ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต - เล่มที่ 15 บทที่ 432 ตัดสินใจเด็ดขาดว่าจะหนีตามเซียวหยวน
- Home
- ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต
- เล่มที่ 15 บทที่ 432 ตัดสินใจเด็ดขาดว่าจะหนีตามเซียวหยวน
บทที่ 432 ตัดสินใจเด็ดขาดว่าจะหนีตามเซียวหยวน
นี่ไม่ใช่ของเขา แต่เป็นของบุรุษอื่น!
ทั้งยังเป็นของสดใหม่ เป็นของในคืนนี้!
เซียวไฉซุ่นโมโหจนเลือดขึ้นหน้า กัดฟันกรอดพลางสบถด่าว่า “นางแพศยา” เขาลุกพรวดขึ้นดังตึง เตะอ่างไม้คว่ำบนพื้น น้ำในอ่างไม้สาดกระเด็นไปทั่ว เซียวไฉซุ่นบุกพรวดพราดเข้าไปในห้องนอนด้วยความเดือดดาล ลากหลัวไห่ฮวาที่กำลังหลับสนิทลงจากเตียง “นางแพศยา นางแพศยา…”
หลัวไห่ฮวาถูกเขากระชากผม รู้สึกเจ็บจนตื่นขึ้นมาอย่างรวดเร็ว นางก่นด่าเขาทันที “เซียวไฉซุ่น เจ้ายังเป็นลูกผู้ชายอยู่หรือไม่? กลับถึงบ้านก็ตีภรรยา เจ้าไม่อายบ้างหรือ? ”
เซียวไฉซุ่นปาเสื้อผ้าของหลัวไห่ฮวาใส่หน้านาง “ข้าน่าอายหรือ? คนที่ทำเรื่องน่าอายคือเจ้าหรือข้ากันแน่? บัดซบ ข้าอยู่ข้างนอกทำงานอย่างยากลำบากแทบตายเพื่อหาเงินเลี้ยงดูครอบครัว แต่เจ้ากลับอยู่บ้านคบชายชู้สวมเขาให้ข้า เจ้ากล้าถามว่าข้าอายหรือไม่? นางตัวดี เจ้าต่างหากที่ยังมียางอายอยู่หรือไม่! ”
เซียวไฉซุ่นโมโหจนทนไม่ไหว เตะสองทีจนหลัวไห่ฮวาล้มหงายหลัง
หลัวไห่ฮวาเห็นสิ่งที่อยู่บนเสื้อ อารมณ์โทสะที่เมื่อครู่ยังดูแข็งกร้าวพลันหายไปจนสิ้น
นางรู้สึกตื่นตระหนก คิดอยากอธิบาย แต่จะอธิบายเช่นไร?
คืนนี้นางครุ่นคิดเรื่องที่เซียวหยวนบอกนางให้หนีไปพร้อมเขาอยู่ตลอดคืน นางที่ปกติจะทำลายหลักฐาน แต่วันนี้กลับลืมที่จะซักเสื้อผ้า
ใครจะคาดคิด ว่าเซียวไฉซุ่นจะหวังดีถึงขั้นซักเสื้อผ้าให้นาง
“บอกมา ชายชู้คนนั้นคือใคร? ” เซียวไฉซุ่นโมโหจนแทบคลุ้มคลั่งแล้ว
เขากระชากผมของหลัวไห่ฮวา ตะคอกเสียงต่ำด้วยใบหน้าดุร้าย “บอกมา ชายชู้คนนั้นคือใคร? บอกมา! ”
หลัวไห่ฮวารู้สึกเจ็บ จึงส่งเสียงร้องโหยหวนไม่หยุด แต่ก็ยังไม่ยอมปริปากบอกว่าบุรุษผู้นั้นคือใคร
เซียวไฉซุ่นโมโหจนตบหน้าหลัวไห่ฮวาอีกหลายฉาด ตบจนใบหน้าของหลัวไห่ฮวาบวมแดง เซียวไฉซุ่นยังไม่หายโมโห ยกเท้าขึ้นเตะหลัวไห่ฮวาอีกหลายครั้ง “นางหญิงร่าน นางแพศยา บอกมา ชายชู้คนนั้นคือใคร? ”
เซียวไฉซุ่นนอกจากจะโมโห ยังรู้สึกทั้งอายทั้งโกรธและอัปยศ
ในฐานะบุรุษคนหนึ่ง ศักดิ์ศรีที่เดิมควรมี บัดนี้ถูกหลัวไห่ฮวาโยนลงพื้นและเหยียบย่ำอย่างทารุณ
เมื่อเห็นว่าจนถึงตอนนี้หลัวไห่ฮวาก็ยังคงปกป้องชายชู้ เซียวไฉซุ่นจึงโมโหจนหายใจแทบไม่ออก โซเซไปสองก้าว ชี้หลัวไห่ฮวาพลางกล่าว “หลัวไห่ฮวา พวกเราเป็นสามีภรรยากันมาสิบกว่าปี เจ้า… เจ้ายังเห็นข้าเป็นคนอยู่หรือไม่? ”
หลัวไห่ฮวาก้มหน้า เงียบขรึมไม่กล่าวอะไร
ความเจ็บปวดบนใบหน้าและร่างกาย ทำให้หลัวไห่ฮวาตัดสินใจแล้ว บัดนี้นางใจแข็งดุจเหล็กกล้า
“ตุบ…”
เซียวไฉซุ่นเห็นว่าใช้ไม้แข็งไม่ได้ผล จึงคุกเข่าลงตรงหน้าหลัวไห่ฮวา โขกศีรษะให้หลัวไห่ฮวาครั้งแล้วครั้งเล่า ผ่านไปเพียงครู่เดียว บนหน้าผากก็มีรอยฟกช้ำดำเขียว เขาทั้งเสียใจทั้งอับอายและโกรธเคือง ร่ำไห้พร้อมตะคอก “เจ้าบอกข้ามา ชายชู้คนนั้นเป็นใครกันแน่? ข้าจะฆ่ามัน ข้าจะฆ่ามัน! ”
หลัวไห่ฮวามองดูเซียวไฉซุ่นร่ำไห้ส่งเสียงโวยวายด้วยสายตาเย็นชา
เดิมทีก่อนหน้านี้ยังมีความรู้สึกตัดใจไม่ได้อยู่บ้าง แต่บัดนี้นางโดนเซียวไฉซุ่นทั้งตบทั้งเตะจนความรู้สึกนั้นหายไปจนหมดสิ้น
หลัวไห่ฮวาตัดสินใจแล้ว นางจะพาเสี่ยวฮวาหนีไปให้ไกล!
เซียวไฉซุ่นทั้งร้องไห้ทั้งตะคอกอยู่นาน หลัวไห่ฮวาไม่ใจอ่อนแม้แต่น้อย ปิดปากเงียบ ไม่ยอมบอกเซียวไฉซุ่นว่าเป็นใคร
ด่าก็ด่าแล้ว ตีก็ตีแล้ว ร้องไห้ก็ร้องแล้ว ขอก็ขอแล้ว สุดท้ายก็ไม่อาจทำให้หลัวไห่ฮวาใจอ่อนได้เลย
“นางแพศยา! ” เซียวไฉซุ่นกัดฟันกรอด กล่าวด้วยท่าทางดุดัน “หลัวไห่ฮวา เจ้าไม่ไว้หน้าข้า ก็อย่าโทษที่ข้าไม่ไว้หน้าเจ้าเช่นกัน เจ้ามันไร้ยางอายไม่ใช่หรือ? ได้ พรุ่งนี้ข้าจะบอกเรื่องที่เจ้าคบชู้ให้คนทั้งหมู่บ้านได้รู้! ”
กล่าวจบ เซียวไฉซุ่นเตะประตูอย่างรุนแรงก่อนเดินออกไป เหลือเพียงหลัวไห่ฮวาที่ถูกซ้อมจนไม่เหลือสภาพ รวมถึงต้าจ้วงและเสี่ยวฮวาที่แอบฟังอยู่หน้าประตู
ถึงแม้เด็กสองคนจะถูกตามใจจนเสียคน แต่ถึงอย่างไรก็เป็นบิดามารดาของตัวเอง บิดามารดาตะคอกเสียงดังถึงเพียงนั้น เด็กทั้งสองจึงตื่นนานแล้ว อยู่ฟังตั้งแต่ต้นจนจบ
พวกเขาไม่เข้าใจว่านางแพศยาหมายถึงอะไร และไม่รู้ว่าชายชู้คืออะไร เมื่อเห็นมารดาถูกบิดาซ้อมจนมีสภาพเช่นนี้ เสี่ยวฮวาก็ส่งเสียงร้องไห้โฮออกมาทันที
ต้าจ้วงก้มหน้า ท่าทางอัดอั้นใจเช่นกัน
เมื่อครู่นี้ท่านพ่อช่างดูน่ากลัวนัก กลัวแทบตาย
หลัวไห่ฮวากอดเสี่ยวฮวาไว้ อธิบายไม่ถูกว่าภายในใจรู้สึกเช่นไร รู้สึกเหมือนหลังจากถูกซ้อม ความผูกพันฉันสามีภรรยาอันเปราะบางก็ถูกซ้อมจนขาดสะบั้นไปด้วย เช่นนั้นนางคงสามารถหนีไปให้ไกลอย่างสงบใจได้
“เสี่ยวฮวา หากแม่จะไป เจ้ายินยอมจะไปกับแม่หรือไม่? ” หลัวไห่ฮวาแอบกระซิบถามข้างหูเสี่ยวฮวา
เสี่ยวฮวาพยักหน้า “ท่านแม่ไปที่ไหน ข้าก็จะไปที่นั่นเจ้าค่ะ! ”
ส่วนบุตรชาย หลัวไห่ฮวารู้ว่าตัวเองไม่มีทางพาไปได้ ต่อให้พาไปได้ หลัวไห่ฮวาก็ไม่อยากพาไป
บุตรชายนั้นไม่ว่าเรื่องอะไรก็ต้องใช้เงิน ต่อไปยังต้องสู่ขอให้เขาแต่งภรรยา เรื่องอะไรก็ต้องใช้เงิน แต่บุตรสาวนั้นต่างกัน ในอนาคตออกเรือน จะได้สินสอดจำนวนมาก
สบายกว่าเลี้ยงดูบุตรชายมากนัก
ยิ่งไปกว่านั้น ฟังจากวาจาของเซียวหยวน เหมือนว่าจะให้นางพาเสี่ยวฮวาไปด้วย
หลัวไห่ฮวาตัดสินใจแล้ว ว่าจะพาเสี่ยวฮวาไป
คาดว่าเซียวไฉซุ่นจะขึ้นภูเขาไปอีกครั้ง
บนภูเขามีบ้านมุงหลังคาด้วยฟางอย่างเรียบง่ายที่เหล่าคนล่าสัตว์ช่วยกันสร้างขึ้น สามารถบังลมบังฝน ทั้งยังสามารถกันสัตว์ป่าที่อยู่ข้างนอก ปกติหากพวกเขาจะค้างคืนบนภูเขา ก็จะอยู่ที่นั่น
หลัวไห่ฮวาไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่าม กลัวว่าเซียวไฉซุ่นกำลังรอให้นางไปหาเซียวหยวน
ดังนั้น หลัวไห่ฮวาจึงกลับเข้าห้องไป นอนหลับสนิทโดยที่ไม่รู้สึกผิดแม้แต่น้อย วันรุ่งขึ้นฟ้ายังไม่สว่าง เซียวไฉซุ่นยังไม่กลับมา หลัวไห่ฮวาจึงย่องออกจากบ้านไปอย่างเงียบเชียบ เพื่อไปหาเซียวหยวน
เมื่อรู้ว่าเซียวไฉซุ่นรู้เรื่องระหว่างทั้งสองคนแล้ว เซียวหยวนโมโหจนแทบจะชกหลัวไห่ฮวาให้ตายในหมัดเดียว “เขารู้แล้วหรือว่าเป็นข้า? ”
หากเซียวไฉซุ่นรู้แล้ว ความพยายามทั้งหมดที่เขาทำมานานถึงเพียงนี้ก็จะสูญเปล่า
สตรีที่สมควรตายผู้นี้…
เซียวหยวนเพ่งมองหลัวไห่ฮวาด้วยแววตาคมกริบประหนึ่งใบมีดอันแหลมคม แทบอยากชักดาบออกมาแทงนางให้ตายเสีย!
หลัวไห่ฮวาก้มหน้า จึงไม่เห็นสายตาเหี้ยมเกรียมของเซียวหยวน นางส่ายหน้ารัวราวกับกลองป๋องแป๋งก็มิปาน “เปล่าเปล่าเปล่า เขาซ้อมข้าหนักถึงเพียงนี้ ข้าก็ไม่ได้กล่าวอะไรแม้แต่คำเดียว! ”
เซียวหยวนได้ฟังดังนั้นจึงวางใจ
มองหลัวไห่ฮวาโดยละเอียด
ใบหน้าของนางบวมราวกับหน้าสุกรก็มิปาน ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำดำเขียว ดูแล้วทั้งน่าสะอิดสะเอียนและน่าคลื่นเหียน เซียวหยวนไม่อยากมองอีกเป็นครั้งที่สอง
ทว่า ใบหน้าของเขายังคงแสดงสีหน้าเป็นห่วงเป็นใย “เซียวไฉซุ่นนั่น เขาตัดใจซ้อมเจ้าจนมีสภาพเช่นนี้ได้อย่างไร เป็นสามีภรรยาหนึ่งวันก็มีความผูกพันร้อยวันแล้ว เขายังเป็นลูกผู้ชายอยู่หรือไม่ ทำไมเขาถึงโหดร้ายนัก! ”
เซียวหยวนมองไปมองมา ดวงตาเริ่มแดง หยาดน้ำตาแทบไหลริน
หลัวไห่ฮวาเห็นดังนั้น รู้สึกว่าตัวเองถูกซ้อมก็คุ้มแล้ว
“อาหยวน เจ้าไม่ต้องเสียใจ ข้ายินยอมและเต็มใจ! เขาซ้อมข้าจนความผูกพันฉันสามีภรรยาเสี้ยวสุดท้ายของเราขาดสะบั้น ในเมื่อเขารู้แล้ว ตอนนี้ข้าก็จะหนีไปพร้อมกับเจ้า! ” หลัวไห่ฮวากล่าวด้วยความรักลึกซึ้ง
เซียวหยวน “เช่นนั้นเซียวไฉซุ่นเล่า? เขายังคงคิดจะทำลายชื่อเสียงของเจ้าภายในหมู่บ้านอยู่ดี! ”
หลัวไห่ฮวาส่ายหน้า “ข้าไม่สนใจมากถึงเพียงนั้น ข้าเพียงอยากอยู่กับเจ้า! ”
เซียวหยวนโอบกอดหลัวไห่ฮวาเบาๆ กล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เจ้าช่างโง่นัก เหตุใดเจ้าถึงโง่ถึงเพียงนั้น เจ้าทำเพื่อข้ามากมายขนาดนี้ ข้าเองก็ควรจะทำอะไรเพื่อเจ้าบ้าง! ”
“เจ้าเพียงแค่ดีต่อข้าก็พอแล้ว! ” หลัวไห่ฮวาพักพิงอยู่ในอ้อมอกของเซียวหยวน ไม่เห็นว่าแววตาเซียวหยวนฉายประกายเหลี่ยมจัดและไร้เยื่อใย
“ทางข้ายังต้องใช้เวลาอีกหลายวันถึงจะไปได้ หากเขาบีบบังคับให้เจ้าบอกชื่อข้าจะทำเช่นไร? ”
“ข้าไม่บอกแน่ ต่อให้ตายข้าก็ไม่บอก! ” หลัวไห่ฮวากล่าวด้วยความหนักแน่น
“เช่นนั้นหากเซียวไฉซุ่นจับเจ้าขังไว้ บีบบังคับให้เจ้ากล่าวเล่า? เขาจับเจ้าขังไว้ เช่นนั้นข้าจะพาเจ้าไปได้อย่างไร? ” เซียวหยวนกล่าวด้วยความอัดอั้นใจ
หลัวไห่ฮวาไม่ได้กล่าวอะไร
จริงด้วย หากเซียวไฉซุ่นโมโหจนจับนางขังไว้ นางจะหนีตามเซียวหยวนได้อย่างไร!
นางรู้สึกกังวลใจขึ้นมา “เช่นนั้นควรทำอย่างไรดี? ถ้าอย่างไร พวกเราไปกันตอนนี้เลย ข้าเพียงอยากไปกับเจ้า! ”
“หากเจ้าไปกับข้าตอนนี้ ทุกคนก็จะรู้กันหมด ว่าชายชู้ของเจ้าก็คือข้า! ” เซียวหยวนส่ายหน้าพลางกล่าว “ตอนนี้พวกเรายังไปไม่ได้”
“เช่นนั้นทางเซียวไฉซุ่นจะทำอย่างไร? หากเขาจับข้าขังไว้ ข้าก็ไปกับเจ้าไม่ได้แล้ว! ”
เซียวหยวนปลอบโยน “ไม่ต้องกลัว พวกเราต้องมีวิธีแน่ เจ้าไม่ต้องกลัว! ”
เมื่อกลับถึงบ้านอีกครั้ง หลัวไห่ฮวาสีหน้ากลัดกลุ้ม
จวบจนเซียวไฉซุ่นกลับมา ก็ซักถามเรื่องชายชู้ต่อ
หลัวไห่ฮวาไม่บอก หมัดของเซียวไฉซุ่นกำลังจะชกมาอีกครั้ง ทว่าหลัวไห่ฮวาตะคอกใส่เขาเสียงดังเสียก่อน “เขาบอกว่าจะพบกับเจ้า! ”
เซียวไฉซุ่นวางหมัดลง สีหน้าดุดัน แทบจะส่งเสียงหัวเราะออกมา “เขาจะพบกับข้า? เขายังมีหน้าอีกรึ? เขาไม่กลัวว่าข้าจะฆ่าเขาหรือ! ”
หลัวไห่ฮวากัดริมฝีปาก “เขาบอกว่าจะขอขมาเจ้าคืนนี้”
“ได้ ถือว่าเขามีความกล้า! ” เซียวไฉซุ่นโมโหถึงขีดสุดจนหัวเราะออกมา “ได้ คืนนี้ข้าจะไปพบเขา ข้าจะฆ่าเขาซะ! ”
กล่าวจบ เซียวไฉซุ่นจึงกลับห้องไป ขังตัวเองไว้ในห้อง
หลัวไห่ฮวารู้สึกตัวอ่อนยวบ ตัวนางราวกับเป็นกองดินโคลนเหลวก็มิปาน ล้มนั่งลงบนพื้น ใบหน้าฉายประกายไม่อาจตัดใจได้เล็กน้อย แต่ไม่นาน นางก็เช็ดคราบน้ำตาจนแห้ง แปรเปลี่ยนเป็นความมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยว
เรื่องที่นางตัดสินใจแล้ว ก็จะไม่เปลี่ยนแปลงอีก
มีแต่ต้องทำเช่นนี้ นางและเซียวหยวน ถึงจะอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขไปตลอดได้!
ตอนกลางคืน หลัวไห่ฮวาพาเซียวไฉซุ่นขึ้นภูเขา นับแต่นั้นเป็นต้นมา เซียวไฉซุ่นก็ไม่เคยลงมาจากภูเขาอีกเลย