ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต - เล่มที่ 15 บทที่ 463 ความรักชายหญิงสำคัญ หรือเกียรติยศสำคัญกว่า
- Home
- ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต
- เล่มที่ 15 บทที่ 463 ความรักชายหญิงสำคัญ หรือเกียรติยศสำคัญกว่า
บทที่ 463 ความรักชายหญิงสำคัญ หรือเกียรติยศสำคัญกว่า
“คุณหนูกู้คิดมากเกินไปแล้ว ตอนนี้ข้าใช้ชีวิตอย่างมีความสุขเป็นอย่างมาก ข้ามีสามีที่รักและเอ็นดูข้า มีน้องชายน้องสาวที่ว่าง่ายรู้ความ ทุกคนล้วนกำลังพยายามก้าวเดินสู่ชีวิตที่ดียิ่งขึ้น ตอนนี้พวกเรายากจนไปบ้างก็จริง แต่พวกเราพยายามอยู่ตลอดเวลา วันนี้ยากจน ไม่ได้หมายความว่าพรุ่งนี้จะยากจนเช่นกัน! ” เซี่ยยวี่หลัวกล่าวด้วยท่าทีจริงจัง
กู้ซินเยว่เห็นว่าเซี่ยยวี่หลัวโมโหแล้ว จึงรีบกล่าวด้วยท่าทางน่าสงสาร “ฮูหยินเซียว ข้าไม่ได้มีความหมายเป็นอื่น…”
“พอแล้ว! ” จู่ๆ ซ่งฉางชิงที่อยู่ด้านหลังก็ส่งเสียงอย่างเย็นชา ขัดขวางไม่ให้กู้ซินเยว่กล่าวต่อ
เดิมทีกู้ซินเยว่ยังคิดจะกล่าวอะไรอีก แต่เมื่อเห็นสีหน้าบึ้งตึงของญาติผู้พี่ นางก็กล่าวอะไรไม่ออก
เซี่ยยวี่หลัวไม่อยากเดินเที่ยวกับพวกเขาต่อ
ฮูหยินเฒ่ากู้และซ่งฉางชิงถือว่าดี เพียงแต่กู้ซินเยว่ผู้นี้…
ในเมื่อความคิดต่างกันก็ไม่อาจคบกันได้
เซี่ยยวี่หลัวเหลียวซ้ายแลขวา เดินถึงตรอกเล็กที่จะกลับบ้านตัวเองแล้ว จึงคิดจะไปเองก่อน “ฮูหยินเฒ่ากู้ ท่านซ่ง บ้านข้าอยู่ในละแวกนี้ ทุกท่านเที่ยวต่อเถิด ข้ากลับก่อน! ”
ฮูหยินเฒ่ากู้รู้สึกผิดต่อเซี่ยยวี่หลัว “ฮูหยินเซียว ไม่ไปต่ออีกหน่อยหรือ? ”
“ดึกมากแล้ว หากมีเวลาว่าง ครั้งหน้าจะไปอยู่คุยเป็นเพื่อนฮูหยินเฒ่าเจ้าค่ะ! ” เซี่ยยวี่หลัวย่อตัวคำนับอย่างมีมารยาท ก่อนเดินเข้าไปในตรอกเล็ก
กู้ซินเยว่เพ่งมองเงาร่างของเซี่ยยวี่หลัวที่เดินหายเข้าไปในเงามืดของตรอกด้วยความไม่พอใจ ภายในใจรู้สึกกระวนกระวายเป็นอย่างมาก “ท่านป้า เมื่อครู่นี้ข้าเพียง…”
เวลานี้เอง ซ่งฉางชิงสาวเท้าก้าวใหญ่เดินไปข้างหน้า ไม่มองกู้ซินเยว่แม้แต่น้อย
ฮูหยินเฒ่ากู้ก็ถอนหายใจทีหนึ่ง ก่อนส่ายหน้า
ท่าทีเย็นชาของทั้งสองคน ทำให้กู้ซินเยว่ตกอยู่ในอาการว้าวุ่น คิดอยากคว้าจับใครไว้สักคน แต่ก็ไปกันหมดแล้ว นางรั้งไว้ไม่ได้แม้แต่คนเดียว
เมื่อกลับถึงเรือนตระกูลซ่ง กู้ซินเยว่ยังคงครุ่นคิดเรื่องก่อนหน้านั้น คิดวนเวียนไปมาจนนอนไม่หลับ
เวลานี้เอง ท่านป้ากุ้ยมาหา ราวกับรู้ว่ากู้ซินเยว่จะนอนไม่หลับอย่างไรอย่างนั้น
“คุณหนู ฮูหยินเฒ่าให้บ่าวมาบอกท่าน ว่าคืนนี้ท่านผิดตรงไหนเจ้าค่ะ! ” ท่านป้ากุ้ยบอกต่อวาจาของฮูหยินเฒ่ากู้
มือของกู้ซินเยว่ที่จับผ้าปูที่นอนไว้กำแน่นขึ้นเล็กน้อย ผ้าปูที่นอนอ่อนนุ่มถูกนางบิดจนเปลี่ยนรูป
ค่ำคืนหนาวเย็นดุจน้ำเย็น หลังจากเข้าสู่เดือนแปด อากาศในยามค่ำคืนก็หนาวเย็นขึ้นเรื่อยๆ
ภายในห้องเหลือกู้ซินเยว่เพียงคนเดียว คำว่ากล่าวสั่งสอนของท่านป้ากุ้ยเมื่อครู่นี้ กู้ซินเยว่จดจำไว้ในใจทุกถ้อยคำ
ค่ำคืนนี้ ท่านป้าบอกว่านางกล่าววาจาผิด อาจทำให้ฮูหยินเซียวเสียใจ
นางกล่าวผิดที่ไหนกัน?
ทั้งที่เซี่ยยวี่หลัวสามารถแต่งกับคนที่ดีกว่านี้ได้มิใช่หรือ นางกล่าวผิดตรงไหน!
กู้ซินเยว่โมโหถึงขีดสุด จึงปาหมอนที่วางอยู่บนเตียงออกไป จื่อเยียนเข้ามาพอดี หมอนจึงร่วงลงไปในอ่างไม้ที่นางยกเข้ามา
ปุยฝ้ายดูดน้ำ ผ่านไปเพียงครู่เดียว หมอนก็เปียกชุ่ม ใช้ไม่ได้แล้ว
“คุณหนู ท่านเป็นอะไรไปเจ้าคะ? ” จื่อเยียนเอ่ยถามด้วยความตื่นตกใจ
ตั้งแต่กลับมาจากข้างนอก ฮูหยินเฒ่ากู้ก็ไม่ได้กล่าวอะไรกับคุณหนูแม้แต่ประโยคเดียว นางรู้ว่าคุณหนูต้องเศร้าเสียใจเป็นแน่ แต่นางคิดไม่ถึงว่าคุณหนูจะโมโหจนขว้างปาข้าวของ!
“ยายแก่นั่นบอกว่าข้าพูดผิด! ” กู้ซินเยว่โมโหถึงขีดสุด “นางตำหนิว่าข้าพูดผิด สตรีที่แต่งงานแล้ว ข้าเพียงแค่พูดไปตามเรื่องตามราว นางกลับไม่สนใจข้าอีกเลย”
จื่อเยียนฟังไม่เข้าใจ “คุณหนูพูดผิดอย่างไรเจ้าคะ? ”
กู้ซินเยว่หัวเราะอย่างเย็นเยียบ “ข้าจะไปรู้ได้อย่างไร! ข้าเพียงกล่าวว่าเหตุใดนางถึงไม่แต่งกับคนดีๆ ด้วยความหวังดี แต่ยายแก่นั่นกลับหาว่าข้าพูดผิด หากเป็นคนอื่น ข้าคงไม่ถามหรอก! ”
“คุณหนู ท่านไม่ได้พูดผิดนี่เจ้าคะ! ด้วยเงื่อนไขของฮูหยินเซียว สามารถหาคนที่ดีกว่าได้จริงๆ! บางทีฮูหยินเฒ่าอาจรู้สึกว่าท่านถามต่อหน้า ดูเป็นการเสียมารยาทก็เป็นได้เจ้าค่ะ”
“ใช่ นางสามารถแต่งกับคนที่ดีกว่านี้ได้ เหตุใดถึงออกเรือนง่ายดายเพียงนี้” กู้ซินเยว่กล่าววาจาถากถาง “นั่นเป็นเครื่องพิสูจน์ว่านางเป็นคนไม่มีหัวคิด! ไม่รู้จักวางแผนเพื่ออนาคตของตัวเอง ได้คู่ครองเช่นนี้ ก็ถือว่าสมควรแล้ว! ”
จื่อเยียนพยักหน้าอย่างเห็นพ้อง “เจ้าค่ะ สมควรแล้ว”
“รูปลักษณ์หน้าตาก็ถือว่าหล่อเหลาดูดี แต่แค่เพียงหน้าตาดีสามารถกินแทนข้าวได้หรือ? เล่าเรียนมานานหลายปี ถึงตอนนี้ยังเป็นเพียงบัณฑิตไร้คุณวุฒิ แต่เซี่ยยวี่หลัวกลับดีอกดีใจ ฮึ…” กู้ซินเยว่กล่าวอย่างเย้ยหยัน “คนเช่นนั้น ไม่คู่ควรจะถือรองเท้าให้ญาติผู้พี่ด้วยซ้ำ เซี่ยยวี่หลัวก็เป็นเพียงคนโง่เขลาเบาปัญญา ไม่รู้จักใช้รูปโฉมอันงดงามของตัวเองหาคู่ครองที่ดี! ”
ขณะที่สองคนนี้กำลังว่ากล่าวเซี่ยยวี่หลัว ทางด้านฮูหยินเฒ่ากู้กลับกำลังครุ่นคิดเรื่องวาจาของกู้ซินเยว่ในวันนี้
นางกล่าวเช่นนั้นเพราะรู้สึกสงสารที่เซี่ยยวี่หลัวต้องลำบาก หรือว่า…
มีความคิดเป็นอื่น?
“อากุ้ย เจ้าว่าวาจาของซินเยว่ในคืนนี้ หมายความว่าอย่างไรกันแน่? ”
ท่านป้ากุ้ยเองก็ไม่เข้าใจ “บ่าว… บ่าวก็ไม่เข้าใจความหมายของคุณหนูเจ้าค่ะ! ”
“หรือว่าในสายตานาง ความรักระหว่างสองคน ไม่สำคัญเท่าเกียรติยศและความร่ำรวย? ” ถึงอย่างไรฮูหยินเฒ่ากู้ก็เป็นคนชาญฉลาด จึงจับประเด็นสำคัญได้ทันที “หรือว่าสิ่งที่นางให้ความสำคัญมากที่สุดคือเกียรติยศและความร่ำรวย”
ท่านป้ากุ้ยไม่ได้กล่าวอะไร วาจาสองประโยคที่กู้ซินเยว่กล่าวในคืนนี้ นางรู้สึกว่าน่าคิดเป็นอย่างมาก
หากไม่ใช่คนที่มีความคิดว่าต้องแต่งกับคนดีๆ ให้ได้ ไม่มีทางกล่าววาจาเช่นสองประโยคนั้นออกมาแน่
แต่กู้ซินเยว่กลับกล่าวออกมา ทั้งยังกล่าวอย่างเห็นว่าเป็นเรื่องธรรมดาอีก แม้แต่เมื่อครู่นี้ตอนนางไปบอกต่อวาจาของฮูหยินเฒ่ากู้ นางก็ไม่เห็นสีหน้าสำนึกผิดจากใบหน้ากู้ซินเยว่แต่อย่างใด มีเพียงความรู้สึกไม่พอใจและน้อยอกน้อยใจที่ถูกตำหนิเท่านั้น
นี่เป็นครั้งแรกที่ฮูหยินเฒ่ากู้รู้สึกว่าไม่ค่อยเข้าใจหลานสาวคนนี้
“นางติดตามอยู่ข้างกายข้ามาหนึ่งปีกว่าแล้ว ข้านึกว่าตัวเองเข้าใจนางอย่างถ่องแท้มาโดยตลอด แต่เรื่องในคืนนี้…” ฮูหยินเฒ่ากู้รู้สึกไม่ค่อยเข้าใจนัก
ท่านป้ากุ้ยก็ไม่เข้าใจคุณหนูผู้นี้อย่างถ่องแท้เช่นเดียวกัน
เมื่อเวลาผ่านไปนาน ในจังหวะที่ท่านป้ากุ้ยนึกว่าฮูหยินเฒ่านอนหลับไปแล้ว นางก็ได้ยินเสียงหนึ่งดังขึ้น “อากุ้ย ถึงวันเกิดของข้า เชิญบุตรีตระกูลใหญ่ที่ยังไม่มีคู่หมายมาจำนวนหนึ่งด้วย! ”
ท่านป้ากุ้ยไม่ได้ถามอะไร เพียงขานตอบเสียงเบาว่าได้เจ้าค่ะ
ดูท่าฮูหยินเฒ่ามีความคิดต่างจากเดิมแล้ว
เซี่ยยวี่หลัวไม่ได้พกกุญแจติดตัว จึงยืนรอพวกเซียวยวี่อยู่หน้าประตู
ภายในตรอกเล็กที่เงียบสงัดและเปลี่ยวร้าง มีเพียงดวงจันทร์บนท้องฟ้าที่ฉายแสงสว่างไสว ส่องแสงจนเงาร่างอรชรที่นั่งเป็นบางครั้ง ลุกขึ้นมาเดินสองก้าวเป็นบางคราเกิดเงาทอดยาวบ้างสั้นบ้าง
ซ่งฉางชิงที่เดินกลับมาจากเซียนจวีโหลว เห็นเซี่ยยวี่หลัวรอคอยด้วยท่าทางเบื่อหน่าย
นางบอกว่าจะกลับไปคนเดียว ซ่งฉางชิงไม่วางใจ จึงอ้างว่าจะกลับเซียนจวีโหลวก่อน จากนั้นจึงย้อนกลับมายังตรอกเส้นนี้
เดิมทีเขาคิดว่า หากนางเข้าไปแล้ว เขาก็จะไปทันที ที่ไหนได้ นางยังคงรออยู่ข้างนอก
เด็กโง่คนนี้ เกรงว่าคงไม่ได้พกกุญแจกระมัง!