ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต - เล่มที่ 15 บทที่ 444 แสร้งทำเป็นพบโดยบังเอิญ
บทที่ 444 แสร้งทำเป็นพบโดยบังเอิญ
ภายในโรงผลิตขนาดเล็กในเมืองโยวหลัน เซี่ยยวี่หลัวกำลังแหงนหน้าเหยียดกายบิดขี้เกียจทีหนึ่ง
ในที่สุดก็ใช้น้ำดอกไม้ถังสุดท้ายหมดแล้ว
เมื่อเห็นสบู่นับพันก้อนแถวสุดท้าย รวมทั้งน้ำยาอาบน้ำและน้ำยาสระผมนับพันขวดที่นางทำเอง เซี่ยยวี่ก็หลัวนวดลำคอที่ปวดเมื่อย ออกมายืดเส้นยืดสายในลานบ้าน
ฟู่ซื่อและเลี่ยวซื่อจัดเก็บข้าวของทั้งหมดเรียบร้อย พรุ่งนี้พวกนางก็ไม่มาแล้ว
เลี่ยวซื่อรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “เมื่อวานข้าเห็นน้ำดอกไม้เหลืออีกเจ็ดถึงแปดถังนี่นา เหตุใดวันนี้ถึงเหลือเพียงสองถังเล่า! ”
ฟู่ซื่อก็รู้สึกว่าระยะนี้น้ำดอกไม้ใช้หมดเร็วขึ้นเรื่อยๆ แต่นางไม่กล้าถาม จึงกล่าว “อาจเพราะฮูหยินนำไปใช้ในเรื่องอื่นกระมัง”
ทั้งสองคนไม่มีงานให้ทำแล้ว จึงออกมากล่าวอำลาเซี่ยยวี่หลัวในลานบ้าน
เซี่ยยวี่หลัว “หากครั้งหน้ายังมีงานอีก ต้องรบกวนท่านป้าทั้งสองด้วย”
เลี่ยวซื่อยิ้ม “ฮูหยินกล่าวอะไรเช่นนี้ ขอเพียงมีงานให้ทำ ป้าจะมาทันที”
ฟู่ซื่อก็กล่าว “หลายวันนี้ต้องขอบคุณที่ฮูหยินช่วยดูแล หากฮูหยินมีงานอะไรอีก ก็มาหาพวกเราได้เลย! ”
เซี่ยยวี่หลัวยิ้มพลางพยักหน้า “ได้! ”
กล่าวจบ นางหยิบเงินจำนวนหนึ่งออกมาจากอกเสื้อ ให้คนละสามตำลึง ฟู่ซื่อและเลี่ยวซื่อไม่กล้ารับ “ฮูหยินทำอะไรหรือ? ค่าแรงในระยะนี้จ่ายพวกเราหมดแล้ว”
เซี่ยยวี่หลัวยิ้ม “ค่าแรงนั้นจ่ายไปแล้ว เงินนี่ถือเป็นคำขอบคุณต่อท่านทั้งสองที่ทำงานอย่างยากลำบากในช่วงนี้ เป็นเงินพิเศษที่ข้ามอบให้”
ได้ยินว่าเป็นเงินพิเศษ ฟู่ซื่อและเลี่ยวซื่อหันสบตากัน ก่อนรับไว้
เงินสามตำลึง ฮูหยินช่างใจกว้างนัก มากกว่าเงินค่าแรงที่พวกนางได้รับในช่วงนี้เสียอีก ทว่า เถ้าแก่เนี้ยเช่นนี้ถึงจะทำให้ผู้อื่นอยากทำงานให้นางอย่างจริงใจ
ทั้งสองคนกล่าวขอบคุณเซี่ยยวี่หลัวเสร็จแล้วจึงกลับไป
เซี่ยยวี่หลัวแหงนหน้ามองดูท้องฟ้าสีคราม ฟ้าครามเมฆขาว สภาวะจิตใจรู้สึกดียิ่งขึ้น
หลังจากส่งสบู่และน้ำยาอาบน้ำชุดสุดท้ายไป นางก็จะได้กลับบ้านแล้ว
เซี่ยยวี่หลัวหยิบสบู่มาห้าก้อน พร้อมทั้งหยิบน้ำยาอาบน้ำและน้ำยาสระผมมาอย่างละหนึ่งขวด ไปยังเซียนจวีโหลว
ของที่รับปากไว้ว่าจะมอบให้ซ่งฉางชิง นางไม่ได้ลืม
เวลานี้เป็นช่วงพักในช่วงบ่ายของเซียนจวีโหลว ซ่งฉางชิงนวดคลึงหว่างคิ้วที่ปวดเมื่อยเล็กน้อย บางทีอาจนั่งนานเกินไป จึงรู้สึกปวดศีรษะเล็กน้อย ซ่งฉางชิงลุกขึ้น เปิดหน้าต่างที่ไม่ได้เปิดบ่อยนัก ไอร้อนระอุจากภายนอกพัดเข้ามา ชะให้ไอเย็นภายในห้องเบาบางลง
ห่างออกไปเป็นเทือกเขาสีเขียวที่สูงตระหง่าน ซ่งฉางชิงมองดูอยู่ครู่ใหญ่ จึงรู้สึกว่าตาที่ปวดเมื่อยทุเลาลงบ้าง
ในจังหวะที่เขากำลังจะปิดหน้าต่างเพื่อคิดบัญชีต่อ เขาก็ตาไวจนเห็นเงาร่างหนึ่งในฝูงชน
สตรีผู้นั้นหิ้วตะกร้าไว้ในมือ เดินมาด้วยท่าทางอรชรอ้อนแอ้น
รูปโฉมงามล่มเมือง ก้าวเท้าสง่าดุจบัวเคลื่อนคล้อย
อาการวิงเวียนศีรษะ หรือความรู้สึกไร้ซึ่งเรี่ยวแรง ยามเขาเห็นเงาร่างอรชรนั่น ซ่งฉางชิงเพียงรู้สึกราวกับร่างกายเต็มไปด้วยพลังไร้ที่สิ้นสุด เกรงว่านางจะทำเช่นครั้งก่อน มาแล้วไปทันที ซ่งฉางชิงจึงรีบปิดหน้าต่าง พุ่งพรวดลงไปชั้นล่าง ออกจากเซียนจวีโหลว แสร้งทำเป็นพบกับเซี่ยยวี่หลัว ‘โดยบังเอิญ’
“ท่านซ่ง…” เซี่ยยวี่หลัวพบซ่งฉางชิง จึงยิ้มพร้อมกล่าวทักทาย
ซ่งฉางชิงกำลังดูของอยู่หน้าแผงขายของแห่งหนึ่ง ยิ้มพลางหันกลับมา เห็นเซี่ยยวี่หลัวจึงพยักหน้าเบาๆ “ฮูหยินเซียว”
“บังเอิญจริง ที่ได้พบท่านที่นี่” เซี่ยยวี่หลัวหิ้วตะกร้า เดินขึ้นหน้าสองก้าว
บังเอิญหรือ?
ซ่งฉางชิงยิ้ม “นั่นสิ ช่างบังเอิญเสียจริง”
ข้างๆ มีคนเดินผ่านไปมา ซ่งฉางชิงเกรงว่าคนเหล่านี้จะชนใส่เซี่ยยวี่หลัว จึงจับตะกร้าในมือของเซี่ยยวี่หลัว ให้นางขยับเข้าข้างทางเล็กน้อย
เซี่ยยวี่หลัวเร่งฝีเท้าเดินไปสองก้าวจึงหยุดอยู่หน้าแผงขายของ ยืนอยู่ข้างกายซ่งฉางชิง
กลิ่นหอมเบาบางของดอกไม้ลอยมา ซ่งฉางชิงเพียงรู้สึกกระปรี้กระเปร่า
“ท่านซ่งมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร? ” เซี่ยยวี่หลัวยิ้มพร้อมเอ่ยถาม
เมื่อเห็นดวงตาที่เปล่งประกายแสงสว่างพร่างพรายดุจดวงดารา ซ่งฉางชิงก็พูดโพล่งออกมา “ในห้องอบร้อนเกินไป ข้าจึงออกมาสูดอากาศ! ”
เซี่ยยวี่หลัวไม่คิดสงสัยเป็นอื่น
“ฮูหยินเซียวมาที่นี่มีธุระหรือ? ” ซ่งฉางชิงเปิดหัวข้อสนทนา
“ใช่แล้ว มาหาท่านซ่งอย่างไรเล่า” เซี่ยยวี่หลัวชูตะกร้าขึ้น ยิ้มจนคิ้วงามโก่งโค้ง ประหนึ่งจันทร์เสี้ยวในคืนวันปีใหม่ “ของที่ครั้งก่อนท่านบอกให้ข้ามอบให้ ข้านำมามอบให้ท่านแล้ว”
ซ่งฉางชิงแย้มรอยยิ้ม “ข้านึกว่าฮูหยินเซียวลืมไปแล้วเสียอีก”
ทั้งสองคนกลับไปยังเซียนจวีโหลว
เวลานี้เอง ซ่งฝูเดินออกมาจากห้องพัก ไม่พบคุณชาย กำลังรู้สึกสงสัย ทว่าเหลือบเห็นคุณชายและฮูหยินเซียวขึ้นมาชั้นบนเข้าเสียก่อน
ซ่งฝูรีบเดินมา “คุณชาย ฮูหยินเซียว…”
“ไปรินน้ำชามาหนึ่งถ้วย” ซ่งฉางชิงออกคำสั่งอย่างเรียบสงบ เดิมทีซ่งฝูคิดจะถามว่าท่านมาจากข้างนอกได้อย่างไร แต่คุณชายไม่เปิดโอกาสให้เขาได้กล่าวเลย จึงได้แต่ไปรินน้ำชา
ฮูหยินเซียวมา ดูจากที่คุณชายให้ความสำคัญถึงเพียงนี้ ย่อมต้องรินน้ำชาให้อย่างดี
ทั้งสองคนเข้าไปในห้อง ในห้องมีปิงเจี้ยนวางอยู่ เย็นสบายเป็นอย่างมาก ทำให้ไอร้อนบนตัวเบาบางลงทันที
เซี่ยยวี่หลัวยืนอยู่ครู่หนึ่ง ก็รู้สึกว่าเย็นสบายเป็นพิเศษ
“ในห้องนี้เย็นสบายมากทีเดียว! ” เซี่ยยวี่หลัวยิ้มพร้อมกล่าว
ซ่งฉางชิงกำลังคิดจะบอกว่าเย็นสบายจริง จู่ๆ ก็นึกถึงคำตอบที่เมื่อครู่เพิ่งกล่าวตอบเซี่ยยวี่หลัวไป จึงยิ้มพร้อมกล่าว “อาจเพราะเพิ่งเติมน้ำแข็งก็เป็นได้! ”
เซี่ยยวี่หลัวกล่าวอย่างตรงไปตรงมา หยิบของที่จะมอบให้ซ่งฉางชิงออกมาจากตะกร้า สบู่ทั้งหมดห้าก้อน ใส่ไว้ในห่อผ้าและกระบอกไม้ไผ่ ยังมีน้ำยาสระผมและน้ำยาอาบน้ำ มอบให้ซ่งฉางชิงทั้งหมด
ซ่งฉางชิงคิดไม่ถึงว่าเซี่ยยวี่หลัวจะมอบให้มากมายถึงเพียงนี้ในคราเดียว รู้สึกตกตะลึงเล็กน้อย “เหตุใดฮูหยินถึงมอบให้มากถึงเพียงนี้? ”
เซี่ยยวี่หลัวยิ้ม “ไม่มาก”
ซ่งฝูที่อยู่ข้างๆ ยกน้ำชามา พร้อมพูดแทรก “นำไปมอบให้ฮูหยินเฒ่าและคุณหนูได้นี่ขอรับ พวกนางต้องชอบมากแน่นอน”
เห็นของเหล่านี้ถูกทำออกมาอย่างประณีตและกะทัดรัด ไม่รู้จริงๆ ว่ามือของฮูหยินเซียวเป็นเช่นไร เหตุใดถึงทำสิ่งของแปลกพิลึกเหล่านี้ออกมาได้
เซี่ยยวี่หลัวยิ้ม “ใช่ พวกนางต้องชอบแน่นอน”
ซ่งฉางชิงหยิบขวดแก้วขึ้นมาหนึ่งขวด “ยังไม่ได้ขายในเมืองโยวหลันหรือ? ”
หากอยากได้ ให้พวกนางไปซื้อเองก็ได้ ทำไมต้องเอาของที่เซี่ยยวี่หลัวมอบให้เขาด้วย
เซี่ยยวี่หลัวส่ายหน้า “ตอนนี้ที่เมืองหลวงยังไม่พอขายเลย ยิ่งไปกว่านั้น ของเหล่านี้ราคาไม่ถูก ข้าเกรงว่าขายในเมืองโยวหลันจะได้ราคาไม่ดี! ”
“อะไรนะ? ส่งไปขายที่เมืองหลวง? ” ซ่งฝูที่อยู่ข้างๆ รู้สึกตกตะลึงเสียยิ่งกว่าอะไร มองดูสบู่และขวดแก้วเหล่านั้น รู้สึกตกใจยิ่งนัก “แม่เจ้า ฮูหยินเซียว ท่านช่างเก่งกาจเสียจริง! ”
“กิจการที่เมืองหลวงตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง? ” ซ่งฉางชิงเป็นห่วงเรื่องนี้ที่สุด
เซี่ยยวี่หลัวยิ้ม “ถือว่าไม่เลว”
ครั้งก่อนก็บอกว่าไม่เลว
นางเป็นคนถ่อมตัว ซ่งฉางชิงเห็นนางยิ้มพร้อมกล่าวว่าไม่เลว เช่นนั้นต้องดีมากแน่นอน ซ่งฉางชิงจึงวางใจ ยิ้มพร้อมกล่าว “เช่นนั้นก็ดี”
หากไม่มีขายในเมืองโยวหลัน เช่นนั้นของเหล่านี้ เขาจะไม่มอบให้ผู้อื่นแม้แต่ชิ้นเดียว!