ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต - เล่มที่ 15 บทที่ 452 อายวี่ ข้ากลับมาแล้ว
บทที่ 452 อายวี่ ข้ากลับมาแล้ว
เซียวยวี่กลับบ้านไปอย่างรีบร้อน เตรียมจะนำอาหารไปอุ่นในหม้อ ยังกลับไม่ถึงบ้าน ก็เห็นว่ามีควันลอยขึ้นจากบ้านตัวเองแต่ไกล ดูท่าเด็กสองคนกำลังทำอาหารเย็นแล้ว
เซียวยวี่รู้สึกยินดียิ่ง รีบสาวเท้าก้าวเดินกลับบ้านอย่างรวดเร็ว
ภายในบ้านเงียบสงบมาก เซียวยวี่กลับไปยังห้องหนังสือของตัวเองก่อน วางของในมือลง ก่อนจะเดินไปทางห้องครัวพลางถกแขนเสื้อขึ้น เมื่อเดินเข้าใกล้แล้วจึงกล่าว “อาเซวียนอาเมิ่ง ตอนเย็นพวกเจ้าอุ่นอาหารตอนเที่ยงก็กินได้แล้ว หลังจากอุ่นอาหารเสร็จ อย่าลืมดับไฟในเตาไฟด้วย…”
ปกติหากเขากล่าวอะไร อาเซวียนและอาเมิ่งก็จะขานตอบทันที เหตุใดตอนนี้เขากล่าวมายาวถึงเพียงนี้ ด้านในกลับยังไม่มีเสียงแม้แต่น้อย?
เซียวยวี่รู้สึกสงสัยยิ่งนัก จึงเร่งฝีเท้าเดินเร็วขึ้น ก้าวเท้าเข้าไปในห้องครัว
ภายในห้องครัวมีไอน้ำร้อนลอยวนเวียน ควันไฟลอยขึ้น กลิ่นหอมลอยมาระลอกแล้วระลอกเล่า
พวกเขาไปไหนกัน?
“อาเซวียน อาเมิ่ง! ” เซียวยวี่ตะโกนเรียกเสียงดัง ไม่มีใครตอบเขา จึงเร่งฝีเท้าเดินไปหน้าเตาปรุงอาหาร เปิดฝาหม้อดู ก็เห็นปลาสองตัวที่ถูกทอดจนเป็นสีเหลืองทองกำลังถูกตุ๋นน้ำแดงจนเดือด นี่…
เด็กสองคนทำอาหารชนิดนี้ไม่ได้!
นอกจากนั้น กลิ่นนี้ เห็นได้ชัดว่าเป็นฝีมือของใครบางคน
“อาหลัว…” เซียวยวี่เอ่ยชื่อออกมาด้วยความตื่นเต้น ยังไม่ทันหันตัวมา ก็มีแขนคู่หนึ่งโอบตัวเขาไว้ โอบกอดเขาไว้แน่น ทั้งยังมีเสียงนุ่มนวลดังขึ้นข้างหู “อายวี่ ข้ากลับมาแล้ว! ”
เซียวยวี่สู้สึกยินดีเสียยิ่งกว่าอะไร หันขวับกลับมากอดนางไว้ หมุนวนอยู่ที่เดิมสามรอบ ก่อนจะปล่อยนางลง “เหตุใดเมื่อวานถึงไม่บอกข้าว่าเจ้าจะกลับมา! ”
“ข้าอยากทำให้เจ้าประหลาดใจนี่นา! ” เซี่ยยวี่หลัวหัวเราะร่า พร้อมทำสีหน้าได้ใจเต็มประดา
เซียวยวี่ประคองใบหน้าของเซี่ยยวี่หลัวไว้ ก้มหน้ากำลังจะจุมพิต เซี่ยยวี่หลัวกลับปิดริมฝีปากเขาไว้ ส่ายหน้าพลางยิ้มขมพร้อมกล่าว “อย่า เด็กสองคนยังอยู่! ”
ยังไม่ทันสิ้นเสียง ก็ได้ยินเสียงเด็กสองคนพุ่งพรวดออกไปพร้อมส่งเสียงหัวเราะคิกคัก วิ่งไปพลางกล่าวไปพลาง “ไม่ไม่ไม่ พวกเราไม่เห็นอะไรเลย ไม่เห็นเลย! ”
วิ่งไปไกลแล้ว!
เฮ้อ เด็กสองคนอยู่ที่บ้าน ไม่สะดวกเอาเสียเลย ไม่เหมือนตอนอยู่โรงผลิต เขาอยากทำเมื่อใดก็ทำได้!
ทั้งสองคนส่งเสียงหัวเราะพรืด คราวนี้เซียวยวี่ไม่มีความกังวลใดๆ อีก อุ้มนางขึ้นมาหมุนครึ่งรอบ ใช้ร่างกายสูงใหญ่ของเขาบดบังตัวเซี่ยยวี่หลัวไว้ ก่อนก้มหน้าจุมพิตริมฝีปากรูปงาม
เซี่ยยวี่หลัวโอบคอของเซียวยวี่ไว้ เขย่งปลายเท้า ตอบรับเซียวยวี่
ผ่านไปครู่หนึ่ง จู่ๆ เซียวยวี่ก็กล่าว “ลืมไปเรื่องหนึ่ง ท่านลุงเก๋อยังรอข้าอยู่ที่สถานศึกษา ข้าจะให้อาเซวียนอา… อือ…”
เซี่ยยวี่หลัวปิดปากเขาไว้ ก่อนกล่าวด้วยน้ำเสียงอู้อี้ “เขาเองก็รู้ ไปนานแล้ว”
ภายในห้องครัวเต็มไปด้วยไอน้ำลอยวนเวียน กลิ่นอายแห่งความสุขกระเพื่อมครั้งแล้วครั้งเล่า
คนในครอบครัวไม่ได้อยู่พร้อมหน้ากันที่บ้านนานแล้ว เซี่ยยวี่หลัวนำสุราผลไม้มาจากในตัวเมืองด้วย นางรินให้เซียวยวี่และตัวเองคนละหนึ่งถ้วย เด็กสองคนก็อยากดื่ม แต่เซี่ยยวี่หลัวไม่ให้ดื่ม เพียงชงน้ำผึ้งให้พวกเขาคนละหนึ่งถ้วยเท่านั้น
อาหารมื้อนี้ ทุกคนกินอย่างมีความสุข ดีอกดีใจเสียยิ่งกว่าอะไร
หลังอาหารเย็น ยังคงเป็นเซียวจื่อเซวียนที่ไปล้างชามในห้องครัว เซี่ยยวี่หลัวกลับห้องของตัวเอง เก็บข้าวของที่ตัวเองนำกลับมาให้เรียบร้อย
บัดนี้เซียวจื่อเมิ่งนอนกับพี่รองตลอด เมื่อพี่สะใภ้ใหญ่กลับมาแล้ว เซียวจื่อเมิ่งจึงหอบผ้านวมและหมอนของตัวเองกลับห้องของเซี่ยยวี่หลัว
เพียงแต่ ยังไม่ทันเข้าประตู ก็ถูกพี่ใหญ่ขวางไว้ด้านนอก
“เหตุใดเจ้าถึงหอบผ้านวมกับหมอนไว้? ” เซียวยวี่จงใจเอ่ยถาม
เซียวจื่อเมิ่งกล่าวเสียงหวาน “พี่ใหญ่ พี่สะใภ้ใหญ่กลับมาแล้ว ข้าจะนอนกับพี่สะใภ้ใหญ่เจ้าค่ะ! ”
เซียวยวี่ขานตอบทีหนึ่ง “ถึงแม้พี่สะใภ้ใหญ่จะกลับมาแล้ว แต่ระยะนี้นางงานยุ่งจนเหนื่อยมาก ยังดูแลเจ้าไม่ได้ เจ้านอนเองก่อน รอให้พี่สะใภ้ใหญ่ของเจ้าได้พักผ่อนสักระยะหนึ่ง เจ้าค่อยมา ได้หรือไม่? ”
เมื่อเซียวจื่อเมิ่งได้ยินว่าพี่สะใภ้ใหญ่เหนื่อยแย่แล้ว จึงพยักหน้าด้วยท่าทีจริงจัง “ได้เจ้าค่ะ ให้พี่สะใภ้ใหญ่พักผ่อน ข้าไม่รบกวนนางเจ้าค่ะ”
กล่าวจบ จึงหอบเอาหมอนใบเล็กและผ้านวมผืนเล็กกลับห้องของเซียวจื่อเซวียน
เซียวยวี่หลอกเด็กสำเร็จ เพิ่งลุกขึ้น ก็เห็นคนร่างบางที่อยู่ข้างๆ เซียวยวี่ได้แต่ส่ายหน้าพร้อมยิ้มขมด้วยความจนใจ
เหตุใดทำเรื่องไม่ดีอะไรก็มักจะโดนจับได้
เขาหันไปมองด้วยท่าทางน่าสงสาร ก็เห็นเซี่ยยวี่หลัวยืนมือกอดอก กล่าวอย่างไม่รีบร้อน “เจ้าบอกว่าข้าเหนื่อยแล้ว? ต้องพักผ่อนดีๆ สักสองวันงั้นหรือ? ”
เซียวยวี่กล่าวด้วยท่าทางเห็นใจ “ข้าทำไปเพราะเห็นใจเจ้าไม่ใช่หรือ? ”
เซี่ยยวี่หลัวพยักหน้า ขานตอบทีหนึ่ง “เช่นนั้นก็ได้ หลายวันนี้ข้าก็เหนื่อยแล้วจริงๆ เช่นนั้นข้าพักผ่อนก่อน”
เมื่อหันตัวไป เซี่ยยวี่หลัวก็ปิดประตูห้อง เซียวยวี่รีบเบียดเข้าไป แต่นางกลับดันประตูไว้ พร้อมหัวเราะออกมาเบาๆ “ข้าเหนื่อยแล้ว อยากพักผ่อนดีๆ”
“ข้ารู้ ข้าจะดูแลเจ้า! ” เซียวยวี่กล่าวอย่างรีบร้อน
เซี่ยยวี่หลัวส่ายหน้า “ไม่ต้องหรอก ตอนกลางคืนข้าไม่ต้องลุกไปห้องน้ำ และไม่ดื่มน้ำ นอนยาวจนถึงตอนฟ้าสาง! ”
กล่าวจบ ก็ปิดประตูโดยไม่คิดเกรงใจแม้แต่น้อย
เซียวยวี่รู้สึกอยากร้องไห้นัก
เมื่อครู่นี้หลอกอาเมิ่ง กลับทำให้ตัวเองโดนไปด้วย
กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นย่อมสนองจริงๆ
นับตั้งแต่ช่วงที่ผ่านมา นี่เป็นครั้งแรกที่เซียวยวี่ต้องนอนเพียงลำพังหนึ่งคืน เช้าตรู่ของวันต่อมา เซียวยวี่ยังคงตื่นแต่เช้าเหมือนเคย เริ่มจากไปเก็บผักที่สวนหลังบ้าน จากนั้นจึงไปยังห้องครัว
คนอื่นๆ ในบ้านยังไม่ตื่น เซียวยวี่ง่วนอยู่กับงานในห้องครัวเพียงคนเดียวจนร้อนราวกับมีไฟแผดเผา
ร่างกายประหนึ่งมีพลังเหลือล้นจนใช้ไม่หมด พอคิดว่าอาหลัวกลับมาแล้ว เซียวยวี่ก็มีพลังงานเต็มเปี่ยม
เมื่อจัดเตรียมอาหารเช้าเสร็จ เซียวยวี่จึงไปปลุกเด็กสองคน และไปยังห้องของเซี่ยยวี่หลัวเป็นห้องสุดท้าย
ระยะนี้เซี่ยยวี่หลัวรู้สึกเหนื่อยอย่างแท้จริง
เมื่อก่อนนอนหลับ มักจะถูกกวนจนตื่น บัดนี้ไม่ต้องถูกกวนจนตื่นอีกแล้ว จึงนอนยาวจนถึงช่วงฟ้าสาง ในที่สุดก็นอนเต็มอิ่ม
นางยังไม่ได้ลืมตา เพียงเหยียดกายบิดขี้เกียจทีหนึ่ง
จู่ๆ ก็สัมผัสได้ว่ามีคนอยู่ข้างกาย นางเพิ่งลืมตาขึ้น คนผู้นั้นก็มาถึงตรงหน้า งับริมฝีปากของนางไว้ทันที
“อายวี่…” นางกล่าวด้วยน้ำเสียงอู้อี้ คิดจะดันเซียวยวี่ออก แต่ทำอย่างไรก็ดันไม่ออก
เซียวยวี่ทำราวกับกำลังลงโทษนาง ดูดดึงเอาอากาศทั้งหมดของนางออกไป ทำให้นางหายใจติดขัด ก่อนจะปล่อยนางออก จุมพิตอย่างลึกซึ้งแปรเปลี่ยนเป็นจุมพิตเบาหวิว ริมฝีปากบางของเขา ประทับจุมพิตแผ่วเบาไปตามหน้าผาก หว่างคิ้ว จมูก และแก้มของเซี่ยยวี่หลัว “อาหลัว ตอนกลางคืนนอนกับข้าเถอะ! ”
เมื่อคืนเขานอนไม่ดีตลอดคืน!
เมื่อก่อนสามารถกอดนางนอนได้ตลอด ถึงแม้จะทำอะไรไม่ได้ แต่ได้กอดนางไว้ เขาก็รู้สึกพึงพอใจแล้ว
เซี่ยยวี่หลัวส่งเสียงเบา ไม่ได้กล่าวตอบ