ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต - เล่มที่ 15 บทที่ 477 ฮูหยินเฒ่าใกล้จะไม่ไหวแล้ว
- Home
- ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต
- เล่มที่ 15 บทที่ 477 ฮูหยินเฒ่าใกล้จะไม่ไหวแล้ว
บทที่ 477 ฮูหยินเฒ่าใกล้จะไม่ไหวแล้ว
ภายในโรงผลิตเหลือฮูหยินเฒ่ากู้และท่านป้ากุ้ยเพียงสองคน
ฮูหยินเฒ่ากู้มองดูความเรียบง่ายในห้องด้วยความรู้สึกประหลาดใจ ก่อนเอ่ยถาม “อากุ้ย ที่นี่คือที่ใดหรือ? ”
ท่านป้ากุ้ยรีบอธิบาย “ฮูหยินเฒ่า ที่นี่คือโรงผลิตของฮูหยินเซียวเจ้าค่ะ”
“ฮูหยินเซียว? พวกเราอยู่ที่นี่ได้อย่างไร? ” ฮูหยินเฒ่ากู้แสดงสีหน้าสงสัยเต็มประดา
ท่านป้ากุ้ยจึงเล่าเรื่องที่เซี่ยยวี่หลัวไปหาหมอมาจากอำเภอกว่างชาง จากนั้นก็สงสัยว่ามีคนวางยาในอาหาร แล้วจึงแอบส่งพวกเขามายังที่นี่ให้ฟัง
ฮูหยินเฒ่ากู้กล่าวด้วยความชื่นชม “เช่นนั้นต้องขอบคุณฮูหยินเซียวแล้ว หมอตั้งมากมายยังตรวจไม่พบว่าข้าถูกวางยา แต่ท่านหมอที่นางพามากลับตรวจพบ ท่านหมอผู้นี้คงมีชื่อเสียงมากกระมัง! ”
ท่านป้ากุ้ยหัวเราะ “ไม่มีชื่อเสียงเจ้าค่ะ ไม่เคยได้ยินมาก่อนด้วยซ้ำ แต่ฮูหยินเซียวบอกว่าความสามารถด้านการรักษา ไม่มีความเกี่ยวข้องกับชื่อเสียง! ตอนแรกบ่าวก็ไม่เชื่อ ในภายหลังท่านหมอซุนจับชีพจรให้ท่านครู่หนึ่งก็บอกว่าท่านถูกพิษ ตอนนี้ลองคิดดู ท่านหมอซุนช่างมีความสามารถสูงส่งจริงเจ้าค่ะ! ”
หากไม่ใช่เพราะท่านหมอซุนบอกว่าฮูหยินเฒ่าถูกพิษ พวกเขามีหรือจะคาดคิดว่ามีคนวางยาในอาหารของฮูหยินเฒ่า!
“สตรีผู้นั้นนับว่าเป็นคนดีอย่างแท้จริง! ” ฮูหยินเฒ่ากู้กล่าวด้วยความเสียดาย “หน้าตาก็ดี ทั้งยังเคยช่วยข้าไว้ครั้งหนึ่ง และมีหัวด้านการค้า หากไม่ได้นาง เซียนจวีโหลวคงไม่ประสบความสำเร็จอย่างทุกวันนี้…”
ฮูหยินเฒ่ากู้เอ่ยถึงแต่ละเรื่องที่เซี่ยยวี่หลัวเคยทำ ทุกครั้งที่กล่าวเพิ่มหนึ่งเรื่อง ฮูหยินเฒ่ากู้ก็รู้สึกชื่นชอบมากยิ่งขึ้น
นอนอยู่บนเตียงมากว่าครึ่งเดือนแล้ว ระยะนี้ ตื่นมากินอาหารเสร็จก็นอนต่อ ไม่เคยได้ลงมาเดิน ท่านป้ากุ้ยประคองฮูหยินเฒ่ากู้เดินในโรงผลิตหนึ่งรอบ
โรงผลิตนั้นเรียบง่ายเกินไปอย่างแท้จริง นับตั้งแต่วัยสาว ฮูหยินเฒ่ากู้ก็ไม่เคยอาศัยอยู่ในเรือนที่เก่าและทรุดโทรมถึงเพียงนี้
ทว่า ถึงแม้จะเก่าและทรุดโทรม แต่ทั้งภายในและภายนอก ล้วนถูกทำความสะอาดไว้เป็นอย่างดี ของตกแต่งก็ดูสง่า แม้จะไม่ใช่ของดีมีชื่ออะไร แต่ดอกไม้ใบหญ้าที่วางประดับอยู่ตรงขอบหน้าต่าง แค่เห็นก็ทำให้รู้สึกเบิกบานใจและผ่อนคลาย
“ฮูหยินเซียวผู้นี้นับว่าเป็นคนที่มีรสนิยมเสียจริง ฮูหยินเฒ่า ท่านดูสิเจ้าคะ ไม่รู้ว่าฮูหยินเซียวไปเก็บกิ่งไม้มาจากที่ไหน เสียบไว้ในโอ่งน้ำนั่น จริงอยู่ว่าโอ่งน้ำนั่นมีรอยแตก แต่พอวางเช่นนี้ ข้ากลับรู้สึกว่ามีความงามของการแตกสลาย ท่านว่าจริงหรือไม่เจ้าคะ? ” ท่านป้ากุ้ยชี้ไปยังโอ่งน้ำแตกโอ่งหนึ่งที่อยู่ตรงมุมกำแพง หัวเราะพร้อมกล่าว
ฮูหยินเฒ่ากู้พยักหน้า “ใช่แล้ว ดูงามสง่า”
แม้จะดูเรียบง่าย แต่กลับอบอุ่น
ซุนไคยุ่นกลับเซียนจวีโหลวพร้อมซ่งฉางชิง
ระหว่างทาง ซุนไคยุ่นสัมผัสได้ถึงอารมณ์รุนแรงที่แผ่ออกมาจากกายบุรุษผู้นี้ น่ากลัว ช่างน่ากลัวเสียจริง
ทว่า ซุนไคยุ่นเองก็หาใช่คนขลาดกลัว เขาเอ่ยถามซ่งฉางชิง “ท่านซ่งคิดจะทำเช่นไร? ”
ซ่งฉางชิงแทบจะบีบพู่กันในมือจนแหลก เส้นเลือดตรงหลังมือของเขาปูดขึ้น “คนผู้นั้น ดูผิวเผินเหมือนคิดเล่นงานมารดาของข้า แต่แท้จริงแล้ว ข้าคาดเดาว่า คนที่เขาอยากเล่นงาน น่าจะเป็นข้า! ”
ซุนไคยุ่นคิดครู่หนึ่ง ก่อนพยักหน้า ก็จริง จะเล่นงานหญิงสูงวัยผู้หนึ่งไปทำไม หากคิดจะเล่นงาน ก็น่าจะเป็นคนวัยหนุ่มผู้นี้!
“ในเมื่อเขาอยากเล่นงานข้าถึงเพียงนี้ เช่นนั้นก็จัดการง่ายแล้ว ท่านหมอซุน รบกวนท่านพักอาศัยอยู่ที่นี่อีกระยะหนึ่งเถิด”
ซุนไคยุ่นโบกมือ “แน่นอน ก่อนฮูหยินเซียวจะไปได้กำชับข้าไว้ ว่าท่านไม่ต้องการข้าเมื่อใด ข้าถึงจะไปได้”
เมื่อซ่งฉางชิงคิดถึงคนผู้นั้น อารมณ์รุนแรงที่เพิ่งก่อตัวขึ้นพลันสลายหายไปจนสิ้น
ซุนไคยุ่นกะพริบตาปริบๆ รู้สึกไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่ตัวเองเห็น!
ทั้งที่เมื่อครู่นี้เต็มไปด้วยเพลิงโทสะ ตอนนี้กลับ…
เมื่อคิดไม่ออก ซุนไคยุ่นจึงกลับไปนอน
เมื่อคืนเขาแทบจะไม่ได้นอน คนข้างๆ พลิกตัวไปมาตลอดคืน เขาจะนอนหลับได้อย่างไร!
เรือนตระกูลซ่งในยามนี้ กู้ซินเยว่รู้สึกกระวนกระวายใจ เวลาผ่านไปสองวันแล้ว ท่านป้ากับญาติผู้พี่ก็ยังไม่กลับมา
พวกเขาไปที่ไหนกันแน่!
ขอเพียงท่านป้าไม่กินยานั่น อาการป่วยของท่านป้าก็จะหายดี ตามหลักแล้ว ตอนนี้ท่านป้าต้องกลับสู่สภาวะปกติ แต่เหตุใดถึงตอนนี้พวกเขาก็ยังไม่กลับมาเล่า?
กู้ซินเยว่เดินไปเดินมา สีหน้าวิตกกังวล
ท่านป้าไม่อยู่ ญาติผู้พี่ก็ยิ่งไม่กลับมา
จู่ๆ นางก็รู้สึกนึกเสียใจขึ้นมา เหตุใดตอนแรกถึงต้องคิดวิธีทำให้ท่านป้าล้มป่วย หลอกให้ญาติผู้พี่กลับมาด้วย?
ญาติผู้พี่กลับมาแล้วก็จริง แต่จำนวนครั้งที่พบกับนางนั้นแทบนับนิ้วได้
ในจังหวะนี้เอง เสียงหนึ่งดังขึ้นจากด้านนอก “คุณชายกลับมาแล้ว! ”
กู้ซินเยว่ได้ฟังดังนั้น ก็สาวเท้าวิ่งออกไปด้านนอกทันที
เพียงเห็นซ่งฉางชิงสีหน้าอึมครึม ท่าทางน่ากลัวยิ่งนัก ตลอดทางที่เดินมา คนที่เขาเดินผ่านไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง
กู้ซินเยว่กัดฟันทีหนึ่ง ก่อนเดินเข้าไปหา แสดงสีหน้าวิตกกังวล “ญาติผู้พี่ เหตุใดท่านถึงกลับมาคนเดียวเจ้าคะ? ท่านป้าเล่า? ท่านป้าไปที่ไหนแล้ว? ”
ซ่งฉางชิงไม่หยุดฝีเท้า สาวเท้าก้าวใหญ่เดินไปทางเรือนของฮูหยินเฒ่า
กู้ซินเยว่ตามอยู่ข้างกาย สะอื้นไห้ไม่หยุด “ญาติผู้พี่ ข้าเป็นห่วงความปลอดภัยของท่านป้า ท่านให้ข้าไปดูแลท่านป้าได้หรือไม่เจ้าคะ? ”
ในที่สุดฝีก้าวของซ่งฉางชิงก็หยุดชะงัก เขาหันมองกู้ซินเยว่ที่มีท่าทางน่าสงสาร ก่อนกล่าวอย่างเย็นชา “ฮูหยินเฒ่ายังไม่ฟื้น ท่านหมอบอกว่า หากอีกสองวันยังไม่ตื่น บางทีอาจไม่ตื่นขึ้นมาอีกเลย! ”
สีหน้าของเขาดูเย็นเยียบ เย็นเยียบจนกู้ซินเยว่สัมผัสไม่ได้ถึงความเจ็บปวดของเขาแม้แต่น้อย แต่ญาติผู้พี่เป็นคนเย็นชา ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์ชื่นชอบ โมโห เศร้าโศก ยินดี ล้วนไม่ค่อยแสดงออกทางสีหน้า กู้ซินเยว่ไม่เห็นเป็นเรื่องแปลก นางร่ำไห้เสียงดัง “เป็นไปได้อย่างไร? ท่านป้าร่างกายแข็งแรง ท่านหมอเหล่านั้นต่างบอกว่าท่านป้าร่างกายแข็งแรงไม่ใช่หรือ? นางจะเป็นอะไรไปได้อย่างไร? ไม่มีทาง ไม่มีทาง! ”
ประการแรกเพราะกู้ซินเยว่มีความจริงใจต่อฮูหยินเฒ่ากู้อยู่บ้าง ประการที่สอง ที่สำคัญที่สุดคือตัวนางเอง
หากฮูหยินเฒ่าล้มป่วยจนจากโลกนี้ไปจริง เช่นนั้นญาติผู้พี่ก็ต้องไว้ทุกข์สามปี
สามปีเชียว!
สามปีให้หลัง ญาติผู้พี่อายุยี่สิบเอ็ด นางก็อายุยี่สิบปีแล้ว
ญาติผู้พี่แต่งงานไม่ได้สามปี เช่นนั้นเขาจะให้นางอยู่ถึงสามปีหรือไม่?
หากให้อยู่ ถึงเวลานางอายุยี่สิบปีแล้ว เขายังจะแต่งกับนางหรือ? หากเขาไม่แต่งกับนาง นางที่อายุยี่สิบปีก็เป็นสตรีอายุมากแล้ว ใครยังจะแต่งกับนางอีก?
กู้ซินเยว่ฝีก้าวไม่มั่นคง จู่ๆ ก็เกิดความรู้สึกเหมือนทำให้ตัวเองตกที่นั่งลำบากเสียเอง
“ไม่มีทาง ไม่มีทาง ท่านป้าไม่มีทางเป็นอะไร ไม่มีทาง! ” กู้ซินเยว่เดินขึ้นหน้าไปดึงแขนเสื้อซ่งฉางชิง ร่ำไห้ด้วยความเศร้าโศก “ญาติผู้พี่ ท่านให้ข้าไปดูแลท่านป้าเถิดเจ้าค่ะ ท่านป้าต้องไม่เป็นอะไรแน่! ”
บ่าวรับใช้ในเรือนตระกูลซ่งที่ตามอยู่ข้างๆ เห็นท่าทางเศร้าโศกเสียใจของคุณหนู ก็รู้สึกเศร้าเสียใจตาม
ฮูหยินเฒ่าเป็นคนที่ดีถึงเพียงนั้น เหตุใดจู่ๆ ร่างกายถึงไม่ไหวเล่า!
ซ่งฉางชิงหันกลับมามองกู้ซินเยว่ที่ร่ำไห้อย่างหนัก “ตอนนี้ฮูหยินเฒ่ายังไม่ตื่น ท่านหมอบอกว่า โอกาสที่จะตื่นขึ้นนั้นแสนจะริบหรี่ เจ้าไปก็ช่วยอะไรไม่ได้! ”
“ไม่มีทาง ไม่มีทาง ฮูหยินเฒ่าไม่มีทางเป็นอะไรแน่! ” กู้ซินเยว่ยังจะกล่าวอะไรอีก ซ่งฉางชิงโบกมือ พูดขัดวาจาของนาง “ข้าจะเก็บข้าวของ พรุ่งนี้จะไปจังหวัดจิ้นชางแต่เช้า”
กู้ซินเยว่ได้ฟังดังนั้นจึงเงียบ มองดูซ่งฉางชิงที่มีท่าทางเหนื่อยล้า รู้สึกเห็นใจยิ่งนัก “ญาติผู้พี่ ท่านหิวหรือไม่เจ้าคะ? ให้ข้าไปทำอาหารให้ดีหรือไม่เจ้าคะ? ”
ในยามปกติ อาหารของซ่งฉางชิงนั้นไม่ใช่กู้ซินเยว่ที่ตระเตรียมให้ ยิ่งไปกว่านั้น เขาก็ไม่เคยกินอาหารที่นางทำ แต่คราวนี้ เขาเหลียวมองกู้ซินเยว่แวบหนึ่ง ก่อนพยักหน้าด้วยท่าทางเหนื่อยล้า “ได้”
กู้ซินเยว่รู้สึกยินดีอยู่ในใจ
นี่เป็นโอกาสสุดท้ายของนาง!
ขอเพียงตอนนี้ฮูหยินเฒ่ายังไม่ตาย เช่นนั้นนางก็ยังมีโอกาส