ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต - เล่มที่ 15 บทที่ 433 คงไม่ใช่ว่าเจ้ากลัวความจะแตก จึงฆ่าคนปิดปากกระมัง
- Home
- ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต
- เล่มที่ 15 บทที่ 433 คงไม่ใช่ว่าเจ้ากลัวความจะแตก จึงฆ่าคนปิดปากกระมัง
บทที่ 433 คงไม่ใช่ว่าเจ้ากลัวความจะแตก จึงฆ่าคนปิดปากกระมัง
เรื่องที่เซียวไฉซุ่นไม่ปรากฏตัวมาตลอดหนึ่งวัน คนที่สังเกตเห็นคนแรกคือหยวนซื่อ!
หยวนซื่อจึงไปขวางทางหลัวไห่ฮวาไว้ “แม่ต้าจ้วง ข้ามาหาพี่ไฉซุ่นเพราะมีธุระ พี่ไฉซุ่นอยู่บ้านหรือไม่? ”
พอได้ยินคนอื่นกล่าวถึงเซียวไฉซุ่น สีหน้าของหลัวไห่ฮวาก็ดูไม่ค่อยดีนัก แต่ไม่นานนางก็ตั้งสติได้ “ไม่อยู่ เขาขึ้นภูเขาไปวางกับดักแล้ว จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่กลับมาเลย! ”
“เป็นเช่นนี้เอง! ” หยวนซื่อเพ่งมองหลัวไห่ฮวาเขม็ง หลัวไห่ฮวาถูกมองจนรู้สึกหวั่นใจ “เจ้า… เจ้ามองข้าเช่นนี้ทำไม? ”
“อ๋อ ข้านึกว่าเจ้าทำเรื่องน่าละอายใจอะไรแล้วพี่ไฉซุ่นรู้เข้า จากนั้นเจ้าจึงฆ่าเขาปิดปากเสียอีก! ” หยวนซื่อพูดจาหยอกล้อด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
หลัวไห่ฮวารู้สึกราวกับมีเสียงระเบิดดังตู้มขึ้นในห้วงภวังค์ “เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร? ”
หยวนซื่อไหวไหล่ “แค่หยอกเล่น หากพี่ไฉซุ่นกลับมาแล้ว เจ้าให้เด็กๆ ไปบอกข้าด้วย! ข้าหาเขามีธุระเล็กน้อย! ”
หลัวไห่ฮวายังจะออกไปข้างนอก จึงขานตอบไปตามเรื่อง จากนั้นจึงใส่กุญแจประตูบ้าน เท่ากับเป็นการไล่หยวนซื่อออกไป แล้วจึงหันขวับเดินไปทันที
หยวนซื่อมองดูประตูบ้านที่ปิดสนิท ก่อนหันมองเงาแผ่นหลังของหลัวไห่ฮวา แล้วจึงตัดสินใจเดินตามหลังไป
หลัวไห่ฮวาซักเสื้อผ้าเสร็จ สอดส่ายสายตามองดูรอบข้าง เมื่อเห็นว่าไม่มีผู้ใดตามนาง จึงยกถังไม้เข้าไปในดงต้นไม้ จากนั้นจึงเดินอ้อมในดงต้นไม้หนึ่งรอบ หยวนซื่อไม่คิดจะเดินอ้อมอยู่ในนั้นตามนาง จึงไปรออยู่บริเวณบ้านเซียวหยวน คิดไม่ถึง ว่าสุดท้ายหลัวไห่ฮวาจะถูกหยวนซื่อเห็นเข้าจนได้
หลัวไห่ฮวามองไปทั่วด้วยท่าทางลับๆ ล่อๆ ก่อนเข้าไปในลานบ้านของเซียวหยวน
“หยวนซื่อเหมือนจะรู้อะไรเข้า! ” พอพบหน้า หลัวไห่ฮวาก็บอกเซียวหยวนเรื่องที่เมื่อครู่นี้หยวนซื่อข่มขู่นาง
เซียวหยวนได้ฟังดังนั้น ก็ตกใจสะดุ้ง “นางกล่าวเช่นนี้จริงหรือ? ”
“ใช่แล้ว! ” หลัวไห่ฮวารู้สึกกระวนกระวายไม่รู้จะทำเช่นไรดี “ข้าเดาว่านางต้องรู้อะไรแน่ ไม่อย่างนั้น คงไม่กล่าวเช่นนี้! ”
เซียวหยวนรีบกล่าว “เจ้าอย่าเพิ่งร้อนใจ นางยังไม่ได้พูดกับเจ้าอย่างเปิดเผยไม่ใช่หรือ เจ้าไม่ต้องกลัว”
“ข้าจะไม่กลัวได้อย่างไร” เวลานี้หลัวไห่ฮวาทั้งร้อนใจทั้งหวาดกลัว เหมือนมดบนกระทะร้อนก็มิปาน เดินวนไปมา “หากมีคนพบเซียวไฉซุ่นเข้า หยวนซื่อต้องคิดสงสัยข้าแน่! ”
เซียวหยวนหัวเราะอย่างเย็นเยียบ “อีกฝ่ายยังไม่ได้กล่าวอะไร เจ้าเองกลับกระวนกระวายก่อนแล้ว! เจ้าจะกลัวอะไร! หากหยวนซื่อกล้าพูดเรื่องของพวกเรา พวกเราก็ทำเหมือนก่อนหน้านี้ เมื่อจะทำก็ทำให้ถึงที่สุด…” เขาทำท่าทางใช้มีดปาดลำคอ หลัวไห่ฮวาใบหน้าขาวซีดในทันใด “จะ… จะ…”
เซียวหยวนเห็นหลัวไห่ฮวาคิดจะถอยกลางคัน จึงหัวเราะอย่างเย็นเยียบ “ทำไม เจ้าไม่กล้ารึ? ตอนฆ่าเซียวไฉซุ่น ไม่เห็นว่าเจ้าจะอิดออดเช่นนี้ เจ้าอย่าได้ลืม เซียวไฉซุ่นถูกเจ้าหลอกขึ้นภูเขา น้ำนั่น เจ้าก็เป็นคนหลอกให้เขาดื่ม คนก็ถูกเจ้าผลักตกลงไป! หากจะคาดโทษ เจ้าถือเป็นผู้ลงมือ! ”
“ข้า…” หลัวไห่ฮวาถูกเซียวหยวนขู่จนล้มนั่งก้นกระแทกพื้น สีหน้าขาวซีดราวกับกระดาษ
เซียวหยวนเห็นว่าขู่นางสำเร็จ จึงรู้สึกพึงพอใจ “เจ้าไม่ต้องกังวล หากหยวนซื่อมาพูดกับเจ้าอย่างเปิดเผย เจ้าก็ให้นางมาหาข้า เจ้าวางใจได้ ครั้งนี้ข้าไม่ฆ่าคนแน่! ”
“จริงหรือ? ” หลัวไห่ฮวาเงยหน้า ก็เห็นเซียวหยวนที่นางรู้สึกราวกับเป็นคนแปลกหน้า
เซียวหยวนกอดนางไว้ในอ้อมอก “ย่อมต้องเป็นจริง อีกไม่กี่วันพวกเราก็จะออกจากหมู่บ้านสกุลเซียวแล้ว พวกเราพาเสี่ยวฮวาไปด้วย หนีไปให้ไกล ไปใช้ชีวิตอย่างมีความสุข”
หลัวไห่ฮวาจับคอเสื้อเซียวหยวนไว้ ก่อนกล่าว “คราวนี้ข้าคงต้องพาต้าจ้วงไปด้วย บิดาของเขาตายแล้ว ข้าต้องพาเขาไปด้วย! ”
เซียวหยวนยิ้ม “ได้ เช่นนั้นก็พาต้าจ้วงไปด้วย! เจ้าวางใจได้ ข้าจะปฏิบัติต่อลูกของเจ้าประหนึ่งเป็นลูกแท้ๆ ของข้า! ”
หลัวไห่ฮวารู้สึกซาบซึ้งใจจนหยาดน้ำตาร้อนคลอเต็มเบ้าตา
เซียวหยวนกลับขมวดคิ้วด้วยอารมณ์เบื่อหน่าย จะพาเด็กผู้ชายไปด้วยหรือ?
ช่างยุ่งยากเสียจริง!
หลังจากเซียวยวี่พาเด็กสองคนกลับบ้าน ก็แอบไปเซ่นไหว้หน้าหลุมฝังศพของท่านลุงสี่
ช่วงหลายวันนี้ท่านป้าสี่มักจะไปเยี่ยมหลุมศพเป็นประจำ เห็นเซียวยวี่พาเด็กๆ มาเซ่นไหว้แต่ไกล นางเองก็เริ่มรู้สึกใจอ่อนแล้ว
ถึงอย่างไร ความแค้นที่นางมีต่อเซียวยวี่ ล้วนเป็นเพราะเรื่องของหมิงจู บัดนี้หมิงจูได้แต่งกับคนที่ดี อีกทั้งตัวของเซียวหมิงจูเองก็ตัดขาดกับเซียวยวี่แล้ว นางจึงมีเมตตาต่อเซียวยวี่มากขึ้น
“ลำบากเจ้าแล้ว ที่เอาใจใส่ถึงเพียงนี้! ” เมื่อเห็นธูปและเครื่องเซ่นไหว้หน้าหลุมฝังศพ ท่านป้าสี่ก็หิ้วตะกร้ามา นำของด้านในออกมาทีละอย่าง
เซียวยวี่ยืนอยู่ข้างๆ เงียบๆ คิดว่าอีกเดี๋ยวก็จะไป
“ตาแก่ ยายแก่มาดูเจ้าแล้ว ข้านำเนื้อหมูที่เจ้าชอบกินที่สุด และสุราที่เจ้าชอบดื่มที่สุดมาด้วย! ”
เนื้อหมูชามหนึ่งถูกวางไว้หน้าหลุมฝังศพ ท่านป้าสี่ราดสุรา เซียวยวี่ได้กลิ่นแล้วรู้สึกว่าไม่เหมือนกลิ่นสุราทั่วไป
“ท่านป้าสี่ นี่คือสุราที่ปกติท่านลุงสี่ชอบดื่มหรือขอรับ? เหตุใดถึงรู้สึกว่ากลิ่นไม่เหมือนสุราทั่วไป! ” เซียวยวี่ขมวดคิ้วพลางเอ่ยถาม
ท่านป้าสี่แย้มรอยยิ้ม “ใช่แล้ว เขาชอบดื่มสุราสมุนไพรนี่มากที่สุด เขาชอบดื่ม แต่ข้ามักจะขวางไว้ไม่ให้เขาดื่ม ตอนนี้แม้ข้าจะอยากให้เขาดื่ม เขาก็ไม่อยู่แล้ว”
“สุราสมุนไพร? สุราสมุนไพรอะไรขอรับ? ”
“นี่เป็นของดีที่อาหยวนให้มา อาหยวนบอกว่า นายท่านในตัวอำเภอล้วนชอบดื่มเจ้าสิ่งนี้ สามารถทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง และมีอายุยืนยาว” ท่านป้าสี่เช็ดคราบน้ำตา ก่อนกล่าวกับท่านลุงสี่ต่อ “ข้าบอกอาหยวนแล้ว ต่อไปจะนำสุราหนึ่งไหมาให้เจ้าทุกปี เจ้าอยู่ทางนั้น อยากดื่มก็จะได้ดื่ม ไม่มีใครขวางเจ้าอีกแล้ว… ฮือ…”
เซียวยวี่เห็นท่านป้าสี่เทสุราในกาลงหน้าหลุมฝังศพ ก็ครุ่นคิดเรื่องบางอย่าง
เขารอท่านป้าสี่อยู่ตลอด จากนั้นจึงพยุงนางกลับบ้าน
ระหว่างทาง เซียวยวี่กล่าวถึงเรื่องสุราสมุนไพรอยู่หลายหน ท่านป้าสี่เพียงบอกว่าเป็นของที่เซียวหยวนมอบให้ หลังจากตาแก่ดื่มแล้ว ใบหน้าก็เต็มไปด้วยสีแดงเลือดฝาด สุขภาพแข็งแรงเป็นพิเศษ!
“ท่านป้าสี่ ในเมื่อสุรานั่นดีถึงเพียงนี้ ท่านเทให้ข้าเล็กน้อยได้หรือไม่ ข้าจะไปซื้อสุรานั่นบ้างขอรับ”
“เจ้ายังหนุ่มถึงเพียงนี้ จะดื่มสุรานั่นไปทำไม! ” ท่านป้าสี่ทอดถอนใจก่อนกล่าว “อาหยวนบอกว่าสุรานั่นมีไว้ให้คนสูงวัยดื่ม”
“ข้าอยากมอบให้อาจารย์เก่าของข้าขอรับ! ” เซียวยวี่พูดปด
“เช่นนั้นก็ได้ ในบ้านยังเหลืออีกเล็กน้อย เจ้ากลับไปกับข้า ข้าจะเทให้เจ้า”
“ขอบคุณท่านป้าสี่ขอรับ ข้าไม่ขอมาก แค่เล็กน้อยก็พอ” เซียวยวี่ตามท่านป้าสี่กลับบ้าน พอเข้าประตูก็พบกับเซียวหมิงจู
เซียวหมิงจูไม่ได้รู้สึกเสียใจเช่นก่อนหน้านี้แล้ว แต่ก็ยังมีจิตปรปักษ์ต่อการมาเยือนของเซียวยวี่เป็นอย่างมากอยู่ “เจ้าจะมาทำอะไรอีก? ทำไม ต้องมาดูว่าข้าใช้ชีวิตอย่างยากลำบากเพียงใด ใจเจ้าถึงจะมีความสุขเช่นนั้นหรือ? ”
ท่านป้าสี่ “เขามาเอาของเล็กน้อย”
เซียวยวี่ไม่กล่าวอะไร ยืนรอท่านป้าสี่อยู่หน้าประตูเงียบๆ
เซียวหมิงจูเห็นว่าเขามาเพราะเรื่องอื่นอีกแล้ว จึงกล่าวเสียงแหลม “เซียวยวี่ เจ้ามาบ้านข้าเพราะมีแต่ธุระอื่นหรือ? ทำไมเจ้าถึงไม่ถามบ้างว่าข้าสบายดีหรือไม่? ”
เพื่อไม่ให้คนข้างในได้ยิน นางจึงจงใจกดเสียงให้ต่ำ เสียงของเซียวหมิงจูแหลมจนระคายหู ประหนึ่งเสียงเล็บขูดไปบนอิฐเทาก็มิปาน ทำให้สั่นเทิ้มไปถึงหัวใจ
เซียวยวี่หันมองเซียวหมิงจูด้วยสีหน้าเรียบสงบ ก่อนหันตัวไป ไม่มองเซียวหมิงจูอีก
“เซียวยวี่! ” สภาวะจิตใจของเซียวหมิงจูแทบพังทลาย กรีดร้องเสียงแหลมราวคนเสียสติ
ตัวนางใกล้คลุ้มคลั่งเต็มทน