ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต - เล่มที่ 15 บทที่ 450 รู้สึกขอบคุณเซียวยวี่เป็นอย่างยิ่ง
- Home
- ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต
- เล่มที่ 15 บทที่ 450 รู้สึกขอบคุณเซียวยวี่เป็นอย่างยิ่ง
บทที่ 450 รู้สึกขอบคุณเซียวยวี่เป็นอย่างยิ่ง
โหยวเจิ้งเฉิงกล่าวขึ้น “ในเมื่ออาจารย์เฮ่ออยากเห็นผลการแข่งขันในสองรอบแรก เช่นนั้นก็ให้อาจารย์เฮ่อและทุกท่านได้ดูเถิด ทุกคนจะได้ไม่กล่าวหาว่าพวกเราไม่โปร่งใส”
เหวินจิ้งเสวียไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี “หากข้าคิดจะตัดสินไม่เป็นธรรม เช่นนั้นก็ต้องเข้าข้างคนของตัวเอง จะไปเข้าข้างคนอื่นได้อย่างไรเล่า! ”
เพียงแต่น่าเสียดาย ที่เฮ่อหลันไม่เข้าใจความพยายามของเขาเลย
คนหนุ่มผู้นี้ สอบผ่านได้เป็นจวี่เหริน ได้เข้ารับราชการ น่าเสียดายที่เดิมทีเขาเป็นบัณฑิตยากไร้ ครอบครัวไม่มีที่พึ่งพิง ใจอยากเอาชนะก็แข็งกร้าวยิ่งนัก ถูกข้าราชการด้วยกันกดขี่ สุดท้ายก็มาถูกปลดออกจากราชการ ไม่มีที่ให้ไป เหวินจิ้งเสวียเห็นว่าคนผู้นี้ถึงแม้อุปนิสัยจะทั่วไป แต่มีความรู้ความสามารถอย่างแท้จริง จึงเชิญให้เขามาสอนหนังสือที่สถานศึกษาเหวินกง
เขาได้ค่าตอบแทนเป็นสองเท่าของอาจารย์ที่เป็นซิ่วไฉ เพราะเขามีความสามารถ ตัวเองก็รู้สึกชื่นชม คนผู้นี้จึงมีตำแหน่งสูงในสถานศึกษาเหวินกง ทำให้ทุกคนรู้สึกไม่พอใจอยู่ไม่น้อย
แม้กระนั้น เพื่อสถานศึกษาเหวินกง เหวินจิ้งเสวียก็ยังคงพยายามรั้งตัวเขาไว้
หลังจากนำผลงานในสองรอบแรกออกมาให้ทุกคนรับชม เฮ่อหลันเพิ่งเข้าใจ ว่าวาจาของเหวินจิ้งเสวียหมายถึงอะไร!
เขาพ่ายแพ้อย่างแท้จริง พ่ายแพ้โดยสมบูรณ์
“พวกเจ้าดูภาพนี่สิ ต้นหญ้าที่อาจารย์เฮ่อวาดดูงดงามก็จริง เป็นสีเขียวดูสดใส เห็นแล้วรู้สึกชอบทันที แต่หญ้านี้ดูดีเกินไป ราวกับว่าไม่อาจโดนลมพัดหรือฝนกระหน่ำใส่ แต่พวกเจ้าลองดูภาพของอาจารย์เซียว ถึงแม้จะมีต้นหญ้าเล็กเพียงต้นเดียว แต่มันงอกเงยจากดินที่โดนก้อนหินทับไว้ โดนลมพัดฝนกระหน่ำ ถึงแม้หญ้าต้นนี้จะโค้งงอ แต่มันก็ยังคงเติบโตต่อ ไม่มีใครจะทำให้มันล้มลงไปได้! ”
“ยังมีกลอนบทนี้ ที่อาจารย์เฮ่อเขียนนั้น กล่าวถึงวิหคสื่อถึงวิหค กล่าวถึงขนอันงดงาม นอกเหนือจากนั้น ก็ไม่มีอะไรอีก แต่ที่อาจารย์เซียวเขียน ถึงแม้จะเขียนถึงวิหค ทั้งยังเป็นวิหคธรรมดาที่ไม่มีขนนกอันงดงาม แต่จากวิหคตัวนี้ กลับสามารถดูออก ว่าเขาอยากกล่าวถึงวิหคเพื่อสื่อถึงมนุษย์ บอกเล่าเรื่องที่มนุษย์อยากมีอิสระเหมือนวิหค รวมถึงความเพียรพยายามของวิหค! ”
ไม่ว่าจะเป็นการวาดภาพต้นหญ้า หรือเขียนบทกลอนเกี่ยวกับวิหค คนหนึ่งเขียนอะไรก็มีเพียงเท่าที่เขียน อีกคนหนึ่งเขียนอะไรก็สื่อถึงความนัยออกมา
ใครเด่นใครด้อย เห็นได้ทันที!
เฮ่อหลันเขียนบทกลอนและวาดภาพ ถนัดการใช้ถ้อยคำสละสลวย ใช้สีสันสดใส มุ่งเน้นความเป็นที่สุดในสัมผัสรับรู้ กลับไม่เคยคิดว่าของบางอย่าง นอกจากเปลือกนอกจะดูดี ภายในก็ต้องดูดีด้วย
“ข้าชอบบทกลอนและภาพวาดของอาจารย์เซียวมากกว่า เห็นแล้วทำให้รู้สึกอยากพยายามสู้ต่อไป”
“ข้าก็เหมือนกัน ข้าก็ชอบของอาจารย์เซียว ภาพวาดและบทกลอนของอาจารย์เฮ่อถึงแม้จะดูดี กลับไม่ได้ทำให้รู้สึกสั่นสะท้านในใจ! ”
“ของอาจารย์เซียวดีกว่า”
เวลานี้ เหล่าผู้ชมในสถานศึกษา ต่างก็ยืนอยู่ข้างหลังเซียวยวี่ ตะโกนชื่อเซียวยวี่ออกมา
“อาจารย์เซียว…”
“ของอาจารย์เซียวดีกว่า! ”
เฮ่อหลันเห็นว่าคนจำนวนไม่น้อยที่เมื่อครู่สนับสนุนตนเองกลับไปสนับสนุนเซียวยวี่แทน ก็ล้มนั่งลงบนเก้าอี้ทันที
เซียวยวี่เพียงแย้มรอยยิ้มบาง ไม่ถ่อมตัวหรือโอ้อวด
“สองรอบแรกอาจารย์เซียวทำได้งดงามถึงเพียงนี้ ไม่รู้ว่ารอบที่สี่ บทความเขียนถึงใต้หล้าจะเป็นเช่นไร! ” มีคนรู้สึกสงสัย
เหวินจิ้งเสวียเห็นดังนั้น เกรงว่าคนเหล่านี้จะโวยวายให้นำผลงานในรอบที่สี่ออกมาอีก จึงรีบกล่าว “การแข่งในวันนี้สิ้นสุดแล้ว เฮ่อหลัน เจ้าแพ้แล้ว ไปขอขมาอาจารย์เซียว”
เฮ่อหลันยังคงรู้สึกไม่พอใจ เขาไม่เข้าใจ ตัวเองเป็นถึงจวี่เหริน เหตุใดถึงเทียบกับบัณฑิตไร้คุณวุฒิไม่ได้? แต่การแข่งขันในสองรอบแรก เขาก็เห็นแล้วว่า ผลงานของเขา เทียบเซียวยวี่ไม่ได้อย่างแท้จริง!
เขาได้แต่ยอมรับความพ่ายแพ้ ถึงแม้ภายในใจเฮ่อหลันจะไม่ยินยอม แต่ก็รู้ว่าตัวเองเป็นบัณฑิต คำสัตย์ที่เคยให้ไว้ อย่างไรก็ต้องทำตาม
“อาจารย์เซียว เฮ่อหลันขอขมาท่าน! ” เฮ่อหลันเดินไป โค้งคำนับ “ข้าขอยอมรับผลพ่ายแพ้ นับแต่วันนี้เป็นต้นไป จะไม่สอนหนังสืออีก! ”
“เฮ่อหลัน! ” เหวินจิ้งเสวียได้ฟังดังนั้น ก็ตำหนิเสียงดัง “เป็นแค่การแข่งขันเท่านั้น เจ้าจะจริงจังไปไย! ”
เฮ่อหลันกล่าวตอบ “ลูกผู้ชายลั่นวาจาแล้วไม่คืนคำ วาจาที่ข้าเฮ่อหลันเคยกล่าวไว้ ย่อมต้องทำตาม”
เซียวยวี่ได้ฟังจากเซียวยิง ว่าเฮ่อหลันผู้นี้ มีฐานะเป็นจวี่เหริน เป็นผู้ทรงคุณวุฒิ ไม่ว่าเรื่องใดก็ชอบแข่งขัน มีใจอยากเอาชนะ ภายในสถานศึกษา คนเดียวที่เขานับถือคือผู้อำนวยการที่เป็นจวี่เหรินเหมือนกัน ส่วนคนอื่นๆ เขาไม่เคยเห็นใครอยู่ในสายตา
แต่คนเช่นนี้ กลับมีความรู้ความสามารถไม่เลว ทั้งยังตั้งใจสอนเด็กๆ เรียนหนังสือ
หากคนผู้นี้ไป สถานศึกษาเหวินกงต้องสูญเสียอาจารย์ดีๆ ไปหนึ่งท่าน
เซียวยวี่เดินขึ้นหน้าประคองเฮ่อหลันขึ้น “อาจารย์เฮ่อกล่าวหนักไปแล้ว เป็นเพียงการแข่งระหว่างท่านกับข้าเท่านั้น อาจารย์เฮ่อมีความรู้กว้างขวาง ความสามารถเปี่ยมล้น วันนี้ข้าเพียงบังเอิญเอาชนะอาจารย์เฮ่อได้อย่างเฉียดฉิว อาจารย์เฮ่อมีชื่อเสียงบารมีสูงส่งในสถานศึกษาเหวินกง ได้รับความเคารพรักจากเหล่านักเรียน จะลาออกได้อย่างไร? หากท่านไปแล้ว เด็กๆ เหล่านั้นจะเศร้าเสียใจเพียงใด ผู้อำนวยการเหวินเองก็ต้องรู้สึกเศร้าเสียใจที่สูญเสียอาจารย์อย่างท่านไป”
เดิมทีเฮ่อหลันรู้สึกคุกรุ่นไม่พอใจ วาจาที่กล่าวออกมาจึงแฝงเร้นด้วยอารมณ์โทสะ ทว่า ภายหลังได้ฟังวาจาจากใจของเซียวยวี่ ก็ผงะไป
เขาไม่คิดจะไล่ต้อนให้ถึงที่สุดหรือ?
“แต่ข้าให้คำสัตย์ไว้แล้ว หากท่านชนะ ข้าก็จะออกจากสถานศึกษาเหวินกงทันที ไม่สอนหนังสืออีก! ข้าจะผิดคำพูดได้อย่างไร! ” เฮ่อหลันไม่อาจเสียหน้าได้ บัณฑิตกล่าวคำใดต้องเป็นคำนั้น จะไม่ทำตามคำพูดได้อย่างไร
เหวินจิ้งเสวียเองก็ทอดถอนใจ เฮ่อหลันอยู่ในสถานศึกษาเหวินกงมานานปี คนผู้นี้ อุปนิสัยเป็นเช่นไร เหวินจิ้งเสวียย่อมรู้ดี เมื่อตัดสินใจเด็ดขาดแล้ว วัวแปดตัวก็ยังฉุดไม่อยู่!
“เขาจะไปแล้ว” เหวินจิ้งเสวียกล่าวกับโหยวเจิ้งเฉิงที่อยู่ข้างๆ
โหยวเจิ้งเฉิงกลับหัวเราะ “เกรงว่าคงไม่”
“ท่านไม่รู้อุปนิสัยของเฮ่อหลันผู้นี้ เหมือนหินในหลุมส้วมก็มิปาน ทั้งเหม็นทั้งแข็ง ดื้อรั้นเสียยิ่งกว่าอะไร! ”
“ต่อให้เขาทั้งเหม็นทั้งแข็ง แต่ท่านไม่รู้ ว่าเซียวยวี่สามารถเกลี้ยกล่อมเขาได้! ” โหยวเจิ้งเฉิงหัวเราะลั่นพร้อมกล่าว
เหวินจิ้งเสวียเอ่ยตอบด้วยความสงสัย “เขาเกลี้ยกล่อมได้? เขาจะเกลี้ยกล่อมได้อย่างไร ข้ายังเกลี้ยกล่อมไม่ได้เลย! ”
“เช่นนั้นพวกเราก็รอดูต่อไป! ”
เซียวยวี่เดินขึ้นหน้าสองก้าว ภายในใจเฮ่อหลันยังรู้สึกไม่พอใจ เขาดูออก
“ท่านเป็นอาจารย์ของสถานศึกษาเหวินกง ที่นี่ยังมีเด็กๆ ที่ท่านสอน หากท่านไปแล้ว เด็กเหล่านั้นจะทำเช่นไร? ” เซียวยวี่ถามเขา
เฮ่อหลันหัวเราะอย่างเย็นเยียบ “สถานศึกษาเหวินกงยังมีอาจารย์ท่านอื่นๆ อีก เด็กเหล่านั้นย่อมได้อาจารย์ท่านอื่นสอน! ” ทว่ากลับเป็นเขาเองที่นอกจากสอนหนังสือแล้ว ก็ยังไม่มีหนทางอื่นใดอีก หากไปจากที่นี่ คงอยู่ในเมืองโยวหลันต่อไปไม่ได้
ตั้งแต่ตอนที่เฮ่อหลันให้คำสัตย์ ก็ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะพ่ายแพ้ และไม่เคยคิดว่าหลังจากตัวเองออกจากที่นี่จะทำเช่นไรต่อ บัดนี้ทุกสิ่งประดังเข้ากลางใจ เฮ่อหลันรู้สึกกลัวขึ้นมา แต่เขาเป็นคนรักศักดิ์ศรี ต่อให้กลัว ก็ไม่มีทางแสดงออกทางสีหน้า!
“ในเมื่อเด็กเหล่านั้นคุ้นเคยกับอาจารย์เฮ่อหลันแล้ว หากให้อาจารย์ท่านอื่นมาสอน ย่อมต้องปรับตัวอีกระยะหนึ่ง บิดามารดาของเด็กๆ ล้วนแต่จ่ายค่าเล่าเรียนแล้ว ย่อมอยากให้สถานศึกษาสอนเด็กๆ ให้ดี เปลี่ยนอาจารย์กะทันหัน เด็กๆ ไม่คุ้นเคย ผลการเรียนไม่ดี ผู้ปกครองย่อมต้องกังวลใจ อาจารย์เฮ่อไปเช่นนี้ เท่ากับไม่มีความรับผิดชอบไม่ใช่หรือ! ” เซียวยวี่ยุแหย่เขา
และแล้ว เฮ่อหลันก็โต้กลับเสียงดัง “ใครไม่มีความรับผิดชอบ ข้าเป็นคนมีความรับผิดชอบแน่นอน! ”
“เช่นนั้นอาจารย์เฮ่อสอนเด็กๆ ต่อเถิด เด็กๆ ก็คุ้นเคยกับอาจารย์เฮ่อแล้ว ย่อมหวังอยากให้อาจารย์เฮ่อสอนพวกเขาต่อ! ” เซียวยวี่ยิ้มพลางกล่าว สร้างทางออกอย่างมีศักดิ์ศรีให้เฮ่อหลัน
เหวินจิ้งเสวียได้ฟังดังนั้น ก็รีบกล่าวเสียงดัง “อาจารย์เฮ่อ อาจารย์เซียวกล่าวได้มีเหตุผล ท่านจะไปทั้งอย่างนี้ไม่ได้ เด็กเหล่านั้นยังรอให้ท่านไปสอนอยู่ หากท่านไปแล้ว ก็เท่ากับไม่มีความรับผิดชอบ! ”
เฮ่อหลันก้มหน้า ไม่อาจกล่าวว่าจะไปจากที่นี่ได้อีก
สองคนนี้รู้ว่าตนเองมีอุปนิสัยแข็งกร้าว ดังนั้นจึงอ้างเรื่องความรับผิดชอบเพื่อบีบให้เขาอยู่ต่อ!
เฮ่อหลันที่เห็นเซียวยวี่ขวางหูขวางตามาตลอด บัดนี้กลับรู้สึกขอบคุณเซียวยวี่เป็นอย่างยิ่ง