ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต - เล่มที่ 14 บทที่ 404 ข้าอยากส่งลูกมาเรียนหนังสือกับท่าน
- Home
- ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต
- เล่มที่ 14 บทที่ 404 ข้าอยากส่งลูกมาเรียนหนังสือกับท่าน
ชามว่างเปล่าแล้ว เซียวยวี่เห็นนางกินจนหมด ก็ไม่ห่วงว่านางจะหิวอีก
“เอาล่ะ ข้าต้องไปแล้ว” เซี่ยยวี่หลัวกล่าวอย่างนึกเสียดาย
เซียวยวี่เองก็เสียดาย
ถึงแม้ตอนเย็นก็จะได้พบกัน แต่จะไม่ได้พบกันตลอดช่วงกลางวันเชียว!
“อืม ได้ อย่าลืมกินข้าวตอนเที่ยงด้วย ดูแลตัวเองให้ดี เหนื่อยแล้วก็พักผ่อน อย่าลืมลงกลอนประตู ตอนบ่ายข้าจะรีบไป หลังจากเคาะประตูแล้วได้ยินว่าเป็นข้าค่อยเปิดประตูให้ เข้าใจหรือไม่? ”
เซี่ยยวี่หลัวพยักหน้าพร้อมตอบกลับว่าได้
ถงเต๋ออยู่ข้างๆ ได้ยินเซียวยวี่กำชับเซี่ยยวี่หลัว เขายังรู้สึกตกตะลึงเล็กน้อย
บุรุษผู้นี้ เหตุใดถึงละเอียดอ่อนเพียงนี้ แม้แต่เรื่องลงกลอนประตูยังต้องกำชับ ไม่เพียงแค่นั้น ยังมอบไข่ไก่ให้เขาสองฟองด้วย
ถงเต๋อกินไข่ไก่คำสุดท้ายลงไป เซี่ยยวี่หลัวจึงขึ้นรถม้า
เมื่อเห็นเซียวยวี่ยังมองเซี่ยยวี่หลัวด้วยความเป็นห่วง ถงเต๋อจึงกล่าว “คุณชายเซียวโปรดวางใจ ข้าจะดูแลฮูหยินของท่านให้ดี จะส่งนางให้ถึงที่อย่างปลอดภัยแน่นอน”
เซียวยวี่พยักหน้า “เช่นนั้นก็ขอบคุณท่านมาก”
เซี่ยยวี่หลัวโบกมือ “เซียวยวี่ กลับไปนอนต่ออีกหน่อย! ”
เมื่อครู่นางอยู่ในอาการสะลึมสะลือ ทุกอย่างล้วนเป็นเซียวยวี่ที่ช่วยจัดการให้นาง เตรียมอาหารไว้ให้นาง เขาต้องตื่นเช้าเพียงใดกัน
เซียวยวี่เดินตามรถม้าไปอีกหลายก้าว พร้อมตะโกนบอกว่าได้
เซี่ยยวี่หลัวหันมองไปด้านหลังตลอด จวบจนเงาร่างของเซียวยวี่เล็กลงเรื่อยๆ เซี่ยยวี่หลัวจึงละสายตา
เซียวยวี่ เจ้าดีถึงเพียงนี้ ข้าไม่ปล่อยมือแน่!
ถงเต๋อขับรถม้าเพียงไม่นานก็ถึงตัวเมืองแล้ว เมื่อครู่เซี่ยยวี่หลัวงีบในรถอีกครู่หนึ่ง เมื่อกระโดดลงจากรถม้าจึงรู้สึกกระปรี้กระเปร่า
เลี่ยวซื่อและฟู่ซื่อมาในเวลานี้พอดี ทั้งสามคนเปิดประตู เข้าไปทำงาน
ถงเต๋อกลับไปยังฮวาหม่านยีอีกครั้ง บอกเล่าสิ่งที่ตัวเองเห็นให้ฮวาเหนียงฟัง
ฮวาเหนียงแค่ได้ฟัง ยังจินตนาการได้ถึงความหวานชื่นของสองสามีภรรยา
“คุณชายเซียวผู้นั้นอย่างไรเสียก็เป็นบุรุษ เหตุใดถึงละเอียดอ่อนเพียงนั้น จู้จี้ราวกับเป็นสตรีก็มิปาน! ” ถงเต๋อกล่าวอย่างไม่เข้าใจ
ฮวาเหนียงถลึงตาใส่เขา “นั่นเพราะเขาชอบยวี่หลัวจากใจจริง เจ้าเด็กคนนี้ ไม่เคยชอบใครมาก่อน จะเข้าใจได้อย่างไร”
ชอบคนๆ หนึ่งแล้วจะกลายเป็นคนจู้จี้ถึงเพียงนี้เชียวหรือ?
ถงเต๋อคลำศีรษะด้วยท่าทางประหม่า เขาไม่เข้าใจจริงๆ
ฮวาเหนียงกล่าวพึมพำ “รู้สึกอิจฉาสามีภรรยาคู่นี้เสียจริง รักใคร่หวานชื่นราวน้ำผึ้งก็มิปาน…”
นางในอดีต ก็เคยเป็นเหมือนพวกเขา!
ถงเต๋อเห็นเถ้าแก่เนี้ยสติเลื่อนลอย รู้ว่านางหวนคิดถึงอดีตอีกแล้ว จึงไม่ได้หยุดอยู่ที่เดิม เพียงออกไปอย่างเงียบเชียบ
ดอกหลิงเซียวข้างนอกร่วงนานแล้ว เหลือไว้เพียงใบไม้สีเขียวที่ขึ้นอย่างหนาทึบบนกำแพง
เช่นเดียวกับนาง ที่ยังมีชีวิตอยู่อย่างเข้มแข็งและเดียวดาย ดอกหลิงเซียวของนาง จากไปนานแล้ว
เซี่ยยวี่หลัว ฟู่ซื่อ และเลี่ยวซื่องานยุ่งจนถึงเที่ยง จึงได้หยุดพักและเริ่มกินข้าว
บุตรสาวของฟู่ซื่อเป็นคนส่งอาหารมาให้ ส่วนเลี่ยวซื่อกลับบ้านไปกิน
ตอนเซี่ยยวี่หลัวกินข้าว ก็นึกขึ้นได้ว่าตอนเย็นเซียวยวี่ต้องเดินมาเป็นระยะทางไกลมาก อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเห็นใจ เซี่ยยวี่หลัวกินข้าวเสร็จอย่างรวดเร็ว นางไปยังร้านที่ซื้อเครื่องเรือนคราวก่อน พบกับท่านลุงวัยกลางคนที่ช่วยขนส่งสินค้าให้นางในครั้งก่อนพอดี
ท่านลุงวัยกลางคนเห็นเซี่ยยวี่หลัวมา ก็กล่าวทักทายด้วยความดีใจ “ฮูหยินเองหรือ? ”
เซี่ยยวี่หลัวยิ้มพร้อมกล่าว “ท่านลุง ท่านยอมรับส่งคนให้ข้าวันละสี่รอบได้หรือไม่? ”
เซียวยวี่ยังคงทำเหมือนเคย เตือนเด็กๆ ไม่ให้ลงไปว่ายน้ำเล่น เด็กๆ วิ่งหายไปอย่างรวดเร็ว เซียวยวี่เก็บกวาดสถานศึกษาเสร็จ จึงออกไปอย่างเร่งรีบ
เพิ่งเดินถึงประตู ก็ได้ยินเสียงหนึ่งเอ่ยเรียกอย่างนอบน้อม “อาจารย์เซียว”
เซียวยวี่หันมอง ก็เห็นท่านลุงวัยกลางคนที่ช่วยขนสินค้าให้พวกเขาครั้งก่อนยืนอยู่ข้างๆ เอ่ยเรียกเขาด้วยความเคารพนอบน้อม
“ท่านลุง? ”
“อาจารย์เซียว ข้าแซ่เก๋อ ท่านเรียกข้าว่าคนรถเก๋อก็ได้” เก๋อวั่งยิ้มพร้อมกล่าว “ฮูหยินเซียวให้ข้ามารับท่านเข้าไปในตัวเมือง”
“อาหลัวให้ท่านมารับข้า? ”
“ใช่แล้ว ฮูหยินเซียวบอกว่าท่านไปกลับลำบากมาก บอกว่าต่อไปหากท่านจะเข้าไปในตัวเมือง ก็ให้ข้ามารับส่ง เช่นนี้จะสะดวกสบายขึ้น” เก๋อวั่งยิ้มพลางถูมือไปมา เผชิญหน้ากับบัณฑิตอย่างเซียวยวี่ เก๋อวั่งรู้สึกเคารพนับถือจากใจจริง “ฮูหยินเซียวช่างดีกับท่านจริงๆ”
เซียวยวี่เม้มริมฝีปากแย้มรอยยิ้ม ดวงหน้าดูหล่อเหลายิ่งขึ้น
“เช่นนั้นท่านลุงเก๋อโปรดรอก่อน ข้ากลับไปบอกเด็กสองคนแล้วค่อยไป”
“ได้ อาจารย์เซียวไม่ต้องรีบ ข้าจะรอท่านอยู่ที่นี่”
เซียวยวี่กลับบ้านไป เห็นอาหารที่เหลืออยู่บนโต๊ะ ตอนเที่ยงเขาทำไว้เยอะ ตอนเย็นอุ่นกินก็พอ อาเซวียนสามารถทำได้
“ตอนนี้ข้าจะเข้าไปในตัวเมือง พวกเจ้าอุ่นอาหารกินอย่างว่าง่าย อาบน้ำเสร็จแล้วกลับห้องไป ลงกลอนประตูใหญ่ให้ดี พรุ่งนี้อย่าลืมเข้าห้องเรียนให้ตรงเวลา เข้าใจหรือไม่? ” เซียวยวี่กล่าวกำชับ
เด็กสองคนคุ้นชินจนเห็นเป็นเรื่องปกติแล้ว จึงพยักหน้าพร้อมตอบว่าได้
เซียวยวี่หยิบเสื้อผ้าที่จะเปลี่ยน แล้วจึงออกไป
ครั้งก่อนตอนที่เซียวยวี่นั่งรถม้า ภายในรถม้ายังแข็งกระด้าง คราวนี้กลับมีฟูกอ่อนนุ่มชั้นหนาปูไว้
เก๋อวั่งยิ้มพร้อมอธิบาย “ฮูหยินเซียวกลัวว่าจะสะเทือนถึงท่าน จึงมอบเงินให้ข้าไปซื้อฟูก บอกว่าหากทำเช่นนี้ ตอนนั่งจะสบายขึ้นบ้าง”
เซียวยวี่นั่งบนฟูกนุ่มชั้นหนา รู้สึกเบิกบานใจยิ่งนัก
“อาจารย์เซียว ข้าอยากขอร้องท่านเรื่องหนึ่ง…” เก๋อวั่งเหมือนอยากกล่าวแต่ก็ไม่กล้า สุดท้ายก็ปริปากกล่าวออกมา
“ท่านลุงเก๋อพูดได้เลย”
“ข้ามารับท่าน ฮูหยินเซียวคุยเรื่องค่าแรงไว้แล้ว แต่ข้า…” เก๋อวั่งหยุดชะงัก ก่อนจะกล่าวต่อด้วยท่าทางเก้ๆ กังๆ “แต่ข้าไม่อยากได้ค่าแรง”
เซียวยวี่รู้สึกประหลาดใจ “เพราะเหตุใด? ”
เก๋อวั่งกล่าวด้วยท่าทางลำบากใจ “ปีนี้บุตรชายของข้าอายุสิบเอ็ดปีแล้ว ไปสถานศึกษาหลายแห่งแต่ก็ไม่มีที่ใดยอมรับเขา บอกว่าอายุมากเกินไป สอนยาก จึงไม่รับ แต่บุตรชายข้าอยากเรียนหนังสือ ต้องทนมองเด็กคนอื่นไปสถานศึกษาอยู่ทุกวัน ภายในใจข้ารู้สึกทนไม่ได้จริงๆ ข้าพยายามถึงเพียงนี้ ก็เพื่อให้ต่อไปเขาไม่ต้องหาเลี้ยงชีพด้วยแรงกายอย่างยากลำบากเช่นเดียวกับข้าไม่ใช่หรือ แต่ข้าอยากส่งเขาไปเรียน ยังส่งไม่ได้เลย ข้าจึงอยากขอร้องท่าน ให้ข้าส่งบุตรชายมาที่ท่าน ให้เขาได้เรียนกับท่านได้หรือไม่? ”
ตอนเก๋อวั่งมา ยังไม่ถึงเวลาเลิกเรียน ยามที่เซียวยวี่สอนเด็กๆ อ่านตำราอยู่ด้านใน เก๋อวั่งที่ได้ยินเสียงท่องตำรานั่น ก็รู้สึกสะเทือนอารมณ์นัก ภายในใจจึงเกิดความคิดหนึ่งขึ้น ต้องส่งบุตรชายมาเรียนหนังสือให้ได้!
เซียวยวี่นิ่งเงียบครู่หนึ่ง ก่อนกล่าว “ย่อมได้แน่นอน”
เก๋อวั่งรู้สึกยินดียิ่ง หากไม่ใช่เพราะกำลังขับรถม้าอยู่ เขาคงแทบจะคุกเข่าลงต่อหน้าเซียวยวี่ “จริงหรือ? อาจารย์เซียวยอมตกลงจริงหรือ? ”
“การเล่าเรียนเป็นสิทธิ์ของทุกคน หากเขาอยากเรียน ข้าย่อมยินยอมจะสอน! ” เซียวยวี่ยังจำวาจาที่เซี่ยยวี่หลัวเคยกล่าวไว้ได้ อยากให้ในอนาคตทุกคนในต้าเยว่ได้เรียนหนังสือ ไม่ว่าจะเป็นบุรุษ สตรี ผู้สูงวัย หรือเด็กเล็ก
เขาจะช่วยอาหลัว ค่อยๆ ทำให้ความหวังของนางเป็นจริง
“อาจารย์เซียว ท่านกับฮูหยินเซียวช่างเป็นคนดีจริงๆ! ” เก๋อวั่งรู้สึกซาบซึ้งจนหยาดน้ำตาอุ่นร้อนแทบไหลออกมา “สวรรค์ต้องให้พวกท่านมีอายุมั่นขวัญยืนแน่! ”
เมื่อเข้าไปในตัวเมือง เซียวยวี่ไม่ได้ให้เก๋อวั่งส่งตัวเองไปยังโรงผลิต แต่ให้เขากลับไปก่อน
หลังจากซื้อของเสร็จ กลับถึงโรงผลิต พระอาทิตย์ก็เพิ่งตกดิน