ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต - เล่มที่ 15 บทที่ 484 นรกบนดิน
บทที่ 484 นรกบนดิน
หลังจากเคาะประตูอยู่นาน จึงได้ยินเสียงของฟู่ซื่อที่แฝงเร้นด้วยความอ่อนล้าดังขึ้นจากด้านใน “รอก่อน ข้ากำลังมา…”
รออยู่ครู่ใหญ่ ประตูใหญ่จึงเปิดออกดังแกร่ก เริ่มจากแง้มประตูจนเห็นช่องเพียงน้อยนิด ฟู่ซื่อมองออกมาด้านนอกด้วยอาการหวั่นวิตก เมื่อเห็นว่าเป็นเซี่ยยวี่หลัวจึงเปิดประตูทั้งบาน “ฮูหยิน ท่านมาได้อย่างไร? ”
เซี่ยยวี่หลัวเห็นฟู่ซื่อใช้มือทั้งคู่ค้ำเอว สีหน้าเจ็บปวดทรมาน “ข้าให้ท่านป้าเลี่ยวไปเชิญหมอแล้ว ประเดี๋ยวท่านหมอก็จะมา! ”
ฟู่ซื่อตกใจเป็นอย่างยิ่ง “ฮูหยิน ท่านไม่ต้อง…”
“อย่าเพิ่งพูดเลย ให้ข้าประคองท่านกลับไปพักผ่อนก่อน! ” เซี่ยยวี่หลัวรีบประคองฟู่ซื่อกลับเข้าห้อง
ภายในห้อง ยังมีเซียงชุ่ยที่กำลังนอน ส่วนข้างๆ มีเถียนเถียนที่ใบหน้าปูดบวมนั่งอยู่ เมื่อได้ยินว่าด้านนอกมีคนมา นางก็ขดตัวไปด้านหลังเล็กน้อย ท่าทางหวาดกลัวถึงขีดสุด เซี่ยยวี่หลัวรู้สึกสงสารจับใจ “ไม่ต้องกลัว เถียนเถียน พี่สาวไม่ใช่คนไม่ดี”
เซียงชุ่ยก็ได้ยินเสียงเช่นกัน ลืมตาขึ้นมาดู “ฮูหยินเซียวมาหรือเจ้าคะ? ” นางพยายามจะลุกขึ้น เซี่ยยวี่หลัวรีบกล่าว “อย่าขยับ ประเดี๋ยวท่านหมอจะมาดูอาการพวกท่าน”
ฟู่ซื่อหยาดน้ำตาไหลรินเต็มใบหน้า “ฮูหยิน ขออภัยจริงๆ ทำให้ท่านเห็นเรื่องน่าอายแล้ว! ”
“ท่านป้าฟู่กล่าวอะไรเช่นนี้ เกิดเรื่องใหญ่ถึงเพียงนี้ ท่านควรจะมาหาข้า! ” เซี่ยยวี่หลัวปฏิบัติต่อฟู่ซื่อประหนึ่งคนในครอบครัว เมื่อเห็นว่านางเผชิญกับความลำบาก มีหรือจะไม่ช่วยเหลือ!
ฟู่ซื่อกอดเถียนเถียนไว้ ร่ำไห้จนเสียงเปลี่ยน “ช่างโชคร้ายนัก! ข้ามันบาปกรรมจริงๆ ตอนนั้นทำไมถึงได้เลือกคนเนรคุณมาเป็นเขย! ”
เซี่ยยวี่หลัวไม่อาจกล่าวอะไรได้ ทำได้เพียงฟังอย่างสงบ
เซียงชุ่ยจ้องเซี่ยยวี่หลัวตาไม่กะพริบ แววตาฉายประกายประหลาด มองจนเซี่ยยวี่หลัวรู้สึกสงสัย “เซียงชุ่ย เจ้าเป็นอะไรไป? เหตุใดถึงมองข้าเช่นนี้? ”
ฟู่ซื่อก็หันมองไป และแล้ว ก็เห็นแววตาแปลกประหลาดของเซียงชุ่ย “เซียงชุ่ย เจ้ามีอะไรจะกล่าวกับฮูหยินเซียวใช่หรือไม่? ”
เซียงชุ่ยรีบเบือนหน้าหนี ก่อนกล่าว “ไม่ ไม่มีอะไรเจ้าค่ะ! ”
เวลานี้เอง เลี่ยวซื่อพาท่านหมอมาแล้ว ดูอาการให้ทั้งสามคน เขียนใบสั่งยาจำนวนหนึ่ง เซี่ยยวี่หลัวเป็นคนออกเงินค่าซื้อยาและค่ารักษาให้ กระทั่งก่อนจะไป ก็ยังมอบเงินให้ฟู่ซื่อห้าตำลึงไว้เป็นค่าใช้จ่าย
เซียงชุ่ยมีสติตลอดเวลา นางเห็นสิ่งที่เซี่ยยวี่หลัวทำให้นาง ภายในใจยิ่งรู้สึกผิดคิดโทษตัวเอง ตอนที่เซี่ยยวี่หลัวจะกลับไป จู่ๆ เซียงชุ่ยก็ลุกขึ้น “ฮูหยินเซียว ขอบคุณ ขอบคุณท่านมาก! ”
เซี่ยยวี่หลัวแย้มรอยยิ้ม “นอนพักผ่อนดีๆ ไม่กี่วันก็จะดีขึ้น! ”
เลี่ยวซื่อส่งเซี่ยยวี่หลัวออกไปแทนฟู่ซื่อ จากนั้นจึงกลับเข้าไป ฟู่ซื่อกำลังป้อนยาให้เซียงชุ่ยดื่ม สองแม่ลูกไม่กล่าวอะไร เพียงมองหน้ากันพลางร่ำไห้ ต่างก็รู้สึกขมขื่นอยู่ในใจราวกับกินหวงเหลียนลงไปเต็มท้อง
“ข้ายังไม่เคยพบนายที่ดีถึงเพียงนี้มาก่อนเลย! ” เลี่ยวซื่อยกยาที่ฟู่ซื่อต้องดื่มมา “ข้าป้อนเซียงชุ่ยเอง เจ้าดื่มยาของเจ้าก่อน! ”
ฟู่ซื่อได้แต่ไปดื่มยาของตัวเอง เลี่ยวซื่อป้อนยาเสร็จ จึงกล่าว “ข้าอยากเตือนพวกเจ้าสองแม่ลูก ติงกุ้ยนั่นไม่ใช่คน ออกห่างได้ก็ออกห่างจะดีกว่า! ”
“พวกเราจะออกห่างอย่างไร? ” ฟู่ซื่อยิ้มขมพร้อมกล่าว “ขอเพียงเขามีเงิน ก็หนีไปจนไม่เห็นแม้แต่เงา แต่พอไม่มีเงิน ก็มาหาถึงที่ ไม่ต้องการอะไรทั้งนั้นนอกจากเงิน! ยิ่งไปกว่านั้น เขากับเซียงชุ่ยก็เป็นสามีภรรยากัน พวกเราจะหนีไปที่ไหนได้! ”
เลี่ยวซื่อ “ถ้าอย่างไร พวกเจ้าหนีไปเถิด หนีไปยิ่งไกลก็ยิ่งดี ให้ติงกุ้ยหาพวกเจ้าไม่พบ! ”
“หนีอย่างไร? ” ฟู่ซื่อส่ายหน้า “ฟ้าดินกว้างใหญ่ พวกเราสามแม่ลูกเป็นเพียงสตรีไร้ความสามารถ จะหนีไปที่ใดได้! เจ้าคิดว่าพวกเราเหมือนกับฮูหยินเซียวหรือ? นางมีความสามารถ พวกเรามีความสามารถที่จะเอาชีวิตรอดที่ไหนกัน! ”
เป็นเช่นนั้นจริง จะหนีไปที่ไหนได้!
ใต้หล้านี้ สตรีที่มีความสามารถเก่งกาจเช่นฮูหยินเซียว จะมีสักกี่คนเชียว!
เลี่ยวซื่อก็ทอดถอนใจอยู่ข้างๆ เมื่อเห็นสามคนแม่ลูกดื่มยาหมดแล้ว จึงกลับไป
เพียงแต่ นางเพิ่งไปได้ไม่นาน ประตูที่โยกจนแทบหลุดก็ถูกคนถีบจนเปิดออกอีกครั้ง ติงกุ้ยที่บนตัวเต็มไปด้วยกลิ่นสุราพุ่งพรวดเข้ามา “ยายแก่ เงิน เอาเงิน เอาเงินมา! ”
ฟู่ซื่อรู้สึกตกใจขวัญผวา เถียนเถียนตกใจจนกรีดร้องเสียงแหลม ฟู่ซื่อรีบดึงตัวเถียนเถียนมา ปิดปากนางไว้
“เจ้ามาทำไม? ในบ้านไม่มีเงินแล้ว เจ้ายังจะมาทำไมอีก? ”
“ไม่มีเงิน? หากไม่มีเงินยายแก่อย่างเจ้าจะมีเงินซื้อยามากินรึ? เอาออกมา อย่าว่าแต่เงินซื้อยา แม้แต่เงินซื้อโลงศพของเจ้าก็ต้องเอาออกมาให้ข้า หากไม่ให้ข้าจะตีเจ้าให้ตาย! ”
“เจ้าตีข้าให้ตายเถิด ตีให้ตายข้าก็ไม่มีเงิน! ” ฟู่ซื่อตะคอกเสียงดัง
ยามนี้ติงกุ้ยดื่มสุราจนเมามาย ง้างหมัดที่ราวกับก้อนหินขึ้น ปล่อยหมัดลงไปอย่างรุนแรง “ยายแก่บ้า เจ้าคิดว่าข้าไม่กล้ารึ! ”
หลังจากเขาดื่มสุราจนเมา เห็นใครก็จะตี ฟู่ซื่อผลักเถียนเถียนออกไป รอคอยให้ติงกุ้ยตีอย่างรุนแรง
ขอเพียงเขาตีจนได้ระบายอารมณ์แล้ว ก็จะไม่ตีเซียงชุ่ย ไม่ตีเถียนเถียนอีก
ติงกุ้ยจับฟู่ซื่อมาตีอยู่หลายครั้ง เถียนเถียนตกใจจนร้องไห้เสียงดัง วิ่งเข้าไปดึงติงกุ้ย ตะโกนด้วยท่าทางน่าสงสาร “ท่านพ่อ ท่านอย่าตีท่านยาย อย่าตีท่านยาย ท่านพ่อ…”
“เพี๊ยะ! ” ติงกุ้ยถูกดึง จึงเหวี่ยงฝ่ามือตบใส่เถียนเถียนจนล้มลงไปใต้เตียงเตา เกิดเสียงดัง “ตึง” เป็นเสียงทุ้มที่เกิดขึ้นจากท้ายทอยกระแทกใส่พื้น
“เถียนเถียน! ”
“เถียนเถียน! ”
สองแม่ลูกแผดเสียงตะโกนราวคนเสียสติ คลานลงจากเตียงเตา มาดูเถียนเถียนที่อยู่บนพื้น
เถียนเถียนร้องไห้เสียงดัง ร้องไห้แทบขาดใจ
“หน็อย น่ารำคาญ ตายหรือยัง ยังไม่ตายก็ไปร้องไกลๆ ยายแก่บ้า เจ้าเอาเงินมาให้ข้าเร็ว! ” ติงกุ้ยไม่สนใจว่าบุตรสาวแท้ๆ ของตัวเองจะเป็นหรือตาย บัดนี้ในสายตาเขา มีเพียงเงิน เงิน เงิน!
“ติงกุ้ย เจ้ายังเป็นคนอยู่หรือไม่ นางเป็นลูกสาวแท้ๆ ของเจ้านะ เหตุใดเจ้าไม่ตายๆ ไปเสีย เจ้าคนสารเลว! ” ฟู่ซื่อวางเถียนเถียนลง พุ่งเข้าไปสู้ตายกับติงกุ้ย “ข้าขอสู้ตายกับเจ้า! ”
ฟู่ซื่อถูกติงกุ้ยตีจนได้รับบาดเจ็บที่เอว อายุก็มากแล้ว จะเป็นคู่ต่อสู้ของติงกุ้ยที่เมาสุราได้อย่างไร เพียงไม่นาน ฟู่ซื่อก็ถูกติงกุ้ยจับกดลงไปบนพื้น มือข้างหนึ่งกระชากเส้นผมสีเทาขาวของฟู่ซื่อไว้ ส่วนอีกข้างหนึ่งกดศีรษะนางไปบนพื้น จับกระแทกพื้นไม่หยุด “ยายแก่บ้า เจ้ากล้าตีข้ารึ ข้าจะตีเจ้าให้ตาย ตีให้ตาย! ”
“ตึง ตึง ตึง…” ครั้งแล้วครั้งเล่า ฟู่ซื่อร่ำไห้อย่างหนักราวคนเสียสติ ติงกุ้ยโหดเหี้ยมน่าสะพรึง ห้องนี้เปรียบเสมือนนรกบนดิน
คนที่โหดเหี้ยมคลุ้มคลั่ง ก็คือวิญญาณร้ายที่มาจากขุมนรก