ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต - เล่มที่ 15 บทที่ 468 สอนซ่งฝูคิดเงิน
บทที่ 468 สอนซ่งฝูคิดเงิน
เมื่อก่อนพอจะทำได้ เพราะมีคุณชายอยู่ข้างกาย ต่อให้เขาคำนวณผิด คุณชายก็จะคำนวณซ้ำอีกครั้ง แต่ตอนนี้ฮูหยินเฒ่าเกิดเรื่องใหญ่ถึงเพียงนี้ คุณชายจึงไม่มีแก่ใจจะดูแลกิจการอีก เมื่อไม่มีคุณชายอยู่ข้างกาย ซ่งฝูจึงไม่กล้าเลยแม้แต่น้อย
เมื่อไม่กล้าจึงเกิดความกลัว ทว่ายิ่งกลัวก็ยิ่งไม่กล้า ทางฮูหยินเฒ่ายังไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนถึงจะหายดี หรือต้องทนดูเซียนจวีโหลวพังพินาศในมือของเขาเช่นนั้นหรือ
ซ่งฝูกัดริมฝีปาก สงบจิตใจครู่หนึ่ง ก่อนจะเริ่มคำนวณใหม่อีกครั้ง
เขาไม่เชื่อ ว่าคุณชายทำได้ แล้วเขาจะทำไม่ได้ เขาเรียนรู้มานานหลายปี ถึงแม้สติปัญญาจะไม่ถึงกึ่งหนึ่งของคุณชาย แต่เขาเชื่อว่า ขอเพียงเขาเรียนรู้ จะต้องทำเป็นแน่นอน!
“ท่านซ่งน้อย ตรงนี้ไม่ได้คำนวณเช่นนี้ ท่านดู ท่านต้องคำนวณตัวเลขทั้งหมดรวมกันก่อน แล้วค่อยหักลบค่าใช้จ่ายแต่ละส่วนและค่าแรงของลูกจ้าง นี่ถึงจะเป็นกำไรสุทธิ! ”
ซ่งฝูหันกลับมา มองอยู่ครู่ใหญ่ รู้สึกว่าคุณชายรูปงามตรงหน้าดูคุ้นหน้าเล็กน้อย คล้ายกับเคยพบที่ไหนมาก่อน
แต่เป็นที่ไหนเล่า?
เขาดีดลูกคิดมามาก ห้วงความคิดก็เหมือนลูกคิดแต่ละลูก เป็นเม็ดกลมๆ เคลื่อนขึ้นๆ ลงๆ ส่วนเรื่องอื่นๆ ซ่งฝูคิดอะไรไม่ออกอีก
“ไม่ทราบว่าคุณชายคือ…”
“ท่านซ่งน้อย ข้าคือเซี่ยยวี่หลัวอย่างไรเล่า! ”
“ฮูหยิน… ฮูหยินเซียว? เหตุใดท่านถึงแต่งตัวเช่นนี้มาขอรับ? ” ปล่อยให้เขามองอยู่นาน เพียงรู้สึกว่าคุ้นตา แต่กลับคิดไม่ออกว่าเคยพบที่ไหน!
“อ๋อ นายบัญชีล้วนแต่เป็นบุรุษไม่ใช่หรือ? ข้าเปลี่ยนชุดมา จะได้สะดวกขึ้น”
ซ่งฝูขานตอบสองที ก่อนจะเพ่งความสนใจไปที่สมุดบัญชีในมืออีกครั้ง “ฮูหยินเซียว ท่านมาหาคุณชายหรือขอรับ? ระยะนี้คุณชายมีธุระ อยู่เรือนตระกูลซ่งตลอด ไม่ได้อยู่ที่เซียนจวีโหลวขอรับ”
“ข้าไม่ได้มาหาเขา ข้ามาหาท่าน! ” เซี่ยยวี่หลัวก้มมองลูกคิดในมือซ่งฝูพร้อมกล่าว
“หาข้าหรือ? ” ซ่งฝูเอ่ยถามอย่างผิดคาด “ฮูหยินเซียวหาข้ามีธุระอะไรหรือขอรับ? ”
เซี่ยยวี่หลัวชี้สมุดบัญชีในมือของเขา “ข้าจะสอนท่านคิดบัญชี”
“สอนข้าคิดบัญชี? ” ซ่งฝูรู้สึกตกใจยิ่งนัก จากนั้นก็ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี “ฮูหยินเซียว ท่านจะสอนก็ได้อยู่ แต่ข้าเกรงว่าจะเรียนรู้ได้ไม่ดี ท่านรู้หรือไม่ขอรับ? คุณชายสอนข้ามาสามถึงสี่ปีแล้ว แต่ระดับของข้าในตอนนี้…”
ระดับเป็นอย่างไร ถึงซ่งฝูจะไม่ได้กล่าว แต่เซี่ยยวี่หลัวก็รู้
เมื่อครู่นางมองอยู่ครู่หนึ่ง ระดับของซ่งฝูถือว่าทั่วไป ทว่าในภายภาคหน้า ก็ยังสามารถแบกรับภาระอันหนักหน่วงได้
“ไม่เป็นอะไร ข้าจะสอนวิธีคำนวณให้เจ้า รับรองว่าเจ้าจะทำเป็นอย่างรวดเร็ว” เซี่ยยวี่หลัวกล่าวด้วยท่าทีจริงจัง ไม่สนใจแม้แต่น้อยว่าซ่งฝูจะทำได้จริงหรือไม่ “วิธีของข้าง่ายมาก แม้แต่เด็กที่ไม่เคยเรียนดีดลูกคิดยังทำได้ นับประสาอะไรกับท่านที่มีพื้นฐานดีเช่นนี้”
เซี่ยยวี่หลัวรับลูกคิดมา ใช้วิธีคำนวณของนางสาธิตให้ซ่งฝูดูหนึ่งรอบ จากนั้นจึงยื่นลูกคิดให้ซ่งฝู ก่อนที่เขาจะคำนวณอีกรอบหนึ่งตามวิธีที่เซี่ยยวี่หลัวสาธิตให้ดู
ผลลัพธ์ที่ได้เหมือนกับที่คุณชายคำนวณไว้ไม่มีผิดเพี้ยน
ซ่งฝูเกรงว่าตัวเองจะคำนวณพลาด จึงคำนวณต่ออีกสามถึงสี่รายการ ซึ่งตัวเลขที่คำนวณได้เหมือนกับของคุณชายทุกครั้ง
นั่นเป็นบทพิสูจน์ว่า เขาเองก็คำนวณได้ถูกต้อง!
เซี่ยยวี่หลัวหัวเราะเบาๆ “ถ้าอย่างไร ท่านนำสมุดบัญชีที่ยังไม่ได้คำนวณมาหนึ่งเล่ม ท่านคำนวณก่อน เสร็จแล้วข้าจะคำนวณอีกครั้ง ดูว่าถูกต้องหรือไม่! ”
ซ่งฝูรีบหยิบสมุดบัญชีที่ยังไม่ได้คำนวณมา คำนวณไปหนึ่งหน้า เซี่ยยวี่หลัวมองครู่หนึ่ง ตัวเลขที่ขานออกมา ทั้งสองคนได้ตัวเลขเหมือนกันไม่มีผิดเพี้ยน
ลองคำนวณอีก ก็ยังคงเหมือนกัน!
ซ่งฝูรู้สึกตกตะลึงจนอ้าปากตาค้าง
ก่อนหน้านี้ เขามักจะคำนวณผิดเป็นประจำ หากจะคำนวณให้ถูกต้อง ก็จะช้า หากคำนวณเร็วต้องมีข้อผิดพลาดแน่นอน แต่ตอนนี้…
“ฮูหยินเซียว ท่าน… ท่านทำได้อย่างไรขอรับ? ” ซ่งฝูรู้สึกยินดียิ่ง น้ำเสียงถึงกับสั่นเครือ
เซี่ยยวี่หลัวตบมือทีหนึ่ง สอนซ่งฝูจนเป็นแล้ว นางจึงอารมณ์ดีเป็นอย่างมาก “นี่เป็นการคำนวณรูปแบบหนึ่ง ง่ายกว่าการใช้ลูกคิดอย่างเดียวมากนัก ขอเพียงท่านจำขั้นตอนได้ ต่อให้มีรายการบัญชีมากกว่านี้หรือยากกว่านี้ ก็สามารถคำนวณได้อย่างแม่นยำ! ”
ซ่งฝูดีใจจนแทบจะคุกเข่าให้เซี่ยยวี่หลัว “ฮูหยินเซียว ขอบ ขอบคุณท่านขอรับ ท่านเป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตข้าไว้! ”
ซ่งฝูรู้ว่าเซี่ยยวี่หลัวคำนวณเป็น เมื่อก่อนรู้สึกประหลาดใจมาตลอด บัดนี้ได้เห็นกับตาว่านางไม่เพียงแต่คำนวณเร็ว ทั้งยังสามารถสอนเขาจนทำเป็นในคราเดียว ความรู้สึกขอบคุณที่ซ่งฝูมีต่อเซี่ยยวี่หลัว ไม่อาจใช้คำว่าบุญคุณมานิยามได้แล้ว
“ระยะนี้ฮูหยินเฒ่าล้มป่วย ไม่อาจลุกจากเตียงได้ คุณชายปรนนิบัติอยู่ข้างเตียงทุกวัน เซียนจวีโหลวเขาก็ไม่ได้ควบคุมดูแล ข้าซ่งฝูร่ำเรียนมาเพียงไม่กี่ปี ได้คุณชายเป็นคนบ่มเพาะ สอนข้าคำนวณ แต่ไม่ว่าทำอย่างไรข้าก็ทำไม่เป็น หลายวันที่ผ่านมา ไม่ใช่แค่บัญชีของภัตตาคารที่สับสนวุ่นวาย แม้แต่บัญชีใหม่ก็สับสนไปหมด ไม่อาจคำนวณให้แม่นยำ วันนี้ต้องขอบคุณฮูหยินเซียวที่ช่วยเหลือในยามตกยาก ท่านเป็นผู้มีพระคุณ ชั่วชีวิตนี้ข้าซ่งฝูไม่อาจลืมได้ขอรับ! ” ซ่งฝูกล่าวไปพลาง ก็ประสานมือทำท่าจะคุกเข่าลงไป
“ท่านซ่งน้อยไม่ต้องมากพิธี ท่านซ่งเคยมีบุญคุณช่วยเหลือข้าไว้ หากไม่ได้เขา เงินก้อนแรกของข้า ยังไม่รู้ว่าจะไปหามาจากที่ไหนเลย! ” ตอนนั้นซ่งฉางชิงร่วมงานกับนาง เซี่ยยวี่หลัวคิดไม่ถึงว่าจะราบรื่นถึงเพียงนั้น!
ซ่งฝูหน้าแดงถึงใบหู “ฮูหยินเซียวอย่าเรียกข้าว่าท่านซ่งน้อยอีกเลยขอรับ ท่านเรียกข้าว่าซ่งฝูเหมือนคุณชายเถอะขอรับ! ”
เซี่ยยวี่หลัวแย้มรอยยิ้ม “ได้ ต่อไปจะเรียกเจ้าว่าซ่งฝู ถ้าอย่างไรเจ้าเอารายการบัญชีของภัตตาคารในช่วงนี้มา ข้าช่วยตรวจทานให้เจ้าก่อน! ”
ซ่งฝูรู้สึกยินดียิ่ง “ขอรับ ได้ขอรับ เช่นนั้นขอบคุณฮูหยินเซียวมากขอรับ”
หลังจากใช้เวลาไปสองถ้วยชา เซี่ยยวี่หลัวจึงคำนวณบัญชีหลายเล่มจนเสร็จ กิจการของเซียนจวีโหลวยังนับว่าไม่เลว เพียงแต่พอถึงช่วงหลัง นับวันกิจการก็ยิ่ง…
เซี่ยยวี่หลัววางพู่กันลง ก่อนกล่าวกับซ่งฝู “ซ่งฝู ข้าเขียนสูตรอาหารใหม่ไว้สองสูตร เจ้านำไปมอบให้พ่อครัว! ”
ซ่งฝูรู้สึกตื้นตันยิ่งนัก “ขอรับ ขอบคุณฮูหยินเซียวขอรับ! ”
เมื่อเห็นว่าคนผู้นี้แทบจะคุกเข่าให้ตัวเอง เซี่ยยวี่หลัวได้แต่ส่ายหน้าพร้อมยิ้มขม
เหมือนว่านับตั้งแต่เสี้ยววินาทีที่นางก้าวเท้าเข้ามา วาจาที่ออกจากปากซ่งฝูมากที่สุดก็คือคำว่าขอบคุณฮูหยินเซียว
มีอะไรน่าขอบคุณกัน!
สูตรอาหารสองอย่างที่เซี่ยยวี่หลัวเขียนเป็นอาหารทั่วไป เซียนจวีโหลวมีผักเหล่านี้ พ่อครัวรีบทำหนึ่งครั้ง เซี่ยยวี่หลัวลองชิมดู ชี้แนะครู่อยู่หนึ่ง หลังจากปรับปรุงก็ดีกว่าก่อนหน้านี้มากแล้ว
ไม่นานหน้าประตูเซียนจวีโหลวก็มีการติดป้ายประกาศว่าตอนเที่ยงจะมีอาหารใหม่สองชนิด
กิจการของเซียนจวีโหลวดีขึ้นมาอีกครั้ง