ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต - เล่มที่ 15 บทที่ 422 ผู้มีอุดมการณ์ความคิดเหมือนกัน
- Home
- ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต
- เล่มที่ 15 บทที่ 422 ผู้มีอุดมการณ์ความคิดเหมือนกัน
เมื่อดูความครื้นเครงเสร็จ เซียวยวี่ก็สั่งให้เด็กๆ เข้าไป ก่อนจะเริ่มคาบเรียน ไม่สนใจเสียงวุ่นวายภายนอกอีก
งานมงคลนั้นจัดขึ้นบนเส้นทางระหว่างบ้านท่านป้าสี่และบ้านเซียวหยวน ทุกคนส่งเจ้าสาวไปยังบ้านเซียวหยวน หลังจากที่ทั้งคู่คำนับฟ้าดินและส่งตัวเข้าเรือนหอเสร็จ ด้านนอกจึงเริ่มกินเลี้ยงกัน
คนทั้งหมู่บ้านนับร้อย นอกจากคนอยู่ข้างนอกที่กลับมาไม่ได้ และเด็กจำนวนหนึ่งที่อยู่ในสถานศึกษา คนที่มาได้ก็แทบจะมากันทั้งหมด
ทว่าเซียวจิ้งยี่ไม่ได้มา
ท่านลุงสี่และท่านป้าสี่ไปเชื้อเชิญถึงบ้านด้วยตัวเอง แต่เซียวจิ้งยี่เพียงให้ซองแดง กล่าววาจามงคลว่าขอให้มีบุตรโดยเร็วและสมดั่งปรารถนา ก่อนบ่ายเบี่ยงบอกว่ากิจการของตนเองในตัวเมืองยังมีธุระต้องจัดการ จึงไม่มาร่วมงาน
วันนี้เขาไม่ได้มาจริงๆ
หัวหน้าหมู่บ้านไม่มา ท่านลุงสี่จึงรู้สึกว่าตัวเองไม่มีเกียรติ แต่ก็รู้ว่าบุตรสาวของตนทำอะไรไว้บ้าง ถึงแม้จะไม่มีเกียรติ อย่างน้อยนางก็ได้คู่ครองดี
ท่านป้าสี่รู้สึกดีใจเสียยิ่งกว่าอะไร
ในที่สุดบุตรสาวของตัวเองก็ได้แต่งกับคนดีๆ ถึงแม้ว่างานที่จัดอย่างครึกครื้นนี้ จะล้วนแต่เป็นเงินของนางเองก็ตามที ใครใช้ให้เงินของเซียวหยวนถูกเซียวหมิงจูนำไปใช้หมดเล่า!
ถึงแม้จะรู้สึกไม่สบายใจ แต่ท่านป้าสี่ก็รู้สึกพึงพอใจในตัวเซียวหยวนที่เป็นลูกเขยยิ่งนัก โดยเฉพาะภายหลังกราบไหว้ฟ้าดิน เซียวหยวนก็เรียกท่านพ่อท่านแม่อย่างสนิทสนม ท่านป้าสี่จึงเกิดความรู้สึกราวกับได้บุตรชายเพิ่มมาอีกหนึ่งคน จะไม่ดีใจได้อย่างไร!
ต่อไปหากพวกเขามีบุตร จะให้เรียกพวกเขาว่าท่านปู่ท่านย่า หรือท่านตาท่านยาย แค่บอกสักคำก็ได้แล้ว!
ท่านป้าสี่ดีใจเสียยิ่งกว่าอะไร แววตาที่มองเซียวหยวน เฉกเช่นเดียวกับแววตาที่มารดาผู้ให้กำเนิดมองลูกชายแท้ๆ อย่างไรอย่างนั้น นางเห็นเซียวหยวนเป็นบุตรชายแท้ๆ ของตัวเองโดยสมบูรณ์
เซียวหยวนคอยต้อนรับแขกในงานเลี้ยงพร้อมท่านลุงสี่และท่านป้าสี่
วันนี้ท่านลุงสี่มีความสุข จึงดื่มสุราในมือไม่หยุด
ที่เขาดื่มคือสุราที่เซียวหยวนนำกลับมา ดื่มอย่างมีความสุข ใบหน้าเต็มไปด้วยสีแดงเลือดฝาด เลือดลมพลุ่งพล่าน ราวกับหนุ่มขึ้นสิบกว่าปีอย่างไรอย่างนั้น
“ท่านลุงสี่ ท่านป้าสี่” ทุกคนล้วนอวยพรด้วยถ้อยคำมงคล แต่ละคนพูดคุยกันเสียงดัง “ต่อไปพวกท่านคงต้องงานยุ่งเป็นแน่ ได้ลูกเขยมา ต่อไปมีเด็กเพิ่มอีกหลายคน ต้องให้พวกท่านช่วยเลี้ยงแล้ว”
ท่านป้าสี่ใบหน้าเต็มไปด้วยสีแดงเลือดฝาด “เช่นนั้นจะเรียกงานยุ่งได้อย่างไรกัน? อาหยวน เด็กคนนั้นอยู่ตัวคนเดียว ไม่มีบิดามารดา ต่อไปบ้านข้าก็เป็นบ้านของเขา จะเป็นลูกเขยหรือลูกชายก็เหมือนกัน! ”
คนข้างๆ ครุ่นคิดโดยละเอียด ก็เข้าใจทันที “จริงด้วย ได้ลูกเขยเหมือนได้ลูกชาย เซียวหยวนไม่มีบิดามารดา พวกท่านสองคนก็มีหมิงจูเป็นบุตรสาวเพียงคนเดียว เซียวหยวนก็ประหนึ่งเป็นบุตรชายพวกท่านแล้ว ท่านป้าสี่ วิธีเลือกลูกเขยของท่าน ช่างเก่งกาจเสียจริง! ”
“แน่อยู่แล้วไม่ใช่หรือ? ” ท่านป้าสี่เห็นว่าในที่สุดก็มีคนเข้าใจเจตนาของนาง นางจึงหัวเราะอย่างได้ใจ “ทว่า ที่สำคัญที่สุด คืออาหยวนดีต่อหมิงจูของข้า”
“ใช่แล้ว อาหยวนดีต่อหมิงจูอย่างไร้ที่ติทีเดียว! ”
ทุกคนล้วนเก็บถ้อยคำถากถางไว้ไม่ได้กล่าวออกมา
ถึงอย่างไรวันนี้ก็เป็นวันมงคลของเซียวหมิงจู ทุกคนล้วนเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกัน ทั้งยังมีสัมพันธ์เป็นมิตรกับท่านลุงสี่และท่านป้าสี่มานานปี ในเมื่ออีกฝ่ายจัดงานมงคล ทุกคนย่อมต้องให้เกียรติ ไม่หักหาญน้ำใจ
มิเช่นนั้น…
แค่เรื่องระหว่างเซียวหมิงจูและเซียวหยวน รวมทั้งเรื่องต่างๆ ที่เซียวหมิงจูเคยทำ ไม่ว่าใครที่ได้ยินก็ต้องรู้สึกดูแคลน
เซียวหยวนสวมใส่ชุดเจ้าบ่าวสีสันฉูดฉาด ดื่มสุราร่วมกับแขกโต๊ะแล้วโต๊ะเล่า
เวลานี้เอง เขามาถึงโต๊ะที่มีสตรีนั่งกันหนึ่งกลุ่ม เขากวาดสายตามองดู หลัวไห่ฮวาก็อยู่
เห็นหลัวไห่ฮวาทำปากบุ้ย ถลึงตาใส่เขาทีหนึ่ง
เซียวหยวนเกรงว่าผู้อื่นจะจับพิรุธได้ จึงรีบเบือนหน้าหนี “ท่านป้าและพี่สะใภ้ทุกท่าน ขอบคุณพวกท่านที่วันนี้มาร่วมดื่มสุรามงคลของข้ากับหมิงจู สุราถ้วยนี้ ข้าขอดื่มให้พวกท่านแทนหมิงจู! ”
เมื่อทุกคนดื่มเสร็จแล้ว เซียวหยวนจึงไปยังโต๊ะต่อไป ไม่ได้มองหลัวไห่ฮวาอีก
คนที่นั่งร่วมโต๊ะหัวเราะพร้อมกล่าว “ดูสิ ปกติเซียวหยวนผู้นี้ดูทั้งซื่อทั้งทึ่ม วันนี้พอใส่ชุดเจ้าบ่าว กลับดูดีมากทีเดียว! ”
“ก็จริงไม่ใช่หรือ? เขาไม่เพียงแต่หน้าตาพอใช้ได้ ด้านนั้นก็เก่งกาจมากทีเดียว! ” เถียนเอ๋อที่อยู่ข้างๆ หัวเราะพลางกล่าว “สามีของข้าเล่าให้ฟังว่า เสียงในคืนนั้นดังมากทีเดียว พอกลับไปเขาก็เลียนเสียงให้ข้าฟัง…”
หลัวไห่ฮวาวางตะเกียบลง มือทั้งคู่บิดกันไปมาอยู่ใต้โต๊ะ ทำหูผึ่งแอบฟังบทสนทนาของสตรีกลุ่มนั้น
สตรีที่ออกเรือนแล้วจับกลุ่มกัน ย่อมหนีไม่พ้นการพูดคุยถึงเรื่องในบ้าน ทั้งยังแอบสนทนากันเรื่องสามีของใครเก่งกาจยิ่งกว่า บัดนี้ก็เริ่มพูดคุยเรื่องนี้กันคนละประโยคสองประโยค
“ข้าเดาว่าหมิงจูต้องเสียใจจากเซียวยวี่มา ในภายหลังถูกขังรวมกับเซียวหยวนอยู่ในศาลบรรพชน ยากนักที่จะไม่หวั่นไหว พอคนหนุ่มสาวสองคนนี้ควบคุมตัวเองไม่ได้จึงอยู่ด้วยกัน”
“เซียวยวี่แต่งกับเซี่ยยวี่หลัว ต่อให้หมิงจูคิดอยากเป็นอนุ คนเขาก็ไม่เอา ตอนนี้ก็ถือว่าดีทีเดียว ถึงแม้จะไม่ค่อยมีเกียรติก็ตาม”
“เซียวหยวนเก่งกาจในด้านนั้น หมิงจูถือว่าไม่เสียเปรียบ! นางทำเรื่องผิดศีลธรรมถึงเพียงนั้น เซียวหยวนยังยอมรับนาง ถือเป็นวาสนาของหมิงจู! ”
ตามราวีเซียวยวี่จนทำให้ชื่อเสียงอันดีงามของตัวเองย่อยยับป่นปี้ เซียวหยวนยังยินยอมจะแต่งกับเซียวหมิงจูอีก
“นี่ต้องเป็นรักแท้แน่นอน! ” มีคนกล่าวขึ้น
หยวนซื่อไปสุขามาครู่หนึ่ง เพิ่งออกมาก็ถูกคนขวางไว้
เซียวเฉิงซานแสยะยิ้มจนเห็นฟันเหลืองทั้งปาก ขวางทางก่อนกอดนางไว้ทันที จากนั้นจึงบีบส่วนกลมมนของนาง “ไม่ได้พบกันไม่กี่วัน รู้สึกว่าตรงนี้ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมเสียอีก”
หยวนซื่อผลักเซียวเฉิงซานทีหนึ่ง ก่อนกล่าวเสียดสี “มาหาข้าอีกแล้วหรือ? ทำไม สะสมเงินได้มากพอแล้ว? หากสะสมมากพอแล้วคืนนี้ก็มาบ้านข้าสิ! ”
กล่าวจบนางก็เดินบิดบั้นท้ายจากไป
เซียวเฉิงซานเดินขึ้นหน้าสองก้าว ขวางหยวนซื่อไว้ “ที่รัก จะรีบไปทำไมกัน? ”
หยวนซื่อโมโหจนปัดมือเซียวเฉิงซานทิ้ง เบิกตากว้าง พร้อมกล่าวด้วยท่าทางดุดัน “ไม่มีเงินยังกล้ามาแตะต้องตัวข้าอีก? ไม่ดูเสียบ้างว่าตัวเองมีดีอะไร”
กล่าวจบ จึงเดินจากไป
เซียวเฉิงซานคลำแขนของตัวเองที่ถูกปัดจนเจ็บพร้อมก่นด่า “หน็อย ตอนข้ามีเงินอยากทำอะไรก็ทำได้ พอไม่มีเงินก็ตีข้า รอให้ข้าเก็บสะสมเงินจนมากพอ คอยดูว่าตอนอยู่บนเตียงข้าจะจัดการเจ้าอย่างไร! นางหญิงร่าน! ”
เซียวเฉิงซานก่นด่าเสร็จ ก็เดินจากไปด้วยท่าทางวางก้าม
เวลานี้เอง คนผู้หนึ่งเดินออกมาจากห้องสุขาข้างๆ เซียวหยวนที่กล่าวอ้างว่าตัวเองดื่มสุราไม่เป็นมาตลอด วันนี้ถูกคนให้ดื่มติดต่อกันหลายถ้วย เซียวหยวนที่ปกติดื่มเพียงครึ่งถ้วยก็จะหน้าแดงคอแห้ง บัดนี้กลับไม่เป็นอะไรแม้แต่น้อย
เมื่อครู่นี้เขาอยู่ในสุขาตลอด ฟังบทสนทนาระหว่างเซียวเฉิงซานและแม่หม้ายหยวนจนเข้าใจแจ่มแจ้ง
ที่แท้แม่หม้ายหยวนผู้นี้ ก็เป็นผู้มีอุดมการณ์ความคิดเดียวกัน!
เพียงแต่วัดเล็กแค่นี้ จะรับเทพองค์ใหญ่ถึงเพียงนี้ได้อย่างไร! [1] ไว้วันไหนลองพูดคุยกัน ให้นางเปลี่ยนไปอยู่สถานที่ใหญ่ขึ้น เพื่อทำการค้าที่ใหญ่ยิ่งขึ้นต่อ!
หยวนซื่อผู้นี้ถึงแม้อายุจะมากไปบ้าง แต่ยังคงมีเสน่ห์หลงเหลือ ลูกค้าที่ชอบประเภทนี้มีไม่น้อยทีเดียว
หยวนซื่อที่ไม่รู้ว่าตัวเองถูกคนเพ่งเล็งเข้าแล้ว เดินบิดเอวบางกลับไปยังโต๊ะของสตรีกลุ่มนั้น
เห็นสตรีกลุ่มนั้นพูดคุยกระซิบกระซาบกันแต่ไกล สนทนากันอย่างออกรส มีเพียงหลัวไห่ฮวาที่ก้มหน้า ไม่เห็นสีหน้าของนางอย่างชัดเจน
เชิงอรรถ
[1] วัดเล็กไม่อาจรับเทพ(พระ)องค์ใหญ่ได้ เป็นคำสแลงจีน หมายถึงคนที่ไม่เหมาะสมกับสถานที่นั้นๆ