ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต - เล่มที่ 15 บทที่ 493 ซ่งฉางชิงอยากสังหารคน
- Home
- ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต
- เล่มที่ 15 บทที่ 493 ซ่งฉางชิงอยากสังหารคน
บทที่ 493 ซ่งฉางชิงอยากสังหารคน
“เหลวไหลทั้งเพ! ” แววตาซ่งฉางชิงฉายประกายร้อนตัวเล็กน้อย แต่เขาเป็นผู้ใดกัน จะปล่อยให้หญิงชาวบ้านชนบทคนหนึ่งอ่านใจเขาได้อย่างทะลุปรุโปร่งได้อย่างไร “ฮูเหยินเซียวออกเรือนแต่งงานแล้ว อีกทั้งมารดาของเจ้ายังทำงานให้นาง ฮูหยินเซียวดีต่อมารดาของเจ้า แต่เจ้ากลับว่าร้ายนางเช่นนี้ ยังคิดจะให้ข้าช่วยอีกรึ? ”
เซียงชุ่ยฝืนทนต่อความรู้สึกหวาดกลัวแล้วกล่าวออกไป “จริงหรือ? เช่นนั้นเหตุใดแววตาที่ท่านซ่งมองนาง ถึงต่างจากผู้อื่น วาจาและการกระทำของคนคนหนึ่งอาจเสแสร้งได้ แต่แววตานั้น เสแสร้งไม่ได้! ท่านซ่ง ท่านชอบเซี่ยยวี่หลัวใช่หรือไม่? ”
“เพล้ง…” ถ้วยชาถูกปาออกไป ตกแตกอยู่ตรงหน้าเซียงชุ่ย ถึงแม้บนพื้นจะมีพรมชั้นหนา แต่เพราะคนที่ปามันออกแรงมากเกินไป ถ้วยชาถึงแตกละเอียด “เจ้าสะกดรอยตามข้ารึ? เจ้าเชื่อหรือไม่ว่าข้าจะฆ่าเจ้าเสีย! ”
“ได้ตายด้วยน้ำมือท่านซ่ง อย่างน้อยก็ดีกว่าตายด้วยน้ำมือสามีที่เปรียบเสมือนภูตผีวิญญาณร้าย! ” เซียงชุ่ยไม่หวั่นเกรง แม้แต่ความตายนางยังไม่เกรงกลัว แล้วจะเกรงกลัวต่อซ่งฉางชิงได้อย่างไร!
ครั้งนี้ เป็นโอกาสที่ดีที่สุดของนาง ขอเพียงซ่งฉางชิงสามารถส่งนางไปได้ นางก็สามารถหนีเอาตัวรอด พามารดาและเถียนเถียนไปจากที่นี่ ไม่ต้องทนทุกข์โดนวิญญาณร้ายตนนั้นทรมานอีก
“เจ้าบอกมา นางอยู่ที่ไหน? ” ซ่งฉางชิงไม่มองเซียงชุ่ยอีก เพียงเอ่ยถามเท่านั้น
เซียงชุ่ยรู้สึกยินดีอยู่ในใจ “ท่านซ่งยอมตอบตกลงแล้วเช่นนั้นหรือ? ” นางรู้สึกทั้งตกตะลึงและยินดีเป็นอย่างยิ่ง “ข้าจะบอกท่านซ่ง รบกวนท่านซ่งส่งพวกเราไปเดี๋ยวนี้ด้วย! ”
“อย่างน้อยข้าก็ต้องหานางพบก่อน ถึงจะส่งพวกเจ้าไปได้! ”
“ต้องหาพบแน่นอน สถานที่กบดานของติงกุ้ยและหม่าหมิงคือบ้านของหม่าหมิง บ้านเขาอยู่ในสถานที่ที่หาได้ง่ายมาก! ข้าจะพาพวกท่านไปเดี๋ยวนี้! ” เซียงชุ่ยลุกขึ้นโดยฝืนทนความเจ็บปวดรุนแรงไว้ “ขอให้ท่านซ่งพาคนไปรับบุตรสาวและมารดาของข้า ส่งพวกเราออกจากตัวเมืองทันทีด้วย! ”
ซ่งฉางชิงกำหมัดทั้งคู่ไว้แน่น
หากหาตัวนางพบ เขาจะซ้อมเจ้าสารเลวที่สมควรตายสองคนนั้นให้ร่างแหลกเป็นดินโคลนแน่
พวกเขานั่งรถม้า ไม่นานก็ถึงบ้านของหม่าหมิง
ตอนหม่าหมิงเปิดประตู ยังกล่าววาจาหยอกล้อ “อัยโย่ มาแล้วหรือ? ข้าเพิ่งส่งจดหมาย…”
ทว่า เสียงพลันหยุดชะงัก มือของซ่งฉางชิงบีบเข้าที่ลำคอของหม่าหมิง ออกแรงเหวี่ยงเขาลงบนพื้น หม่าหมิงล้มลง ก่อนที่ซ่งฉางชิงจะใช้มือทั้งคู่บีบคอหม่าหมิงไว้ แววตาของเขากระหายเลือด ประหนึ่งภูตผีวิญญาณร้ายจากแดนยมโลกที่กระหายอยากกินมนุษย์อย่างไรอย่างนั้น “คนเล่า? คนอยู่ที่ไหน? ”
หม่าหมิงใช้มือทั้งคู่จับซ่งฉางชิงไว้ พยายามข่วนไปทั่ว “ยัง ยังไม่มา! ”
นี่เป็นครั้งแรกที่ซ่งฝูเห็นคุณชายมีท่าทางคลุ้มคลั่งกระหายเลือดเช่นนี้ เส้นเลือดบนหลังมือของเขาปูดนูน เส้นเลือดดำเส้นแล้วเส้นเล่าราวกับจะทะลุออกมาจากชั้นผิวหนังอย่างไรอย่างนั้น คุณชายโมโหแล้ว คุณชายโมโหเป็นอย่างมาก โมโหจนคิดอยากสังหารคน!
หม่าหมิงถูกบีบคอจนตาเหลือก เตะขาทั้งคู่ไปทั่ว ใบหน้ากลายเป็นสีม่วงก่ำ หากปล่อยไว้เช่นนี้ หม่าหมิงต้องโดนคุณชายบีบคอจนตายเป็นแน่!
ซ่งฝูรีบเดินเข้าไปจับมือซ่งฉางชิงไว้ พร้อมกล่าวด้วยความร้อนใจ “คุณชาย ท่านปล่อยมือเถิดขอรับ ท่านอาจบีบคอเขาจนตายได้นะขอรับ! ”
บีบคอจนตายหรือ?
ซ่งฉางชิงแค้นจนแทบอยากบีบคอเขาให้ตายเสียตอนนี้เลย!
กล้าบังอาจลงมือกับนาง!
“คุณชาย ท่านปล่อยมือเถิดขอรับ จะให้มือของท่านแปดเปื้อนเพราะคนเช่นนี้ ไม่คุ้มขอรับ! ” ซ่งฝูเกรงว่าหากคุณชายออกแรงเพิ่มขึ้น ลำคอของคนผู้นี้อาจหักได้ จึงรีบเข้าไปดึงแขนซ่งฉางชิง พยายามดึงสุดแรง จนสามารถดึงมือของคุณชายกลับมาได้ ทว่าหม่าหมิงก็เหลือเพียงลมหายใจแผ่วเบาแล้ว!
ซ่งฝูลองสัมผัสลมหายใจของหม่าหมิง ยังมีลม ยังไม่ตาย!
เขาผ่อนลมหายใจยาวด้วยความโล่งอก แต่เสี้ยววินาทีต่อไปก็รู้สึกไม่ดีทันที
เพื่อฮูหยินเซียว คุณชายถึงกับคิดจะฆ่าคน!
“บอกมา คนเล่า? คนอยู่ที่ไหน? ” ซ่งฉางชิงดึงคอเสื้อของหม่าหมิง พร้อมเอ่ยถามอย่างดุดัน
หม่าหมิงหายใจหอบ “ยัง ยังไม่มา พวก พวกเราจับตัวนางที่หมู่บ้านสกุลเซียว ข้า… ข้ามาส่งข่าวก่อน ติง ติงกุ้ยจะจับนางตามมาทีหลัง”
จู่ๆ ซ่งฉางชิงก็หันขวับมองไปทางเซียงชุ่ย แววตาเหี้ยมเกรียมนั่นประหนึ่งภูตผีวิญญาณร้ายที่กระหายเลือดก็มิปาน เซียงชุ่ยรู้สึกตื่นตกใจ “บาง บางทีพวกเขาอาจอยู่ระหว่างทาง”
จู่ๆ ซ่งฉางชิงก็ออกแรงโยนหม่าหมิงออกไป ล้มกระแทกลงบนพื้นอย่างรุนแรง เมื่อครู่นี้หม่าหมิงเกือบโดนบีบคอจนตาย คราวนี้ก็กระแทกบนพื้นอีก รู้สึกจุกอย่างรุนแรง ซ่งฉางชิงเดินออกไปข้างนอกอย่างรวดเร็ว เดินไปพลางกล่าวไปพลาง “เฝ้าเขาไว้! ”
เวลานี้เอง เซียงชุ่ยขวางซ่งฉางชิงไว้ “ท่านซ่ง คุยกันไว้แล้ว ขอเพียงข้าพาท่านมาหาคน ท่านก็จะส่งข้าไป! ท่านส่งข้าไปเดี๋ยวนี้! ”
แววตาของนางเต็มไปด้วยประกายวิตกและหวาดกลัว ราวกับกลัวว่าซ่งฉางชิงจะไม่ทำตามคำพูด
ทว่า นางกลัวที่เขาจะไม่ทำตามคำพูด หรือกลัวเรื่องอื่นกันแน่!
ซ่งฉางชิงไม่ลืมเรื่องที่เมื่อครู่นี้ตอนหม่าหมิงเห็นเซียงชุ่ย แววตาก็ฉายประกายเกรี้ยวกราดเป็นเชิงกล่าวโทษ
เซียงชุ่ยรู้ได้อย่างไรว่าติงกุ้ยและหม่าหมิงจับตัวเซี่ยยวี่หลัวไป?
นางยืนกรานว่าติงกุ้ยและหม่าหมิงจับตัวเซี่ยยวี่หลัว เรื่องบางอย่าง หากฟังความข้างเดียวจากนาง ก็ดูจะเป็นการประมาทเกินไป
“หากหาเซี่ยยวี่หลัวพบ ข้าจะส่งเจ้าไปทันที! ” ซ่งฉางชิงทิ้งประโยคนี้ไว้ด้วยท่าทางเย็นชา ก่อนสาวเท้าก้าวเดินจากไป
เซียงชุ่ยผงะไปครู่หนึ่ง ก่อนจะแผดเสียงตะคอก “ซ่งฉางชิง เจ้าคนหลอกลวง เจ้าหลอกข้า! ”
ซ่งฉางชิงไม่สนใจคำก่นด่าด้านหลังแม้แต่น้อย บัดนี้เขามีเพียงความคิดเดียว คือรีบหาตัวเซี่ยยวี่หลัวให้พบ ไม่ให้ผู้ใดทำร้ายนาง!
รถม้าวิ่งไปอย่างรวดเร็วตลอดทาง ก่อให้เกิดฝุ่นตลบระลอกแล้วระลอกเล่า ซ่งฉางชิงสอดส่ายสายตามองไปยังสองข้างทาง ไม่กล้าประมาท
จวบจนเงาร่างหนึ่งปรากฏสู่สายตา รถม้ายังไม่ทันหยุดจอด ซ่งฉางชิงก็พุ่งพรวดไปหา
คนที่นั่งอยู่ข้างทางคือบุรุษวัยกลางคนรูปร่างซูบผอม แววตามืดมัวไร้ประกายแสง แขนทั้งคู่ลู่ลงข้างตัว ดูไม่มีแรงแม้แต่น้อย
ติงกุ้ยไม่รู้จักซ่งฉางชิง เมื่อเห็นรถม้ามาทางนี้ ย่อมกล่าวทักทาย “คุณชาย รถม้าของท่านจะเข้าไปในตัวเมืองหรือ? ให้ข้าติดรถไปด้วยได้หรือไม่? ข้าจะให้เงินท่าน ให้เงินท่านจำนวนมาก! ”
เขาปวดแขนแทบตาย เดินไปสองก้าวก็ล้มหนึ่งครั้ง เมื่อล้มจนแขนกระแทก ก็รู้สึกเจ็บปวดทรมานเจียนตายอีก
ซ่งฉางชิงจ้องมองคนตรงหน้าด้วยแววตาเหี้ยมเกรียม
ตัวไม่สูงมาก หน้าซูบปากแหลม ดวงตามืดมัวไร้ประกายแสง
เขาฝืนสะกดจิตอาฆาตในใจไว้ ก่อนเอ่ยถามทีละคำ “เจ้าคือติงกุ้ยใช่หรือไม่? ”
ติงกุ้ยรู้สึกยินดียิ่ง รีบกล่าว “ใช่แล้ว ใช่แล้ว คุณชายรู้จักข้า…”
ยังกล่าวไม่จบ ลำคอก็ถูกบีบเสียแล้ว คนตรงหน้าที่เมื่อครู่นี้ยังสงบเยือกเย็น จู่ๆ ก็ราวกับแปลงกายเป็นวิญญาณร้าย บีบคอติงกุ้ยจนแทบหายใจไม่ออก