ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต - เล่มที่ 15 บทที่ 480 ข้ามีแต่จะฆ่าเจ้าเสีย
บทที่ 480 ข้ามีแต่จะฆ่าเจ้าเสีย
“คุณหนู ข้าปรนนิบัติท่านมานานหลายปี ไม่มีความดีก็มีความชอบ ขอร้องท่าน เห็นแก่ที่ข้าปรนนิบัติท่านมานานปี ขอร้องท่าน ช่วยอ้อนวอนคุณชายด้วยเจ้าค่ะ ข้าไม่อยากตายน่าเกลียดถึงเพียงนั้น” จื่อเยียนจะจับมือกู้ซินเยว่ แต่กู้ซินเยว่กลับชักมือออกด้วยความรังเกียจ
“คุณหนู ข้าจงรักภักดีต่อท่าน เหตุใดท่านถึงต้องทำเช่นนี้กับข้า? ” จื่อเยียนรู้สึกหมดอาลัยตายอยาก รู้ว่ากู้ซินเยว่ไม่มีทางอ้อนวอนแทนนาง ปราการด่านสุดท้ายในใจพลันพังทลาย “ยากล่อมประสาทและยาปลุกอารมณ์ ล้วนแต่เป็นท่านที่ให้ข้าไปซื้อ ท่านเป็นคนให้เงินข้า ข้าทำตามทุกอย่าง แต่เหตุใดท่านถึง โหดร้ายกับข้าถึงเพียงนี้! คุณหนู…”
กู้ซินเยว่ตื่นตระหนกยิ่งนัก “เจ้าพูดจาเพ้อเจ้อเหลวไหล ข้าให้เจ้าไปซื้ออะไรกัน ข้าให้เจ้าไปซื้อของพวกนี้ตั้งแต่เมื่อใด! เจ้าสุนัขบ้า เจ้าอย่ามาแว้งกัดไม่เลือกหน้าเช่นนี้! ”
“ข้าแวงกัดไม่เลือกหน้างั้นหรือ? คุณหนู ท่านลืมแล้วหรือว่าท่านกล่าวกับข้าเช่นไร? ” จื่อเยียนลูบรอยแผลน่าสะพรึงตรงมือ แผลนี่กู้ซินเยว่เป็นต้นเหตุ!
เสียทีที่นางจงรักภักดีต่อคุณหนู!
“ท่านบอกว่าขอเพียงฮูหยินเฒ่าล้มป่วย คุณชายก็จะกลับมา เมื่อคุณชายกลับมา ท่านก็จะได้อยู่กับคุณชายเป็นเวลานานจนเกิดความรัก ทั้งยังสามารถทำให้คุณชายเห็นตอนท่านทุ่มเทดูแลฮูหยินเฒ่า จนเกิดความรู้สึกดีต่อท่าน ที่วางยาคุณชาย เพราะท่านรู้ว่าฮูหยินเฒ่าจะอยู่ได้อีกไม่นาน เกรงว่าคุณชายต้องไว้ทุกข์สามปี ไม่สามารถแต่งงานได้ แต่สามปีให้หลัง ท่านก็อายุยี่สิบแล้ว ท่านเกรงว่าคุณชายจะไม่แต่งกับท่าน หรือระหว่างนั้นอาจให้ท่านออกเรือน ดังนั้นท่านจึงคิดวิธีนี้ขึ้นมา ขอเพียงท่านกับคุณชายเกิดความสัมพันธ์ลึกซึ้ง ท่านก็จะกลายเป็นนายหญิงของเรือนตระกูลซ่งได้ทันที! ” จื่อเยียนหัวเราะด้วยใบหน้าดุร้าย เมื่อเห็นสีหน้าของกู้ซินเยว่แปรเปลี่ยนเป็นอับอายก่อนเป็นถมึงทึง ภายในใจนางรู้สึกสาแก่ใจยิ่งนัก!
“เจ้าพูดจาเหลวไหล! ” กู้ซินเยว่คิดอยากเดินขึ้นหน้าไปปิดปากจื่อเยียนไว้ แต่ซ่งฝูกดนางไว้แน่น ไม่ปล่อยให้นางเคลื่อนไหว
จื่อเยียนยังคงหัวเราะด้วยใบหน้าดุร้าย “ท่านแสร้งทำเป็นกุลสตรีผู้อ่อนโยน แต่จะมีใครรู้บ้าง ว่าท่านโหดเหี้ยมอำมหิต ลุ่มหลงในลาภยศเงินทอง ตอนฮูหยินและนายท่านยังมีชีวิตอยู่ คอยพร่ำบอกท่านอยู่ทุกวันว่าตระกูลซ่งร่ำรวยมากเพียงใด จะให้ท่านแต่งเข้าตระกูลซ่งเพื่อเสพสุขมากยิ่งขึ้น แต่ที่ไหนได้ พวกเขาสองคนกลับตายไปเสียก่อน ท่านจึงอ้างเรื่องคนในตระกูลแย่งชิงทรัพย์สมบัติของท่าน เข้ามาอาศัยในเรือนตระกูลซ่งอย่างเปิดเผย แสร้งทำตัวเป็นคุณหนูผู้ดี อ่อนโยนมีมารยาท คุณหนู หากฮูหยินเฒ่ารู้ว่าความจริงท่านเป็นคนลุ่มหลงในลาภยศเงินทอง โหดเหี้ยมอำมหิต และลงโทษบ่าวรับใช้ นางจะคิดเช่นไร? นางนึกว่าท่านเป็นคนอ่อนโยนจิตใจดีมาตลอดไม่ใช่หรือ? ”
“เหลวไหล เหลวไหลทั้งเพ! ” กู้ซินเยว่คิดไม่ถึงว่าจื่อเยียนจะเปิดเผยเรื่องต่างๆ ของนางมากถึงเพียงนี้ นางตะคอกเสียงดังราวคนเสียสติก็มิปาน
เวลานี้เอง จู่ๆ จื่อเยียนก็ดึงเสื้อตรงไหล่ลง “ข้าพูดจาเหลวไหลหรือ? เช่นนั้นท่านลองดูบาดแผลบนกายข้า มีตรงไหนบ้างที่ไม่ใช่ฝีมือท่าน! ”
บนไหล่และแผ่นหลังของจื่อเยียนเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำดำเขียว “ท่านจะลงมือตีในตำแหน่งที่ผู้อื่นมองไม่เห็น ข้าไม่โทษท่าน ข้าถือว่าท่านเป็นคุณหนูของข้า ท่านทำอะไร ข้าล้วนเชื่อฟังท่าน ข้าจงรักภักดีต่อท่าน แต่เหตุใดท่านถึงไม่ยอมแม้แต่จะอ้อนวอนเพื่อข้าบ้าง! ”
“เจ้า บ่าวสารเลว…” กู้ซินเยว่โมโหจนมือสั่น ชี้จื่อเยียนโดยที่กล่าวอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียว
นางไม่เคยคาดคิดว่าจื่อเยียนจะทรยศนาง! ไม่เคยคิดมาก่อน!
แต่คราวนี้ นางได้เข้าใจอย่างแท้จริงแล้วว่า อะไรคือสุนัขที่กัดคนนั้นไม่เห่า อะไรคือกระต่ายที่ถูกบีบคั้นอย่างหนักก็สามารถกัดมนุษย์ได้
“ในเมื่อท่านไม่เห็นข้าเป็นคน ข้าก็จะไม่จงรักภักดีต่อท่านอีก! เรื่องที่ข้าทำผิด ข้าจะแบกรับไว้แต่เพียงผู้เดียว แต่สิ่งที่ท่านทำผิดเล่า? ” จื่อเยียนหันมองกู้ซินเยว่ เมื่อเห็นสีหน้าถมึงทึงของกู้ซินเยว่ ภายในใจนางรู้สึกดีเสียยิ่งกว่าอะไร “ชั่วชีวิตนี้ สิ่งที่ท่านอยากได้ที่สุดคือแต่งเข้าตระกูลซ่งเพื่อเสพสุข เป็นนายหญิงน้อยของตระกูลซ่งไม่ใช่หรือ? คุณหนู ท่านคิดว่า เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น ฮูหยินเฒ่าและคุณชายยังจะรับท่านอยู่หรือไม่? ”
“นางบ่าวสารเลว ข้าจะฉีกปากเจ้าทิ้งซะ! ” กู้ซินเยว่ดูดุร้ายจนน่ากลัว แปรเปลี่ยนเป็นคนเสียสติโดยสมบูรณ์
“ยังดีที่คุณชายไม่ตกหลุมพรางของท่าน ช่างยากจะจินตนาการนัก คุณชายที่เป็นคนสง่าและรักสงบถึงเพียงนี้ หากข้างกายมีสตรีเยี่ยงท่านอยู่ด้วย จะน่ากลัวเพียงใดกัน” จื่อเยียนกะพริบตาปริบๆ วาจาใดที่สามารถยั่วโมโหกู้ซินเยว่ได้ นางก็จะเอ่ยวาจานั้น “คุณหนู ข้าอยากบอกมาตลอด ว่าท่านเทียบเซี่ยยวี่หลัวไม่ได้แม้แต่เรื่องเดียว ถึงแม้นางจะเป็นหญิงชาวบ้านชนบท แต่ท่านก็ยังคงอิจฉาริษยานางไม่ใช่หรือ? ท่านรู้หรือไม่ว่าเพราะเหตุใด? เพราะนางโดดเด่นกว่าท่าน งดงามกว่าท่านนับพันเท่า! ทุกครั้งที่ท่านพบเซี่ยยวี่หลัวมักจะโมโหถึงเพียงนั้น ข้าต้องพูดจาเอาใจตั้งมากมายให้ท่านฟัง ข้ารู้สึกเหนื่อยเหลือเกิน! ”
“นางบ่าวสารเลว ข้าจะฆ่าเจ้าซะ! ฆ่าเจ้าซะ! ” กู้ซินเยว่แทบคลุ้มคลั่ง ทว่าจื่อเยียนกลับหัวเราะลั่น
เมื่อเห็นทั้งสองคนพูดจาว่าร้ายกันเอง ซ่งฉางชิงก็เข้าใจทุกสิ่งแล้ว เขาโบกมือทีหนึ่ง มีคนคุมตัวจื่อเยียนออกไปทันที
จื่อเยียนยังคงหัวเราะอยู่ “กู้ซินเยว่ เจ้าไม่คู่ควร เจ้าไม่คู่ควร! ”
กู้ซินเยว่แผดเสียงตะโกนด้วยความคลุ้มคลั่งอยู่หลายครั้ง จู่ๆ ก็ใช้ทั้งมือและเท้าคลานไป จับเสื้อของซ่งฉางชิงไว้ ซ่งฉางชิงไม่คาดคิดว่านางจะคลานมา หลบไม่ทัน จึงถูกนางจับชายเสื้อไว้ “ญาติผู้พี่ ท่านอย่าฟังคำพูดเพ้อเจ้อของนาง นั่นเป็นเพียงวาจาเหลวไหล วาจาเหลวไหลของจื่อเยียน นางบ่าวสารเลวที่สมควรตายนั่น ญาติผู้พี่ ญาติผู้พี่…”
ซ่งฉางชิงหลบไม่ทัน รู้สึกรังเกียจจนทนไม่ไหว เขาเตะนางออกไปไกลหลายหมี่โดยไม่แม้แต่จะคิดเสียด้วยซ้ำ จู่ๆ ซ่งฉางชิงก็ดึงชายเสื้อที่เมื่อครู่นี้ถูกกู้ซินเยว่จับขึ้นมา ก่อนออกแรงดึงทึ้งจนขาด โยนทิ้งไว้ข้างๆ ราวกับเป็นเศษผ้าสกปรกอย่างไรอย่างนั้น
กล้าวางแผนคิดร้ายต่อเขา!
ยังดีที่เขามีพลังควบคุมตัวเองที่ดีพอ มิเช่นนั้น เมื่อคืนเขาคงตกหลุมพรางสตรีผู้นี้ เพียงคิดว่าตัวเองอาจเกิดความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับสตรีเช่นนี้ จู่ๆ ภายในใจซ่งฉางชิงก็รู้สึกสะอิดสะเอียน อาเจียนออกมาในทันใด
เขาอาเจียนอยู่ครู่ใหญ่ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นพร้อมรอยยิ้มเย็นเยียบ “กู้ซินเยว่ ข้าแค่คิดถึงท่าทางของเจ้า ข้าก็รู้สึกสะอิดสะเอียนแล้ว”
วาจาประโยคนี้ ทำให้กู้ซินเยว่ไม่อาจควบคุมตัวเองได้อีก
นางไปหาเขาถึงที่ แต่เขากลับรังเกียจ!
กู้ซินเยว่ตะคอกเสียงดังอย่างไม่อาจควบคุมตัวเองได้ “ซ่งฉางชิง เจ้าเหยียดหยามกันมากเกินไปแล้ว! ข้าทำไม่ดีตรงไหนกัน เจ้าถึงไม่เอาข้า! ” นางแผดเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ ราวกับคนเสียสติก็มิปาน “ข้าชอบเจ้ามากถึงเพียงนั้น เหตุใดเจ้าถึงไม่ชอบข้า ข้าทำผิดตรงไหน เหตุใดเจ้าถึงไม่ชอบข้า! ”
“ดังนั้น เจ้าจึงวางยาข้า คิดให้ข้ามีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเจ้า จนจำเป็นต้องแต่งกับเจ้าเช่นนั้นหรือ? ” ซ่งฉางชิงหัวเราะอย่างเย็นเยียบพร้อมกล่าว
“ใช่ เป็นเช่นนั้น ขอเพียงหุงข้าวสารให้เป็นข้าวสุก เจ้าก็จะแต่งกับข้า! ” กู้ซินเยว่ตะคอกด้วยใบหน้าดุร้าย “ท่านป้าต้องให้เจ้าแต่งกับข้าแน่นอน! ”
“เจ้าประเมินตัวเองสูงเกินไป ทั้งยังประเมินข้าต่ำเกินไป! ” เวลานี้เอง จู่ๆ ซ่งฉางชิงก็ลุกขึ้น เดินไปตรงหน้ากู้ซินเยว่ทีละก้าว “หากข้ามีอะไรกับเจ้าจริง ข้ามีแต่จะฆ่าเจ้าเสีย! ”
ฆ่าเจ้าเสีย!
สามคำนี้ออกจากปากซ่งฉางชิงอย่างง่ายดาย ราวกับว่าเขาคิดจะเอาชีวิตกู้ซินเยว่ในเสี้ยววินาทีต่อไปอย่างแท้จริง