ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต - เล่มที่ 15 บทที่ 436 เจ้าเป็นลูกเขย และเป็นลูกชายด้วย
- Home
- ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต
- เล่มที่ 15 บทที่ 436 เจ้าเป็นลูกเขย และเป็นลูกชายด้วย
บทที่ 436 เจ้าเป็นลูกเขย และเป็นลูกชายด้วย
หลังเที่ยงคืน หยวนซื่อเข้าไปทางประตูด้านหลังที่หลัวไห่ฮวาใช้เป็นประจำ เพื่อไปหาเซียวหยวน
เซียวหยวนรู้แต่แรกแล้วว่าหยวนซื่อจะมา จึงรอคอยอยู่ในบ้านตลอด
เมื่อเผชิญหน้ากับสตรีมากรักหลายใจที่มาหาเอง เซียวหยวนจึงไม่คิดเกรงใจ หลังลงมาจากตัวหยวนซื่อ หยวนซื่อจึงกล่าวอย่างพึงพอใจ “มิน่าล่ะหลัวไห่ฮวาถึงยอมลงมือกับสามีของนางเพื่อเจ้า ข้าไม่เคยพบเจอคนที่เก่งกาจเช่นเจ้ามาก่อน”
เมื่อเซียวหยวนเห็นนางพูดจาเกี้ยวพาราสี ก็ยิ้มอย่างเย็นเยียบ “เช่นนั้นเจ้าเคยพบเจอกับบุรุษจำนวนมากมาแล้วงั้นหรือ? ”
หยวนซื่อหัวเราะอย่างได้ใจ “ถึงอย่างไรเจ้าก็ไม่ใช่คนแรก และไม่ใช่คนสุดท้าย! ”
“จริงหรือ? ” จู่ๆ เซียวหยวนก็ก้มหน้าลง ขยับไปข้างหูหยวนซื่อ พ่นลมหายใจเบาๆ ทีหนึ่ง เมื่อเห็นว่าสตรีที่อยู่ข้างล่างตัวอ่อนอีกครั้ง เซียวหยวนก็ยิ้มอย่างเย็นเยียบ “เจ้าชอบบุรุษมากไม่ใช่หรือ? ถ้าอย่างไรข้าส่งเจ้าไปสถานที่หนึ่งดีหรือไม่? ”
หยวนซื่อเอียงศีรษะ แสร้งทำเป็นเอ่ยถามด้วยความเหนียมอาย “เจ้าจะส่งข้าไปที่ไหนหรือ? ”
เซียวหยวนหัวเราะร่า ก่อนจะกล่าวอย่างชัดถ้อยชัดคำ “สถานที่ที่พิสดาร เจ้าต้องรักที่นั่นแทบตายแน่! ”
“หืม เป็นสถานที่เช่นไรหรือ? ”
“สถานที่ที่สตรีไม่ต้องสวมใส่เสื้อผ้าไปทั้งวัน! ”
“ไม่สวมเสื้อผ้า? แล้วพวกนางจะออกจากห้องได้อย่างไร เซียวหยวน เจ้าช่างมีอารมณ์ขันเสียจริง มิน่าล่ะหลัวไห่ฮวาถึงได้หลงเจ้าหัวปักหัวปำ! ”
“ข้าไม่ได้หลอกเจ้า สตรีที่นั่นอย่าว่าแต่ออกจากห้องเลย พวกนางไม่ต้องลงจากเตียงด้วยซ้ำ ดังนั้น จึงไม่จำเป็นต้องสวมใส่เสื้อผ้า! ”
ฟังถึงตรงนี้ หยวนซื่อรู้สึกว่าฟังดูผิดปกตินัก เซียวหยวนในตอนนี้ดูค่อนข้างน่ากลัว หยวนซื่อมีลางสังหรณ์ไม่ค่อยดีนัก “เพราะ… เพราะอะไรหรือ? ”
เซียวหยวนจ้องมองหยวนซื่อ แย้มรอยยิ้มกว้างขึ้น ดูแล้วรู้สึกน่าตกใจนัก “เพราะที่นั่นมีบุรุษจำนวนนับไม่ถ้วน รอคอยที่จะปรนนิบัติสตรีพวกนั้น เจ้าลองคิดดู บุรุษมากมายถึงเพียงนั้น สตรีจะมีเวลาถอดเสื้อผ้าได้อย่างไร? ดังนั้น พวกนางจึงไม่เคยสวมใส่เสื้อผ้า เป็นอย่างไร อยากไปหรือไม่? ”
หยวนซื่อรู้สึกหวาดผวายิ่งนัก กำลังคิดจะบอกว่าไม่ไป ยังไม่ทันปริปาก ก็โดนเซียวหยวนซัดเข้าหนึ่งฝ่ามือจนหมดสติไป
รถม้าคันหนึ่งที่ไม่เคยเห็นมาก่อนแอบเข้ามาในหมู่บ้านช่วงกลางดึก ใช้เวลาเพียงครู่เดียว หลังจากหยุดจอดในดงต้นไม้ครู่หนึ่ง ก็เคลื่อนตัวออกไปอย่างรวดเร็ว
คราวนี้รอยล้อรถจมลึกกว่าก่อนหน้านี้มาก คล้ายกับมีคนเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคน
คนขับรถม้ามีรูปหน้าซูบผอมรูปปากแหลม อาศัยจังหวะช่วงกลางคืน ใช้แส้ตีม้าที่อยู่ด้านหน้าอย่างแรง
ม้ารู้สึกเจ็บ จึงวิ่งไปด้วยความเร็วสูง ก่อให้เกิดฝุ่นตลบครั้งแล้วครั้งเล่า
ท้องฟ้ายามค่ำคืนมืดมาก มืดจนมองไม่เห็นเส้นทาง โหวจื่อขับรถม้าโดยอาศัยประสบการณ์ที่มี โดยที่เขาไม่ทันเห็นเลยสักนิด ว่าด้านหน้ามีแผ่นไม้ตอกตะปูที่หันปลายแหลมขึ้นวางไว้กลางถนน
ม้าเหยียบโดนตะปูแหลม รู้สึกเจ็บจนยกเท้าขึ้นสูง สะบัดโหวจื่อจนกระเด็นทันที
เวลานี้เอง เงาร่างหนึ่งขึ้นไปบนรถม้าอย่างรวดเร็ว ดึงบังเหียนไว้ ควบคุมให้รถม้าหยุด
ส่วนโหวจื่อ บัดนี้โดนจับมัดอย่างแน่นหนา มองกลุ่มคนที่ปรากฏตัวขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยด้วยอาการหวาดกลัว
เซียวหยวนไม่ได้ข่าวจากโหวจื่อมาสองถึงสามวันแล้ว รู้สึกจิตใจไม่ค่อยสงบ
ไม่รู้ว่าหญิงเช่นหยวนซื่อ จะขายในตลาดมืดได้เท่าไร
ถึงแม้จะกังวลใจ แต่ทางนี้ก็สมควรแก่การเก็บแหแล้วเช่นกัน
ตลาดมืดย่อมไม่รอเขานานนัก!
ไม่ว่าจะเป็นปลาตัวใหญ่หรือกุ้งตัวเล็ก ล้วนต้องส่งไปให้ทันเวลา หากไม่ได้รับความเชื่อถือ คิดจะร่วมงานกับตลาดมืดอีก ก็เป็นเรื่องยากแล้ว
ทางหลัวไห่ฮวาจัดการเสร็จแล้ว เซียวหยวนต้องพูดจาเกลี้ยกล่อมท่านป้าสี่ เขาจะพาเซียวหมิงจูออกไปทำงาน
“ท่านแม่ ถึงแม้ข้าไม่อยากให้ท่านอยู่บ้านเพียงลำพัง แต่ไม่ว่าอย่างไรข้าก็ต้องออกไปหาเงิน บัดนี้ท่านพ่อไม่อยู่แล้ว เรื่องในบ้านข้าต้องดูแลรับผิดชอบ ข้าต้องดูแลท่านและหมิงจูแทนท่านพ่อนะขอรับ! ” เซียวหยวนกล่าวด้วยความรู้สึกลำบากใจ
ท่านป้าสี่รู้ว่าช้าเร็ววันนี้ก็ต้องมาถึง นางรู้ตั้งแต่ก่อนจะจัดงานมงคลแล้ว เพียงแต่คิดไม่ถึง ว่าจะมาเร็วถึงเพียงนี้
“ข้า… ข้าไม่อยากแยกจากหมิงจู! ” พอท่านป้าสี่คิดถึงบ้านที่จะว่างเปล่าไม่เหลือใคร ภายในใจนางก็รู้สึกเศร้าเสียใจ
เซียวหยวนรีบกล่าว “ท่านแม่ ถ้าอย่างนั้นเอาเช่นนี้ดีหรือไม่ หมิงจูอยู่บ้านเป็นเพื่อนท่าน ข้าหาเงินแล้วจะกลับมาขอรับ! ในบ้านไม่มีเงิน ชีวิตจะลำบาก ข้าไม่อาจทนเห็นท่านและหมิงจูลำบากกับข้า! ”
หมิงจูที่อยู่ข้างๆ ไม่กล่าวอะไร แต่กลับมองเซียวหยวนแวบหนึ่งด้วยความรู้สึกเลื่อมใส
นางรู้สึกว่าสามีที่ท่านแม่หาให้นางนั้นไม่เลวเลย เป็นคนที่มีความรับผิดชอบ!
บัดนี้ท่านป้าสี่เห็นเซียวหยวนเป็นคนในครอบครัวอย่างแท้จริงแล้ว นางเช็ดคราบน้ำตา เปิดตู้เก็บของของตัวเองต่อหน้าเซียวหยวน นำเงินเก็บทั้งหมดของนางออกมา “เพื่อจัดงานแต่งงานให้พวกเจ้าสองคน ที่บ้านใช้เงินไปยี่สิบกว่าตำลึง ในนี้ยังมีอีกหนึ่งร้อยตำลึง พวกเจ้าเอาไปเถิด”
เซียวหยวนรู้สึกยินดีอยู่ในใจ แต่ไม่ได้แสดงออกทางสีหน้า “ท่านแม่ นี่เป็นเงินที่ท่านพ่อเก็บไว้ให้ท่าน ท่านเก็บไว้ใช้เองเถิด ข้าจะใช้เงินของท่านได้อย่างไรขอรับ! ท่านรีบเก็บไว้ ต่อให้ข้าต้องออกไปขอทานข้างนอก ก็จะใช้เงินของท่านไม่ได้แม้แต่อีแปะเดียว! ”
ในที่สุดท่านป้าสี่ก็เผยรอยยิ้มบนใบหน้า “เด็กโง่ ข้ามีหมิงจูเป็นบุตรสาวเพียงคนเดียว มีเจ้าเป็นลูกเขยเพียงคนเดียว ข้าเห็นเจ้าเป็นลูกเขย และเห็นเจ้าเป็นบุตรชายด้วย เงินของข้าก็เป็นเงินของพวกเจ้าไม่ใช่หรือ”
เซียวหยวนกัดริมฝีปาก ก่อนกล่าว “ท่านแม่ ข้าเองก็ไม่มีมารดา ท่านเป็นมารดาแท้ๆ ของข้า ข้ากับหมิงจูต้องดูแลท่านในยามแก่เฒ่าเป็นอย่างดีแน่นอนขอรับ! ”
ท่านป้าสี่ปิดปากหัวเราะไปพลางร้องไห้ไปพลาง “ข้ารู้ ว่าเจ้าเป็นเด็กดี ข้าเพียงอยากบอกว่า พวกเจ้าไม่ต้องไปที่ไหนไกล เปิดร้านในเมืองโยวหลันก็แล้วกัน ข้าจะอยู่ที่หมู่บ้านสกุลเซียว หากพวกเจ้ามีอะไรให้ข้าช่วย ข้าก็จะเข้าไปในตัวเมืองช่วยพวกเจ้า หากพวกเจ้าไม่ยุ่งมาก ข้าก็จะกลับมา ไม่รบกวนพวกเจ้า ขอเพียงพวกเจ้ามีเวลาว่างกลับมาดูยายแก่อย่างข้าบ้างก็พอ ต่อไปมีบุตรแล้ว ข้าจะช่วยพวกเจ้าเลี้ยงดู พวกเจ้าคิดว่าไหวหรือไม่? ”
เซียวหมิงจูร่ำไห้อย่างหนัก “ท่านแม่ ได้เจ้าค่ะ พวกเราจะไม่ไปที่ไหน จะอยู่ในตัวเมือง หากท่านคิดถึงพวกเรา พวกเราจะมารับท่าน ให้ท่านไปอยู่กับพวกเราเจ้าค่ะ! ”
ท่านป้าสี่มองดูเซียวหมิงจู ก่อนหันมองเซียวหยวน รอคอยคำตอบของเซียวหยวน
เซียวหยวนเองก็กล่าว “ท่านแม่ คำพูดของหมิงจู ก็คือคำพูดของข้าขอรับ ข้าไม่มีบิดามารดา บัดนี้เหลือเพียงท่าน ท่านก็คือมารดาแท้ๆ ของข้า ข้าจะไม่ไปที่ไหน จะพาหมิงจูเปิดร้านอยู่ในตัวเมือง ท่านอยู่กับพวกเราขอรับ”
ท่านป้าสี่ได้รับคำตอบอย่างมั่นใจ ก็ดีใจจนหยาดน้ำตาร้อนเอ่อเต็มเบ้าตา “ดี! ”
เซียวหยวนยังจะบ่ายเบี่ยงไม่เอาเงินหนึ่งร้อยตำลึง แต่ท่านป้าสี่ยืนกรานจะให้เขา “เจ้าไปซื้อหน้าร้านสักแห่งหนึ่งในตัวเมือง เงินหนึ่งร้อยตำลึงนี่มากพอแล้ว! สามารถช่วยให้พวกเจ้าสองสามีภรรยาเปิดร้านได้! ”
เซียวหยวนได้แต่รับไว้ด้วยความจนใจ “ได้ขอรับ ท่านแม่ ช่วงสองวันนี้ข้าจะไปดูหน้าร้านในตัวเมือง”
“อืม ไปกับหมิงจู เด็กคนนี้เข้าไปในตัวเมืองเป็นประจำ รู้ว่าแถวไหนดี”
เซียวหยวนจูงมือหมิงจู ยิ้มพร้อมกล่าวว่าได้
ไม่นานพวกเขาก็พบหน้าร้านที่ถูกใจ จ่ายเงินมัดจำเสร็จ เซียวหมิงจูกลับไปก็บอกท่านป้าสี่เรื่องที่จ่ายเงินมัดจำหน้าร้านไว้แล้ว ทั้งยังบอกเล่าแผนอนาคตของเซียวหยวน ท่านป้าสี่ได้ฟังก็พยักหน้าไม่หยุด “อาหยวนเป็นเด็กดี! ”
เซียวหมิงจูก็พยักหน้าตาม เหมือนจะบอกท่านป้าสี่ แต่ก็เหมือนกำลังเตือนตัวเอง “ท่านแม่ ข้าจะใช้ชีวิตกับอาหยวนดีๆ เจ้าค่ะ! ”
ท่านป้าสี่เห็นว่านางจะไม่ทำอะไรเหลวไหลอีก ก็ตบมือนางเบาๆ “แม่ดูคนไม่ผิดแน่ อาหยวนเป็นเด็กดี ดีกว่าทุกคน! ”
ทุกคนที่ว่าหมายถึงใคร ท่านป้าสี่ไม่ได้กล่าวอย่างชัดเจน แต่เซียวหมิงจูเข้าใจดี
วันต่อมา เซียวหยวนไปชำระเงินเพียงลำพัง พาหลัวไห่ฮวาที่เก็บทรัพย์สินทั้งหมดที่มีไปด้วย
ทั้งสองคนแยกกันไป
หลัวไห่ฮวาพาเสี่ยวฮวาไปรอในตัวเมืองก่อน ส่วนเซียวหยวนตามมาในภายหลัง พาหลัวไห่ฮวาไปอยู่ในเรือนเล็กหลังหนึ่ง