ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต - เล่มที่ 15 บทที่ 472 ข้าเชื่อในความสามารถด้านการรักษาของท่านหมอซุน
- Home
- ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต
- เล่มที่ 15 บทที่ 472 ข้าเชื่อในความสามารถด้านการรักษาของท่านหมอซุน
บทที่ 472 ข้าเชื่อในความสามารถด้านการรักษาของท่านหมอซุน
เมื่อท่านป้ากุ้ยเห็นว่าคุณหนูดีอกดีใจถึงเพียงนี้ ก็นึกชื่นชมอยู่ในใจ ไม่เสียทีที่ฮูหยินเฒ่าเอ็นดูหลานสาวคนนี้ ถึงแม้อาจไม่ได้เป็นแม่สามีลูกสะใภ้ แต่ทั้งคู่ยังคงเป็นท่านป้าและหลานสาว ความสัมพันธ์เช่นนี้ก็เพียงพอแล้ว
ดูจากท่าทีที่คุณชายมีต่อคุณหนู สองคนนี้ อนาคตคงเป็นไปไม่ได้แล้ว! รอให้ฮูหยินเฒ่าตื่นขึ้น จะได้บอกเล่าท่าทีที่คุณชายมีต่อคุณหนูในระยะนี้ให้ฟัง แต่ก่อนเพียงแค่มีความคิดเช่นนี้ ทว่าดูท่า ตอนนี้คงต้องเริ่มเตรียมการสำหรับอนาคตใหม่เสียแล้ว
ไม่เพียงแค่ดูตัวให้คุณชาย ยังต้องดูตัวให้คุณหนูด้วย
ตอนที่กู้ซินเยว่เข้าไป ก็เห็นซ่งฉางชิงกำลังกอดท่านป้าพร้อมป้อนน้ำให้นางดื่มอย่างระมัดระวัง
นางไม่ได้พบซ่งฉางชิงมาหนึ่งวันกว่าแล้ว เขาอยู่ในห้องของท่านป้าทั้งวัน ขังตัวเองอยู่ในห้องไม่ยอมออกไป กู้ซินเยว่จึงไม่ได้พบเขา
บัดนี้ได้เห็นอีกครั้ง ซ่งฉางชิงดูเหนื่อยล้า ตัวเขาดูโทรมลงไม่น้อย เห็นแล้วก็รู้สึกปวดใจยิ่งนัก
“ท่านป้า…” กู้ซินเยว่จ้องมองซ่งฉางชิงอยู่ครู่ใหญ่ ก่อนเดินมาอยู่ข้างกายฮูหยินเฒ่ากู้ “ท่านป้า ท่านดีขึ้นบ้างหรือไม่เจ้าคะ? ” กู้ซินเยว่แสดงสีหน้าปวดใจเต็มประดา
ฮูหยินเฒ่ากู้พยักหน้าด้วยความอ่อนเพลีย “ข้าดีขึ้นมากแล้ว เด็กโง่ เจ้าจะร้องไห้ทำไม! ”
“ท่านป้า ทุกครั้งที่เห็นท่านล้มป่วยนอนอยู่บนเตียง ซินเยว่ก็อยากให้คนที่ป่วยเป็นข้า หากข้าสามารถป่วยแทนท่านได้ก็คงดี ให้อาการเจ็บป่วยมาอยู่บนกายข้าทั้งหมดเถิด…” กู้ซินเยว่กล่าวพลางสะอื้นไห้
ฮูหยินเฒ่ากู้แสร้งทำเป็นโมโห “เจ้าเด็กโง่คนนี้ พูดจาโง่เขลาอะไรเช่นนี้! ”
กู้ซินเยว่จับแขนฮูหยินเฒ่ากู้ ก่อนพิงตรงขอบเตียงเบาๆ “ซินเยว่ไม่ได้พูดเรื่องโง่เจ้าค่ะ ข้ารู้สึกเห็นใจท่านป้า ท่านป้าล้มป่วย ซินเยว่ก็รู้สึกเศร้าใจมากเจ้าค่ะ”
“ป้ารู้ว่าเจ้าเป็นเด็กกตัญญู อย่าร้องไห้เลย ญาติผู้พี่ของเจ้ายังอยู่ เดี๋ยวเขาจะเห็นเรื่องน่าอายเอาได้! ” ฮูหยินเฒ่ากู้จงใจกล่าวเป็นเชิงหยอกล้อ
กู้ซินเยว่ไม่กล้าร้องไห้อีก รีบใช้ผ้าเช็ดหน้าซับหยาดน้ำตาตรงหางตาเบาๆ
ซ่งฉางชิงไม่กล่าวอะไรแม้แต่คำเดียว ท่าทางเย็นชา
ทุกคนเห็นประจำจนไม่รู้สึกว่าเป็นเรื่องแปลกแล้ว เวลานี้เอง ท่านป้ากุ้ยยกโจ๊กรังนกมา ซ่งฉางชิงป้อนเองกับมือ ฮูหยินเฒ่ากู้ที่เดิมทียังดูมีชีวิตชีวาอยู่บ้าง หลังจากกินโจ๊กรังนกลงไปหนึ่งชาม พูดคุยครู่หนึ่ง ก็นอนหลับไปด้วยอาการสะลึมสะลืออีกครั้ง
ช่วงที่ผ่านมา ฮูหยินเฒ่ากู้มักจะเป็นเช่นนี้ ตอนตื่นขึ้นมา เดิมทีก็ยังดีอยู่ หลังจากกินอาหารเล็กน้อยก็นอนหลับอีกครั้ง
ซ่งฉางชิงเป็นห่วงว่าร่างกายฮูหยินเฒ่ากู้จะมีจุดอื่นที่ไม่สบายอีกหรือไม่ จึงให้คนดูแลฮูหยินเฒ่ากู้ให้ดี ส่วนเขาไปหาท่านหมอมาดูอาการเพิ่ม
ท่านป้ากุ้ยรีบขานรับ “คุณชายโปรดวางใจ บ่าวจะดูแลฮูหยินเฒ่าให้ดีเจ้าค่ะ! ”
เซี่ยยวี่หลัวกำลังไปหาซุนไคยุ่น
ซุนไคยุ่น ในช่วงหลังของนิยาย เขาเป็นท่านหมอประจำสถาบันแพทย์หลวง ฝีมือการรักษาเป็นอันดับหนึ่ง ใต้หล้านี้ไม่มีผู้ใดทัดเทียม
ในนิยาย ชื่อของคนผู้นี้ถูกเอ่ยถึงเป็นประจำ เป็นตัวละครประกอบที่มีบทบาทสำคัญมากทีเดียว เดิมทีเขาเป็นเพียงบุคคลไร้ชื่อเสียงทั่วไป ทว่าในภายหลัง เขาได้ทำการใหญ่ที่ทำให้ทั้งต้าเยว่และใต้หล้าสั่นสะท้านร่วมกับนางเอก นับตั้งแต่นั้นมา ชื่อเสียงของซุนไคยุ่นก็ดังก้องไปทั่วหล้า ส่วนนางเอกที่อยู่กับเขา ก็มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วต้าเยว่เช่นกัน
แน่นอนว่า นั่นเป็นเรื่องราวในช่วงท้ายของนิยาย เขาได้เข้าพระราชวังพร้อมเซียวยวี่ ในเมื่อเซียวยวี่ในยามนี้ยังเป็นบัณฑิตไร้คุณวุฒิ เช่นนั้น ซุนไคยุ่นในยามนี้ ก็เป็นเพียงท่านหมอในโรงหมอขนาดเล็กทั่วไปเท่านั้นเช่นกัน เขาทำการรักษาอยู่ที่โรงหมอขนาดเล็กในอำเภอกว่างชาง
ซุนไคยุ่นผู้นี้ อ่านตำราการแพทย์มาเป็นจำนวนมาก มีความสามารถด้านการรักษาและมีเมตตา กลับยินยอมจะอยู่ในโรงหมอขนาดเล็กแห่งนี้ จวบจนนางเอกพบความโดดเด่นของเขา นับแต่นั้นมา ซุนไคยุ่นก็เห็นนางเอกเป็นสหายผู้รู้ใจ จงรักภัคดีต่อนางเอกไปชั่วชีวิต
ได้ยินมาว่าซ่งฉางชิงหาหมอมาจำนวนไม่น้อยก็ยังไม่พบสาเหตุ เซี่ยยวี่หลัวคิดจะลองไปดู ว่าซุนไคยุ่นในยามนี้ จะมีความสามารถด้านการรักษาอันยอดเยี่ยมที่น่าตกตะลึงเช่นเดียวกับที่ปรากฏในภายหลังหรือไม่!
การหาซุนไคยุ่น ไม่ได้ใช้เวลานานนัก เขาอยู่ในโรงหมอขนาดเล็กแห่งหนึ่ง เมื่อไม่มีคนไข้ ก็ถือตำราการแพทย์เล่มหนึ่งไว้ทั้งวัน เปิดตั้งแต่หน้าแรกถึงหน้าสุดท้าย อ่านจนจดจำได้ทั้งหมด พรุ่งนี้จึงเปลี่ยนอีกเล่มหนึ่ง!
เซี่ยยวี่หลัวสวมหมวกคลุมปิดหน้าไว้ ยื่นมือออกมาข้างหนึ่ง ซุนไคยุ่นเห็นดังนั้น จึงวางตำราไว้ข้างๆ ยื่นมือไปเริ่มจับชีพจร
ตลอดขั้นตอนนี้ ทั้งสองคนไม่ได้กล่าวอะไรแม้แต่คำเดียว
เซี่ยยวี่หลัวไม่ได้บอกว่าตัวเองไม่สบายตรงไหน ซุนไคยุ่นก็ไม่ได้ถาม เพียงจับชีพจรอย่างตั้งอกตั้งใจ
จับไปจับมาก็พบความผิดปกติ คนผู้นี้สุขภาพร่างกายดีเสียยิ่งกว่าอะไร ไม่มีจุดใดที่มีปัญหาเลยนี่นา!
“ฮูหยินท่านนี้ ไม่ทราบว่าท่านไม่สบายตรงไหนหรือ? ” ซุนไคยุ่นขมวดคิ้วพร้อมเอ่ยถาม
เซี่ยยวี่หลัวมองซุนไคยุ่น ซุนไคยุ่นในยามนี้อายุยี่สิบกว่าปีแล้ว เขาเคยแต่งภรรยาหนึ่งคน แต่ภรรยาผู้นั้นรังเกียจความยากจนลุ่มหลงความร่ำรวย รังเกียจที่ซุนไคยุ่นเป็นเพียงท่านหมอทั่วไป ไม่ประสบความสำเร็จใดๆ จึงแยกทางกับซุนไคยุ่น ซุนไคยุ่นที่แยกทางกับภรรยาไม่รู้จักขวนขวายหาความก้าวหน้ายิ่งกว่าเดิม ใช้ชีวิตอย่างไร้จุดหมายอยู่ทุกวัน รู้จักแต่การใช้ชีวิตอย่างธรรมดาเรียบง่าย
“ข้ารู้สึกวิงเวียนศีรษะ ง่วงนอน” เซี่ยยวี่หลัวกล่าว
ซุนไคยุ่นรีบชักมือกลับ “ฮูหยินท่านนี้ช่างมีอารมณ์ขันเสียจริง ฮูหยินร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง… มีอาการวิงเวียนศีรษะและง่วงนอนที่ไหนกัน”
“เช่นนั้นหากมีอาการวิงเวียนศีรษะและง่วงนอน เป็นอาการที่เกิดจากอะไร? ”
“ต้องดูว่าร่างกายผิดปกติหรือไม่ หากรู้สึกวิงเวียนศีรษะและง่วงนอน โดยทั่วไปจะเป็นปัญหาที่ศีรษะ ต้องดูตรงนี้” ซุนไคยุ่นชี้ไปยังศีรษะ
เซี่ยยวี่หลัวถอดหมวกคลุมใบหน้าออก ไม่ได้มองข้ามท่าทางของซุนไคยุ่นที่แสดงอาการผงะและตกตะลึงในความงาม
“เช่นนั้นเชิญท่านหมอซุนไปกับข้า มีฮูหยินเฒ่าท่านหนึ่ง ระยะนี้ง่วงนอนและวิงเวียนศีรษะเป็นประจำ นอนครั้งหนึ่งหลายวัน ตื่นขึ้นมาครู่หนึ่งก็ต้องนอนต่อ” เซี่ยยวี่หลัวอธิบายอาการของฮูหยินเฒ่าโดยละเอียด
ซุนไคยุ่นไม่ได้คิดจะตามไป แต่เซี่ยยวี่หลัวกลับกล่าวต่อ “ดูก็รู้ว่าท่านหมอซุนเป็นหมอเทวดาที่คอยช่วยเหลือผู้คน พวกเราหาท่านหมอมาสิบกว่าท่านแล้ว ล้วนไม่สามารถวินิจฉัยอาการของฮูหยินเฒ่าได้ ท่านหมอซุนมีวิชาการแพทย์ยอดเยี่ยม ขอให้ท่านหมอซุนช่วยชีวิตฮูหยินเฒ่าด้วย! ”
ไม่ว่าใครก็ชอบการถูกยกย่อง โดยเฉพาะคนที่มีความสามารถอย่างแท้จริง หลังจากได้ฟัง ก็หัวเราะอย่างได้ใจ “ข้ายังไม่เคยได้ยินโรคที่มีอาการเช่นนี้มาก่อน เช่นนั้นรบกวนฮูหยินนำทางข้าไปดูด้วย! ”
ซ่งฉางชิงเคร่งเครียดเพราะเรื่องของฮูหยินเฒ่ากู้ เชิญท่านหมอมาคนแล้วคนเล่า แต่ก็ยังไม่อาจวินิจฉัยอาการของฮูหยินเฒ่าได้ นางนอนเป็นเวลานาน ตื่นขึ้นมาเป็นเวลาเพียงสั้นๆ ร่างกายซูบผอมลงเรื่อยๆ
กู้ซินเยว่คอยดูแลฮูหยินเฒ่ากู้อยู่ข้างๆ เห็นถึงความกังวลของซ่งฉางชิง
นางหันกลับไปมองฮูหยินเฒ่ากู้ แววตาฉายประกายทรมานใจเล็กน้อย ก่อนจะสลายหายไปในทันที