ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต - เล่มที่ 13 บทที่ 376 เก็บซ่อนความดีไว้ คิดแต่จะแยกทางกับเจ้า
- Home
- ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต
- เล่มที่ 13 บทที่ 376 เก็บซ่อนความดีไว้ คิดแต่จะแยกทางกับเจ้า
“คือ เมื่อครู่…” เซียวยิงถือเป็นคนที่ปล่อยวางได้ เซี่ยยวี่หลัวผู้นี้จะดีหรือร้าย ขอเพียงเซียวยวี่รู้สึกว่าดีก็พอแล้ว
“ขอโทษด้วย” เซียวยิงขอขมา
เซี่ยยวี่หลัวกะพริบตาปริบๆ “จะโทษพี่เซียวยิงได้อย่างไร…” นางแย้มรอยยิ้ม ไม่ได้กล่าวต่อ แต่หันมองเซียวยวี่ที่อยู่ข้างๆ “เซียวยวี่ ให้พี่เซียวยิงอยู่กินข้าวที่บ้านสักมื้อสิ! ”
เซียวยวี่กล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “ได้ ทว่า เจ้ากลับห้องไปนอนก่อน ข้าจะทำอาหารเอง เจ้าอย่าลงมือทำ”
เซียวยิง “…” เซียวยวี่ที่อ่อนโยนถึงเพียงนี้ เขาเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก!
ตัวเองเชื้อเชิญผู้อื่นให้อยู่กินข้าว แต่ตัวเองกลับไม่ลงมือทำอาหาร เช่นนั้นยังจะเชิญผู้อื่นให้กินข้าวทำไมกัน แต่เห็นเซียวยวี่ทำสีหน้าดึงดัน เซี่ยยวี่หลัวรู้ว่า วันนี้นางคงทำอาหารไม่ได้แล้ว หากนางลงมือทำอาหาร เซียวยวี่คงโมโหนางเป็นแน่
ช่วยไม่ได้ ทำได้เพียงกลับไปนอนต่อราวกับคนเป็นอัมพาตครึ่งซีก
กล่าวอำลาเซียวยิงอย่างมีมารยาทเสร็จ เซี่ยยวี่หลัวจึงออกไป
เซียวยิงที่เห็นปฏิสัมพันธ์ระหว่างเซียวยวี่และเซี่ยยวี่หลัวตั้งแต่ต้นจนจบ ในเสี้ยววินาทีที่เซี่ยยวี่หลัวออกไป ก็รีบเอ่ยถามอย่างอดใจรอไม่ไหว “เซียวยวี่ นี่มันเรื่องอะไรกันแน่? ก่อนหน้านี้เจ้ากับนาง ต่างรังเกียจซึ่งกันไม่ใช่หรือ? เหตุใดตอนนี้… นอกจากนั้น เมื่อก่อนนางไม่ได้เป็นเช่นนี้ เหตุใดตอนนี้…”
เซียวยวี่ดื่มน้ำชาหนึ่งคำ ยิ้มขมพร้อมกล่าว “ท่านถามคำถามข้าสองข้อ จะให้ข้าตอบข้อไหนก่อนดี? ”
เซียวยิง “ไม่ว่าจะเป็นข้อไหน ขอเพียงอธิบายให้ชัดเจนก็พอ ข้าไม่ได้กลับมาเพียงไม่นาน เกิดเรื่องขึ้นมากมายถึงเพียงนี้ เหตุใดข้าถึงไม่รู้เลย”
เซียวยวี่ได้แต่อธิบายทีละข้อ “หลังจากกลับมา นางก็เป็นเช่นนี้แล้ว”
ไม่ถูก ควรบอกว่า ตอนเขาเดินทางออกจากหมู่บ้านสกุลเซียว ตอนไปสอบ เซี่ยยวี่หลัวก็เป็นเช่นนี้แล้ว
นางในตอนนั้น วิ่งไปไกล ตะโกนคุยกับเขาเสียงดัง เขายังรู้สึกราวกับได้ยินเสียงนั้นดังก้องอยู่ในโสตประสาท
เซียวยวี่ ข้าจะรอเจ้ากลับมา
ในตอนนั้น น้ำเสียงของนางก็เหมือนจะเปลี่ยนไป มีกลิ่นอายที่เขาอธิบายไม่ถูก แต่ในตอนนั้น เขาทั้งรังเกียจและจนใจกับนาง จึงไม่ได้คิดอะไรมากนัก
แต่ใครจะรู้ว่ากลับมาครานี้ นางก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ทั้งภายในและภายนอก เปลี่ยนไปจนสิ้น
พอได้ฟังความเปลี่ยนแปลงของเซี่ยยวี่หลัวในตอนนี้ เซียวยิงจึงกล่าว “ข้าถึงว่า ตอนข้าเข้ามาในหมู่บ้าน เห็นจื่อเซวียนกับจื่อเมิ่ง เด็กสองคนซักเสื้อผ้าเสร็จกำลังจะกลับบ้าน พวกเขาสองคนเรียกข้า ข้ายังจำพวกเขาไม่ได้ทันที! ตัวสูงขึ้น และอ้วนขึ้น สีหน้าก็ดูดีขึ้น ตอนนั้นข้าเพียงเห็นเด็กสองคนไปซักเสื้อผ้าที่ริมแม่น้ำ ในใจเพียงคิด เกรงว่าพี่สะใภ้ใหญ่ของพวกเขาจะทารุณพวกเขาอีกแล้ว ช่างเลวเสียจริง ใครจะรู้…”
ทารุณ?
เซียวยวี่ตวัดริมฝีปาก “ข้าเป็นคนให้พวกเขาไปซักเสื้อผ้าเอง! ” ต่อให้เป็นคนเลว เช่นนั้นคนเลวก็เป็นเขา
เซียวยิง “…” ถือว่าเขาไม่ได้พูด
“เช่นนั้นเจ้าหมายความว่า เรือนหลังนี้ของเจ้า การตกแต่งในห้องนี้ รวมถึงตำราบนชั้นวางตำรา และชาใบอ่อนเก๋ากี้ ล้วนเป็นเซี่ยยวี่หลัวที่เตรียมให้เจ้า? ”
เซียวยวี่พยักหน้า สีหน้าเต็มไปด้วยความสุข
เซียวยิงทอดถอนใจก่อนกล่าว “คิดไม่ถึงเลย ว่าที่แท้เซี่ยยวี่หลัวจะเป็นคนเช่นนี้ เหตุใดแต่ก่อนนางถึงเป็นเช่นนั้น? เก็บซ่อนสิ่งดีๆ ไว้ คิดแต่จะแยกทางกับเจ้า? ”
เรื่องนี้ เซียวยวี่เองก็ไม่เข้าใจ
ความโดดเด่นและการศึกษาของคนคนหนึ่ง ไม่มีทางเก็บซ่อนได้ ย่อมต้องเผยออกมาทีละเล็กทีละน้อย เพียงแต่ เซี่ยยวี่หลัวในอดีตมีจุดเด่นเหมือนในตอนนี้หรือไม่ เซียวยวี่ดูไม่ออกเลยแม้แต่น้อย
เซี่ยยวี่หลัวในอดีต เห็นแก่ตัวหยิ่งผยองไร้การศึกษา ไม่เห็นว่าจะมีความโดดเด่นแม้เพียงน้อยนิด
ไม่ว่ามองอย่างไรก็ไม่มี
เมื่อเห็นเซียวยวี่ไม่กล่าวอะไร เซียวยิงรู้ว่าตัวเองยุ่งมากเกินไป จึงรีบกล่าว “กลายเป็นคนดีแล้วก็พอ ไม่ต้องสนใจสิ่งอื่นใด อย่างไรเสียนางก็ดีแล้ว ทั้งยังคิดจะใช้ชีวิตกับเจ้าอย่างจริงใจ เจ้าตั้งใจเล่าเรียน เตรียมตัวสอบสำหรับปีหน้า เรื่องอื่นอย่าได้คิดมาก”
เซียวยวี่ส่ายหน้า “ข้าไม่คิดจะเล่าเรียนต่อ”
“จะทำเช่นนั้นได้อย่างไร? เจ้ามีพรสวรรค์ด้านการเล่าเรียนมาแต่กำเนิด! ” เซียวยิงร้อนใจ จึงเกลี้ยกล่อม “เจ้ามีใจเป็นห่วงปวงชนใต้หล้า มักจะกล่าวเสมอว่าต่อไปจะเป็นขุนนางดีที่ปกครองใต้หล้าไม่ใช่หรือ? เจ้าจะล้มเลิกง่ายๆ เช่นนี้ได้อย่างไร? ”
เซียวยวี่ยิ้มทีหนึ่ง “บัดนี้แม้แต่ซิ่วไฉข้าก็ยังสอบไม่ผ่าน ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึงจวี่เหริน ข้าจะเป็นขุนนางดีที่ปกครองใต้หล้าได้อย่างไร? ”
เขาในอดีต บิดารมารดายังมีชีวิต เยาว์วัยมีความทะเยอทะยาน ให้คำสัตย์สาบานว่าต่อไปต้องเข้ารับราชการเป็นขุนนาง เป็นขุนนางดีที่รักปวงชนดุจลูกหลาน ทว่า ตั้งแต่บิดามารดาล้มป่วยจนจากโลกนี้ไป ฐานะครอบครัวตกอับ สอบไม่ผ่านครั้งแล้วครั้งเล่า ก็สร้างความกระทบกระเทือนจนเซียวยวี่ไม่เหลือความมั่นใจแม้แต่น้อย
ความมั่นใจเพียงน้อยนิดที่เหลืออยู่ ก็ถูกเรื่องที่ต้องดูแลภรรยาและน้องชายน้องสาวลบล้างจนสิ้น
“บัดนี้ทั้งเรื่องในบ้านและนอกบ้านล้วนเป็นอาหลัวที่คอยดูแล ข้ากลับไม่ประสบความสำเร็จแม้แต่อย่างเดียว ข้าเป็นบุรุษ ข้าควรเป็นคนดูแลครอบครัวนี้ ข้าจะปล่อยให้อาหลัวกังวลใจอีกไม่ได้” เซียวยวี่กล่าวด้วยความหนักแน่น
เซียวยิงยังจะเกลี้ยกล่อมต่อ “ข้าได้ยินมาว่าครั้งหน้าร้านขายตำรามีตำราต้องคัดจำนวนมาก ถึงเวลาข้าจะให้จื่อเซวียนทำทั้งหมด จะได้หาเงินได้บ้าง ไว้เป็นค่าใช้จ่าย”
“จื่อเซวียน? ” เซียวยวี่ขมวดคิ้ว
จริงด้วย หากไม่กล่าวถึงเรื่องคัดตำรา เซียวยวี่คงลืมถามอาหลัวเรื่องนี้แล้ว
“ใช่ ตัวหนังสือของจื่อเซวียนเหมือนเจ้า เรียนรู้ลักษณะเด่นของเจ้าไปกว่าเจ็ดส่วน พอข้านำตัวหนังสือนั่นกลับไป ผู้อื่นก็ชมไม่ขาดปาก บอกว่าต่อไปมีงานคัดตำรา ก็จะให้จื่อเซวียนคัดอีก! ” เซียวยิงนำมาด้วยหนึ่งเล่มพอดี “เจ้าลองดู เข้าตั้งใจเก็บไว้หนึ่งเล่ม คิดจะให้เจ้าเก็บไว้เป็นที่ระลึก จื่อเซวียนเหมือนกับเจ้า ต่อไปก็คงเหมาะกับการเล่าเรียนเช่นกัน! ”
เซียวยวี่เปิดตำรา สิ่งที่ปรากฏสู่สายตา คือตัวหนังสือที่คล้ายคลึงกับของเขา
เซียวยิง “เป็นอย่างไร? คล้ายคลึงกับตัวหนังสือของเจ้าใช่หรือไม่? ”
เซียวยวี่ยิ้มพร้อมพยักหน้า “ใช่ เหมือนกับตัวหนังสือของข้า” หลังจากเขาสอบเสร็จกลับมา ก็เคยเห็นตัวหนังสือของเซียวจื่อเซวียน
ถึงแม้จะเขียนด้วยความสามารถทั้งหมดที่มี ตัวหนังสือที่เขียนออกมายังคงเหมือนสุนัขคลาน คนที่จะเขียนตัวหนังสือเช่นนี้ได้…
คราวนี้เซียวยวี่ไม่ต้องคิดด้วยซ้ำ ก็รู้แล้วว่าใครเป็นคนเขียน
“ตัวหนังสือนี่ช่างดูดีนัก คิดถึงตอนที่ข้าอายุเท่าจื่อเซวียน ยังเขียนหนังสือเหมือนสุนัขคลานอยู่เลย มักจะโดนท่านอาจารย์ตีฝ่ามือ! เด็กคนนี้ อนาคตต้องก้าวไกลไร้ขอบเขตแน่! ”
เซียวยวี่ยิ้มทีหนึ่ง “ใช่ ตัวหนังสือนี่ช่างดีเสียจริง”
แม้แต่เขาเองยังตกตะลึงในความงามของมัน
“เซียวยวี่ เจ้าตั้งใจอ่านตำรา เรื่องอื่นอย่าคิดมากเกินไป หากทางข้ามีงานที่ได้เงิน ต้องคิดถึงเจ้าแน่นอน เข้าใจหรือไม่? ”
เซียวยิงนึกว่าตัวเองกล่าวมามากถึงเพียงนี้ เซียวยวี่น่าจะฟังเขา
ที่ไหนได้ เซียวยวี่เองก็เป็นคนดื้อรั้น เรื่องที่เขาตัดสินใจแล้วก็จะไม่เปลี่ยนแปลงอีก