ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต - เล่มที่ 15 บทที่ 489 เจ้าเป็นสุนัขท้องถิ่นจีน
- Home
- ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต
- เล่มที่ 15 บทที่ 489 เจ้าเป็นสุนัขท้องถิ่นจีน
บทที่ 489 เจ้าเป็นสุนัขท้องถิ่นจีน
หลู่เจินพ่ายแพ้ให้กับเซี่ยยวี่หลัวถึงสามครั้งติดต่อกัน นางพูดเข้าประเด็นเรื่องเงินอยู่หลายหน แต่เซี่ยยวี่หลัวไม่ยอมตอบบทสนทนา
“พี่หญิงใหญ่ ข้าจำได้ว่าเมื่อก่อน หากข้าอยากกินของอร่อย ก็จะมาหาท่าน ท่านมักจะนำอาหารอร่อยของท่านมาให้ข้า ทั้งยังให้เงินข้า ให้ท่านพ่อท่านแม่ซื้อเนื้อหมูให้ข้ากิน! ”
อ๋อ นี่กำลังขอเงินนางโดยตรงเลยงั้นหรือ!
เซี่ยยวี่หลัวถอนหายใจทีหนึ่ง “ข้ายังติดค้างเงินผู้อื่นอยู่สิบกว่าตำลึง พวกเจ้าไม่ได้กินเนื้อหมูมาหนึ่งเดือน ทว่าพวกเราไม่ได้กินเนื้อหมูมาสองเดือนแล้ว! เนื้อหมูมีรสชาติเป็นอย่างไร ก็จำไม่ได้แล้ว! ”
เซี่ยเมี่ยว “…”
หลู่เจิน “…”
วาจาประโยคหนึ่งติดอยู่ในลำคอ ไม่กล่าวออกมาก็รู้สึกอึดอัดอย่างแท้จริง
ตอนนั้นให้เจ้าแต่งกับพ่อหม้ายตระกูลใหญ่ คงได้กินดีอยู่ดี ใครให้เจ้าแต่งกับเซียวยวี่ มีชีวิตไม่ดีก็สมควรแล้ว!
ในใจคิดเช่นนี้ ทว่าหลู่เจินไม่มีทางกล่าวออกมา นางหัวเราะขึ้นแผ่วเบา “ยวี่หลัว เจ้าไม่ได้กลับบ้านนานแล้วกระมัง? เพื่อนบ้านที่อยู่บ้านใกล้เรือนเคียงต่างก็บอกว่า เมื่อยวี่หลัวออกเรือนไป ก็เป็นประหนึ่งน้ำที่สาดออกไปแล้ว ไม่กลับมาด้วยซ้ำ! ถึงแม้ที่บ้านจะมีบิดาสูงวัย ก็ไม่กลับมาเยี่ยมเยือน ถ้าอย่างไร เมื่อใดที่เจ้ามีเวลาว่าง ก็กลับบ้านไปเยี่ยมบิดาของเจ้าบ้างดีหรือไม่? บิดาของเจ้าคิดถึงเจ้ามากทีเดียว! ”
เซี่ยยวี่หลัวพยักหน้า “ได้สิ! หากมีโอกาส ข้าจะกลับไป! ”
ทางที่ดีชั่วชีวิตนี้อย่าได้มีโอกาสเลย บิดาที่ได้มาโดยไม่เสียอะไรนั่นคิดถึงนางหรือ?
ฮะฮะ เกรงว่าคงไม่ได้คิดถึงนาง แต่คิดถึงเงินของนางมากกว่ากระมัง!
“พี่หญิงใหญ่ ท่านต้องกลับบ้านไปเยี่ยมท่านพ่อบ้าง ท่านไม่รู้กระมังว่า คนจำนวนหนึ่งในหมู่บ้านพูดจาไม่น่าฟังเพียงใด ที่ท่านแม่บอกมายังถือว่าไม่แย่เท่าใดนัก! ” จู่ๆ เซี่ยเมี่ยวก็ขยับไปข้างหูเซี่ยยวี่หลัว ก่อนกระซิบเสียงเบา
เซี่ยยวี่หลัวไหวคิ้ว “หืม พวกเขาว่าเช่นไรหรือ? ”
“เฮ้อ ไม่น่าฟังเป็นอย่างมาก เพราะเรื่องนี้ คุนคุนถึงกับเคยมีเรื่องลงไม้ลงมือกับพวกเขาด้วย! ” อย่างไรเสียเซี่ยยวี่หลัวก็ไม่เห็น เซี่ยเมี่ยวอยากกล่าวอะไรก็ย่อมกล่าวได้ “พวกเขาบอกว่า ท่านพ่อกับท่านแม่เลี้ยงดูท่านมานานหลายปี แต่พอท่านออกเรือนไป ก็ไม่กลับมาอีก พวกเขาบอกว่า ว่าท่านเป็น…”
เซี่ยเมี่ยวเกรงใจไม่กล้ากล่าวต่อ
เซี่ยยวี่หลัวเอ่ยถามขึ้นอีกครั้ง “หืม พวกเขาว่าข้าเป็นอะไรหรือ? ”
เซี่ยเมี่ยวรวบรวมความกล้า ในที่สุดก็กล่าวออกมา “พวกเขาบอกว่าท่านเป็นหมาป่าเนรคุณ เป็นหมาป่าที่เลี้ยงไม่เชื่อง”
“เมี่ยวเมี่ยว เจ้าว่าพี่สาวของเจ้าเช่นนี้ได้อย่างไร! ” หลู่เจินส่งเสียงอุทาน ก่อนกล่าวตำหนิเซี่ยเมี่ยว
เซี่ยเมี่ยวทำปากบุ้ย กล่าวด้วยท่าทางอัดอั้นใจ “ข้าไม่ใช่คนพูดเสียหน่อย! คนในหมู่บ้านต่างหากที่พูด! ”
หลู่เจินทอดถอนใจ ก่อนปลอบโยนเซี่ยยวี่หลัว “ยวี่หลัว เจ้าอย่าได้โมโห เมี่ยวเมี่ยวคอยแก้ต่างแทนเจ้าตลอด เจ้าก็รู้ ภายในหมู่บ้านมีคนมากมายชอบพูดจาซุบซิบนินทา พวกเขาจะรู้ได้อย่างไรว่าเจ้าอยู่ข้างนอกต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก เพียงเห็นว่าเจ้าไม่ได้กลับไปเยี่ยมเยือนบิดามารดา เห็นว่าเจ้าไม่ได้กลับไปนานปี จึงกล่าววาจาไม่น่าฟังสักหนึ่งหรือสองประโยค เจ้าอย่าได้เก็บไปใส่ใจเชียว! ”
หลู่เจินเพ่งมองเซี่ยยวี่หลัวโดยละเอียด
ในยามปกติ เซี่ยยวี่หลัวต้องตบโต๊ะลุกขึ้นแล้ว
นางเป็นคนหยิ่งยโส เมื่อได้ฟังวาจาว่าร้าย ก็จะก่นด่าทันที ด่าไปด่ามาก็ไม่ได้มีคำใหม่อะไร แต่หากเริ่มว้าวุ่น แค่พูดจาป้อยอสักสองประโยค ประจบประแจงอีกเล็กน้อย ก็ทำให้หายได้แล้ว
แต่เซี่ยยวี่หลัวในยามนี้ ใบหน้าของนางไม่แสดงสีหน้าโมโหแม้แต่น้อย นางหัวเราะก่อนกล่าว “ไม่เป็นอะไร ข้าไม่ได้รู้สึกเสียใจ”
หลู่เจิน “…” วาจามากมายที่นางเตรียมจะปลอบโยนเซี่ยยวี่หลัว ถูกสกัดไว้ทั้งอย่างนั้น!
เซี่ยเมี่ยวพูดโพล่งออกมา “พี่หญิงใหญ่ พวกเขาว่าท่านเป็นหมาป่าเนรคุณ ท่านไม่โมโหสักนิดเชียวหรือ? คงไม่ใช่ว่าท่านไม่รู้ว่าหมาป่าเนรคุณหมายถึงอะไรกระมัง? ” ไม่รอให้เซี่ยยวี่หลัวกล่าวตอบ ก็ได้ยินเซี่ยเมี่ยวเริ่มอธิบาย “ความหมายของหมาป่าเนรคุณก็คือ ท่านลืมคุณคน ไม่สนใจบิดามารดา ตัวเองใช้ชีวิตสุขสบาย ไม่สนใจใยดีความเป็นตายของคนที่อยู่บ้านเดิมแม้แต่น้อย”
เซี่ยยวี่หลัวหันมองเซี่ยเมี่ยว เดิมทีเซี่ยเมี่ยวยังมีวาจาหยาบคายอีกมากมาย คิดจะกล่าวให้เซี่ยยวี่หลัวฟังโดยเฉพาะ แต่เมื่อหันมองเซี่ยยวี่หลัว กลับเห็นนางมองมาด้วยใบหน้าอมยิ้ม แววตาเต็มไปด้วยประกายยิ้มแย้ม ทว่ารอยยิ้มนั่น เมื่อเห็นแล้วกลับทำให้รู้สึกกระสับกระส่าย!
ไม่รู้ว่านางคิดไปเองหรือไม่ ตั้งแต่ปีใหม่จนถึงบัดนี้ ไม่ได้พบหน้ากันเกือบจะเก้าเดือนแล้ว เซี่ยเมี่ยวรู้สึกว่า พี่หญิงใหญ่ผู้นี้ ราวกับกลายเป็นคนแปลกหน้าไป
แววตาคมกริบนั่น นางไม่กล้ามองเป็นหนที่สอง แค่เห็นก็รู้สึกหวาดกลัวแล้ว
เซี่ยยวี่หลัวกอดอก ก่อนแย้มรอยยิ้ม “มังกรย่อมให้กำเนิดมังกร หงส์ย่อมให้กำเนิดหงส์ บุตรที่เกิดจากหนูนั้นขุดรูเป็น ถึงข้าเป็นหมาป่าเนรคุณ แต่ข้าก็เป็นหมาป่าเนรคุณซึ่งเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของท่านพ่อไม่ใช่หรือ? ”
บิดาของนางก็เป็นหมาป่าเนรคุณ
ในนิยาย มารดาของเจ้าของร่างเดิมสิ้นใจยังไม่ถึงหนึ่งปี บิดาของนางก็แต่งภรรยาใหม่ ผ่านไปไม่กี่เดือนก็คลอดเซี่ยเมี่ยว ดูท่า กระดูกของมารดายังไม่เย็นชืด บิดาผู้นั้นก็มีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับหลู่เจินแล้ว ทั้งสองคนยังไม่ทันเข้าพิธีมงคลก็มีสัมพันธ์จนตั้งครรภ์ ถึงได้มีเซี่ยเมี่ยว
ไม่ใช่คนดีเลยแม้แต่น้อย!
หลู่เจินแทบจะอุทานออกมา เซี่ยยวี่หลัวกำลังด่าบิดาของนางเอง
แต่นางกลับไม่อาจโต้แย้งได้แม้แต่คำเดียว
เซี่ยยวี่หลัวเป็นหมาป่าเนรคุณ นางเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของบิดา ซึ่งเป็นหมาป่าเนรคุณเช่นกัน ไม่ผิดนี่นา!
หลู่เจินโมโหแทบตาย ทว่าเซี่ยยวี่หลัวกลับไหวคิ้ว รู้สึกอารมณ์ดีเป็นพิเศษ “เมี่ยวเมี่ยว พวกเราล้วนแต่เป็นหมาป่าเนรคุณ! ”
“…” คราวนี้แทบอยากกระอักเลือด!
เซี่ยเมี่ยวได้ฟังดังนั้น ก็รีบโต้แย้ง “ข้าไม่ใช่หมาป่าเนรคุณ! ”
“ข้าเป็นหมาป่าเนรคุณ ท่านพ่อเป็นหมาป่าเนรคุณ เจ้าไม่ใช่หมาป่าเนรคุณ หรือว่าเจ้าเป็นสุนัขท้องถิ่นจีน? ” เซี่ยยวี่หลัวหัวเราะร่า
“สุนัขท้องถิ่นจีน? ” เซี่ยเมี่ยวไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน ถึงกับผงะไป “สุนัขท้องถิ่นจีนคืออะไร? ”
เซี่ยยวี่หลัวยังไม่ทันกล่าวตอบ ก็มีเสียงสุนัขเห่าดังขึ้นจากตำแหน่งที่ไม่ไกลนัก เซี่ยยวี่หลัวหัวเราะพร้อมกล่าว “ฟังดูสิ พวกพ้องของเจ้ากำลังเรียกเจ้าไม่ใช่หรือ? ”
เซี่ยเมี่ยวเข้าใจในทันที ทำสีหน้าถมึงทึง “เซี่ยยวี่หลัว! ” เมื่อครู่ยังเอ่ยเรียกพี่หญิงใหญ่ เรียกพี่สาวอย่างอ่อนหวาน เพิ่งผ่านไปเพียงครู่เดียว ก็เปลี่ยนท่าทีเสียแล้ว
คราวนี้หลู่เจินก็โมโหแล้วเช่นกัน “เซี่ยยวี่หลัว เจ้าคิดจะทำอะไร? ข้ามาเยี่ยมเจ้าด้วยความหวังดี เจ้ายังจะด่าเมี่ยวเมี่ยวว่าเป็นสุนัขงั้นหรือ เจ้าเป็นพี่สาวประสาอะไรกัน? ”
“เมื่อครู่ข้าบอกว่าน้องสาวเป็นหมาป่าเนรคุณ แต่นางบอกเองว่านางไม่ใช่! ท่านวางใจได้ หมาป่ากับสุนัขล้วนเป็นตระกูลเดียวกัน เป็นประเภทเดียวกัน! พวกเราล้วนเป็นครอบครัวเดียวกัน! ” เซี่ยยวี่หลัวอธิบายเรื่องการจัดประเภทของหมาป่ากับสุนัขให้หลู่เจินและเซี่ยเมี่ยวฟังด้วยท่าทีจริงจัง
หลู่เจินรู้สึกตาลาย แทบจะหมดสติไป
แม่เจ้า มิสู้บอกว่าเป็นหมาป่าเนรคุณ อย่างน้อยก็ฟังดูดีกว่าเป็นสุนัขกระมัง!
เมื่อเห็นว่าหลู่เจินและเซี่ยเมี่ยวไม่อาจเถียงได้ เซี่ยยวี่หลัวรู้สึกสาแก่ใจนัก
ในนิยาย ภายใต้การจัดการของนางเอก หลู่เจินและเซี่ยเมี่ยวมีชีวิตอยู่อย่างมีเกียรติ!
เสพสุขทั้งลาภยศและเงินทอง มีเกียรติเสียยิ่งกว่าอะไร
ตัวร้ายทุกคนที่เป็นศัตรูกับนางเอก สุดท้ายล้วนมีจุดจบต้องตายอย่างอนาถ แต่หากเป็นคนที่อยู่ฝั่งเดียวกับนางเอกเล่า?
ขออภัยด้วย อีกฝ่ายมีนางเอกคอยคุ้มหัว คิดอยากได้สิ่งใดก็ได้สิ่งนั้น!
ใครให้นางเอกมีความสามารถเหนือคนทั่วไปเล่า!