ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต - เล่มที่ 15 บทที่ 465 อาจารย์ล้างมือทำน้ำแกง
- Home
- ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต
- เล่มที่ 15 บทที่ 465 อาจารย์ล้างมือทำน้ำแกง
บทที่ 465 อาจารย์ล้างมือทำน้ำแกง
“ในแต่ละวันเจ้าต้องเรียนมากมายถึงเพียงนี้ ต้องใช้ทั้งสมองและกำลังกาย หากตอนเที่ยงเจ้าไม่กินให้อิ่ม ตอนบ่ายจะมีสมาธิเรียนหนังสือได้อย่างไร? เช่นนั้นไม่เท่ากับมาเสียเที่ยวหรือ? ”
เก๋อเหลียงหยวนพบว่า ระยะนี้ช่วงบ่ายรู้สึกหิวง่ายจริง เมื่อรู้สึกหิวตอนเรียนก็ไม่มีสมาธิ
เมื่อไม่อาจขัดขืนอาจารย์หญิงได้ เก๋อเหลียงหยวนจึงได้แต่ตามอาจารย์หญิงกลับบ้าน
เซียวยวี่มองดูเก๋อเหลียงหยวน เมื่อเห็นรูปร่างซูบผอมของเขา จึงหวนคิดถึงวาจาที่เซี่ยยวี่หลัวกล่าวกับเขาเมื่อครู่ เด็กตัวโตถึงเพียงนี้ ตอนเที่ยงกลับกินหมั่นโถวเพียงลูกเดียว เซียวยวี่จึงรู้สึกสงสารขึ้นมา
เขาก็เคยกินเพียงหมั่นโถวติดต่อกันนานหลายวัน
ถึงแม้หมั่นโถวจะทำให้อิ่มท้อง แต่กลับไม่มีสารอาหารแม้แต่น้อย หากรู้สึกหิว ก็จะทรมานไปทั้งตัว
เซียวยวี่รู้ว่าตัวเองเคยเผชิญกับอะไรมาก่อน จึงรู้สึกสงสารเก๋อเหลียงหยวนโดยปริยาย
กลับถึงบ้าน เก๋อเหลียงหยวนเห็นข้าวหุงชามโตที่อยู่ตรงหน้าตัวเอง รวมถึงหมูตุ๋นน้ำแดงและปลาตุ๋นน้ำแดงอีกหลายชิ้นที่อาจารย์คีบให้ เก๋อเหลียงหยวนรู้สึกขอบตาร้อนผ่าว เขารีบหันหลังไปเช็ดคราบน้ำตา ก่อนเริ่มกินคำโต
ในช่วงแรกเก๋อเหลียงหยวนยังเกร็งอยู่บ้าง ในภายหลังคุ้นเคยแล้ว จึงไม่เกร็งอีก
หลังกินข้าวเสร็จ รู้ว่าเซียวจื่อเซวียนเป็นคนล้างชาม เขาจึงอาสาไปล้างชามเอง
ส่วนเซียวจื่อเซวียนรับหน้าที่เป็นลูกมือ
เด็กผู้ชายสองคนง่วนอยู่กับงานในห้องครัว เก๋อเหลียงหยวนกล่าวขึ้น “จื่อเซวียน อาจารย์หญิงช่างดีเหลือเกิน! ”
“แน่นอนอยู่แล้ว ใต้หล้านี้ไม่มีผู้ใดดีกว่าพี่สะใภ้ใหญ่ของข้าอีกแล้ว รอให้ข้าเติบใหญ่ ข้าจะกตัญญูและรักพี่สะใภ้ใหญ่เสมือนเป็นมารดาของข้า ให้นางอยู่อย่างเบิกบานใจและมีความสุข! ”
เก๋อเหลียงหยวนรู้สึกเห็นพ้องเป็นอย่างยิ่ง
บุญคุณของเซี่ยยวี่หลัวและเซียวยวี่ เก๋อเหลียงหยวนจะจดจำไปชั่วชีวิต
ไม่ใช่แค่อาหารแต่ละมื้อ แต่เป็นความเปลี่ยนแปลงทั้งชีวิต
เมื่อเก๋อวั่งมารับรับเก๋อเหลียงหยวนในตอนเย็น เก๋อเหลียงหยวนจึงบอกเล่าเรื่องที่ตอนเที่ยงกินหมูตุ๋นน้ำแดงและปลาตุ๋นน้ำแดงที่บ้านอาจารย์ให้เขาฟัง
ยามมาอีกครั้งในวันต่อมา เก๋อวั่งนำเนื้อหมูมาด้วยสองจิน เซี่ยยวี่หลัวเห็นแล้วก็รู้สึกปวดหัวนัก
“ท่านลุงเก๋อ นี่ท่านทำอะไร? ”
“เมื่อวาน เหลียงหยวนบอกข้าว่า ท่านพาเขากลับไปกินหมูตุ๋นน้ำแดง เนื้อหมูนี่…” เก๋อวั่งพูดไม่ค่อยเก่ง แต่เขารู้ถึงหลักเหตุผลที่ว่าจะรับของของผู้อื่น หรือกินของของผู้อื่นโดยง่ายไม่ได้
เซี่ยยวี่หลัวดันกลับไป “เหลียงหยวนเป็นเด็กรู้ความ ให้เขากินเนื้อหมูมื้อหนึ่งจะเป็นอะไรไป? ตอนนี้เขาอยู่ในวัยกำลังโต กินแต่หมั่นโถว ถึงเวลาจะไม่ดีต่อสุขภาพ! ”
เก๋อวั่งย่อมรู้ดี เพียงแต่เขาไม่มีเวลาดูแลเด็กคนนี้!
“มารดาของเขาด่วนจากไป ข้าเองก็ต้องทำงานหาเงินเลี้ยงดูครอบครัว ในบางครั้ง จึงได้แต่ต้องให้เด็กทนลำบาก! ” เมื่อเก๋อวั่งกล่าวถึงเก๋อเหลียงหยวน ก็รู้สึกปวดใจขึ้นมา
เซี่ยยวี่หลัวตกใจ “มารดาของเหลียงหยวน…”
“ห้าถึงหกปีก่อนล้มป่วยอย่างหนัก รักษาจนเงินที่เก็บสะสมไว้ในบ้านหมดแล้ว ก็ยังไม่อาจช่วยไว้ได้ เมื่อสองปีก่อนจึงจากโลกนี้ไป ข้าเป็นคนหยาบกระด้าง ทั้งยังไม่รู้ว่าควรดูแลเด็กอย่างไร ทว่าเด็กคนนี้เป็นเด็กว่าง่ายรู้ความ ไม่เคยเลือกกิน! ” เก๋อวั่งเพียงอยากหาเงินเพิ่มขึ้น เก็บเงินให้มากขึ้น ต่อไปลูกเติบใหญ่แล้ว ก็ต้องใช้เงินไม่น้อย!
ตัวเขาเองก็ไม่รู้ว่ายังสามารถหาเงินได้อีกกี่ปี!
เซี่ยยวี่หลัวคิดครู่หนึ่ง ก่อนกล่าว “ท่านลุงเก๋อ นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ตอนเที่ยงให้เหลียงหยวนมากินข้าวที่บ้านข้ามื้อหนึ่งก็แล้วกัน”
“ไม่ได้ ไม่ได้! ” เก๋อวั่งรีบโบกมือ “เหลียงหยวน เด็กคนนั้นแค่ได้เรียนหนังสือก็รบกวนอาจารย์เซียวแล้ว จะรบกวนฮูหยินอีกได้อย่างไร! ”
เรื่องที่ครั้งก่อนเซียวยวี่ปฏิเสธเด็กสิบกว่าคนที่มาจากสถานศึกษาในตัวเมือง เก๋อวั่งก็รู้แล้ว อดไม่ได้ที่จะรู้สึกขอบคุณเซียวยวี่ รู้สึกว่าเขาช่างเป็นคนดีนัก
หากไม่ใช่เพราะอาจารย์เซียวรับเหลียงหยวนไว้เป็นกรณีพิเศษ เกรงว่าตอนนี้เหลียงหยวนคงได้แต่เลี้ยงวัวอยู่ในนา ไม่ใช่แค่ตอนนี้ เกรงว่าอาจต้องเลี้ยงวัวไปตลอดชีวิตก็เป็นได้
ชั่วชีวิตนี้คงต้องเป็นเช่นเขา ทำงานใช้แรงกาย ไม่มีความเป็นไปได้อื่นอีก
เก๋อวั่งรู้สึกขอบคุณสองสามีภรรยาเป็นอย่างยิ่ง
เซี่ยยวี่หลัวโบกมือ “ท่านลุงเก๋อ หากท่านยังจะให้เหลียงหยวนเรียนที่นี่ต่อ ท่านก็ตอบตกลงเถิด อย่างไรเสียข้าก็ต้องทำอาหารทุกวันอยู่แล้ว แค่เพิ่มตะเกียบอีกคู่หนึ่งก็เท่านั้น”
“แต่ว่า…” จะเป็นการรบกวนมากเกินไป!
เซี่ยยวี่หลัวเห็นว่าเขายังจะปฏิเสธอีก จึงรีบกล่าว “ตกลงตามนี้ ท่านลุงเก๋อ นี่ก็สายแล้ว ท่านรีบไปรับงานในตัวเมืองเถิด! ”
เก๋อวั่งจากไปด้วยความรู้สึกขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง ตอนหันตัวไป เก๋อวั่งเช็ดใบหน้าทีหนึ่ง หยาดน้ำตาร้อนผ่าวพลันไหลริน
ความหวังดีที่อาจารย์เซียวและฮูหยินเซียวมีต่อเหลียงหยวน เขาจะจดจำไว้ในใจไปชั่วชีวิต และจะให้เหลียงหยวนจดจำไปชั่วชีวิตเช่นกัน
เลิกเรียนตอนเที่ยง เก๋อเหลียงหยวนทำความสะอาดเสร็จ กำลังจะไปแอบในลาน กลับถูกเซียวจื่อเซวียนขวางเอาไว้ “ไป พวกเรากลับบ้าน! ”
ตอนเช้าก่อนออกมา พี่สะใภ้ใหญ่กำชับเซียวจื่อเซวียนไว้ หลังเลิกเรียนให้พาเก๋อเหลียงหยวนกลับไปกินข้าวเที่ยง เซียวจื่อเซวียนย่อมจับตัวเขาไว้ทันที เพื่อพากลับบ้าน
เมื่อวานเก๋อเหลียงหยวนเคยกินข้าวหนึ่งมื้อแล้ว วันนี้จะไปกินอีกได้อย่างไร จึงรีบส่ายหน้าพร้อมกล่าวว่าไม่ไป “ข้าไม่ไป”
“เหตุใดถึงไม่ไป? รังเกียจที่อาหารที่พี่สะใภ้ใหญ่ของข้าทำหรือ? อาหารเหล่านั้นไม่อร่อยหรือ? ” เซียวจื่อเซวียนเอ่ยถามด้วยสีหน้าบึ้งตึง
“ไม่ใช่ไม่ใช่! ” พอเก๋อเหลียงหยวนได้ฟังดังนั้น ก็รีบโบกมือพร้อมกล่าว “ข้าไม่ได้หมายความอย่างนั้น อาหารที่อาจารย์หญิงทำอร่อยเสียยิ่งกว่าอะไร อร่อยยิ่งนัก! ”
“อร่อยแล้วเหตุใดถึงไม่ไปกิน? หรือข้าจะเชิญเจ้าไม่ได้ ต้องให้พี่ใหญ่และพี่สะใภ้ใหญ่มาเชิญเจ้ากระมัง? ” เซียวจื่อเซวียนจงใจพูดยุยงเขา และแล้วก็เห็นเก๋อเหลียงหยวนอายจนหน้าแดง “ไม่ใช่ ข้าไม่ได้หมายความอย่างนั้น! ”
เขาเพียงแค่เกรงใจจึงไม่อยากไปเท่านั้น
“ไม่ใช่ก็ดี ไป ไปกับข้า! ” เซียวจื่อเซวียนไม่ปล่อยให้เขากล่าวอะไรอีก ดึงเก๋อเหลียงหยวนไปทันที
เก๋อเหลียงหยวนจะไปก็ไม่ดี ไม่ไปก็ไม่ดี ทั้งยังไม่รู้ว่าควรอธิบายเช่นไร ได้แต่กลับบ้านไปพร้อมเซียวจื่อเซวียน
เซียวยวี่และเซียวจื่อเมิ่งกลับมาก่อนแล้ว เซียวยวี่อยากกลับไปทำอาหารให้อาหลัวกิน
เซี่ยยวี่หลัวยกอาหารออกมา เห็นเซียวจื่อเซวียนและเก๋อเหลียงหยวนที่เพิ่งเข้ามา “กลับมาแล้วหรือ? รีบล้างมือมากินข้าวได้แล้ว! ”
ประหนึ่งว่าพวกเขาเห็นเก๋อเหลียงหยวนเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวไปแล้ว
เซียวจื่อเซวียนพาเก๋อเหลียงหยวนไปยังสถานที่ล้างมือในลานบ้าน “ต่อไปต้องจำไว้ กลับถึงบ้านต้องล้างมือ พี่สะใภ้ใหญ่เป็นคนรักสะอาด เรื่องแรกที่ต้องทำหลังกลับถึงบ้านคือให้พวกเราล้างมือ หากไม่ล้างมือจะเข้าบ้านไม่ได้ ทั้งยังจะถูกพี่สะใภ้ใหญ่ด่าด้วย! ”
เซียวจื่อเซวียนบอกเล่าอุปนิสัยของเซี่ยยวี่หลัวให้เก๋อเหลียงหยวนฟัง
เก๋อเหลียงหยวนถูมือไปพลาง ทำหูผึ่งตั้งใจฟังไปพลาง
นอกจากจะฟังแล้ว เขาก็ตั้งใจล้างมือด้วย
ถูปลายนิ้วมือทุกนิ้ว แม้แต่ในซอกเล็บก็ถู คิดอยากจะถูกให้สะอาดหมดจด ไม่มีคราบเปื้อนแม้แต่น้อย
เมื่อทางนี้ล้างมือเสร็จแล้ว เก๋อเหลียงหยวนเพิ่งมาถึงหน้าห้องโถง ก็เห็นคนผู้หนึ่งเดินออกมาจากห้องครัว สวมใส่ผ้ากันเปื้อนไว้ แต่งตัวเหมือนหญิงชาวบ้านที่กำลังทำอาหาร
ตอนแรกที่เก๋อเหลียงหยวนเห็นเสื้อผ้า นึกว่าเป็นอาจารย์หญิง ที่ไหนได้ เมื่อได้ยินเสียง กลับเป็น… เสียงของอาจารย์?
“กลับมาแล้วหรือ อาหารเสร็จแล้ว รีบเข้ามากินข้าวเร็ว! ” เซียวยวี่กล่าว
เก๋อเหลียงหยวนมองแผ่นหลังของเซียวยวี่ด้วยอาการตกตะลึงเล็กน้อย
อาจารย์ที่มีท่าทีขึงขังยามสอนหนังสือในคาบเรียน ดูสูงส่งหยิ่งทะนง มีความรู้กว้างขวาง ความสามารถล้นเหลือ เมื่ออยู่ที่บ้าน กลับต้องล้างมือทำน้ำแกงงั้นหรือ?