ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต - เล่มที่ 15 บทที่ 434 เซียวต้าจ้วงจมน้ำตาย
- Home
- ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต
- เล่มที่ 15 บทที่ 434 เซียวต้าจ้วงจมน้ำตาย
บทที่ 434 เซียวต้าจ้วงจมน้ำตาย
เมื่อท่านป้าสี่ออกมา เซียวหมิงจูเกรงว่าท่านป้าสี่จะเห็นท่าทางของตัวเอง จึงไม่กล้าจ้องมองเซียวยวี่อีก หันขวับกลับห้องของตัวเองไป
บัดนี้ท่านป้าสี่ยังมีแก่ใจจะสนใจมากมายถึงเพียงนั้นที่ไหนกัน นางหันมองเงาแผ่นหลังบุตรสาวของตัวเองแวบหนึ่ง ไม่ได้เป็นกันเองกับเซียวยวี่เช่นก่อนหน้านี้อีก “ให้เจ้าได้เพียงเท่านี้”
เซียวยวี่เก็บไว้ในอกเสื้อ “เพียงพอแล้วขอรับ”
เขากล่าวขอบคุณท่านป้าสี่ พร้อมกำชับ “ท่านป้าสี่ เรื่องที่ท่านให้สุราแก่ข้า ขออย่าให้ผู้อื่นรู้นะขอรับ! ”
ท่านป้าสี่ผงะไป “ทำไมหรือ? ไม่ใช่เรื่องที่ให้คนอื่นรู้ไม่ได้เสียหน่อย”
เซียวยวี่ “ท่านป้าสี่อย่ากล่าวจะดีกว่าขอรับ มิเช่นนั้นถึงเวลาอาหยวนอาจโมโหที่ท่านมอบมันให้ข้าได้! ”
จริงด้วย เหตุใดนางถึงไม่ทันคิดถึงเรื่องนี้ เดิมทีนางคิดอยากขอของคืน แต่พอคิดว่าของอยู่ในอกเสื้ออีกฝ่ายแล้ว ก็ได้แต่ถอนหายใจแผ่วเบา “เจ้าไปเถิด ต่อไปไม่ต้องมาอีกแล้ว! ”
ท่าทางของหมิงจูเมื่อครู่นี้ ท่านป้าสี่ก็เห็นแล้ว
เซียวยวี่ถอยหลังไปหลายก้าว โค้งคำนับท่านป้าสี่ ตอนหันตัวกลับไปก็พบกับเซียวหยวนที่กำลังเดินมาพอดี
เซียวหยวนยังคงมีสีหน้าท่าทางใสซื่อ ยามพบเห็นเซียวยวี่ ก็ไม่มีความแค้นเคืองและโมโหต่อเซียวยวี่เพราะตัวเองถูกเซียวหมิงจูหลอกใช้แม้แต่น้อย
“เซียวยวี่มาหรือ? ” เซียวหยวนกล่าวทักทายด้วยท่าทางใสซื่อ
เซียวยวี่พยักหน้า “มาเยี่ยมท่านป้าสี่! ”
“ตอนเที่ยงจะอยู่กินข้าวหรือไม่? ”
“ไม่ต้องแล้ว ที่บ้านยังมีน้องชายน้องสาว ต้องกลับไปทำอาหาร ขอตัวก่อน” เซียวยวี่ประสานมือคำนับ ก่อนจากไป
เซียวหยวนมองส่งแผ่นหลังของเซียวยวี่ที่เดินจากไป ก่อนเอ่ยถามท่านป้าสี่ที่อยู่ข้างๆ “ท่านแม่ เซียวยวี่มาทำอะไรขอรับ? ”
ท่านป้าสี่เกือบจะพูดโพล่งออกไป แต่เมื่อคิดถึงเรื่องที่เซียวยวี่กำชับนางว่าไม่ให้บอก ครุ่นคิดแล้วจึงทำตามที่เขาว่าไว้ ความจริงนางกลัวว่าเซียวหยวนจะไม่พอใจ
ของที่มอบให้ตาแก่โดยเฉพาะ กลับมอบส่วนหนึ่งให้คนอื่น หากอาหยวนรู้เข้า ต้องไม่ชอบใจแน่!
“ไม่มีอะไร เขาแค่มาเยี่ยมเยือนข้าเท่านั้น! ”
เซียวหยวนขานตอบทีหนึ่ง
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว หลังจากเลิกเรียน เซียวยวี่ยังคงกำชับเด็กๆ ไม่ให้ลงไปเล่นน้ำในแม่น้ำเช่นเคย ก่อนจะพาเด็กสองคนเข้าไปในตัวเมือง
รถม้าเคลื่อนผ่านปากทางเข้าหมู่บ้าน แม่น้ำสายเล็กที่คดเคี้ยวไหลผ่านหน้าหมู่บ้าน ยามนี้แสงแดดแรงกล้า สาดส่องผิวน้ำจนเกิดแสงสะท้อนระยิบระยับ เห็นแล้วเคืองตายิ่งนัก
หลัวไห่ฮวากำลังทำอาหารอยู่ที่บ้าน ทำอาหารเสร็จแล้ว จนเสี่ยวฮวาโวยวายว่าหิว ต้าจ้วงก็ยังไม่กลับมา
“ท่านแม่ ท่านพ่อล่ะเจ้าคะ? ท่านพ่อไม่ได้กลับมาสองวันแล้ว! ” เสี่ยวฮวาคิดถึงบิดาแล้ว
หลัวไห่ฮวาผงะไป ยิ้มพร้อมกล่าว “ท่านพ่อของเจ้ามีธุระสำคัญจึงต้องออกไปจัดการ รอให้เขาทำธุระเสร็จ ก็จะกลับมา! ”
เสี่ยวฮวาขานตอบทีหนึ่ง ก่อนจะเล่นของในมือต่อ
จวบจนเสียงตะโกนดังขึ้น ทำให้เสี่ยวฮวาตกใจจนโยนของในมือทิ้งไปไกล
“ท่านแม่ เหมือนมีคนกำลังเรียกท่านเจ้าค่ะ! ” เสี่ยวฮวากล่าวพึมพำ
“พ่อต้าจ้วง แม่ต้าจ้วง พวกเจ้ารีบมา ต้าจ้วงเกิดเรื่องแล้ว! ”
หลัวไห่ฮวาตกใจจนตะหลิวในมือร่วงลงไปในกระทะดังแกร๊ง เกิดอาการขาอ่อน ชาวบ้านช่วยกันประคองตัวนางไปยังริมแม่น้ำ เห็นเพียงต้าจ้วงนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น ช่วงท้องพองโต
เซียวเอ้อเหงื่อโชกศีรษะ เมื่อครู่นี้เขาพยายามสุดความสามารถแล้ว เด็กคนนี้… จมน้ำนานเกินไป สุดท้ายก็ไม่อาจช่วยชีวิตได้
หลัวไห่ฮวาโผเข้ากอดตัวเด็กอย่างน่าเวทนา พร้อมแผดเสียงตะโกนเรียก “ต้าจ้วง ต้าจ้วง…”
เสี่ยวฮวาก็เกาะอยู่บนตัวพี่ชาย ร่ำไห้อย่างหนัก “พี่ชาย พี่ชาย…”
ทั้งสองคนร่ำไห้ด้วยความเศร้าโศกเสียใจ ผู้คนรอบข้างต่างรู้สึกเศร้าโศกตาม เด็กอายุเพียงเท่านี้ ไปเล่นน้ำที่ริมแม่น้ำตามลำพัง ช่างบาปกรรมเสียจริง!
ทุกคนเห็นหลัวไห่ฮวาและเสี่ยวฮวาร่ำไห้อยู่ครึ่งค่อนวันแล้วก็ยังไม่เห็นเซียวไฉซุ่นมา จึงกล่าว “พ่อต้าจ้วงเล่า? เด็กเกิดเรื่องใหญ่ถึงเพียงนี้ เหตุใดเขาถึงไม่มา? ”
“เหมือนว่าข้าจะไม่เห็นเขามานานหลายวันแล้ว” คนที่อยู่ข้างๆ กล่าว
“แม่ต้าจ้วง พ่อของเขาไปที่ไหนแล้ว? เจ้ารีบเรียกเขากลับมาสิ เกิดเรื่องใหญ่ถึงเพียงนี้! ”
หลัวไห่ฮวาอ้ำๆ อึ้งๆ “เขา เขาบอกว่าจะขึ้นภูเขาไปล่าสัตว์ ต้อง ต้องใช้เวลาหลายวันถึงจะกลับมา! ”
คนรอบข้างไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงของหลัวไห่ฮวา เพียงคิดว่าบุตรชายของนางตายไป ภายในใจรู้สึกเศร้าโศก จึงพูดจาติดๆขัดๆ
“จริงๆ เลย หาเงินมากไปจะมีประโยชน์อะไร เด็กตายไปแล้ว ไปไปไป พวกเราขึ้นภูเขาด้วยกัน ไปพาไฉซุ่นกลับมา”
หลัวไห่ฮวา “อย่า…”
นางเพิ่งตะโกนออกมาหนึ่งคำ ก็ตระหนักว่าหากตัวเองตะโกนบอก คนอื่นต้องเกิดข้อกังขาเป็นแน่ เด็กตายไป เซียวไฉซุ่นย่อมต้องกลับมา นางมีเหตุผลอะไรที่จะขัดขวางไม่ให้ไป!
หลัวไห่ฮวารีบเช็ดน้ำตาทีหนึ่ง เปลี่ยนคำพูด “เช่นนั้นข้าก็ขอขอบคุณพวกเจ้าแล้ว”
เด็กถูกยกกลับบ้านไป หลัวไห่ฮวานอกจากจะรู้สึกเศร้าโศกเสียใจ ก็รู้สึกหวาดกลัวด้วย
คนมากมายถึงเพียงนั้นขึ้นภูเขาไปหาเซียวไฉซุ่น จะหาพบหรือไม่?
หาพบแล้วจะทำเช่นไร?
นางจิตใจไม่สงบ แม้หยวนซื่อจะเพ่งมองนางอยู่นาน นางก็ยังไม่รู้ตัว
ช่วงก่อนเที่ยงคืน ทุกคนก็กลับมาแล้ว พาเซียวไฉซุ่นกลับมาด้วย
ทว่า เซียวไฉซุ่นในยามนี้ เป็นร่างไร้วิญญาณที่เริ่มส่งกลิ่นเหม็นแล้ว!
หลัวไห่ฮวากะพริบตาสองที โผเข้าหาพลางร่ำไห้เสียงดัง “พ่อของลูก พ่อของลูก เจ้าเป็นอะไรไป? พ่อของลูก…”
“ตอนพวกเราพบเขา เขานอนนิ่งอยู่ตรงตีนเขา คาดว่าตอนล่าสัตว์อาจเหยียบพลาด จึงตกลงมาจากภูเขา! ”
หลัวไห่ฮวาร่ำไห้ราวคนเสียสติ “พ่อของลูก ต้าจ้วงตายแล้ว พ่อของลูก! ”
หลัวไห่ฮวาในยามนี้รู้สึกเศร้าเสียใจมาก ต้าจ้วงตายแล้ว สามีก็ตายจากไป ครอบครัวสี่คน บัดนี้เหลือเพียงสองคนแล้ว
ทุกคนต่างรู้สึกสงสารจับใจ จึงช่วยกันจัดโถงไว้ทุกข์
เริ่มจากท่านลุงสี่ จู่ๆ คนที่ร่างกายแข็งแรงสามคนก็ตายจากไป ทุกคนต่างรู้สึกประหลาดใจยิ่งนัก
“พวกเจ้าว่าจะมีภูตผีหรือไม่ ไฉซุ่นไม่ใช่คนประมาทถึงเพียงนั้น เหตุใดอยู่ดีๆ ถึงก้าวพลาดได้เล่า? ”
“ข้าก็คิดเช่นนั้น แม่น้ำของหมู่บ้านเราเอง ก็ไม่ได้ลึกเสียหน่อย ต้าจ้วงก็โตถึงเพียงนั้นแล้ว เหตุใดอยู่ดีๆ ถึงจมน้ำตายได้เล่า? ”
“ตอนนี้ลูกข้าไม่ไปริมแม่น้ำแล้ว บอกว่าอาจารย์เซียวไม่ให้ไป เห็นว่าริมแม่น้ำอันตราย ดูท่าอาจารย์เซียวจะมองการณ์ไกลทีเดียว! ”
“ลูกข้าก็เช่นกัน เชื่อฟังคำสั่งของอาจารย์เซียว บอกว่าหากจะลงเล่นในแม่น้ำ ต้องบอกให้บิดามารดารู้ ต้องมีผู้ใหญ่อยู่ข้างกาย ไม่อย่างนั้นก็ไม่ให้ไป อาจารย์เซียวช่างดีเสียจริง! ”
คนที่ในบ้านมีเด็กชอบเล่นน้ำ ตั้งแต่ไปเรียนในสถานศึกษาก็โดนอาจารย์เซียวสั่งห้ามไม่ให้ลงเล่นน้ำ แต่ละคนต่างก็รู้สึกหวาดหวั่นยิ่งนัก
น้ำนั้นไม่สนใจว่าเจ้าเป็นใคร คิดอยากจมใครให้ตายก็จมได้
ไม่มีความเมตตาปรานีแม้แต่น้อย!
หยวนซื่อก็ได้ยินเรื่องที่เซียวไฉซุ่นตายไปแล้ว หลังจากรู้สึกตกใจสะดุ้ง ก็สงสัยในตัวหลัวไห่ฮวาขึ้นมาโดยปริยาย จึงไปหานางเพื่อถามอย่างเปิดเผย
หลัวไห่ฮวาเองก็มีการเตรียมใจไว้แต่แรก เพียงเอ่ยถามนางด้วยท่าทางเย็นชา “เจ้าพูดเพ้อเจ้ออะไร ข้าจะไปฆ่าสามีของตัวเองได้อย่างไร! ”
“ฮะฮะ เจ้าเป็นคนสังหารหรือไม่ เจ้าจะไม่รู้แก่ใจเชียวหรือ? คาดว่าคงเพราะเรื่องระหว่างเจ้ากับชายชู้ถูกเซียวไฉซุ่นรู้เข้า เจ้าจึงทำให้ถึงที่สุด สังหารเขาเสียใช่หรือไม่? ” หยวนซื่อยิ้มพร้อมกล่าว
“เหลวไหลสิ้นดี ข้าหลัวไห่ฮวาบริสุทธิ์ใจ มีหรือจะมากรักหลายใจเช่นเจ้า? ” หลัวไห่ฮวายิ้มตาม นางยิ้มออกมาอย่างเย็นเยียบ เมื่ออยู่ในโถงไว้ทุกข์ รอยยิ้มนั่นช่างดูน่ากลัวนัก
“ข้ามากรักหลายใจแล้วอย่างไร สามีของข้าตายไปนานแล้ว ข้าอยากอยู่กับใครก็อยู่กับคนนั้น เจ้ามีสิทธิ์อะไรมายุ่ง? ” หยวนซื่อไม่ใส่ใจ
อย่างไรเสียที่บ้านก็ไม่มีใครมาคอยคุมนาง นางอยากอยู่กับใครก็อยู่กับคนนั้น ใครจะมายุ่งได้
หลัวไห่ฮวาไม่สนใจนาง เพียงทำราวกับนางพูดจาเพ้อเจ้อเหลวไหล
หยวนซื่อเองก็ไม่โมโห นั่งลงบนเก้าอี้ว่างตัวหนึ่งอย่างไม่ใส่ใจ พอนั่งลง ก็เริ่มรู้สึกไม่ค่อยดี เกิดอาการขนลุกขึ้นมา
ด้านซ้ายของเก้าอี้คือร่างไร้วิญญาณของเซียวต้าจ้วง ด้านขวาคือร่างไร้วิญญาณของเซียวไฉซุ่น ล้วนแต่…
หยวนซื่อรู้สึกว่าน่ากลัวนัก ตกใจจนกระโดดลุกขึ้น เดินออกห่างเล็กน้อย “เจ้าว่าตอนที่ไฉซุ่นเห็นเจ้าผลักเขาตกลงไป เขากำลังคิดอะไรอยู่? คิดอยากฆ่าทั้งเจ้ากับเซียวหยวนหรือไม่? ”
จู่ๆ หลัวไห่ฮวาก็เบิกตากว้าง “เจ้า… เจ้ารู้ได้อย่างไร? ”
หยวนซื่อหัวเราะร่า นางไม่ได้เห็นกับตา เพียงแค่หลอกล่อหลัวไห่ฮวาเท่านั้น “อ๋อ ถูกเจ้าฆ่าจริงหรือนี่! ”
หลัวไห่ฮวาเพิ่งเข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง หยวนซื่อกำลังหลอกล่อให้นางกล่าวออกมา
นางเหมือนลูกยางที่ถูกปล่อยลมออกก็มิปาน นั่งกองอยู่บนพื้น แววตาเหม่อลอย
“เซียวหยวนเก่งกาจถึงเพียงนั้นจริงหรือ? เก่งกาจถึงขั้นที่เจ้าต้องสังหารสามีของตัวเองก็ยังอยากอยู่กับเขา? ” หยวนซื่อหัวเราะร่าพร้อมกล่าว “ข้าสงสัยเจ้านานแล้ว พวกเราล้วนเป็นสตรี เรื่องอย่างว่าของสตรี ใครบ้างที่ไม่รู้อยู่แก่ใจ! แค่แววตาที่เจ้ามองเซียวหยวน แทบอยากจะแนบติดบนตัวเขา พวกเราล้วนแต่เป็นคนที่เคยมีประสบการณ์ ข้าแค่เห็นแววตาของเจ้า ก็เดาออกแล้วว่าพวกเจ้าสองคนมีปัญหา”
หยวนซื่อกล่าวอย่างลำพองใจ หลัวไห่ฮวารู้สึกหวาดหวั่น
“เจ้า เจ้าอยากทำอะไรกันแน่? ” หลัวไห่ฮวาขยับริมฝีปาก สั่นอยู่นานกว่าจะกล่าวประโยคนี้ออกมาได้
“ไม่ทำอะไร หากข้าจะไปฟ้องทางการ วันนี้ข้าก็คงไม่ยืนอยู่ตรงนี้” หยวนซื่อหัวเราะก่อนกล่าว “สิ่งที่ข้าต้องการนั้นง่ายมาก ข้อแรกให้เงินข้าหนึ่งร้อยตำลึง…”
“เจ้าไปขโมยเอาเองเถิด ข้าจะไปหาเงินหนึ่งร้อยตำลึงมาจากที่ใดกัน! ” หลัวไห่ฮวาตะคอกขัดวาจาของหยวนซื่อ
หยวนซื่อหัวเราะ “เจ้าไม่มี เซียวหยวนจะไม่มีเชียวหรือ? เซียวหยวนเสียเงินห้าสิบตำลึงเพื่อช่วยเซียวหมิงจูเชิญซินแสสวี่มา พวกเจ้าล้วนแต่เป็นสตรีของเขา เซียวหยวนคงไม่เลือกที่รักมักที่ชังกระมัง? ”
หลัวไห่ฮวาโมโหจนถลึงตาใส่หยวนซื่อ เดิมทีใบหน้านางก็อวบอ้วนอยู่แล้ว บัดนี้เมื่อถลึงตาทั้งคู่จ้องมองคน ภายในเรือนที่มีร่างไร้วิญญาณนอนอยู่สองร่าง ก็ทำให้รู้สึกน่ากลัวยิ่งขึ้น!
“เจ้าให้เซียวหยวนมอบให้ข้า ไม่อย่างนั้นข้าจะบอกพี่สะใภ้สี่ ว่าคนที่ทำเรื่องพรรค์นั้นในศาลบรรพชน น่าจะเป็นเจ้ากับเซียวหยวนกระมัง! เซียวหยวนกลับเข้าใจทำ ไม่ต้องเสียแรงอะไร ก็ได้แต่งงานกับเซียวหมิงจู เขาช่างเก็บซ่อนได้ดีเสียจริง! เสแสร้งเป็นคนรักมั่น ใครจะรู้ว่าเป็นหมาป่าที่คลุมหนังแกะไว้! ”
หลัวไห่ฮวาไม่กล้ากล่าวอะไรอีก ตอนนี้นางยังให้เซียวหมิงจูรู้ถึงตัวตนของนางไม่ได้
เซียวหยวนบอกไว้แล้ว ว่าจะซ่อนตัวนางไว้ข้างนอก ไม่ให้เซียวหมิงจูรู้!
เมื่อเผชิญกับการข่มขู่ของหยวนซื่อ หลัวไห่ฮวาได้แต่พยักหน้า “ได้ ข้ารับปากเจ้า! ”
หยวนซื่อไหวคิ้วอย่างได้ใจ “ส่วนข้อสอง ก็ง่ายยิ่งกว่า พวกเขาล้วนบอกว่าเซียวหยวนเก่งกาจ มีเพียงเจ้าที่รู้ว่าเขาเก่งกาจหรือไม่! ”
หลัวไห่ฮวามองหยวนซื่อแวบหนึ่ง “เจ้าคิดจะทำอะไร? ”
หยวนซื่อแย้มรอยยิ้ม “อยากลองดู! ”
หลัวไห่ฮวามองดูหยวนซื่อ ก่อนจะก้มหน้าลงอย่างรวดเร็ว
นางแสร้งทำทีเป็นเสียดาย แต่ยังคงพยักหน้าด้วยท่าทางลำบากใจ “ได้ แต่ในบ้านมีคนอยู่เยอะ ถ้าอย่างไรเป็นหลังเที่ยงคืนก็แล้วกัน! ”