ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต - เล่มที่ 15 บทที่ 421 เซียวหมิงจูแต่งงาน
ฮูหยินเฒ่ากู้เห็นดังนั้น ก็หัวเราะออกมาอย่างเบิกบานใจเสียยิ่งกว่าอะไร “ฉางชิง เด็กคนนั้น ในที่สุดก็เข้าใจเสียที”
นางหยุดชะงักไปชั่วขณะ ตบมือกู้ซินเยว่เบาๆ ก่อนกล่าวอย่างใจเย็น “ซินเยว่ ฉางชิงเป็นเด็กดี! เดิมทีเขารู้จักแต่การเล่าเรียน บัดนี้ก็รู้จักแต่การเปิดภัตตาคาร เรื่องหลายๆ อย่าง โดยเฉพาะเรื่องระหว่างชายหญิง เขาล้วนไม่เข้าใจ ในบางครั้งหากทำได้ไม่ดี หรือพูดอะไรไม่ดี เจ้าอย่าได้เก็บมาใส่ใจ! ”
กู้ซินเยว่พยักหน้า “ท่านป้า ข้าเข้าใจเจ้าค่ะ ญาติผู้พี่เป็นผู้ที่จะทำการใหญ่! ”
“เจ้าเข้าใจก็ดีแล้ว เจ้าเป็นเด็กดีที่เฉลียวฉลาด วันนี้ป้าทำเรื่องนี้ ก็เพราะอยากช่วยเจ้า เจ้าเป็นหลานสาวแท้ๆ ของข้า บิดามารดาเจ้าต้องมาด่วนจากไป ในเมื่อพวกเขาฝากฝังเจ้าไว้กับข้า ข้าก็ต้องดีกับเจ้า แต่ข้าคิดว่า จะดีอย่างไร ก็มิสู้กลายเป็นครอบครัวเดียวกัน” ในที่สุดฮูหยินเฒ่ากู้ก็พูดอย่างเปิดใจ เอ่ยถึงเรื่องนายหญิงของเรือนตระกูลซ่งอย่างเปิดเผย
“ท่านป้า! ” ใบหน้ากู้ซินเยว่ขึ้นสีแดง
“ญาติผู้พี่ของเจ้าเป็นเด็กดี เพียงแต่ไม่ค่อยพูดค่อยจา ทำให้รู้สึกราวกับเป็นคนเย็นชา บัดนี้ข้างกายเขาก็ไม่มีใครอื่น เจ้าต้องรักษาโอกาสไว้ให้ดี เข้าใจหรือไม่? ” ฮูหยินเฒ่ากู้ตบมือของกู้ซินเยว่เบาๆ มีความคาดหวังในตัวนางสูง
กู้ซินเยว่พยักหน้าด้วยท่าทีจริงจัง “ท่านป้า ข้าเข้าใจเจ้าค่ะ! ข้าจะรักษาโอกาสให้ดี! ”
ท่านป้าอยู่ข้างนาง เช่นนั้นนางก็จะไม่ลำบากมากนัก
“ฉางชิงรักมั่น ญาติผู้พี่ของเจ้าเป็นคนรักเดียวใจเดียว หากชอบใครสักคนก็จะไม่เปลี่ยนใจอีก ต้องชอบไปตลอดชีวิตแน่นอน! ” ท่ามกลางท้องฟ้ายามราตรีที่มืดสลัว หลังจากฮูหยินเฒ่ากู้กล่าวประโยคนี้จบ ประกายไฟจากเทียนส่งเสียงดังเปรี๊ยะทีหนึ่ง
แสงไฟสั่นไหว สว่างเป็นบางครั้งมืดสลัวเป็นบางคราว
ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ ว่าวาจาของฮูหยินเฒ่ากู้จะกลายเป็นจริง
เช้าวันรุ่งขึ้น เดิมทีเซี่ยยวี่หลัวคิดจะตื่นแต่เช้าเพื่อทำอาหารสักสองอย่างให้เซียวยวี่นำกลับไป ที่ไหนได้ เซียวยวี่กลับตื่นเช้ากว่านาง ทำอาหารเสร็จแต่เช้า ข้าวก็หุงเสร็จแล้ว
“เจ้า… ทำไมถึงตื่นเช้านัก? ” เซี่ยยวี่หลัวเอ่ยถามด้วยความตกตะลึง
เซียวยวี่ยิ้ม “ข้าเตรียมอาหารเช้าและอาหารเที่ยงไว้แล้ว วันนี้เจ้ากินที่บ้าน”
เซี่ยยวี่หลัวขานตอบทีหนึ่ง ขยับเข้าไปใกล้ โอบเอวคอดแข็งแรงของเซียวยวี่ไว้ พิงอยู่บนกายเขา
เซียวยวี่โอบกอดนางไว้ ทั้งคู่ต่างไม่กล่าวอะไร เพียงอยู่เช่นนั้นอย่างเงียบสงบ
เวลามักจะผ่านไปอย่างรวดเร็ว เก๋อวั่งรออยู่หน้าประตูตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง พวกเขากินอาหารเช้าเสร็จ ก็เตรียมตัวกลับแล้ว
“พี่สะใภ้ใหญ่…” เซียวจื่อเมิ่งรู้ว่านางจะไม่ได้พบพี่สะใภ้ใหญ่ไปอีกหลายวัน จึงรู้สึกเสียใจจนส่งเสียงสะอื้น ก่อนจะร้องไห้ออกมา
“เด็กโง่ กลับไปเชื่อฟังพี่ชายทั้งสองดีๆ ห้ามไปเล่นในสถานที่อันตรายอย่างริมแม่น้ำ อากาศร้อนเกินไป ก็อย่าออกจากบ้าน อยู่ในบ้านดีๆ เข้าใจหรือไม่? ” เซี่ยยวี่หลัวก็ไม่อยากแยกจากเด็กสองคน รู้สึกระคายคอขึ้นมาเช่นกัน
เซียวจื่อเซวียนเองก็ไม่อยากไป เขาเบะปาก เซี่ยยวี่หลัวกอดเขาทีหนึ่ง จึงดีขึ้นมาก
เซียวยวี่ “…”
ได้กอดทุกคนแล้ว ควรถึงคราวเขาแล้วใช่หรือไม่?
แต่ดูเหมือนนางจะไม่มีเจตนาเช่นนั้น หลังจากกอดเด็กสองคนก็ส่งพวกเขาออกไป ลืมเซียวยวี่เสียสนิท
“ท่านอาจารย์ อาจารย์หญิง…” เวลานี้เก๋อเหลียงหยวนที่ยืนอยู่หน้าตัวรถ กล่าวทักทายเซี่ยยวี่หลัวด้วยความเคารพ
เซี่ยยวี่หลัวหยิบไข่ไก่ฟองหนึ่งออกมาจากอกเสื้อ “กินข้าวหรือยัง? มา กินไข่สักหนึ่งฟอง! ”
เก๋อเหลียงหยวนรีบโบกมือ “อาจารย์หญิง ไม่ต้องขอรับ ข้า… ข้ากินมาแล้ว” เขากินมาแล้วจริงๆ ถึงแม้จะกินเพียงโจ๊กธรรมดา แต่กินอิ่มแล้วจริงๆ
เก๋อวั่งที่อยู่ข้างๆ ก็กล่าวขึ้นเช่นกัน “ฮูหยินเซียว เด็กคนนี้กินมาแล้วจริงๆ ไม่ต้องแล้วขอรับ! ”
เซี่ยยวี่หลัวจับมือเก๋อเหลียงหยวนมา วางไข่บนมือเขา “เจ้าเด็กโง่ ให้เจ้ากินเจ้าก็กินเสีย ไข่ไก่นั้นมีคุณค่าทางโภชนาการ เจ้าเรียนทุกวัน ต้องใช้สมอง ไข่ไก่ช่วยบำรุงได้ดี! ”
อาหารเช้าของเด็กสองคนในทุกเช้า ไข่ไก่เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ การเล่าเรียนนั้นยากลำบากมาก พอคิดถึงเก๋อเหลียงหยวน นางจึงต้มให้เขาหนึ่งฟอง
เก๋อเหลียงหยวนมองไข่ไก่ร้อนในมือตัวเองแวบหนึ่ง กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “ขอบคุณขอรับอาจารย์หญิง! ”
เซี่ยยวี่หลัวเพียงโบกมือ “ขึ้นไปเถิด กินตอนยังร้อนอยู่”
เก๋อเหลียงหยวนปีนขึ้นรถม้า เซียวยวี่จึงเดินมาหา อาศัยจังหวะที่เซี่ยยวี่หลัวไม่ทันระวัง โอบกอดเซี่ยยวี่หลัวจากด้านหลัง
ร่างกายของเซี่ยยวี่หลัวพลันแข็งทื่อ…
ที่นี่มีคนตั้งมากมาย!
แต่เพียงไม่นาน เซียวยวี่ก็ชักมือกลับ ขึ้นรถม้าไป “ดูแลตัวเองดีๆ ตอนเย็นข้าจะรีบกลับมา”
รถม้าวิ่งหายไปในตรอก เซี่ยยวี่หลัวจ้องมองรถม้าจนหายลับไป ก่อนจะกลับเข้าไปในเรือน
เซี่ยยวี่หลัวนอนไม่หลับแล้ว จึงได้แต่ทำน้ำหอมของนางต่อ
รถม้าถึงหมู่บ้านสกุลเซียวอย่างรวดเร็ว เก๋อวั่งพาพวกเขาไปส่งถึงห้องเรียน
วันนี้หมู่บ้านสกุลเซียวครึกครื้นเป็นอย่างมาก
เสียงเป่าแตรและตีฆ้องตีกลองดังกึกก้องไปทั่ว ตลอดทางที่ผ่านมา บนพื้นเต็มไปด้วยเศษประทัด เซียวยวี่เพิ่งลงจากรถ ก็เห็นเกี้ยวตัวหนึ่งมาจากตำแหน่งที่ไม่ห่างนัก
คนที่ตามอยู่ข้างเกี้ยวล้วนแต่เป็นผู้คนที่มาร่วมสนุกกันทั้งสิ้น รวมถึงยังมีเด็กอีกจำนวนไม่น้อย ที่คอยตามเก็บลูกกวาดมงคล
เซียวหยวนสวมใส่ชุดเจ้าบ่าวสีแดงสด เดินอยู่หน้าเกี้ยว สีหน้าดูมีชีวิตชีวา เต็มไปด้วยกลิ่นอายมงคล
วันนี้เป็นวันแต่งงานของเซียวหมิงจูและเซียวหยวน
ท่านป้าสี่ต้องการจัดอย่างครื้นเครง จึงให้แห่เกี้ยวรอบหมู่บ้านสองรอบ ทั้งหมู่บ้าน นอกจากครอบครัวเซียวยวี่ คนอื่นๆ ล้วนถูกท่านป้าสี่เชิญไปดื่มสุรามงคล
เกี้ยวผ่านหน้าสถานศึกษา เซียวหมิงจูนั่งอยู่ในเกี้ยวด้วยท่าทางเหม่อลอย ประหนึ่งคนที่หัวใจตายไปแล้ว
นางเปิดผ้าคลุมศีรษะขึ้น หันมองออกไปด้านนอก นางรู้ว่า เวลานี้น่าจะถึงสถานศึกษาแล้ว
เมื่อครู่เดินผ่านบ้านเซียวยวี่ ประตูใหญ่ปิดสนิท เซียวหมิงจูจึงรู้ว่าพวกเขาไม่อยู่บ้าน พอถึงสถานศึกษา เซียวหมิงจูก็หันมองออกไปด้านนอก
เห็นเซียวยวี่ยืนอยู่หน้าสถานศึกษาพอดี
เซียวหมิงจูเกาะตรงขอบหน้าต่างเกี้ยว ดูมีชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง
นางไม่มีแก่ใจจะสนใจเรื่องยางอาย เปิดผ้าคลุมศีรษะออก ก่อนเปิดม่านขึ้น กล่าวพึมพำ “พี่อายวี่…”
เซียวยวี่มองผู้คนที่มาร่วมครื้นเครงเดินผ่านหน้าเขาไปด้วยสายตาเย็นชา เวลานี้เอง เขาเพิ่งเห็นเซียวหมิงจูที่อยู่ในตัวเกี้ยว
เซียวหมิงจูจ้องมองเขาตาไม่กะพริบ เซียวยวี่มองนางเพียงแวบเดียว ก่อนจะละสายตา หันมองไปยังกลุ่มคนที่ตามอยู่หลังเกี้ยว
ใบหน้าไม่แสดงอารมณ์ใดๆ เย็นเยียบราวกับก้อนน้ำแข็งก็มิปาน
เซียวหมิงจูยื่นมือออกไป คว้าจับไปทางเซียวยวี่ “พี่อายวี่…”
เกี้ยวเคลื่อนไปด้านหน้า มือของเซียวหมิงจูยังแตะไม่โดนเซียวยวี่ด้วยซ้ำ ก็โดนสี่เหนียง [1] ที่อยู่ข้างๆ พบเข้า “อัยโย่ เจ้าสาว เจ้าเปิดผ้าคลุมศีรษะได้อย่างไร? เช่นนี้ไม่มงคล เจ้ารีบคลุมผ้าคลุมศีรษะเร็วเข้า! ”
เซียวหมิงจูจ้องมองเซียวยวี่ที่ห่างออกไปเรื่อยๆ หยาดน้ำตาพลันไหลริน
เชิงอรรถ
[1] สี่เหนียง คือหญิงที่แต่งงานแล้ว ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นเพื่อนเจ้าสาวในวันแต่งงาน