ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต - เล่มที่ 14 บทที่ 418 ขอให้ปีนี้มีเรื่องดี ปีหน้ามีสมาชิกใหม่
- Home
- ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต
- เล่มที่ 14 บทที่ 418 ขอให้ปีนี้มีเรื่องดี ปีหน้ามีสมาชิกใหม่
เซียวจื่อเซวียนเบ้ปาก ไม่ได้กล่าวอะไร
เซี่ยยวี่หลัวเองก็เป็นห่วง แต่เด็กผู้ชายมีพลังกายเปี่ยมล้น เดินมากว่าครึ่งทาง นางก็วิ่งจนแทบจะเมื่อยขาแล้ว แต่เด็กตัวน้อยกลับยังมีแรงวิ่งอยู่อีก
ทว่า เด็กมีความสุข นางก็มีความสุข
“ไม่เป็นอะไร ข้าจูงมือเขาอยู่! ” เซี่ยยวี่หลัวรีบช่วยพูดแทนเซียวจื่อเซวียน
เซียวจื่อเซวียนรู้สึกดีใจ “ใช่ขอรับ ข้าอยู่กับพี่สะใภ้ใหญ่ตลอด! ”
เซียวยวี่มองเซี่ยยวี่หลัว กล่าวด้วยความเห็นใจ “พี่สะใภ้ใหญ่ของพวกเจ้าก็เป็นเด็ก เดินหลงจะทำเช่นไร? พี่สะใภ้ใหญ่จูงมือเจ้า ส่วนข้าจูงมือพี่สะใภ้ใหญ่ อย่าเดินไปทั่ว”
เซียวยวี่คว้าหมับจับมือเซี่ยยวี่หลัวไว้ ยืนอยู่ตรงกลาง จูงมือเด็กคนละหนึ่งข้าง
ออกแรงมือซ้ายเล็กน้อย กางออก ก่อนเกี่ยวประสานกับนิ้วมือข้างขวาของเซี่ยยวี่หลัว
ถึงแม้จะไม่ได้มีความสุขเช่นตอนที่อยู่ด้วยกันตามลำพังเพียงสองคน แต่อย่างน้อย ก็ฉวยโอกาสนี้จูงมือเล็กไว้ได้แล้ว คืนนี้เขาสามารถจูงมือนางได้ทั้งคืน
เด็กอายุแปดขวบหนึ่งคน และเด็กอายุหกขวบหนึ่งคน เงยหน้ามองเด็กอายุสิบห้าปี ส่วนเด็กอายุสิบห้าปีก็หันมองคนอายุสิบเจ็ดปีที่เป็น… ผู้ใหญ่!
เซียวยวี่ เจ้าช่างเก่งกาจนัก อธิบายเรื่องการจูงมือเสียฟังดูดีถึงเพียงนี้
เมืองโยวหลันจะมีตลาดยามค่ำคืนเดือนละหนึ่งครั้ง คึกคักตลอดตั้งแต่กลางวันถึงกลางคืน วันนี้จะมีคนตั้งแผงขายของจำนวนมาก แต่มีคนมาเที่ยวเล่นสนุกมากยิ่งกว่า
ฮูหยินเฒ่ากู้ก็รู้ว่าวันนี้เป็นวันที่คึกคัก นางที่แทบไม่ไปเซียนจวีโหลว วันนี้จึงไปนั่งที่นั่นครู่หนึ่ง ก่อนจะบอกว่าอยากไปเที่ยวสนุกข้างนอกบ้าง
ในเมื่อมารดาของตัวเองอยากไป ซ่งฉางชิงที่เป็นห่วงว่าคนเยอะจะชนใส่คนสูงวัยเอาได้ ย่อมต้องตามไปด้วย ปล่อยให้ซ่งฝูอยู่คิดเงิน ซ่งฉางชิงตามฮูหยินเฒ่ากู้ออกไป ส่วนท่านป้ากุ้ยก็ตามอยู่ข้างๆ
นางเดินผ่านแผงขายของไม่กี่แผง ก็รู้สึกหมดแรง “คึกคักถึงเพียงนี้ แค่ได้เห็น ภายในใจก็รู้สึกดีแล้ว! เพียงแต่ข้าอายุมากนัก จึงเดินไม่ไหวแล้ว”
ท่านป้ากุ้ยที่อยู่ข้างๆ ยิ้มพลางกล่าว “หลายวันก่อนคุณหนูก็บอกว่าจะพาท่านออกมาเดินเล่นให้สบายใจ ท่านมักจะบอกว่ากลัวยุ่งยาก ไม่อยากออกมาให้วุ่นวาย หากไม่ใช่เพราะท่านเกลี้ยกล่อม เกรงว่าวันนี้คุณหนูก็คงไม่ออกมา! วันนี้ฮูหยินเฒ่าออกมาเที่ยวเล่น ไม่รู้ว่าคุณหนูไปที่ไหนแล้ว? หากเห็นเข้า คงต้องพาท่านเดินเที่ยวอีกสักสองรอบเป็นแน่! ”
“นางอยู่ในเรือนเป็นเพื่อนยายแก่อย่างข้าทั้งวัน หากไม่ออกมาเที่ยวเล่นให้สนุกบ้าง ข้าเกรงว่านางคงใกล้จะกลายเป็นยายแก่เช่นข้าแล้ว” ฮูหยินเฒ่ากู้กล่าวด้วยความรักใคร่เอ็นดู ก่อนสอดส่ายสายตามองดูไปทั่ว ราวกับว่ากำลังหาคนอยู่จริงอย่างไรอย่างนั้น
ท่านป้ากุ้ยก็ชะเง้อคอมองหาไปทั่ว พอจะดูออกว่ารู้สึกร้อนใจเล็กน้อย
ซ่งฉางชิงเห็นสีหน้าท่าทางของทั้งสองคน ก็รู้อยู่แก่ใจนานแล้ว เขาประคองฮูหยินเฒ่าอย่างเงียบสงบ เดินไปยังแผงขายของด้านหน้า
“ท่านป้า…” ในจังหวะนี้เอง จู่ๆ เสียงนุ่มละมุนก็ดังขึ้น เพียงเห็นสตรีผู้หนึ่งที่สวมใส่ชุดกระโปรงสีเหลืองนวลรีบเดินผ่านฝูงชนมาราวกับผีเสื้อตัวหนึ่งที่บินอย่างเบาหวิว
ซ่งฉางชิงสีหน้าเย็นชา มองแวบหนึ่งก่อนจะละสายตา
ฮูหยินเฒ่ากู้สะกิดบุตรชายที่อยู่ข้างๆ ก่อนบุ้ยปากทีหนึ่ง
คืนนี้นางจงใจจัดละครสนุกไว้ฉากหนึ่ง นี่อย่างไร ในที่สุดก็มาอยู่ด้วยกันแล้ว
“ญาติผู้พี่ก็อยู่หรือเจ้าคะ! ” กู้ซินเยว่ย่อตัวคำนับทีหนึ่ง สีหน้ายินดี
ซ่งฉางชิงพยักหน้าอย่างเรียบสงบ แววตาไร้อารมณ์
กู้ซินเยว่กัดริมฝีปาก ฝืนสะกดความน้อยเนื้อต่ำใจไว้
“เด็กโง่ เหตุใดถึงเดินกลับมาเล่า? เที่ยวด้านหน้าหมดแล้วหรือ? ” ฮูหยินเฒ่ากู้กล่าวด้วยความเห็นใจ
กู้ซินเยว่ส่ายหน้า “ข้ารู้สึกเหนื่อยแล้ว อยากกลับแล้วเจ้าค่ะ”
จื่อเยียนที่อยู่ข้างๆ พูดแทรกขึ้นมา “ฮูหยินเฒ่า ไม่ได้เป็นเช่นนั้นเจ้าค่ะ คุณหนูบอกว่าเป็นห่วงกลัวท่านอยู่บ้านคนเดียวจะเบื่อ จึงอยากกลับไปอยู่เป็นเพื่อนท่านเจ้าค่ะ”
ท่านป้ากุ้ยปิดปากกลั้นหัวเราะ “คุณหนูช่างเห็นอกเห็นใจผู้อื่นเสียจริง หากฮูหยินเฒ่ามีลูกสะใภ้ที่กตัญญูเช่นนี้คงดีไม่น้อย”
ฮูหยินเฒ่ากู้ยิ้มพร้อมกล่าว “คนอื่นๆ มีหรือจะรู้ใจข้าเหมือนซินเยว่”
กู้ซินเยว่รู้สึกยินดียิ่ง เงยหน้าขึ้นมองฮูหยินเฒ่ากู้อย่างฉับพลัน ก่อนหันมองไปทางซ่งฉางชิงที่อยู่ข้างๆ จากนั้นจึงก้มหน้าลงด้วยความเหนียมอาย
นี่ท่านป้ากำลังยอมรับตัวเองต่อหน้าญาติผู้พี่เช่นนั้นหรือ?
วันนี้นางออกมาเที่ยวตลาด ท่านป้าเป็นคนให้นางออกมา บอกว่าจะทำให้นางประหลาดใจ
บัดนี้กู้ซินเยว่เห็นคนที่งามสง่าประหนึ่งต้นหยกท่ามกลางสายลมยืนอยู่ข้างกายท่านป้า ก็เข้าใจเรื่องที่ท่านป้าบอกว่าจะทำให้นางประหลาดใจทันที
ญาติผู้พี่ก็มาด้วย ถือเป็นเรื่องน่าประหลาดใจอย่างใหญ่หลวง
ฮูหยินเฒ่ากู้คิดอยากให้สองคนนี้อยู่ด้วยกันให้มาก จึงกล่าว “คึกคักถึงเพียงนี้ พวกเจ้าเดินเป็นเพื่อนยายแก่อย่างข้าอีกสักสองร้านดีหรือไม่? ”
กู้ซินเยว่รีบเดินขึ้นหน้า ประคองฮูหยินเฒ่ากู้อย่างว่าง่ายรู้ความ ซ่งฉางชิงยังคงประคองมารดาของตัวเองอยู่อีกข้างหนึ่ง ที่นี่มีคนเยอะ ท่านแม่ก็อายุมากแล้ว เดินเหินไม่สะดวก นอกจากท่านป้ากุ้ย เขาไม่ไว้ใจผู้ใดทั้งนั้น
เดินไปสองร้าน ฮูหยินเฒ่ากู้เลือกดูของอย่างมีความสุข กู้ซินเยว่อยู่ข้างๆ คอยปรนนิบัติอย่างระมัดระวัง ก่อนหันมองซ่งฉางชิงที่ไม่ยอมถอยห่างออกจากตัวฮูหยินเฒ่าแม้แต่ก้าวเดียว ภายในใจรู้สึกยินดีเสียยิ่งกว่าอะไร
“ไม่ไหวแล้ว ข้าเดินไม่ไหวแล้ว ต้องกลับไปก่อน” ฮูหยินเฒ่ากู้แสร้งทำทีเป็นเหนื่อย
กู้ซินเยว่กล่าวอย่างว่าง่าย “ได้เจ้าค่ะ ท่านป้า ข้าจะประคองท่านกลับไปเจ้าค่ะ! ”
“เจ้าเด็กคนนี้ ตอนนี้ยังไม่ดึก เจ้ายังเดินเที่ยวไม่หมด น่าเสียดายยิ่งนัก เจ้าไปเที่ยวต่อ ญาติผู้พี่ของเจ้าก็อยู่พอดี ให้เขาอยู่เป็นเพื่อนเจ้า”
กู้ซินเยว่บีบชายเสื้อด้วยความตื่นเต้น ร่างกายกำลังสั่นเทิ้มเบาๆ
“ฉางชิง ไม่ง่ายเลยกว่าซินเยว่จะได้ออกมาสักหน ที่นี่มีคนเยอะ สตรีเดินเพียงลำพังก็ไม่ปลอดภัย เจ้าดูแลนางดีๆ เที่ยวเล่นเสร็จแล้วส่งซินเยว่กลับบ้าน เจ้าต้องส่งนางกลับมาอย่างปลอดภัย หากไม่ส่งกลับมาข้าจะถลกหนังเจ้าเสีย เข้าใจหรือไม่? ” ฮูหยินเฒ่ากู้กล่าวด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ก่อนให้ท่านป้ากุ้ยประคองกลับไป
ปล่อยให้กู้ซินเยว่อยู่กับซ่งฉางชิง
ฮูหยินเฒ่ากู้แอบเหลียวมอง เห็นทั้งสองคนยังยืนทื่ออยู่ที่เดิม นางจึงยิ้มออกมา “ในที่สุดก็ทำให้พวกเขาอยู่ด้วยกันแล้ว ฉางชิงเด็กคนนั้น เล่าเรียนได้ดี ทำการค้าได้ดี แต่เรื่องความรักนี่ ช่าง…” นางชี้ไปที่ศีรษะ ก่อนกล่าวกับท่านป้ากุ้ยที่อยู่ข้างๆ “ไม่เข้าใจเสียบ้างเลย! ซินเยว่เป็นสตรีที่ดีถึงเพียงนั้น เขายังไม่เข้าหาบ้าง ทำให้ยายแก่อย่างข้าร้อนใจแทบตาย”
ท่านป้ากุ้ยยิ้ม “ฮูหยินเฒ่าร้อนใจอะไรเจ้าคะ? คุณหนูอยู่ที่เรือนตระกูลซ่งตลอด ข้างกายคุณชายก็ไม่มีสตรีคนไหนเข้าใกล้ ต่อให้มี ก็มีเพียงคุณหนูคนเดียว”
“ข้าก็ได้แต่หวังให้พวกเขาได้ครองคู่กัน! ” ฮูหยินเฒ่ากู้แสดงสีหน้าคาดหวัง “ซินเยว่เป็นเด็กดี ฉางชิงย่อมไม่มีเรื่องให้ติ ทั้งสองคนล้วนแต่เป็นลูกของข้า หากได้แต่งงานครองคู่ ผ่านไปอีกสักหนึ่งถึงสองปี มีบุตรชายหรือบุตรสาวสักคน ก็ถือเป็นเรื่องดี ต่อให้ข้าตายจากไป ก็สามารถไปพบนายท่านกับน้องสาวผู้น่าสงสารของข้าได้อย่างสบายใจแล้ว”
“โถ่ ฮูหยินเฒ่ากล่าวอะไรเจ้าคะ ร่างกายของท่านแข็งแรงถึงเพียงนี้ ต้องได้อยู่เห็นหลานมีเหลนให้ท่านแน่เจ้าค่ะ! ” ท่านป้ากุ้ยกล่าวปลอบโยน
ทั้งสองคนหันกลับไปมองแวบหนึ่ง หลังจากหันกลับมาก็ทำสีหน้าท่าทางเหมือนเข้าใจกันโดยนัย
ขอให้เป็นเช่นนั้น ขอให้ปีนี้มีเรื่องดี ปีหน้ามีสมาชิกใหม่