ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต - เล่มที่ 15 บทที่ 423 ผิดถูกย่อมแบ่งแยกชัดเจน
บทที่ 423 ผิดถูกย่อมแบ่งแยกชัดเจน
หยวนซื่อไม่ได้สนใจ นางเดินเข้าไปหา ก่อนเอ่ยถามหญิงชาวบ้านคนหนึ่งที่อยู่ข้างๆ “พวกเจ้ากำลังคุยอะไรกัน? พูดคุยอย่างมีความสุขถึงเพียงนี้เชียว! ”
“กำลังคุยเรื่องเซียวหยวนอยู่! ได้ยินมาว่าด้านนั้นของเขา เก่งกาจมากทีเดียว! ” หญิงชาวบ้านข้างๆ กดเสียงให้ต่ำ หัวเราะร่าพร้อมกล่าว
หยวนซื่อผงะไป ก่อนหัวเราะ “ในเวลาเช่นนี้พวกเจ้ายังจะคุยเรื่องนี้กันอีก ไม่กลัวว่าจะถูกผู้อื่นได้ยินหรือ พวกเจ้าดูแม่ต้าจ้วงสิ นางไม่คุยเรื่องนี้เลย”
พอได้ฟังวาจาของหยวนซื่อ ทุกคนจึงต่างหันมองไปทางหลัวไห่ฮวาด้วยความประหลาดใจ
ต้องรู้ว่า หลัวไห่ฮวาที่ปกติชอบฟังเรื่องซุบซิบนินทานั้น ชอบร่วมวงสนทนาเป็นที่สุด
บัดนี้ทุกคนล้วนสนทนากันอย่างออกรส จึงไม่ทันสังเกตว่าหลัวไห่ฮวาไม่ได้มาร่วมวงสนทนาด้วย พอหยวนซื่อกล่าวดังนั้น ทุกคนก็รู้สึกสงสัยทันที
“นี่แม่ต้าจ้วง ปกติเจ้าชอบฟังเรื่องพรรค์นี้ที่สุดไม่ใช่หรือ? ทำไมวันนี้ถึงไม่ฟังเล่า? ”
“จริงด้วย ปกติเจ้าส่งเสียงดังที่สุด วันนี้หากไม่ใช่เพราะหยวนซื่อบอก ข้ายังไม่ทันสังเกตด้วยซ้ำ! ”
ทุกคนต่างหันมองไปทางหลัวไห่ฮวาด้วยท่าทีฉงนสงสัย
หลัวไห่ฮวาเงยหน้าขึ้น หัวเราะอย่างดูแคลนก่อนกล่าว “ฮะฮะ พวกเจ้าก็ดีแต่พูดปากเปล่า หากพวกเจ้าคิดว่าเขาเก่งกาจ เช่นนั้นในพวกเจ้ามีใครกล้าไปลองหรือไม่? ”
นางถึงขั้นเกิดความลำพองใจ!
ทุกคนต่างหันมองกัน ก่อนมองหลัวไห่ฮวา แอบคิดในใจ สตรีผู้นี้คงไม่ได้เสียสติแล้วกระมัง?
พวกนางก็เพียงพูดคุยกันสักประโยคสองประโยค หากใครกล้าลักลอบคบชู้จริง คงถูกสามีของตัวเองหักกระดูกถลกหนังเป็นแน่!
ทุกคนเพียงคิดว่าหลัวไห่ฮวาหยอกล้อแรงเกินไปเท่านั้น “นี่แม่ต้าจ้วง เจ้าเป็นอะไรไป? ทุกคนเพียงพูดคุยหยอกล้อกัน จะมีใครกล้าไปลองได้อย่างไร นั่นเป็นโทษหนักที่ต้องถูกจับถ่วงน้ำเชียว! ”
หลัวไห่ฮวาไม่แยแส “ในเมื่อไม่กล้า ยังจะพูดไปทำไม! ”
กล่าวจบ ก็ไม่สนใจผู้อื่น ตักเนื้อหมูตรงหน้ามาหนึ่งช้อนใหญ่ เริ่มกินทันที
เมื่อเห็นท่าทีของหลัวไห่ฮวาที่ต่างจากปกติ ทุกคนรู้สึกไม่เข้าใจนัก แต่ก็ไม่กล้ากล่าวอะไร มีเพียงหยวนซื่อที่มองหลัวไห่ฮวาด้วยความสงสัย
ขอเพียงเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเซียวหยวน ท่าทีของหลัวไห่ฮวาก็ดูผิดปกติไป
ครั้งก่อนที่เซียวหมิงจูถูกขังในศาลบรรพชน เซียวหยวนไปด้วย นางก็แสดงความเป็นห่วงเป็นใยเซียวหยวนเกินกว่าเหตุ
หยวนซื่อเลิกคิ้วขึ้น มองหลัวไห่ฮวาแวบหนึ่ง
คนผู้นี้ปกติไม่ยี่หระต่อสิ่งใด การแต่งตัวก็แสนจะธรรมดา บวกกับรูปร่างอวบอ้วน ตัวสูงใหญ่ จึงไม่คิดจะแต่งเนื้อแต่งตัว แต่ลองดูหลัวไห่ฮวาในวันนี้ กลับจงใจเลือกเสื้อผ้าที่ดูดี ทั้งยังแต่งแต้มด้วยเครื่องประทินโฉม แต่งเนื้อแต่งตัวเต็มรูปแบบ สตรีแต่งแต้มโฉมเพื่อคนที่ตนมีใจ…
เพียงแต่ไม่รู้ว่าแต่งแต้มให้ผู้ใดดูกันแน่!
หยวนซื่ออาศัยจังหวะตอนตักน้ำแกง มองหลัวไห่ฮวาอีกครั้ง ยามที่หลัวไห่ฮวาเงยหน้า สายตาของนางก็มองทอดตรงไป ถึงแม้จะละสายตาอย่างรวดเร็ว แต่หยวนซื่อก็เห็นเข้าแล้ว คนที่หลัวไห่ฮวามอง คือเซียวหยวนที่กำลังร่วมดื่มสุราอยู่ด้านหน้า
น่าสนใจ!
สายตาของสตรีผู้หนึ่งไม่มีทางมองไปที่ตัวบุรุษผู้หนึ่งโดยง่าย เว้นเสียแต่ สองคนนี้จะมีความสัมพันธ์ที่ไม่อาจบอกผู้อื่นได้!
หยวนซื่อหัวเราะเบาๆ สายตามองสลับระหว่างทั้งสองคนอยู่ครู่หนึ่ง
เพราะมีการจัดงานมงคล ต้องจัดเลี้ยงหนึ่งวัน จึงขวางเส้นทางในหมู่บ้านสายนี้ไว้ รถม้าของเก๋อวั่งเข้าไปไม่ได้ เซียวยวี่ได้แต่พาเก๋อเหลียงหยวนเดินไป
เส้นทางไปยังปากทางเข้าหมู่บ้านมีเพียงสายเดียว เซียวยวี่เกรงว่าจะก่อให้เกิดเรื่องวุ่นวาย จึงรีบเดินไปอย่างรวดเร็ว
ทว่า ถึงเขาจะไม่อยากให้เกิดเรื่องวุ่นวาย แต่ก็มีคนที่อยากให้มันเกิดขึ้นอยู่ดี
เซียวจินนั่งดื่มสุราที่นี่มาหนึ่งวันแล้ว ไม่รู้ว่าดื่มสุราไปมากเพียงใด รู้แต่ว่าเขาดื่มเสียจนเมามาย เซียวจินตาไวจึงเห็นเซียวยวี่ที่กำลังเร่งฝีเท้าเดินจากไป เขาหัวเราะลั่น ก่อนตะโกนเสียงดัง “เซียวยวี่ หมิงจูจัดงานมงคล ทำไมเจ้าถึงไม่มาดื่มสักถ้วยเล่า! ”
งานจัดเลี้ยงที่มีเสียงดังเซ็งแซ่ พอเซียวจินตะโกนลั่น ทุกคนก็เงียบเสียงในทันใด
ทุกคนหันมองมาทางนี้ เพียงเห็นเซียวจินถือกาสุราอยู่ในมือ ขวางทางเดินของเซียวยวี่ไว้
เซียวยวี่ไม่สนใจเขา เบี่ยงกายหลบคิดจะเดินผ่านไป แต่เซียวจินขวางไว้อีกครั้ง เดิมทีเส้นทางก็แคบอยู่แล้ว พอมีการจัดเลี้ยง ก็เหลือพื้นที่พอให้เดินผ่านแค่หนึ่งคนเท่านั้น
เซียวจินขวางอยู่ด้านหน้า ขวางจนไม่มีทางเดิน เซียวยวี่สีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง กล่าวอย่างเย็นเยียบ “หลบไป”
“หลบไป? หมิงจูจัดงานมงคล ดูเจ้าสิ ไม่ให้เกียรติมาดื่มสักถ้วยหรือ? อย่างไรเสียนางก็แอบชอบเจ้ามานานถึงเพียงนั้น! ” เซียวจินกล่าวถ้อยคำไม่น่าฟัง
ท่านป้าสี่ได้ฟังก็ทำสีหน้าบึ้งตึง “เซียวจิน ดื่มสุราแล้วยังอุดปากของเจ้าไม่ได้รึ หากดื่มมากไปเจ้าก็กลับไปเสีย! ”
เซียวจินมีหรือจะกลับไป ตั้งแต่เริ่มงานเลี้ยงเขาก็ไม่เคยไปไหนอีก วันนี้ไม่กินก็เสียโอกาสเปล่า เขาตัดสินใจแล้ว ว่าจะกินจากกลางวันถึงกลางคืน เขากล่าวด้วยอาการเมามาย “ข้าไม่กลับ ข้าจะอยู่ที่นี่ เซียวยวี่ มามามา เพื่อชีวิตแสนสุขของหมิงจูในอนาคต เจ้าดื่มหนึ่งถ้วย ดื่มหนึ่งถ้วย! ”
เซียวจินขยับเข้าไปใกล้ ดันถ้วยสุราไปตรงปากเซียวยวี่ เซียวยวี่จ้องมองคนตรงหน้าด้วยความรังเกียจ พร้อมปัดออก “หลบไป! ”
คราวนี้เขากล่าวเสียงดังขึ้นไม่น้อยด้วยน้ำเสียงขึงขัง คนรอบข้างได้ยินแล้วต่างรู้สึกหวาดหวั่น
แต่เซียวจินไม่กลัว หัวเราะร่า “ทำไม? หมิงจูแต่งงาน เจ้ารู้สึกปวดใจเช่นนั้นหรือ? ข้าว่าแล้วเชียว? มีบุรุษคนใดบ้างที่ไม่มากรักหลายใจ ดูเจ้าสิ หากชอบก็แสดงความเป็นลูกผู้ชายหน่อย หากสตรีไม่เชื่อฟัง ก็ต้องตี ตีจนกว่านางจะเชื่อฟัง! ก็แค่สตรีคนหนึ่งไม่ใช่หรือ? หากเจ้าตีนางจนเชื่อฟัง นางยังจะกล้าขัดขวางเจ้าอีกหรือ? ”
เซียวยวี่ตะคอก “พอแล้ว! ”
เขาผลักเซียวจินออกอย่างรุนแรง เดิมทีเซียวจินก็ดื่มสุราจนเมาอยู่แล้ว จึงโซเซเกือบล้มลงบนพื้น ยังดีที่คนข้างๆ รับตัวไว้ได้ทัน
เซียวยวี่ไม่แม้แต่จะหันมองเสียด้วยซ้ำ เขาเดินจากไปโดยไม่หันกลับมาอีก
ปล่อยให้เซียวจินก่นด่าอยู่ข้างหลัง “คงไม่ใช่ว่าเจ้าไม่มีเงินกระมัง? ก็ถูก คนยากจนอย่างเจ้า สอบเป็นซิ่วไฉก็ไม่ผ่าน ทำอะไรก็ไม่เป็น เจ้ามีอะไรที่เทียบเซียวหยวนได้บ้าง หากข้าเป็นแม่หมิงจู ข้าก็เลือกเซียวหยวน ดีกว่าบัณฑิตยากไร้อย่างเจ้ามากนัก”
ท่านป้าสี่ไม่ได้ห้ามปรามเซียวจิน วาจาที่เขากล่าวออกมา คือความในใจของท่านป้าสี่พอดี
เซียวยวี่เดินไปข้างหน้าโดยไม่หยุดฝีเท้า เก๋อเหลียงหยวนได้ยินเสียงก่นด่าจากข้างหลัง ก็หันมองอาจารย์ด้วยความอัดอั้นใจ “อาจารย์ เขา…”
“อย่าสนใจ! จงจำไว้ อย่าได้ฟังคำว่าร้ายหรือเยินยอ ผิดถูกย่อมแบ่งแยกชัดเจน” เซียวยวี่ไม่หันกลับไป ไม่ว่าคำก่นด่าข้างหลังจะหยาบคายเพียงใด ก็ไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อเขา “คนเขลานั้นไม่อาจแบ่งแยกผิดถูกได้! ”
เก๋อเหลียงหยวนเพิ่งเริ่มเรียนหนังสือ ไม่ค่อยเข้าใจวาจาที่ว่า “อย่าได้ฟังคำว่าร้ายหรือเยินยอ ผิดถูกย่อมแบ่งแยกชัดเจน” ทว่า ยามเขาหันมองคนที่ดื่มสุราจนเมามาย ตะโกนไปพลางกระโดดโลดเต้นไปพลาง หัวเราะลั่นพร้อมก่นด่าไม่หยุด
คนเขลา?
คนผู้นี้ก็คือคนเขลาไม่ใช่หรือ!
งานเลี้ยงจัดตั้งแต่ช่วงเช้าถึงช่วงค่ำ เมื่อเห็นเศษอาหารบนโต๊ะสิบกว่าตัว ท่านป้าสี่รู้สึกปวดใจเล็กน้อย
คนอื่นๆ ได้กินข้าวและดื่มสุรา สิ่งที่นางถูกกินคือเลือดและเนื้อ
นั่นล้วนเป็นเงินที่นางเก็บสะสมอย่างยากลำบากมานานหลายปี! ถึงแม้จะรู้สึกปวดใจ แต่นี่เป็นเรื่องใหญ่ในชีวิตบุตรสาว ท่านป้าสี่รู้สึกว่าคุ้มค่า!
ยังมีคนกลุ่มหนึ่งมาช่วยเก็บกวาดพื้นที่ ส่วนคนอื่นๆ ทยอยกันกลับหมดแล้ว