ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต - เล่มที่ 15 บทที่ 495 ขอเพียงเขาไม่ยอมรับ เช่นนั้นก็ไม่ใช่ความจริง
- Home
- ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต
- เล่มที่ 15 บทที่ 495 ขอเพียงเขาไม่ยอมรับ เช่นนั้นก็ไม่ใช่ความจริง
บทที่ 495 ขอเพียงเขาไม่ยอมรับ เช่นนั้นก็ไม่ใช่ความจริง
หม่าหมิงและติงกุ้ยที่โดนมัดอย่างแน่นหนา ถูกจับโยนเข้ามา
เซี่ยยวี่หลัวมองติงกุ้ย ก่อนหันมองเซียงชุ่ย
ติงกุ้ยแขนหักก็จริง แต่ลิ้นไม่เป็นอะไร เมื่อเห็นสภาพการณ์เช่นนี้ มีหรือจะไม่เข้าใจว่าเซียงชุ่ยทรยศหักหลังเขา “หน็อย นางสารเลว เจ้ากล้าหักหลังข้า! ต่อหน้าข้า เจ้าบอกให้ข้าจับเซี่ยยวี่หลัวไปเรียกค่าไถ่กับซ่งฉางชิง แต่ลับหลัง เจ้ากลับไปฟ้องซ่งฉางชิงเรื่องข้า! นางสารเลว เจ้าช่างใจเหี้ยมนัก! ”
ฟู่ซื่อพุ่งพรวดเข้าไป ตบหน้าเซียงชุ่ยสองฉาดทันที ก่อนตำหนิเสียงดัง “เจ้าช่างเลอะเลือนนัก ฮูหยินเซียวดีต่อพวกเราถึงเพียงนั้น เจ้าทำเช่นนี้กับนางได้อย่างไร! ”
เซียงชุ่ยส่งเสียงร้องไห้โฮทันที “ท่านแม่ ข้าทนไม่ไหวแล้ว ข้าทนไม่ไหวแล้วเจ้าค่ะ ข้าจะให้ติงกุ้ยตาย จะให้เขาตายเจ้าค่ะ! ”
นางอยากยืมมือซ่งฉางชิง ทำให้ติงกุ้ยเข้าเรือนจำ หากล่วงเกินซ่งฉางชิง คาดว่าติงกุ้ยคงถูกจองจำไปชั่วชีวิต
เช่นนี้พวกนางก็ไม่ต้องใช้ชีวิตอย่างอกสั่นขวัญแขวนอีกต่อไป
“แต่เจ้าก็ไม่ควรทำร้ายฮูหยินเซียว นางดีกับพวกเราถึงเพียงนั้น เจ้าทำลงไปได้อย่างไร! ” ฟู่ซื่อจับตัวเซียงชุ่ย พร้อมร่ำไห้อย่างหนัก “เจ้ามีความคิดเช่นนี้ได้อย่างไร! ”
เซียงชุ่ยหันมองซ่งฉางชิง
ซ่งฉางชิงก็กำลังมองนาง
แววตาเหี้ยมเกรียม ราวกับสามารถมองจิตใจคนได้อย่างทะลุปรุโปร่ง
“ฮูหยินเซียวเป็นผู้จัดหาวัตถุดิบของเซียนจวีโหลว ทั้งยังเป็นสตรี ลงมือได้ง่ายกว่าคนอื่นๆ! ” เซียงชุ่ยก้มหน้าลง ไม่กล้ากล่าวอะไรอีกแม้แต่คำเดียว
นางไม่รู้เลย ว่าเป็นเพราะประโยคนี้ที่นางกล่าวมา จะทำให้ซ่งฉางชิงที่คิดจะสังหารนาง ล้มเลิกความคิดนั้น
ดวงตาของซ่งฉางชิงฉายประกายแสงแวบหนึ่ง ก่อนจะกลับคืนสู่สภาวะเย็นเยียบเช่นก่อนหน้านี้
“เป็นเช่นนี้จริงด้วย นางหญิงเลว ทั้งหมดนี้เป็นแผนการของเจ้า! นางหญิงเลว รอให้ข้าออกมาเมื่อใด ข้าจะทรมานพวกเจ้าให้ตายทีละคน! ” ติงกุ้ยแผดเสียงตะคอก
เหยาชิ่งกุ้ยและเหยาต้าไห่มาถึงแล้ว เมื่อเห็นดังนั้นจึงยิ้มอย่างเย็นเยียบพลางกล่าว “เจ้ายังคิดจะออกมาอีกรึ? เกรงว่าชั่วชีวิตนี้เจ้าคงไม่ได้เห็นเดือนเห็นตะวันอีก”
ซ่งฉางชิงรวบรวมหลักฐานการกระทำผิดของติงกุ้ยและหม่าหมิงมาทั้งหมด หลักฐานเหล่านี้ เพียงพอจะให้พวกเขาถูกจองจำไปชั่วชีวิต
ส่วนเซียงชุ่ย ตามกฎหมายของต้าเยว่ มีความผิดฐานยุยงให้ผู้อื่นกระทำผิด ก็ต้องถูกจองจำเช่นกัน
อาจเพราะรู้ถึงจุดจบนี้แต่แรกแล้ว เซียงชุ่ยจึงนิ่งสงบเป็นอย่างมาก
เพียงแต่ เมื่อเห็นสภาพของเถียนเถียนที่ร่ำไห้แทบขาดใจ เซียงชุ่ยก็ร่ำไห้ตาม
หากนางเข้าไป แล้วสามารถแลกมาซึ่งวันคืนอันสงบสุขของลูกสาวและมารดาได้ ก็ถือว่าคุ้มแล้ว!
เซี่ยยวี่หลัวเห็นเซียงชุ่ยที่มีสีหน้าเรียบสงบ ก็รู้แล้วว่านางต้องการอะไร ได้แต่ลอบถอนหายใจอย่างอดไม่ได้
ครึ่งเดือนให้หลัง เซี่ยยวี่หลัวไปพบโหยวหลี่เจิ้ง วิงวอนให้โหยวหลี่เจิ้งปล่อยตัวเซียงชุ่ยออกมา
นางได้รับบทลงโทษที่นางควรได้รับแล้ว เซี่ยยวี่หลัวไม่มีเจตนาคิดอยากสืบสาวเอาความ
โหยวเจิ้งเฉิงรู้สึกลำบากใจเล็กน้อย “ฮูหยินเซียว เกรงว่าคงปล่อยนางออกมาไม่ได้แล้ว”
เซี่ยยวี่หลัว “ใต้เท้าโหยว นางได้รับการลงโทษแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น ข้าก็ไม่คิดจะเอาความนาง ตามกฎหมายของต้าเยว่ ขอเพียงข้าวิงวอน นางย่อมสามารถออกมาได้! ”
โหยวเจิ้งเฉิงหัวเราะก่อนกล่าว “ข้ารู้ว่าทำเช่นนั้นได้ หากเพียงแต่ นางไปแล้ว”
“ไปแล้ว? ไปเมื่อใดกัน? ”
“เมื่อครู่นี้ ท่านกับท่านซ่งนัดหมายกันไว้หรือ? เหตุใดเขาเพิ่งไป ท่านก็มาได้เล่า? ท่านซ่งมาวิงวอน ทั้งยังรับประกัน ว่าต่อไปนางจะไม่กระทำผิดอีก ให้ข้าปล่อยตัวนาง ข้าจึงปล่อยตัว”
เซี่ยยวี่หลัว “…” ช่วยคนออกมาได้ก็พอแล้ว!
เวลานี้ ณ ชานเมืองโยวหลัน ที่ศาลาห้าลี้
ซ่งฝูขับรถม้า เมื่อถึงศาลาจึงหยุดจอด
“ท่านแม่…”
“เซียงชุ่ย! ”
เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้น เซียงชุ่ยรู้สึกยินดียิ่ง “ท่านแม่ เถียนเถียน…”
สามคนแม่ลูกโอบกอดกัน ทั้งหัวเราะทั้งร่ำไห้
“ท่านแม่…”
“ท่านซ่งเป็นคนพาพวกเรามาที่นี่ เขาบอกว่าจะช่วยเจ้าออกมา! ” ฟู่ซื่อรู้สึกดีใจเป็นที่สุด
เวลานี้เอง ซ่งฝูที่อยู่ข้างๆ กล่าว “คุณชายต้องการคุยกับเจ้าเป็นการส่วนตัว”
เซียงชุ่ยรีบเดินไปหา
ซ่งฉางชิงยืนมือไพล่หลัง หันหลังให้เซียงชุ่ย เซียงชุ่ยคุกเข่าลงบนพื้น “ขอบคุณท่านซ่งที่ช่วยชีวิต! ”
“เจ้าเป็นคนช่วยตัวเจ้าเอง” ซ่งฉางชิงกล่าวอย่างเรียบสงบ
แต่หากเกิดอะไรขึ้นกับเซี่ยยวี่หลัว เขารับประกันว่าจะใช้มือของตัวเองหักคอของพวกนางสามคนแม่ลูกทิ้งเสีย
ซ่งฉางชิงหันตัวกลับมา มองเซียงชุ่ยด้วยแววตาเป็นประกาย
ยังดีที่เซียงชุ่ยคุกเข่าอยู่ มิเช่นนั้นหากเห็นแววตาเหี้ยมเกรียมกระหายเลือดนั่น นางต้องตกใจจนล้มกองบนพื้นเป็นแน่
ไม่รู้ว่ามองอยู่นานเพียงใด ซ่งฉางชิงจึงเอ่ยช้าๆ “เจ้าไปเถอะ ไปยิ่งไกลยิ่งดี วาจาที่เจ้ากล่าวในวันนั้น ข้าจะทำเป็นไม่เคยได้ยินแม้แต่คำเดียว แต่หากมีข่าวลืออันใดแพร่งพรายออกมา เจ้าก็น่าจะรู้ ว่าข้าเป็นคนเห็นชื่อเสียงสำคัญยิ่งชีพ หากเจ้าทำลายชื่อเสียงอันดีงามของข้า ก็อย่าหาว่าข้าโหดเหี้ยมอำมหิต! ”
เซียงชุ่ยตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ ระหว่างที่นางสะกดรอยตามซ่งฉางชิง ก็ได้รู้เรื่องราวหลายอย่างของคนผู้นี้
คนผู้นี้อารมณ์แปรปรวนไม่แน่นอน เขาไม่ค่อยยิ้ม ข้างกายนอกจากซ่งฝูก็ไม่มีผู้ใดอีก ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึงสตรี เขาเป็นคนถือตัว ไม่เคยมีข่าวลือใดๆ กับสตรีแม้แต่น้อย แม้แต่ญาติผู้น้องที่มีรูปโฉมงดงามดุจเทพธิดาซึ่งอาศัยอยู่ในเรือน ซ่งฉางชิงก็ไม่หวั่นไหว
ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ว่าภายในใจเขากำลังคิดอะไรอยู่!
“ท่านซ่ง ข้าไม่กล้าแล้ว ไม่กล้าแล้ว” เซียงชุ่ยคุกเข่าหมอบลงบนพื้น ร่างกายสั่นเทิ้ม
ซ่งฉางชิงรู้สึกพึงพอใจในสิ่งที่ตัวเองได้เห็นเป็นอย่างมาก
เมื่อรถม้าเคลื่อนตัวออกไป ฟู่ซื่อจึงเดินขึ้นหน้าไปกอดเซียงชุ่ยไว้ ตื้นตันจนหยาดน้ำตาเอ่อล้น “เซียงชุ่ย ครั้งนี้หากไม่ได้ท่านซ่ง พวกเราสามแม่ลูก ไม่รู้ว่าเมื่อใดถึงจะได้พบกันอีก! ”
“ท่านแม่! ” เซียงชุ่ยโผเข้าสู่อ้อมกอดของฟู่ซื่อ สามคนแม่ลูกร่ำไห้อีกพักหนึ่ง
ร่ำไห้เสร็จแล้ว ฟู่ซื่อจึงหยิบเงินออกมาจากอกเสื้อ “นี่คือเงินหนึ่งร้อยตำลึงที่ท่านซ่งมอบให้พวกเรา บอกว่าให้พวกเราหาสถานที่ที่ไม่มีผู้ใดรู้จัก ใช้ชีวิตให้ดี! ท่านซ่งช่างเป็นคนดีจริงๆ! ”
เซียงชุ่ยร่ำไห้อีกครั้ง
ระหว่างทางที่มา นางคิดมาตลอด ว่าซ่งฉางชิงคิดจะสังหารนาง!
เขาให้ความสำคัญกับชื่อเสียงถึงเพียงนั้น ถูกคนทำให้แปดเปื้อน อาจสังหารนางจริง!
ตลอดทางที่ซ่งฝูขับรถม้า ก็รู้สึกมึนงงไม่เข้าใจ
เมื่อกลับถึงเซียนจวีโหลว เหลือแค่พวกเขาสองคน ซ่งฝูไม่อาจสะกดความสงสัยในใจได้อีก จึงเอ่ยปากถาม “คุณชาย เหตุใดท่านถึงให้ข้าไปพาตัวหญิงชั่วคนนั้นออกมาขอรับ? นางเลวถึงเพียงนั้น กล้ายุยงให้สามีของนางจับตัวฮูหยินเซียวมาข่มขู่ท่าน คนเช่นนี้ ข้าอยากให้นางถูกจองจำไปชั่วชีวิต”
ซ่งฉางชิงโบกมือ “มีคุณธรรมสั่งสมความดี ออกไปได้แล้ว! ”
มีคุณธรรมสั่งสมความดี?
ซ่งฝูลองนับดู ทั้งหมดแปดคำ คุณชายพูดเพียงแปดคำก็ไล่เขาออกมาแล้ว!
นอกจากนั้น คุณชายไม่เคยคิดยุ่งเรื่องผู้อื่น ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องพยายามทุ่มสุดความสามารถ ช่วยคนออกมาจากเรือนจำ สิ่งสำคัญที่สุดคือ คนผู้นั้นยังเป็นคนที่ทำร้ายตัวเองด้วย!
ซ่งฝูคิดไม่ตก แต่คุณชายบอกแล้วว่าต้องมีคุณธรรมสั่งสมความดี เช่นนั้นก็มีคุณธรรมสั่งสมความดีก็แล้วกัน!
ภายในห้องเงียบสงบลง ซ่งฉางชิงยืนนิ่งจ้องมองประตูห้องที่ปิดสนิท ตกอยู่ในภวังค์เลื่อนลอยไปชั่วขณะ
เมื่อไม่นานที่ผ่านมา มีคนยืนอยู่ตรงนี้ โต้แย้งกับเขา
ท่านชอบเซี่ยยวี่หลัว แววตาที่ท่านมองนาง ต่างจากแววตาที่มองผู้อื่น!
การแสดงออกของเขา ชัดเจนถึงเพียงนั้นเชียวหรือ?
ซ่งฉางชิงมั่นใจว่าตัวเองไม่เคยแสดงออกถึงความคิดมิบังควร แม้แต่ซ่งฝูและฮูหยินเฒ่ากู้ที่ใกล้ชิดเขาที่สุด ก็ไม่เคยจับพิรุธอะไรได้ ทว่ากลับถูกสตรีผู้นี้มองออกอย่างทะลุปรุโปร่ง
ซ่งฉางชิงเคยคิดอยากให้เซียงชุ่ยสิ้นใจตายในเรือนจำโดยไม่ให้ผู้ใดล่วงรู้ แต่เขาคิดไปคิดมา ก็ไม่ได้ลงมือทำ ตรงกันข้าม เขากลับช่วยนางออกมา ทั้งยังให้เงิน ให้พวกนางสามคนแม่ลูกหนีไปให้ไกล!
ความในใจที่เขาเก็บซ่อนอย่างยากลำบากถูกคนรู้เข้า เขานึกว่าชั่วชีวิตนี้คงไม่มีผู้ใดล่วงรู้ คิดไม่ถึง ว่าจะมีคนรู้จนได้
เขาหวาดกลัว หวั่นวิตก แต่ก็มีความรู้สึกยินดีเล็กน้อย
วาจาที่เขาไม่กล้ากล่าวออกมา กลับหาคนที่ระบายมันออกมาได้แล้ว!
ถึงแม้เขาจะไม่เคยกล่าวแม้แต่ประโยคเดียว แต่ตอนที่ได้ยินวาจานั้นออกมาจากปากเซียงชุ่ยทีละคำ ความรู้สึกหนักหน่วงที่ฝืนสะกดมานาน ซ่งฉางชิงรู้สึกว่าจู่ๆ ตัวเองก็ผ่อนคลายลง
บางทีอาจเพราะสะกดมานานเกินไป นานจนเขาอดรนทนไม่ไหวอยากหาที่ระบาย ที่สามารถบอกเล่าเรื่องราวในเบื้องลึกจิตใจเขา โดยไม่มีบุคคลที่สามคนใดรู้อีก ขอเพียงเขาไม่ยอมรับ เช่นนั้นก็ไม่มีวันเป็นความจริง!
หลังจากซ่งฉางชิงครุ่นคิดไตร่ตรอง จึงค่อยๆ หลับตา
ดีมาก ดีมากทีเดียว!