้มลง ส่วนเซี่ยยวี่หลัวก็ถูกเซียวยวี่โอบไว้ในอ้อมอก ก่อนเอ่ยถามด้วยความปวดใจ “เจ็บตรงไหนหรือไม่? ”
เซี่ยยวี่หลัวส่ายหน้า ยิ้มพร้อมกล่าว “ข้าไม่เป็นอะไร เจ้าไม่ต้องห่วง”
“ท่านแม่ ข้าเวียนศีรษะ อยากอาเจียน! ” เซียวหมิงจูกุมหน้าผาก กล่าวด้วยอาการวิงเวียน
ท่านป้าสี่โอบเซียวหมิงจูพลางร่ำไห้ด้วยความปวดใจ “เซียวยวี่ หากบุตรสาวข้าเป็นอะไรไป ข้าจะเอาเรื่องเจ้าให้ถึงที่สุด! ”
“อุ้บ...” จู่ๆ เซียวหมิงจูก็ใช้มือปิดปาก เกิดอาการคลื่นเหียน ทุกคนเห็นแล้วถึงกับตาค้าง
นี่เซียวหมิงจู…
สายตาทุกคู่หันไปมองเซียวยวี่ ก่อนหันมองเซียวหมิงจูที่คลื่นเหียนอาเจียนอย่างหนัก จากนั้นจึงมองเซี่ยยวี่หลัวที่อยู่ในอ้อมกอดเซียวยวี่ แต่ละคนเบิกตากว้าง
หรือว่า…
ภรรยาในบ้านยังไม่มีวี่แววใดๆ คนที่อยู่ข้างนอกกลับมีแล้ว?
เซียวยวี่เก่งกาจเกินไปแล้วกระมัง!
เซี่ยยวี่หลัวหรี่ตามองเซียวหมิงจูที่มีอาการคลื่นเหียน เซียวหมิงจูสีหน้าขาวซีด ท่าทางหมดอาลัยตายอยาก
ท่านป้าสี่ก็รู้สึกตกตะลึงยิ่งนัก เห็นบุตรสาวของตัวเองส่งเสียงอยากอาเจียนอยู่หลายหน ก่อนเอ่ยถามด้วยอาการตัวสั่น “หมิงจู นี่เจ้า…”
เซียวหมิงจูสะกดอาการคลื่นเหียนอาเจียนอย่างยากลำบาก ตบอกพลางกล่าว “ท่านแม่…”
ท่านป้าสี่เบิกตากว้างมองดูเซียวหมิงจู ก่อนหันมองเซียวจิ้งยี่ที่ทำสีหน้าตกตะลึงเช่นกัน “หัวหน้าหมู่บ้าน รบกวนช่วยตามเซียวเอ้อมาเถอะ! ”
เซียวจิ้งยี่กลัดกลุ้มจนเส้นผมแทบกลายเป็นสีขาว “เรื่องนี้…”
“ตอนนี้บุตรสาวของข้าชื่อเสียงป่นปี้แล้ว หัวหน้าหมู่บ้านยังไม่ให้ความเป็นธรรมกับพวกเราสองแม่ลูกอีกหรือ? ต้องให้พวกเราสองแม่ลูกชนกำแพงจนตายอยู่ที่นี่ พวกท่านถึงจะพอใจใช่หรือไม่? ” ท่านป้าสี่ตะคอกด้วยอารมณ์เดือดดาล
คราวนี้นางมีใจคิดอยากตายแล้วจริงๆ
หญิงสาวดีๆ คนหนึ่ง บัดนี้ไม่เหลืออะไรแล้ว!
เซียวจิ้งยี่โบกมือ “ไปตามเซียวเอ้อมา! ”
มีคนไปตามเซียวเอ้อทันที
เซี่ยยวี่หลัวกวักมือ เซียวจื่อเซวียนขยับเข้ามาใกล้ เซี่ยยวี่หลัวกระซิบเสียงเบาครู่หนึ่ง เซียวจื่อเซวียนก็ตามออกไปด้วย
ทุกคนต่างไม่กล่าวอะไร รอคอยให้เซียวเอ้อมาเงียบๆ
ในศาลบรรพชนที่อยู่ห่างจากหมู่บ้าน บัดนี้เงียบสงบยิ่งนัก
เซียวหยวนอยู่กับหลัวไห่ฮวา ด้านนอกมีเสียงตะโกนดังขึ้น “หัวหน้าหมู่บ้านให้พวกเจ้าออกมา”
กลอนประตูด้านนอกถูกปลดออก
หลัวไห่ฮวาตกใจจนเกือบจะส่งเสียงร้อง รีบจับมือเซียวหยวนพร้อมเอ่ยถาม “ถึงห้าวันแล้วหรือ? ”
เซียวหยวนส่ายหน้า “ยังไม่ถึง! ”
มีเสียงดังจากข้างนอกอีกหน “หัวหน้าหมู่บ้านกำลังจัดการเรื่องใหญ่อยู่ที่บ้านเซียวยวี่ หากพวกเจ้าจะพบเขา ก็ไปหาที่บ้านเซียวยวี่! ”
เมื่อสิ้นเสียง ด้านนอกก็มีเสียงฝีเท้าเดินไปไกล
หลัวไห่ฮวานั่งลงบนพื้น สีหน้าเสียดายเต็มประดา “ทำไมถึงปล่อยพวกเราออกไปแล้ว? ” นางเสียดายไม่อยากออกไปเลย!
เซียวหยวนหัวเราะ จัดเสื้อผ้าที่เมื่อครู่ทำจนยับ “ออกไปเร็วหน่อยไม่ดีหรือ? ”
หลัวไห่ฮวาเห็นท่าทางของเซียวหยวนที่อดรนทนไม่ไหวอยากรีบออกไป จึงเบ้ปากพร้อมกล่าว “เจ้ารู้สึกว่าดี ข้ากลับไม่รู้สึกว่าดี! เจ้าคงอดใจรอไม่ไหวอยากรีบออกไปหาเซียวหมิงจูกระมัง! ”
เซียวหยวนเห็นนางหึงหวง จึงรีบยิ้มพร้อมปลอบโยน “เจ้ารีบออกไป ก็จะได้พบสามีและลูกเจ้าเหมือนกันไม่ใช่หรือ? ”
หลัวไห่ฮวาถ่มน้ำลายทีหนึ่ง “พบเขา? ข้าถูกขังอยู่ที่นี่ตั้งหลายวัน เขาไม่มาดูข้าด้วยซ้ำ เกรงว่าคงลืมข้าไปนานแล้ว! ”
รอยยิ้มบนใบหน้าเซียวหยวนหายไป เม้มริมฝีปากไม่กล่าวอะไร
หลัวไห่ฮวาเพิ่งนึกขึ้นได้ ว่าตลอดหลายวันที่ผ่านมา เซียวหมิงจูก็ไม่เคยมาแม้แต่ครั้งเดียวเช่นกัน
อย่าให้กล่าวเลยว่าหลัวไห่ฮวารู้สึกชอบใจเพียงใด “พวกเราสองคนล้วนเป็นคนที่มีชะตาชีวิตยากลำบาก พวกเขาไม่ใส่ใจพวกเรา พวกเราก็อย่าคิดถึงพวกเขาเลย”
เซียวหยวนมองหลัวไห่ฮวาพลางแย้มรอยยิ้ม “ได้! ไม่คิดถึงพวกเขา คิดถึงแต่ตัวพวกเราเอง”
เดือนหกอากาศร้อนมาก ถึงแม้ในศาลบรรพชนจะค่อนข้างเย็น แต่ผ่านไปเพียงครู่เดียว