ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต - เล่มที่ 15 บทที่ 487 คิดจะมาขนข้าวของไปอย่างง่ายดาย
- Home
- ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต
- เล่มที่ 15 บทที่ 487 คิดจะมาขนข้าวของไปอย่างง่ายดาย
บทที่ 487 คิดจะมาขนข้าวของไปอย่างง่ายดาย
เมื่อคิดได้ว่าเซี่ยยวี่หลัวมีชีวิตที่ดีขึ้น ถึงขั้นปลูกเรือนหลังใหม่ น้ำชาต้องเป็นของดีแน่นอน แต่เมื่อหลู่เจินพบว่าเบื้องหน้าตัวเองมีเพียงถ้วยเก่าที่มีรอยแตก อีกทั้งภายในถ้วยยังเป็นเพียงน้ำเย็น ก็ถึงกับผงะไป “เจ้าให้พวกเราดื่มสิ่งนี้หรือ? ”
ยังไม่ต้องพูดถึงน้ำเย็น ถ้วยนี่เต็มไปด้วยรอยแตก หากไม่ระวัง ดื่มโดนรอยแตก ก็น่ากังวลว่าจะบาดปากเข้าหรือไม่
เซี่ยยวี่หลัวนั่งลง ก่อนพยักหน้า “ใช่แล้ว บ้านข้ามีเพียงสิ่งนี้! ”
หลู่เจินกัดริมฝีปาก ไม่อยากดื่ม แต่ก็ไม่มีทางเลือกอื่น ได้แต่ยกขึ้นมาดื่มอย่างระมัดระวัง รู้แต่แรกตอนเพิ่งเข้ามาในหมู่บ้านก็น่าจะดื่มน้ำในแม่น้ำสักสองคำ อย่างไรเสียก็เหมือนกัน ทั้งยังไม่บาดปากด้วย
เซี่ยเมี่ยวก็รับไปดื่มสองคำ ก่อนโยนไปข้างๆ ด้วยท่าทางรังเกียจ
เซี่ยยวี่หลัวรีบเก็บถ้วยที่พลิกคว่ำขึ้นมาอย่างระมัดระวัง พร้อมกล่าวด้วยความปวดใจ “นี่เป็นถ้วยที่ดีที่สุดในบ้านข้า หากโยนจนแตก ตอนเที่ยงคงต้องกินข้าวโดยใส่ไว้ในมือแทนแล้ว”
เซี่ยเมี่ยว “…”
หลู่เจิน “…”
แม่เจ้า นี่พูดจริงหรือพูดเล่น?
เซี่ยเมี่ยวเพียงคิดว่านางแสร้งทำเป็นยากจน “ท่านคิดจะหลอกใครกัน บ้านท่านปลูกเรือนหลังคากระเบื้องสองห้องใหญ่ถึงเพียงนั้น ท่านจะไม่มีเงินหรือ? ”
เซี่ยยวี่หลัวกล่าวด้วยท่าทีจริงจัง “เฮ้อ ก็เพราะปลูกเรือนจนใช้เงินในบ้านไปหมดแล้ว ทั้งยังติดค้างเงินอีกส่วนหนึ่ง ขอเพียงในบ้านมีเงินเหลืออยู่บ้าง คงไม่ถึงขั้นไม่มีแม้แต่เงินจะซื้อถ้วยหนึ่งใบ”
หลู่เจินกระตุกมุมปากทีหนึ่ง นางไม่เชื่อ!
ใช่สิ ไม่มีเงินซื้อถ้วย แต่กลับมีเงินซื้อผ้าฝ้ายละเอียด
หลู่เจินเพ่งมองเสื้อผ้าที่เซี่ยยวี่หลัวสวมใส่อย่างพินิจ นั่นไม่ใช่เนื้อผ้าที่คนทั่วไปจะใส่ได้
หลู่เจินมีความเชื่อมั่นเป็นอย่างมาก ขอเพียงในบ้านเซี่ยยวี่หลัวมีเงินสักหนึ่งตำลึง นางเชื่อว่าตัวเองสามารถทำให้นางมอบเงินให้ครึ่งตำลึงได้
ใครใช้ให้เซี่ยยวี่หลัวเป็นคนรักศักดิ์ศรีจนต้องทนลำบากเองเล่า!
“ยวี่หลัว ตอนนี้เจ้าสุขสบายดีหรือไม่? ” หลู่เจินทำท่าทางราวกับเป็นมารดาผู้มีเมตตา จับมือเซี่ยยวี่หลัวไว้ พร้อมเอ่ยถามด้วยความห่วงใย
มือของเซี่ยยวี่หลัวถูกนางกุมไว้ในมือ นางรู้สึกรังเกียจการเกาะกุมจากผู้อื่น จึงคิดจะชักมือกลับ แต่หลู่เจินบีบมือนางไว้แน่นมาก เซี่ยยวี่หลัวแย้มรอยยิ้ม ก่อนพลิกฝ่ามือจับมือของหลู่เจินไว้ “ถือว่าพอไหว”
พอไหว?
พอไหวหมายความว่าอย่างไร?
“พอไหวก็ดี ขอเพียงเจ้ามีชีวิตที่ดี ข้ากับบิดาของเจ้าก็วางใจแล้ว” หลู่เจินทำท่าทางราวกับเป็นมารดาผู้มีเมตตา หากไม่ใช่เพราะเซี่ยยวี่หลัวรู้ว่ามารดาที่แท้จริงของเจ้าของร่างเดิมจากโลกนี้ไปตั้งแต่ตอนนางยังเด็กมาก หลู่เจินที่มีท่าทางทั้งห่วงใยและเอาใจใส่เช่นนี้ นางคงเข้าใจผิดคิดว่าหลู่เจินผู้นี้เป็นมารดาที่แท้จริงของตัวเองเป็นแน่
พอไหวเช่นนั้นหรือ? แล้วพอไหวอย่างไรเล่า?
หลู่เจินไม่ได้อยากรู้แค่ว่าพอไหว นางอยากรู้ว่า เจ้ามีชีวิตเป็นอย่างไรกันแน่!
เซี่ยยวี่หลัวจะไม่รู้ความคิดของหลู่เจินและเซี่ยเมี่ยวได้อย่างไร
ถึงแม้นางจะจำไม่ค่อยได้ว่าสองคนนี้ปฏิบัติต่อเจ้าของร่างเดิมอย่างไร แต่แววตาของทั้งสองคนที่ฉายประกายมาดร้ายและละโมบ นางไม่มีทางดูผิดแน่
ในช่วงหลังของนิยาย มีการเอ่ยถึงชื่อของสองคนนี้
เซี่ยเมี่ยว หลู่เจิน บิดาที่ได้มาโดยไม่เสียอะไรผู้มีนามว่า เซี่ยจู่ฟา และเซี่ยคุน ในช่วงหลังของนิยาย ภายใต้การช่วยเหลือจากนางเอก พวกเขาได้ใช้ชีวิตอย่างมีเกียรติและร่ำรวย
พวกเขาและนางเอกอยู่ฝั่งเดียวกัน เป็นพวกเดียวกัน ไม่ใช่พวกเดียวกับนางที่เป็นตัวร้าย!
“บิดาของเจ้ามักจะบอกว่า เด็กในบ้านมีเจ้าคนเดียวที่อยู่ข้างนอก เมี่ยวเมี่ยวและคุนคุนมีข้าและบิดาของเจ้าคอยดูแล ไม่ต้องเป็นห่วง ทว่าเจ้านั้นต่างกัน แต่งมาอยู่ที่นี่ ต้องเป็นทั้งพี่สะใภ้ใหญ่ เป็นทั้งมารดา เจ้าคงลำบากมากกระมัง? ” หลู่เจินเอ่ยถามด้วยความเห็นใจ
“จริงด้วย จริงด้วย พี่หญิงใหญ่ ทั้งที่ท่านสามารถแต่งเข้าตระกูลใหญ่ไปเป็นนายหญิงได้ คิดไม่ถึงว่าชะตาจะกลั่นแกล้งเช่นนี้! ” เซี่ยเมี่ยวก็กล่าวด้วยความเสียดาย
เซี่ยยวี่หลัวได้ฟังวาจานี้ ก็รู้สึกถึงความผิดปกติ
นางเหลือบมองเซี่ยเมี่ยวที่ยืนอยู่ใกล้ตัวเองที่สุด
ในแววตาเซี่ยเมี่ยวเต็มไปด้วยความรู้สึกเสียดายและสงสาร ราวกับว่าหากนางแต่งมาที่นี่ เซี่ยเมี่ยวจะรู้อยู่แล้วว่านางต้องทนลำบากอย่างไรอย่างนั้น
เช่นนั้น เซี่ยยวี่หลัวอาละวาดอย่างหนักเพื่อจะไปจากเซียวยวี่ เป็นเพราะอะไรกันแน่? เพียงเพราะครอบครัวนี้ยากจนจริงหรือ? หรือว่าเพราะมีคนคอยยุยง ให้เซี่ยยวี่หลัวรู้สึกรังเกียจและมีจิตปรปักษ์ต่อครอบครัวนี้ จึงทำทุกวิถีทางเพื่อจะได้จากไป?
หากเป็นอย่างหลัง เช่นนั้น หลู่เจินและเซี่ยเมี่ยวที่อยู่ตรงหน้า ถือว่ามีความดีความชอบทีเดียว!
เซี่ยยวี่หลัวเพ่งมองเซี่ยเมี่ยว ตกอยู่ในอาการเลื่อนลอยไปชั่วขณะ
ดวงตาของนางสว่างสดใสเป็นพิเศษ บัดนี้เพ่งสมาธิ ประกายแสงในแววตาราวกับจะรวมกันอยู่ในจุดเดียว พุ่งเป้าไปยังจิตใจของอีกฝ่าย เซี่ยเมี่ยวถูกมองจนรู้สึกหวาดกลัว
พี่หญิงใหญ่ของนางที่เดิมทียโสโอหัง เหตุใดแววตาถึงดูดุดันเพียงนี้ ราวกับจะอ่านใจคนจนทะลุปรุโปร่งอย่างไรอย่างนั้น
หลู่เจินไม่เห็นความหวาดกลัวของเซี่ยเมี่ยว เพียงยิ้มพร้อมกล่าว “น้องสาวของเจ้าเพียงแค่เป็นห่วงเจ้า เดิมทีเจ้าสามารถแต่งกับคนที่ดีกว่านี้ได้ แต่ท่านตาของเจ้ากลับเลือกเซียวยวี่ให้เจ้า ถึงแม้จะรูปลักษณ์หน้าตาดี แต่คนผู้นี้แบกไม่ได้หามไม่ไหว อีกทั้งในบ้านยังมีน้องชายน้องสาวอายุหกขวบและแปดขวบต้องดูแล ทำให้เจ้าต้องลำบากแล้วจริงๆ! ”
ดูท่า เซี่ยเมี่ยวและหลู่เจินกำลังวิพากษ์วิจารณ์การแต่งงานของนางอยู่!
เซี่ยยวี่หลัวไม่มีทางถูกสองคนนี้จูงจมูก แต่ก็ไม่คิดจะหักหน้าตอนนี้ นางอยากรอดู ว่าจุดประสงค์ในการมาของทั้งสองคนนี้คืออะไร “ถือว่าพอไหว! ”
เปลือกตาของหลู่เจินกระตุกทีหนึ่ง
พอไหว?
นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่นางได้ยินคำนี้
พอไหว?
อะไรคือพอไหว?
ในอดีต ขอเพียงเซี่ยยวี่หลัวได้ยินนางกล่าวเช่นนี้ ก็จะร่ำไห้โวยวาย ตำหนิท่านตาของนางว่าดวงตาถูกนกจิกกินไปแล้ว เหตุใดวันนี้ถึงดูสงบเพียงนี้!
หลู่เจินแอบสูดลมหายใจเข้าลึกสองที นี่ไม่ใช่เป้าหมายสำคัญที่นางมาในวันนี้ อย่ากลัดกลุ้มใจด้วยเรื่องนี้เลย!
เป็นเวลากว่าครึ่งปีแล้ว ที่เซี่ยยวี่หลัวไม่ได้กลับบ้าน และไม่ได้ให้คนส่งของอะไรกลับไป เทศกาลไหว้บ๊ะจ่างไม่มี เทศกาลไหว้พระจันทร์ก็ไม่มี ตอนแรกคนตระกูลเซี่ยคิดจะปล่อยเซี่ยยวี่หลัวไป แต่ไม่นานเวลาก็ใกล้จะผ่านไปหนึ่งปีแล้ว นางก็ยังไม่กลับไป คนบ้านตระกูลเซี่ยจึงไม่อาจรอต่อไปได้อีก
หากปล่อยให้ผ่านไปอีกหนึ่งเทศกาล ก็เท่ากับไม่ได้ของอะไรจากตระกูลเซียวมาหนึ่งปีแล้ว!
ดังนั้น หลู่เจินที่ไม่อาจทนรอต่อไปได้ จึงมาหาเซี่ยยวี่หลัว และคิดจะนำข้าวของจากเทศกาลไหว้บ๊ะจ่างและเทศกาลไหว้พระจันทร์ที่เซี่ยยวี่หลัวไม่ได้มอบให้กลับไปด้วย เพื่อขนของกลับไป หลู่เจินถึงกับว่าจ้างรถม้าไว้คันหนึ่งโดยเฉพาะ ด้วยเกรงว่านางจะขนของจากที่นี่ไปมากเกินไป ถึงเวลาสตรีสองคนจะไม่อาจแบกหามกลับไปได้!
ตามวาจาที่สองแม่ลูกนี้กล่าวไว้ตั้งแต่ตอนเพิ่งมาถึง เริ่มจากสนทนาเรื่องความสัมพันธ์พี่น้องกับเซี่ยเมี่ยว!
 
                                         
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
         
                                     
                                     
                                     
                                     
		 
		 
		 
		