ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต - เล่มที่ 15 บทที่ 430 ท่านลุงสี่ตายแล้ว
บทที่ 430 ท่านลุงสี่ตายแล้ว
ใบหน้าสีแดงเรื่ออันคุ้นเคยของคนที่นอนอยู่บนเตียงยังดูมีชีวิตชีวาที่ไหนกัน บัดนี้ตาทั้งคู่ปิดสนิท สีหน้าเขียวคล้ำ สีผิวขาวซีด ลักษณะเช่นนี้…
ท่านป้าสี่ตกใจจนหัวใจหล่นวูบ “ตาแก่ ตาแก่…”
ยามสัมผัสร่างกาย ร่างเขาก็เย็นแล้ว ทั้งยังแข็งทื่อด้วย ลองอังจมูกสัมผัสลมหายใจ ก็สิ้นลมไปนานแล้ว
ท่านป้าสี่ตกใจจนส่งเสียงร้องโหยหวนราวกับคนเสียสติ “ตาแก่ ตาแก่ ใครก็ได้รีบมาเร็ว…”
ขณะที่เซียวยวี่กำลังกินข้าว มีคนมาบอกว่าบ้านท่านลุงสี่เกิดเรื่องแล้ว เซียวยวี่เห็นแก่บุญคุณที่ท่านลุงสี่เคยมีต่อเขา จึงกำชับให้เด็กสองคนกินข้าวและพักผ่อน ก่อนตามไปยังบ้านท่านลุงสี่
ทั้งภายในและภายนอกบ้านท่านลุงสี่มีชาวบ้านมุงล้อมอยู่เต็ม
เซียวยวี่ยังจำได้ ครั้งก่อนที่คึกคักถึงเพียงนี้ เป็นตอนที่เซียวหมิงจูแต่งงาน
คราวนี้ ไม่มีเสียงหัวเราะพูดคุยกัน ได้ยินเพียงเสียงร่ำไห้แทบขาดใจที่ดังอยู่ท่ามกลางกลุ่มชาวบ้านที่มุงดู
ตอนเซียวยวี่ไปถึง ได้ยินคนพึมพำเสียงเบา “เมื่อวานเห็นท่านลุงสี่ สภาพยังดีมากไม่ใช่หรือ? ใบหน้าเป็นสีแดง ดูไปแล้วสุขภาพดีกว่าข้าเสียอีก เหตุใดวันนี้ถึงจากไปกะทันหันได้เล่า? ”
คนที่อยู่ข้างๆ ส่ายหน้า “เจ้ารู้สึกว่าสีหน้าของเขาดีหรือ? ข้ากลับรู้สึกว่าไม่ค่อยดี สีแดงของเขา ไม่เหมือนกับสีแดงของคนปกติ เหมือนป่วยอย่างไรอย่างนั้น! ”
“อายุเพิ่งสี่สิบกว่าปีเอง เหตุใดอยู่ดีๆ ถึงสิ้นลมได้เล่า? ไม่ได้มีโรคอะไรเสียหน่อย! ” คนที่อยู่ข้างๆ กล่าวด้วยความเสียดาย
ตอนเซียวยวี่เข้าไป ท่านป้าสี่และเซียวหมิงจูกำลังกอดร่างไร้วิญญาณของท่านลุงสี่ร่ำไห้อย่างหนัก
คนที่เดิมทีมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง บัดนี้นอนอยู่บนพื้นด้วยใบหน้าซีดเซียว ร่างกายแข็งทื่อ
ท่านลุงสองลองสัมผัสร่างกายเขา ก่อนส่ายหน้า “ไม่มีประโยชน์แล้ว! ”
“จะไม่มีประโยชน์ได้อย่างไร? เมื่อวานตาแก่ของข้ายังดีอยู่เลย เมื่อคืนเขาก็ยังดีอยู่ จะไม่มีประโยชน์ได้อย่างไร? เจ้าดูเขาอีกครั้ง ช่วยดูเขาอีกครั้งเถิด…” ท่านป้าสี่ดึงมือเซียวเอ้อไว้ พร้อมร่ำไห้อย่างหนัก
เซียวเอ้อส่ายหน้า ถอนหายใจยาว “ตัวแข็งแล้ว ลมหายใจก็ไม่มีแล้ว เจ้าจะให้ข้า…”
เขารักษาเป็นแต่อาการปวดหัวตัวร้อนทั่วไป ครั้งนี้เป็นคนที่สิ้นลมไปนานแล้ว เขาเองก็ไม่สามารถทำให้ใครฟื้นคืนชีพได้เสียหน่อย!
เซียวหมิงจูโผเข้ากอดร่างท่านลุงสี่ ร่ำไห้แทบขาดใจ “ท่านพ่อ ท่านพ่อ…”
เซียวหยวนคุกเข่าอยู่บนพื้นเช่นกัน เช็ดคราบน้ำตาไม่หยุด ท่าทางเศร้าเสียใจเป็นอย่างมาก “ท่านพ่อ…”
ทุกคนต่างรู้สึกว่าท่านลุงสี่ตายอย่างกะทันหันเกินไป
กะทันหันถึงขั้นที่ว่า คนสุขภาพแข็งแรงคนหนึ่ง เหตุใดจู่ๆ ถึงสิ้นลมได้!
แต่เรื่องเกิดขึ้นแล้ว เมื่อกล่าวถึงเรื่องของครอบครัวเซียวหมิงจู ไม่ว่าใครก็รู้สึกสงสาร ต่างก็เป็นคนบ้านใกล้เรือนเคียง ทุกคนล้วนคิดจะช่วยอีกแรง
อย่างไรก็ต้องให้ผู้ที่จากไปได้ฝังลงดินอย่างสงบ
ท่านลุงสี่ไม่มีบุตรชาย สตรีสองคนเศร้าโศกเสียใจจนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เรื่องทั้งหมดจึงตกเป็นหน้าที่ของเซียวหยวนซึ่งเป็นบุรุษเพียงคนเดียวภายในบ้านไปโดยปริยาย
ตอนที่เซียวยวี่ไปหาท่านลุงสองเพื่อถามเรื่องของท่านลุงสี่ ท่านลุงสองก็รู้สึกสงสัยเต็มประดา “ข้าคิดว่าเขาเป็นคนสุขภาพร่างกายแข็งแรงมาก เหตุใดถึงจากไปกะทันหันได้? ช่างน่าแปลกนัก! ”
“เช่นนั้นปกติท่านลุงสี่มีโรคอื่นหรือไม่ เขาจากไปเพราะโรคที่เกิดขึ้นกะทันหันหรือไม่ขอรับ? ” เซียวยวี่เอ่ยถาม
เซียวเอ้อส่ายหน้า “ไม่ใช่ ลุงสี่ของเจ้าสุขภาพดี ร่างกายแข็งแรงมาก แม้แต่อาการปวดหัวตัวร้อนยังแทบไม่มี ยิ่งไม่ต้องพูดถึงโรคอื่นๆ ข้าเป็นคนรักษาอาการป่วยให้เขาตลอด เขามีโรคหรือไม่ ข้าย่อมรู้! ”
เขาจากไปอย่างกะทันหัน เซียวเอ้อก็รู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก “ข้ารู้สึกว่าการตายของเจ้าสี่แปลกประหลาด แต่แปลกตรงไหน ข้าก็ดูไม่ออก แต่ระยะนี้สีหน้าของเขาดูไม่ค่อยปกติ มักจะมีสีแดง ดูไปแล้วเหมือนสีแดงเลือดฝาด แต่ข้ากลับรู้สึกว่าสีแดงเช่นนั้น ดูผิดปกติ! ”
สีแดงเลือดฝาด?
เซียวเอ้อกล่าวต่อ “เฮ้อ แต่ข้าอาจจะคิดมากไปเอง ความสามารถด้านการรักษาของข้ายังไม่ดีพอ บางทีข้าอาจดูอาการพลาดไปก็เป็นได้”
ตอนเดินผ่านบ้านท่านลุงสี่ มีผ้าขาวที่ถูกแขวนไว้ทั่วด้วยความรีบร้อน ตอนเดินผ่านที่นี่ในช่วงเช้า ทั้งภายในและภายนอกยังเต็มไปด้วยสีแดงจากงานมงคล
เพียงชั่วพริบตาเดียว ก็เปลี่ยนไปหมดแล้ว
เซียวยวี่หยุดฝีเท้า เปลี่ยนแปลงทิศทาง เดินตรงเข้าไปในลานบ้าน
หลังจากจุดธูปหน้าโลงศพเสร็จ เซียวยวี่จึงไปหาเซียวหมิงจู
ไม่เห็นเพียงครึ่งวัน เซียวหมิงจูดูโทรมลงไม่น้อย
เซียวหมิงจูเห็นเซียวยวี่ ความเจ็บปวดหลังจากสูญเสียบิดาบวกกับความสิ้นหวังจากเซียวยวี่ ความเจ็บปวดทั้งหมดพลันถาโถมเข้ากลางใจ เซียวหมิงจูส่งเสียงร่ำไห้ทันที
“หมิงจู…” เซียวยวี่รู้ว่าภายในใจเซียวหมิงจูรู้สึกเศร้าเสียใจ “เจ้ายังไหวหรือไม่? ”
เซียวหมิงจูหยุดเสียงร่ำไห้ หัวเราะอย่างเย็นเยียบพร้อมกล่าว “เจ้าคิดจะทำอะไร? มาหัวเราะเยาะข้าเช่นนั้นหรือ? ตอนนี้ข้าสบายดีมาก! อาหยวนดีต่อข้ามาก! ”
เซียวยวี่พยักหน้า “ดี” เขากล่าวอย่างเถรตรง “ระยะนี้ท่านลุงสี่มีอะไรที่แปลกไปหรือไม่? ” เขาเองก็รู้สึกว่าการตายของท่านลุงสี่ดูน่าสงสัย จึงอยากสอบถามดู
เซียวหมิงจูกล่าววาจาถากถาง “ท่านพ่อของข้ามีอะไรแปลกไป เกี่ยวอะไรกับเจ้าด้วย? เจ้าเป็นอะไรกับข้า เจ้าไม่ต้องยุ่ง! ”
เซียวยวี่ “ข้าเพียงรู้สึกสงสัยในการตายของท่านลุงสี่ รู้สึกว่าผิดปกติ! ” เขาไม่มีสิทธิ์ยุ่งอย่างแท้จริง เพียงคำนึงถึงเรื่องที่ท่านลุงสี่เคยดูแลเขาไม่น้อย จึงอยากรู้สาเหตุการตายของเขาก็เท่านั้น
เซียวหมิงจูตะคอก “เจ้าไม่ต้องมายุ่ง เจ้าเป็นอะไรกับข้า? เรื่องในบ้านข้าเจ้ามีสิทธิ์อะไรมายุ่ง? เจ้าไสหัวไป ไสหัวไปซะ! ” ที่แท้ก็มาเพราะเรื่องของท่านพ่อ ไม่ได้มาเพื่อปลอบโยนนางเลย!
เซียวหมิงจูเองก็รู้ว่าตัวเองออกเรือนแล้ว ไม่มีสิทธิ์ขอให้เซียวยวี่ทำดีต่อนาง ทว่า นางเศร้าเสียใจถึงเพียงนี้ ทำไมเขาถึงพูดจาดีๆ สักสองประโยคไม่ได้เชียวหรือ!
เซียวยวี่มองเซียวหมิงจูแวบหนึ่งด้วยสีหน้าเรียบสงบ เพียงกล่าวว่า “เจ้าดูแลตัวเองด้วย” จากนั้นจึงเดินออกไป
เซียวหมิงจูคุกเข่าลงบนพื้น ปิดหน้าร่ำไห้เสียงดัง
เสียงร่ำไห้ด้านหน้ากลบเสียงร้องไห้ของนาง เซียวหมิงจูร้องไห้แทบขาดใจ
ด้วยเกรงว่าปล่อยให้เด็กสองคนอยู่บ้านตามลำพังจะรู้สึกกลัว บวกกับภายในหมู่บ้านมักจะมีเสียงร้องไห้ หลังจากจบคาบเรียนในวันนี้ เซียวยวี่จึงให้หยุดเรียนสองวัน เด็กๆ จึงกลับบ้านอย่างมีความสุข
เมื่อเห็นว่ายังไม่ถึงวันหยุด เด็กสองคนก็มาแล้ว เซี่ยยวี่หลัวรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
สภาพเซียวจื่อเซวียนไม่ค่อยดีนัก เห็นได้ชัดว่าเหมือนจะเคยร้องไห้ เซียวยวี่ก็เงียบขรึมไม่กล่าวอะไร
เซี่ยยวี่หลัวรู้สึกเป็นห่วงเล็กน้อย “เกิดอะไรขึ้น? ”
“ท่านลุงสี่ จากไปแล้ว! ”
เซี่ยยวี่หลัวได้รู้ข่าวการจากไปของท่านลุงสี่ ก็รู้สึกไม่อยากจะเชื่อ “เจ้าว่าอะไรนะ? จากไปแล้ว? จะเป็นไปได้อย่างไร? สุขภาพของเขาดีมากไม่ใช่หรือ? ”
เซียวยวี่ขานตอบทีหนึ่ง “เขาจากไปอย่างกะทันหัน! ” และไม่ได้บอกเล่าเรื่องที่เซียวเอ้อพบความผิดปกติแต่อย่างใด
เซี่ยยวี่หลัวเองก็รู้สึกเศร้าใจเช่นกัน