ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต - เล่มที่ 15 บทที่ 456 คิดอยากสานสัมพันธ์ให้ทั้งสองคน
- Home
- ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต
- เล่มที่ 15 บทที่ 456 คิดอยากสานสัมพันธ์ให้ทั้งสองคน
บทที่ 456 คิดอยากสานสัมพันธ์ให้ทั้งสองคน
มิเช่นนั้นเหตุใดชักจูงอย่างไร ก็ยังไม่อาจอยู่ร่วมกันได้เล่า?
ท่านป้ากุ้ยก็รู้สึกตกใจเช่นกัน “บ่าว บ่าวก็… ไม่ทราบเจ้าค่ะ! ”
ฮูหยินเฒ่ากู้ลอบถอนหายใจ “ซินเยว่รูปโฉมงดงาม เป็นบุตรีผู้ดี อ่อนโยนดุจสายน้ำ ฉางชิงไม่ชอบหรือ? ”
ท่านป้ากุ้ยไม่เคยคิดเรื่องนี้มาก่อน คุณชายไม่ชอบประเภทคุณหนูหรือ?
“เช่นนั้นคุณชายจะชอบประเภทไหนเจ้าคะ? ” ท่านป้ากุ้ยถามกลับ
ฮูหยินเฒ่ากู้หัวเราะ “หากข้ารู้ ข้ายังจะถามเจ้าทำไมอีก! ”
“บางทีข้าอาจคิดมากเกินไป ซินเยว่เด็กคนนั้น หน้าตาก็ดี ยืนอยู่ข้างกายฉางชิง ก็ถือว่าเป็นคู่สร้างคู่สม เหมาะสมกันเสียยิ่งกว่าอะไร! ”
ฮูหยินเฒ่ากู้รู้ ว่าบุตรชายที่ไม่เข้าใจอะไรเลย ต้องให้นางช่วยให้มากขึ้น “อากุ้ย ตอนนี้เจ้าไปบอกคุณหนู บอกว่าพรุ่งนี้ฉางชิงจะมาหานาง! ”
“ฮูหยินเฒ่า ดึกถึงเพียงนี้ เกรงว่าคุณหนูจะนอนแล้ว พรุ่งนี้ข้าจะไปแต่เช้าเจ้าค่ะ! ” ท่านป้ากุ้ยอยากปรนนิบัติฮูหยินเฒ่าให้พักผ่อน
“ไม่ต้อง เจ้าไปเถอะ! ” ฮูหยินเฒ่ากู้มีหรือจะไม่เข้าใจกู้ซินเยว่ “วันนี้เด็กคนนั้นถูกฉางชิงทำให้อับอายอย่างใหญ่หลวง จะนอนหลับได้อย่างไร เพียงแค่ไม่อยากมาให้ข้าเห็นท่าทางที่นางเศร้าโศกเสียใจก็เท่านั้น”
“คุณหนูช่างเอาใจใส่ฮูหยินเฒ่าจริง! ”
“ล้วนแต่เป็นคนในครอบครัวเดียวกัน ข้าเองก็หวังอยากให้นางได้ครองคู่กับฉางชิง! พวกเขาล้วนแต่เป็นลูกของข้า หน้ามือหลังมือล้วนเป็นเนื้อ อยากคว้าจับไว้ให้แน่น! ”
ท่านป้ากุ้ยไปยังเรือนของกู้ซินเยว่ ยามนี้ด้านนอกมีจื่อเยียนเฝ้าอยู่เพียงคนเดียว “ท่านป้ากุ้ย”
“คุณหนูเล่า? ” ท่านป้ากุ้ยเห็นว่าภายในมืดสนิท จึงคาดว่านางน่าจะนอนหลับแล้ว
“คุณหนูหลับแล้วเจ้าค่ะ”
“ฮูหยินเฒ่าให้ข้ามาถาม ว่าเย็นนี้คุณหนูกินอะไรหรือยัง? ” ท่านป้ากุ้ยเอ่ยถามด้วยความเอ็นดู
“ยังเจ้าค่ะ” จื่อเยียนรีบส่ายหน้า “พอกลับมาคุณหนูก็เข้านอน ตอนเย็นก็ไม่ได้กินเจ้าค่ะ”
ดูท่า เรื่องของคุณชายทำให้คุณหนูรู้สึกสะเทือนใจอย่างแท้จริง
ท่านป้ากุ้ยไม่อาจทนดูดายได้ นางขยับไปข้างหูจื่อเยียนก่อนกระซิบเสียงเบาหนึ่งประโยค จื่อเยียนได้ฟังก็รู้สึกตื่นเต้นดีใจยิ่งนัก “ท่านป้ากุ้ย ท่านไม่ได้หลอกข้านะเจ้าคะ? ”
“ข้าจะหลอกเจ้าได้อย่างไร! ” ท่านป้ากุ้ยหัวเราะพร้อมกล่าว “ฮูหยินเฒ่าเกรงว่าคืนนี้คุณหนูจะไม่สบายใจ จึงให้ข้ามาบอกข่าวดีนี้กับนางโดยเฉพาะ! ”
จื่อเยียนรู้สึกตื้นตันใจยิ่งนัก บอกว่านางต้องบอกคุณหนูแน่นอน ก่อนจะส่งท่านป้ากุ้ยออกไปถึงประตูด้วยตัวเอง แล้วจึงหันขวับกลับเข้าห้องไป
ไม่นานไฟภายในห้องก็ถูกจุดสว่าง กู้ซินเยว่นั่งอยู่บนเตียง ท่าทางหมดอาลัยตายอยาก
“คุณหนู คุณหนู เมื่อครู่ท่านป้ากุ้ยมาเจ้าค่ะ ท่านรู้หรือไม่เจ้าคะว่าท่านป้ากุ้ยมาทำอะไร? ” จื่อเยียนรู้สึกตื่นเต้นดีใจ ร้อนใจอยากรีบบอกคุณหนู
กู้ซินเยว่ไม่ลืมตาด้วยซ้ำ “ทำอะไร? ”
นางไม่สนใจเรื่องนี้แม้แต่น้อย
“คุณหนู คุณชายบอกว่าเรื่องวันนี้เขาทำผิดไป จึงให้ซ่งฝูกลับมาขอขมาท่าน ทั้งยังบอกว่าพรุ่งนี้จะกลับมากินข้าวกับท่านเจ้าค่ะ! ” จื่อเยียนกล่าวด้วยความดีใจ
กู้ซินเยว่เปลี่ยนจากท่าทางหมดอาลัยตายอยากเมื่อครู่ ตื่นเต้นจนแทบจะกระโดดพรวดขึ้นจากเตียง “เจ้าว่าอะไร? เมื่อครู่นี้เจ้าว่าอะไรนะ? ”
นางจับไหล่ของจื่อเยียน ปลายเล็บจิกเข้าผิวของจื่อเยียนอย่างรุนแรง จื่อเยียนรู้สึกเจ็บ กลับไม่กล้าส่งเสียงร้อง เพียงกล่าวต่อ “คุณหนู พรุ่งนี้เที่ยงคุณชายจะกลับมากินข้าว มากินข้าวกับท่านเจ้าค่ะ! ”
จื่อเยียนจงใจเน้นย้ำประโยคสุดท้าย และแล้วก็เห็นกู้ซินเยว่ดีอกดีใจอย่างแท้จริง
“เขารู้ว่าตัวเองผิด จึงมาอยู่เป็นเพื่อนข้า จื่อเยียน เร็ว เจ้ารีบแต่งตัวให้ข้า! เร็ว ไปหยิบเสื้อที่งดงามที่สุดของข้ามา” กู้ซินเยว่ตื่นเต้นจนจะลุกขึ้นมาแต่งเนื้อแต่งตัวทันที
จื่อเยียนรีบกดนางไว้ “คุณหนู ตอนนี้ยังเป็นช่วงกลางคืน ท่านจะลุกทำไมเจ้าคะ? ตอนนี้สิ่งที่ท่านต้องทำ คือนอนหลับดีๆ นอนตลอดคืน พรุ่งนี้ถึงจะมีเรี่ยวแรง ไม่อย่างนั้นหากขอบตาดำคล้ำ จะมองคุณชายอย่างไรเจ้าคะ? ”
บัดนี้กู้ซินเยว่ตื่นเต้นดีใจราวกับเด็กคนหนึ่งก็มิปาน “เจ้าพูดถูก พูดถูก ข้าจะนอนทันที นอนทันที! ”
กู้ซินเยว่ที่เมื่อครู่นี้โวยวายไม่ยอมนอนหลับ บัดนี้นอนลงไปอย่างว่าง่าย ปล่อยให้จื่อเยียนนำผ้านวมผืนบางมาห่มให้ นางจับมือจื่อเยียนพร้อมเอ่ยถามอีกครั้งราวกับไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง “เจ้าว่าญาติผู้พี่จะมาจริงหรือไม่? ”
จื่อเยียนปลอบโยนนาง “คุณหนู ซ่งฝูมาแล้ว จะเป็นเรื่องเท็จได้หรือเจ้าคะ? ฮูหยินเฒ่ากู้ให้ท่านป้ากุ้ยมาบอกเอง คงไม่มีผิดพลาดกระมัง? คุณชายต้องรู้ว่าทำให้คุณหนูตกใจเป็นแน่ พรุ่งนี้จึงมาขอขมาเจ้าค่ะ! ”
กู้ซินเยว่รู้สึกยินดียิ่ง ใบหน้าขึ้นสีแดงดุจลูกท้อทันที
และเซียนจวีโหลวในยามนี้ ก็มีงานยุ่งจนถึงช่วงดึก ส่งลูกค้ากลุ่มสุดท้ายเสร็จ ซ่งฉางชิงจึงนวดไหล่และคอที่ปวดเมื่อย เพิ่งถึงห้องพัก ซ่งฝูก็ตามเข้ามา ยืนอยู่ตรงหน้าโต๊ะหนังสือ มองดูซ่งฉางชิง ท่าทางอ้ำอึ้ง เหมือนมีอะไรจะกล่าว
ซ่งฉางชิงมองเพียงแวบเดียว ก่อนกล่าว “มีอะไร? ”
ซ่งฝูกัดริมฝีปาก สุดท้ายเหมือนจะตัดสินใจเด็ดขาด ก่อนกล่าว “ฮูหยินเฒ่าเชิญท่านกลับบ้านไปกินข้าวเที่ยงพรุ่งนี้ นางไม่สบายขอรับ! ”
“ไม่สบายจริงหรือเท็จ? ”
ซ่งฝูไม่ได้กล่าวอะไร
ซ่งฉางชิงจึงเอ่ยถามต่อ “นางเป็นอะไรอีก? ”
ซ่งฝูยังคงไม่กล่าวอะไรเช่นเดิม
จู่ๆ ซ่งฉางชิงก็นึกอะไรบางอย่างออก “นางเป็นคนเรียกเจ้าไป? ”
ซ่งฝูพยักหน้า “ขอรับ! ”
“เรียกเจ้าไปทำไม? ”
“คุณชาย! ” ซ่งฝูแทบจะคุกเข่าให้เขา “วันนี้ท่านทำให้คุณหนูตกใจแทบตาย นางร่ำไห้กลับบ้าน พอกลับถึงบ้าน ไม่กินข้าวเย็น ก็เข้านอนแล้ว ฮูหยินเฒ่าเป็นห่วงคุณหนู จึงเรียกข้าน้อยไปไต่ถาม ว่าคุณชายเจอเรื่องอะไรที่ทำให้ไม่พอใจใช่หรือไม่ ถึงได้พาลโมโหคุณหนูไปด้วย”
ซ่งฉางชิงขมวดคิ้วมุ่น “เจ้าตอบอย่างไร? ”
“ข้าบอกว่าท่านไม่ได้ไม่พอใจอะไร ท่านเบิกบานใจมากขอรับ ตอนฮูหยินเซียวมา ท่านยังสนทนากับนางอย่างมีความสุขอยู่นาน ทั้งยังส่งนางลงไปชั้นล่าง! ” ซ่งฝูกล่าวตามจริง กลับเห็นว่าสีหน้าของคุณชายเปลี่ยนไปทันที
“เจ้าบอกว่าข้ามีความสุขมาก? ” ซ่งฉางชิงขมวดคิ้วพร้อมถามเขา
ซ่งฝูอ้ำๆ อึ้งๆ “ใช่… ขอรับ? ” ใช่หรือไม่ใช่? เขาเพียงแค่กล่าวตามจริงเท่านั้น
“เจ้าพูดเรื่องอื่นอีกหรือไม่? ”
“พูดขอรับ ข้าบอกว่าที่คุณชายโมโห เป็นเพราะคุณหนูรบกวนท่านคิดบัญชี ท่านไม่ได้ด่าฮูหยินเซียว เป็นเพราะฮูหยินเซียวรอจนท่านคิดบัญชีเสร็จจึงเข้าไปขอรับ! ” ซ่งฝูบอกเล่าออกมาทั้งหมดในคราเดียว เพียงเห็นสีหน้าของคุณชายดูดีขึ้นมาก “คุณชาย ข้า… ข้าพูดไปเช่นนี้ขอรับ! ”
“ไปได้แล้ว” ซ่งฉางชิงโบกมือ
“เช่นนั้นพรุ่งนี้ทางฮูหยินเฒ่า…”
“ข้าจะไป” มารดาของตนเองอ้างเรื่องสุขภาพร่างกายให้เขากลับไป ซ่งฉางชิงจะไม่กลับได้อย่างไร!
ซ่งฝูผ่อนลมหายใจยาวด้วยความโล่งอก
ระยะนี้คุณชายช่าง…
ให้ความรู้สึกที่บอกไม่ถูก บางครั้งดูสงบไร้คลื่นลม แต่ไม่แน่ว่าเสี้ยววินาทีต่อไปอาจกลายเป็นพายุคลั่งฝนกระหน่ำ จนตั้งรับไม่ทัน!