ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต - เล่มที่ 15 บทที่ 428 ข้าหาผู้ร่วมทำการค้า
บทที่ 428 ข้าหาผู้ร่วมทำการค้า
เซี่ยยวี่หลัวไม่ได้ออกจากโรงผลิตมาหลายวัน
ขวดแก้วถูกส่งมาแล้ว ขอเพียงเลี่ยวซื่อและฟู่ซื่อไม่อยู่ นางก็จะเก็บตัวอยู่ในห้องเพื่อทำน้ำยาอาบน้ำและน้ำยาสระผม
เซี่ยวยวี่หลัวเก็บตัวอยู่ในห้องเพื่อทำงานติดต่อกันนานหลายวัน ในที่สุดก็ทำเสร็จหลายร้อยขวด
คนที่กลับมาจากการส่งสินค้าชุดที่สอง นำข่าวดีจากเมืองหลวงมาด้วย
สบู่ยังคงขายดีเป็นอย่างมาก มีเพียงน้ำยาอาบน้ำและน้ำยาสระผมขวดละหนึ่งตำลึงที่สองวันแรกยังไม่มีผู้ใดถามถึง ขวดเล็กถึงเพียงนี้ กลับขายถึงหนึ่งตำลึง จึงไม่มีคนซื้อ แต่ในภายหลังมีคนรู้สึกสงสัยจึงซื้อกลับไปใช้หนึ่งขวด สถานการณ์ก็เปลี่ยนไป
หลังจากอาบน้ำด้วยเจ้าสิ่งนี้ก็รู้สึกว่าผิวลื่นขึ้น แม้แต่เส้นผมก็รู้สึกนุ่มลื่นขึ้นเช่นกัน ไม่แห้งกร้านเช่นเดียวกับตอนใช้สบู่ ใช้แล้วเส้นผมเรียบลื่น อีกทั้งผิวยังขาวเนียน!
ยิ่งไปกว่านั้น ใช้เจ้าสิ่งนี้เสร็จ ไม่ว่าจะอาบน้ำหรือสระผม หลังจากใช้แล้วบนกายก็หอมละมุน นับเป็นของที่ใช้ได้ดีกว่าสบู่เป็นร้อยเท่า
ตอนนั้นคนแรกที่ซื้อไปใช้ กลับมาซื้อทีเดียวหลายสิบขวด คนอื่นๆ เห็นดังนั้น ได้ยินว่าใช้ดี ก็ซื้อกันไปอีกคนละหลายขวด จนน้ำยาอาบน้ำและน้ำยาสระผมหลายร้อยขวดหมดเกลี้ยง
บัดนี้ร้าน “ซูยวี่” ที่เปิดหน้าร้านแล้ว ภายในกลับไม่เหลือสินค้าอะไรเลย กำลังรอให้สินค้าชุดใหม่ถูกส่งไปอยู่!
ถึงแม้ภายในร้านซูยวี่จะขายสินค้าเพียงสามอย่าง แต่ก็นับว่าเหนือกว่าร้านค้าอื่นๆ แล้ว บัดนี้ทั้งบนถนนและตรอกซอกซอย รวมทั้งบทสนทนาภายในห้องของสตรีล้วนกล่าวถึงร้านซูยวี่ ชื่อเสียงของซูยวี่ เป็นที่รู้จักไปทั่วทั้งเมืองหลวงในทันที
ตอนได้รับจดหมาย สินค้าชุดที่สามก็ถูกส่งไปหลายวันแล้ว เมื่อลองนับเวลาดู คาดว่าน่าจะส่งถึงแล้ว
เซี่ยยวี่หลัวผ่อนลมหายใจยาวด้วยความโล่งอก ใช้น้ำดอกไม้ไปกึ่งหนึ่งแล้ว รอให้ใช้น้ำดอกไม้เหล่านี้หมดเมื่อไร นางก็จะได้พักดีๆ เสียที
นางยังคงไม่ผ่อนคลาย ร่วมทำงานกับเลี่ยวซื่อและฟู่ซื่อเช่นเดิม
บัดนี้เลี่ยวซื่อและฟู่ซื่อยังคงเห็นซ่งฉางชิงในตรอก พวกนางเห็นกันบ่อยจนไม่รู้สึกว่าเป็นเรื่องแปลก
ผ่านมาสี่ถึงห้าวันแล้วกระมัง ซ่งฉางชิงผู้นี้ดูคล้ายจะมีปัญหากับตรอกนี้อย่างไรอย่างนั้น มาทุกวัน!
เมื่อส่งสินค้าไปแล้ว ทั้งยังได้รู้ว่าสินค้าที่ตัวเองทำได้รับความนิยมในเมืองหลวง เซี่ยยวี่หลัวจึงผ่อนลมหายใจยาวด้วยความโล่งอก อย่างน้อยก็ไม่ต้องพยายามทุ่มเทอย่างหนักเช่นก่อนหน้านี้แล้ว
เมื่อก่อนตอนฟู่ซื่อและเลี่ยวซื่อทำงาน มักจะชอบพูดคุยกัน ในภายหลังเห็นฮูหยินมีสีหน้าท่าทางเคร่งเครียด ทั้งสองคนจึงไม่พูดคุยกันอีก ตั้งอกตั้งใจทำงาน บัดนี้เมื่อเห็นว่าฮูหยินผ่อนคลายลงไม่น้อย จึงเริ่มพูดคุยกันอีกครั้ง
“เจ้าว่าทำไมท่านซ่งถึงมักจะเดินเล่นอยู่ละแวกนี้? กำลังหาคนอยู่หรืออย่างไร? ” เลี่ยวซื่อทำงานไปพลางเอ่ยถามไปพลาง
ฟู่ซื่อส่ายหน้า “ข้าก็ไม่รู้เช่นกัน แต่เขามาที่นี่นานถึงเพียงนี้ แม้แต่เซียนจวีโหลวก็ไม่สนใจ ข้าคิดว่าคงมีธุระสำคัญมากกระมัง! ”
“มีธุระสำคัญก็ไปคุยก็สิ้นเรื่อง เดินไปเดินมาทั้งวันคิดจะทำอะไรกัน? ไม่เห็นว่าจะมีใครปรากฏตัวมาคุยธุระกับเขาแต่อย่างใดมิใช่หรือ? ” เลี่ยวซื่อกล่าวด้วยความสงสัย แต่พอลองคิดดู ก็กล่าวเป็นเชิงซุบซิบนินทา “ข้าคิดว่าท่านซ่งต้องกำลังหาคนเป็นแน่ และกำลังหาคนที่มีใจให้ด้วย! ”
ฟู่ซื่อถลึงตาใส่เลี่ยวซื่อทีหนึ่ง กล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ “เจ้ารู้ดีถึงเพียงนั้นเชียว? ข้าได้ยินมาว่าท่านซ่งเป็นคนที่ไม่มีความสนใจในสตรี ในเรือนของเขามีญาติผู้น้องอยู่คนหนึ่ง รูปลักษณ์หน้าตางดงามประหนึ่งเทพธิดา เขายังไม่ชายตามองแม้แต่ครั้งเดียว! ”
เลี่ยวซื่อโยกศีรษะไปมาพร้อมกล่าว “ใครจะรู้ได้เล่า ว่าท่านซ่งสนใจหรือไม่สนใจสตรี บางทีอาจยังไม่เจอกับคนที่ตัวเองชอบก็เท่านั้น หากมีคนที่ชอบจริง ข้าคิดว่าท่านซ่งผู้นี้ก็เป็นคนรักมั่นเช่นกัน! ”
ฟู่ซื่อยิ้มขมพร้อมกล่าว “ต่อให้เจ้าคาดเดาได้ถูกต้องแล้วอย่างไร? นี่ล้วนเป็นเรื่องของคนอื่น ไม่มีความเกี่ยวข้องกับพวกเราเสียหน่อย เขามีเงิน มีฐานะ อีกทั้งยังมีเวลาเหลือเฟือ ไหนเลยจะเหมือนพวกเรา เพื่อให้ได้กินข้าวสักหนึ่งมื้อ ยังต้องทำงานตัวเป็นเกลียว! ”
ฟู่สื่อถอนหายใจทีหนึ่ง ดูสิ นี่นางกำลังพูดอะไรอยู่ มีเวลาพูดเรื่องนี้ สู้ทำสบู่เพิ่มสักสองก้อนมิดีกว่าหรือ!
“ก็จริง นั่นเป็นเรื่องของคนอื่น ไม่เกี่ยวข้องกับพวกเรา เขาไม่ขาดอะไรเลย ไหนเลยจะเหมือนพวกเรา…” ที่ขาดทุกอย่าง เลี่ยวซื่อก้มหน้าทำงาน แต่ก็ยังซุบซิบนินทาอีกประโยคหนึ่ง “สงสัยจริงๆ ว่าคนที่ท่านซ่งชอบมีรูปลักษณ์หน้าตาอย่างไรกัน! ”
เซี่ยยวี่หลัวเข้ามาในตอนนี้พอดี เห็นท่าทางเคร่งเครียดของทั้งสองคน นึกว่าเพราะระยะนี้นางกดดันมากเกินไป ทำให้สองคนนี้พลอยลำบากไปด้วย จึงกล่าวด้วยความเกรงใจ “ท่านป้าทั้งสองกำลังคุยเรื่องอะไรอยู่หรือ? ”
“อ๋อ พวกเรากำลังคุยกันว่า ท่านซ่งที่อยู่ข้างนอก เดินไปมาในตรอกนานสี่ถึงห้าวันแล้ว! ” ฟู่ซื่อรีบกล่าว
เซี่ยยวี่หลัวเพิ่งหยิบแม่พิมพ์ขึ้นมาหนึ่งชิ้น พอได้ฟังดังนั้นก็วางของลงที่เดิม “ท่านว่าใครนะ? ใครเดินไปมาอยู่ข้างนอกนานสี่ถึงห้าวันแล้ว? ”
“ท่านซ่งอย่างไรเล่า ท่านซ่งแห่งเซียนจวีโหลว! ” เลี่ยวซื่อเอ่ยถาม “ฮูหยินรู้จักหรือไม่? ”
เซี่ยยวี่หลัวไม่ได้กล่าวอะไร หันขวับเดินออกไป
เลี่ยวซื่อและฟู่ซื่อเห็นนางเดินออกไป จึงรีบเดินตามไป
เซี่ยยวี่หลัวเดินออกไป ข้างนอกแสงแดดแรงกล้า ไม่มีลมแม้แต่น้อย ร้อนจนทำให้หายใจไม่สะดวก
เพิ่งเปิดประตูบ้าน เซี่ยยวี่หลัวเงยหน้ากำลังจะเดินออกไป
ซ่งฉางชิงเดินผ่านพอดี ได้ยินเสียงเปิดประตู จึงหันมองโดยไม่ตั้งใจ ก็เห็นเซี่ยยวี่หลัวเข้าพอดี
เท้าที่กำลังก้าวไปข้างหน้าพลันหยุดชะงักด้วยท่าทางประหลาด
ที่แท้ก็อยู่ที่นี่!
“ท่านซ่ง? ” เป็นท่านซ่งจริงด้วย เซี่ยยวี่หลัวรีบกล่าว “อากาศร้อนถึงเพียงนี้ นี่ท่านซ่ง…”
ซ่งฉางชิงยืนอยู่ที่เดิม สีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง ท่าทางดูเย็นชา “อ๋อ ข้ามีผู้ร่วมทำการค้าคนหนึ่ง สัญญาร่วมงานกับเซียนจวีโหลวใกล้สิ้นสุดแล้ว เพื่อจะต่อสัญญา ข้าจึงมาหามารดาของเขาโดยเฉพาะ! ทว่าเขาเก็บซ่อนตัวได้ดียิ่งนัก ข้าหาไม่พบเลยว่ามารดาของเขาอาศัยอยู่ที่ใด! ”
ความจริงภายในใจของซ่งฉางชิงรู้สึกราวกับมีคลื่นยักษ์ถาโถมอยู่นานแล้ว เขาหามานานเจ็ดถึงแปดวัน ในที่สุดก็หาพบ!
เป็นเช่นนี้เอง ที่แท้ก็เพราะมีเรื่องเกี่ยวกับการค้า
เลี่ยวซื่อและฟู่ซื่อไม่เคยทำการค้า แต่เคยเห็นเถ้าแก่คนก่อน ทั้งยังเคยเห็นเซี่ยยวี่หลัวในตอนนี้ ดูท่าทางเคร่งเครียดทั้งวัน ก็พอจะรู้แล้วว่าการค้าขายนั้นเป็นเรื่องที่ยากเพียงใด
เซี่ยยวี่หลัวเอ่ยถาม “ยังหาไม่พบเช่นนั้นหรือ? ”
ซ่งฉางชิงส่ายหน้า “ข้าหามาหลายวันแล้ว ได้ยินมาว่าเหมือนเขาจะรับมารดาของเขาไปแล้ว มิน่าล่ะ ข้าหามานานหลายวัน ก็ยังหาไม่พบ”
ซ่งฉางชิงในยามนี้ ทั้งบนใบหน้าและบนกายเต็มไปด้วยเหงื่อชุ่ม ดูท่า เพื่อการค้าครั้งนี้ คงใช้ความพยายามไปไม่น้อย
เซี่ยยวี่หลัวรู้ ว่าการค้าขายเหมือนต่อสู้ในสนามรบ บางครั้งตอนสู้รบ ก็ต้องมีการใช้ไม้อ่อนพิชิตใจ
ที่ซ่งฉางชิงใช้ในครั้งนี้ เกรงว่าคงเป็นกลยุทธ์ไม้อ่อนพิชิตใจกระมัง!